

ประสบการณ์แย่มากๆๆๆๆๆๆๆๆ!!!!!!!!!!!!!!!!!! "ณัฐพล รีสอร์ท" แก่งกระจาน
บริษัทเราจัดทริปเที่ยวปีใหม่ที่แก่งกระจาน
ซึ่งเลือกที่พักคือ ณัฐพลรีสอร์ท แก่งกระจาน
บ้านพัก 2 หลัง หลังแรกพักได้ 20 คนและหลังที่สอง 8 คน พร้อมแพคเกจรวม2 วัน 1 คืน อาหาร 2 มื้อ 1,300 บาท/คน (ผู้ใหญ่ 28คน) รวมเล่นน้ำหน้าณัฐพลรีสอร์ท,ล่องแก่งเรือยางแม่น้ำเพชร,รับประทานอาหารเย็น,รับประทานอาหารเช้า,เล่นสไลเดอร์ รวมเป็นเงิน 36,400 บาทและได้ทำการโอนจอง50%ล่วงหน้า จำนวน 18,200 บาทวันที่ 20/12/2560
ซึ่งได้แจ้งไว้แล้วตั้งแต่ต้นว่าเราจะมีกิจกรรมเล่นกันของพนักงานบริษัท ซึ่งถามว่าสามารถทำกิจกรรมได้มั้ยสำหรับ 28 คน ผู้จัดการรีสอร์ทแจ้งว่าตัวบ้านจะแยกเป็นห้องนอนเลยส่วนพื้นที่หน้าบ้านมีนิดหน่อย แต่ถ้าจะให้ดีเค้ามีลานกิจกรรมจัดให้บริการอยู่แล้วสามารถมาทำกิจกรรมได้เต็มที่ ซึ่งก่อนเข้าพักก็ติดต่อเข้ามาเป็นระยะ 1อาทิตย์ก่อน1ครั้งและ1วันก่อนอีกครั้ง แต่ก็เกิดสิ่งที่รับไม่ได้เกิดขึ้นคือ
1.ก่อนเข้าพักประมาณ2อาทิตย์ ผู้จัดการรีสอร์ทโทรมาแจ้งขอเปลี่ยนห้องพัก จากเดิมที่เราจองบ้านหลังที่8,2 ซึ่งอยู่ตรงข้ามกันและติดกับพี้นที่ที่มีที่นั่ง แต่ผู้จัดการให้เหตุผลว่ามีอีกกรุ๊ปมามีร้องคาราโอเกะตรงที่นั่งติดกับบ้านหมายเลข8เกรงว่าเราจะไม่สนุกนอนไม่ได้ สรุปเราก็เข้าใจโอเคย้ายให้มาเป็นบ้านหลัง9,6 และเรามีแจ้งไปว่าตอนนี้คนเราลดลงจะมาไม่ได้2คน ขอลดยอดเหลือ26คนได้มั้ย ได้รับคำตอบมาว่าคืนไม่ได้ โอเคไม่เป็นไรเราเข้าใจไม่มีปัญหาเดี๋ยวไปหาเพื่อน ลูกหลานมาแทน2คนก็ได้
2.มาถึงวันเข้าพักวันที่ 3/2/2561 เข้าเช็คอินเวลา 14.20 รถภายในรีสอร์ทแน่นไปหมด แต่ไม่เป็นไรลงไปcheck in ตามขั้นตอน ซึ่งรีสอร์ทนี้ต้องทำการจ่ายเงินอีก 50%ที่เหลือบวกกับค่าประกันห้องพัก500 บาทเป็นเงิน 18,700 บาท หลังจากนั้นพนักงานจะนำกุญแจไปเปิดห้องให้ เดินตามพนักงานมาบ้านพักสิ่งที่พบคือเจ้าหน้าที่จัดรถให้ลูกค้าท่านอื่นมาจอดรถที่หน้าบ้านพักเราเต็มไปหมด ซึ่งรถตู้ของเรามี3คันไม่สามารถจอดได้จึงต้องทยอยเอาของลงและออกไปจอดข้างนอกริมทาง พอไปคุยกับเจ้าหน้าที่รีสอร์ทว่าให้ช่วยเคลียร์รถให้หน่อยได้มั้ย คำตอบที่ได้คือวันนี้มีรับแขกมากลุ่มใหญ่เป็นทริปเล่นน้ำอย่างเดียวไม่ได้พัก ต้องรอให้เค้ากลับก่อน คือแบบนี้ก็ได้เหรอเราต้องมารอ คุณควรจะจัดให้แขกที่มาทริปเฉพาะเล่นน้ำจอดรถให้เรียบร้อยที่ลานจอดหรือเปล่าไม่ใช่ให้มาจอดหน้าบ้านพักของลูกค้าที่ทำการbook บ้านพักมา
3.เข้าที่พักได้ประมาณบ่าย3เกือบ3.30 เราจะเริ่มทำกิจกรรมกินวิบากกัน แต่หันไปที่ไหนของรีสอร์ทก็มีแต่ลูกค้าที่ซื้อทริปแบบเล่นน้ำอย่างเดียวนั่งกันเต็มทุกที่ แล้วลานกิจกรรมเราที่บอกว่าทำได้เต็มที่คืออยู่ไหนเหรอ เข้าไปถามอีกรอบว่าลานกิจกรรมอยู่ไหนคะ อ่อนี่ไงด้านบนเลยซึ่งเป็นที่วางโต๊ะเก้าอี้สำหรับทานข้าว และมีลูกค้าที่มาเล่นน้ำนั่งกันอยู่แล้วจะทำกิจกรรมยังไง ผู้จัดการก็มาดูพื้นที่และคุยพร้อมชี้ตรงนี้ๆได้มั้ย อ่ะเราโอเคถ้าเอาโต๊ะเก้าอี้ออก เพราะคนก็เยอะอยู่ 28 คน ก็เจอคำพูดของผู้จัดการว่าให้ทีมงานของเรามาช่วยยกโต๊ะเก้าอี้ออกได้มั้ยจะได้เร็วๆ คือมันควรจะเป็นหน้าที่พวกคุณรึเปล่า ที่คุณบอกมีลานกิจกรรมให้ใช้คุณต้องจัดเตรียมหรือกันพื้นที่ไว้ให้กรุ๊ปเราหรือเปล่า
4.จากนั้นผู้จัดการถามมีการสั่งอาหารหรือยัง เค้าบอกแขกกรุ๊ปอื่นๆมีโทรมาสั่งไว้ เราบอกว่าเราไม่ได้สั่งเพราะในแพคเกจก็มีรวมอาหารซึ่งทางรีสอร์ทจัดเป็นเมนูตามแพคเกจอยู่แล้วนี่ ผู้จัดการพูดขึ้นมาว่าอ้าวของคุณจองเป็นแพคเกจเหรอ อ้าวเฮ้ย!!!!เราจึงถามกลับไปว่าคือคุณจำอะไรของกรุ๊ปเราไม่ได้เลยเหรอ คำตอบคือโอ๊ยคุณผมไม่ทันหรอก ผมมีลูกค้าเป็นร้อย ผมเพิ่งรู้เนี่ยว่ากรุ๊ปคุณมาถึงแล้ว คือมาถึงตอนบ่าย 2.20 แต่เพิ่งรู้ว่ามาจะบ่าย 4 โมงคืออะไร มาจุดนี้คือมันหมดความอดทน
5.มีการคุยแล้วรีสอร์ทจะรับผิดชอบอะไรได้บ้าง ขอคืนเงินได้มั้ยจะได้ไปที่อื่น คนของเราไม่ได้จำนวนน้อยที่ต้องมารอ ก็มีการขอโทษกันเริ่มขึ้น และแจ้งว่าให้เราสงบอารมณ์แล้วมาคุยกันดีๆมั้ยเวลาจะไม่ได้ล่วงเลยไปกว่านี้ทางรีสอร์ทจะพยายามดูแลให้เต็มที่เลยของกรุ๊ปเรา เค้าต้องขอโทษด้วย ถ้าจะไปล่องเรือซึ่งทางรีสอร์ทแจ้งไว้ตอน check in ว่ากรุ๊ปเราจะได้รอบ 16.30 จะไปเตรียมเรือให้ ณ ตอนนั้นมันคงไม่มีอะไรดีกว่านี้ต้องเดินหน้าต่อเรียกทุกคนเตรียมเปลี่ยนเสื้อผ้าไปล่องเรือ และมีการสรุปถึงแผนตอนเย็นไว้ว่าให้เค้าจัดพื้นที่ให้กรุ๊ปเราตอนเย็นไว้ทานข้าว พร้อมทั้งเช่าเตาปิ้งย่างและคาราโอเกะ (เฉพาะคารา่โอเกะ ทางผู้จัดการตกลงที่จะจัดเตรียมให้ซึ่งค่าใช้จ่ายทางเราจะจ่ายเพิ่ม 3,000 บาท)
6.พนักงานทุกคนเริ่มหยิบเสื้อ เจ้าหน้าที่เข้ามาเช็คถามถึงจำนวนคนว่ากี่คน เพราะว่าที่ณัฐพล รีสอร์ท มีค่าเช่าเสื้อชูชีพเพิ่มเติมสำหรับลูกค้าทุกท่านไม่ว่าจะซื้อแพคเกจล่องเรือแล้วหรือไม่ซื้อก็ตาม จริงๆก็คิดนะว่าเหมาแพคเกจแล้วจริงๆไม่ควรมีค่าเช่าชูชีพแล้ว เพราะที่อื่นๆส่วนใหญ่เค้าก็จะมีเตรียมให้โดยไม่ต้องเช่า แต่ไม่เป็นไรค่ะนี่คือกฎของเค้าเราก็ต้องทำตาม สุดท้ายผู้จัดการไม่ได้เก็บค่าเช่ากรุ๊ปเราเพื่อเป็นการขอโทษ อันนี้ก็ต้องขอบคุณค่ะ
7.กลับจากล่องเรือลงมาทานข้าวกันประมาณ 18.45-19.00 โดยพนักงานทยอยมานั่งอาหารจัดเป็น 4 เซต คาราโอเกะมีการจัดเตรียมไว้ตรงซอกใต้บันไดแถวที่นั่งริมน้ำ ทุกคนมีความหวังว่าอะไรมันต้องดีขึ้นละเย็นนี้เราจะจับของขวัญ เล่นเกมส์เต้น ร้องเพลงกัน พอตักข้าวเริ่มแจกจ่ายหลายคนเรียกถามข้าวไม่สุกรึเปล่าคือเม็ดแข็งมาก มีไข่เจียว ปลาราดพริก แกงส้มน้ำใสๆและต้มจืดแบบไม่ค่อยมีเต้าหู้หรือสาหร่ายเจอผักซะส่วนใหญ่ ทุกคนเริ่มเครียดกันอีกรอบและกะจะเพิ่งการปิ้งย่างที่เราเตรียมของสดกันมาเองดีกว่า หันไปหันมาอ้าวทำไมไม่เห็นเจอเตาปิ้งย่างที่คุยกันไว้ ถามน้องพนักงานที่เดินมาเสิร์ฟก็ยังไม่รู้เรื่องจนสักพักเด็กหายไปคงจะไปถามผู้จัดการ ระหว่างนั้นทุกคนเริ่มหมดความอดทนและลงมติว่าไม่มีอารมณ์แล้ว เซ็งมาก ขอกลับไปนอนและค่อยกลับไปจับฉลากรวมทั้งปิ้งย่างที่โรงงานของเราที่กรุงเทพเลยดีกว่า ค่าคาราโอเกะเช่ามา3,000แต่ไม่ได้ร้องไม่เป็นเรายอมจ่าย ทุกคนรู้สึกว่ามันไม่ไหวแล้วจริงๆ
8.หลังจากพนักงานทุกคนทยอยกลับห้อง เลยต้องขอคุยกับผู้จัดการอีกรอบ แต่รอบนี้คือคุยแบบไม่ได้หวังอะไรแล้วจริงๆ เพราะมันคงจะไม่มีอะไรดีขึ้นมาแล้ว เราอธิบายทุกอย่างซึ่งผู้จัดการเข้าใจ เราแนะถึงปัญหาหลักที่เรามองเห็นคือการประสานงานและการจัดการของรีสอร์ทที่มีวุ่นวายมาก รับลูกค้าทุกรูปแบบไม่ว่าจะbookห้อง,ลูกค้า walk in,ทริปเฉพาะเล่นน้ำ1วัน ไม่มีการจัดพื้นที่ให้ลูกค้าแต่ละกรุ๊ป ยึดหลักใครมาก่อนก็บริการคนที่มาก่อนไปเรื่อยๆซึ่งมันไม่ถูกต้อง ลูกค้าที่bookบ้านไว้เข้าเช็คอิน 14.00 ตามหลักสากลที่ใครๆก็ยึดตามนี้ก็ต้องเสียเปรียบไปในทุกเรื่องๆไม่ว่าจะที่จอดรถหน้าบ้านพัก พื้นที่ใช้สอยส่วนกลาง และอื่นๆที่ไม่ได้เตรียมไว้ให้เลย ทั้งๆที่คุณต้องรู้อยู่แล้วว่าวันนี้คุณมีลูกค้ากี่กรุ๊ป กี่คน สามารถรับลูกค้านอกได้มั้ย แต่นี่คุณรับหมดทุกทางในขณะที่คุณไม่มีศักยภาพพอที่จะดูแล ถ้ายิ่งเป็นแบบนี้ไปลูกค้าก็คงจะไม่อยากจะมาbookบ้านหรือห้องพักและจะส่งผลเสียแก่รีสอร์ทเอง ซึ่งผู้จัดการรีสอร์ทก็ยอมรับในจุดนี้และบอกว่าคำแนะนำของเราเป็นคำแนะนำที่เค้ามาคิดแล้วมันถูกและโอเค ซึ่งเค้าจะนำมาปรับปรุงการบริการและจัดการทุกสิ่งในรีสอร์ทให้ดีขึ้นพร้อมทั้งขอโทษพวกเราทุกคนด้วย
ทุกอย่างก็จบลง แต่มันคือการจบลงแบบต้องจำใจยอมรับโดยที่ทำอะไรไม่ได้ดีไปกว่านี้ อยากมาแชร์ประสบการณ์ให้ทุกคนรอบคอบก่อนการตัดสิน บางที่การsearchหาข้อมูลที่พักในอินเตอร์เนตแล้วขึ้นชื่อที่พักในทุกๆช่องทางเป็นลำดับต้นๆหรือถึงแม้มีการออกรายการโทรทัศน์บางทีก็ไม่ได้แปลว่าจะโอเคเสมอไป เราไม่ได้ต้องการอะไรมากกว่านี้แล้ว คนไทยด้วยกันเราแค่ต้องการการบริการพื้นฐานตามที่เราได้จ่ายเงินไปไม่ใช่การดูแลแบบไปทีที่ดูเหมือนจะเป็นการเอาเปรียบลูกค้ามากมายขนาดนี้ ฝากเหตุการณ์นี้ไว้เป็นอุทาหรณ์ให้ทุกคนหรือผู้ที่ให้บริการด้านที่พัก ช่วยกันทำให้ลูกค้ารู้สึกว่า "อยากพัก"เพราะประทับใจและพอใจที่จะพักไม่ใช่ "ต้องพัก"เพราะจ่ายเงินไปแล้ว ขอบคุณ
ค่ะ
CR##เที่ยวพักณัฐพลรีสอร์ท แบบกรุ๊ปใหญ่
ประสบการณ์แย่มากๆๆๆๆๆๆๆๆ!!!!!!!!!!!!!!!!!! "ณัฐพล รีสอร์ท" แก่งกระจาน
บริษัทเราจัดทริปเที่ยวปีใหม่ที่แก่งกระจาน
ซึ่งเลือกที่พักคือ ณัฐพลรีสอร์ท แก่งกระจาน
บ้านพัก 2 หลัง หลังแรกพักได้ 20 คนและหลังที่สอง 8 คน พร้อมแพคเกจรวม2 วัน 1 คืน อาหาร 2 มื้อ 1,300 บาท/คน (ผู้ใหญ่ 28คน) รวมเล่นน้ำหน้าณัฐพลรีสอร์ท,ล่องแก่งเรือยางแม่น้ำเพชร,รับประทานอาหารเย็น,รับประทานอาหารเช้า,เล่นสไลเดอร์ รวมเป็นเงิน 36,400 บาทและได้ทำการโอนจอง50%ล่วงหน้า จำนวน 18,200 บาทวันที่ 20/12/2560
ซึ่งได้แจ้งไว้แล้วตั้งแต่ต้นว่าเราจะมีกิจกรรมเล่นกันของพนักงานบริษัท ซึ่งถามว่าสามารถทำกิจกรรมได้มั้ยสำหรับ 28 คน ผู้จัดการรีสอร์ทแจ้งว่าตัวบ้านจะแยกเป็นห้องนอนเลยส่วนพื้นที่หน้าบ้านมีนิดหน่อย แต่ถ้าจะให้ดีเค้ามีลานกิจกรรมจัดให้บริการอยู่แล้วสามารถมาทำกิจกรรมได้เต็มที่ ซึ่งก่อนเข้าพักก็ติดต่อเข้ามาเป็นระยะ 1อาทิตย์ก่อน1ครั้งและ1วันก่อนอีกครั้ง แต่ก็เกิดสิ่งที่รับไม่ได้เกิดขึ้นคือ
1.ก่อนเข้าพักประมาณ2อาทิตย์ ผู้จัดการรีสอร์ทโทรมาแจ้งขอเปลี่ยนห้องพัก จากเดิมที่เราจองบ้านหลังที่8,2 ซึ่งอยู่ตรงข้ามกันและติดกับพี้นที่ที่มีที่นั่ง แต่ผู้จัดการให้เหตุผลว่ามีอีกกรุ๊ปมามีร้องคาราโอเกะตรงที่นั่งติดกับบ้านหมายเลข8เกรงว่าเราจะไม่สนุกนอนไม่ได้ สรุปเราก็เข้าใจโอเคย้ายให้มาเป็นบ้านหลัง9,6 และเรามีแจ้งไปว่าตอนนี้คนเราลดลงจะมาไม่ได้2คน ขอลดยอดเหลือ26คนได้มั้ย ได้รับคำตอบมาว่าคืนไม่ได้ โอเคไม่เป็นไรเราเข้าใจไม่มีปัญหาเดี๋ยวไปหาเพื่อน ลูกหลานมาแทน2คนก็ได้
2.มาถึงวันเข้าพักวันที่ 3/2/2561 เข้าเช็คอินเวลา 14.20 รถภายในรีสอร์ทแน่นไปหมด แต่ไม่เป็นไรลงไปcheck in ตามขั้นตอน ซึ่งรีสอร์ทนี้ต้องทำการจ่ายเงินอีก 50%ที่เหลือบวกกับค่าประกันห้องพัก500 บาทเป็นเงิน 18,700 บาท หลังจากนั้นพนักงานจะนำกุญแจไปเปิดห้องให้ เดินตามพนักงานมาบ้านพักสิ่งที่พบคือเจ้าหน้าที่จัดรถให้ลูกค้าท่านอื่นมาจอดรถที่หน้าบ้านพักเราเต็มไปหมด ซึ่งรถตู้ของเรามี3คันไม่สามารถจอดได้จึงต้องทยอยเอาของลงและออกไปจอดข้างนอกริมทาง พอไปคุยกับเจ้าหน้าที่รีสอร์ทว่าให้ช่วยเคลียร์รถให้หน่อยได้มั้ย คำตอบที่ได้คือวันนี้มีรับแขกมากลุ่มใหญ่เป็นทริปเล่นน้ำอย่างเดียวไม่ได้พัก ต้องรอให้เค้ากลับก่อน คือแบบนี้ก็ได้เหรอเราต้องมารอ คุณควรจะจัดให้แขกที่มาทริปเฉพาะเล่นน้ำจอดรถให้เรียบร้อยที่ลานจอดหรือเปล่าไม่ใช่ให้มาจอดหน้าบ้านพักของลูกค้าที่ทำการbook บ้านพักมา
3.เข้าที่พักได้ประมาณบ่าย3เกือบ3.30 เราจะเริ่มทำกิจกรรมกินวิบากกัน แต่หันไปที่ไหนของรีสอร์ทก็มีแต่ลูกค้าที่ซื้อทริปแบบเล่นน้ำอย่างเดียวนั่งกันเต็มทุกที่ แล้วลานกิจกรรมเราที่บอกว่าทำได้เต็มที่คืออยู่ไหนเหรอ เข้าไปถามอีกรอบว่าลานกิจกรรมอยู่ไหนคะ อ่อนี่ไงด้านบนเลยซึ่งเป็นที่วางโต๊ะเก้าอี้สำหรับทานข้าว และมีลูกค้าที่มาเล่นน้ำนั่งกันอยู่แล้วจะทำกิจกรรมยังไง ผู้จัดการก็มาดูพื้นที่และคุยพร้อมชี้ตรงนี้ๆได้มั้ย อ่ะเราโอเคถ้าเอาโต๊ะเก้าอี้ออก เพราะคนก็เยอะอยู่ 28 คน ก็เจอคำพูดของผู้จัดการว่าให้ทีมงานของเรามาช่วยยกโต๊ะเก้าอี้ออกได้มั้ยจะได้เร็วๆ คือมันควรจะเป็นหน้าที่พวกคุณรึเปล่า ที่คุณบอกมีลานกิจกรรมให้ใช้คุณต้องจัดเตรียมหรือกันพื้นที่ไว้ให้กรุ๊ปเราหรือเปล่า
4.จากนั้นผู้จัดการถามมีการสั่งอาหารหรือยัง เค้าบอกแขกกรุ๊ปอื่นๆมีโทรมาสั่งไว้ เราบอกว่าเราไม่ได้สั่งเพราะในแพคเกจก็มีรวมอาหารซึ่งทางรีสอร์ทจัดเป็นเมนูตามแพคเกจอยู่แล้วนี่ ผู้จัดการพูดขึ้นมาว่าอ้าวของคุณจองเป็นแพคเกจเหรอ อ้าวเฮ้ย!!!!เราจึงถามกลับไปว่าคือคุณจำอะไรของกรุ๊ปเราไม่ได้เลยเหรอ คำตอบคือโอ๊ยคุณผมไม่ทันหรอก ผมมีลูกค้าเป็นร้อย ผมเพิ่งรู้เนี่ยว่ากรุ๊ปคุณมาถึงแล้ว คือมาถึงตอนบ่าย 2.20 แต่เพิ่งรู้ว่ามาจะบ่าย 4 โมงคืออะไร มาจุดนี้คือมันหมดความอดทน
5.มีการคุยแล้วรีสอร์ทจะรับผิดชอบอะไรได้บ้าง ขอคืนเงินได้มั้ยจะได้ไปที่อื่น คนของเราไม่ได้จำนวนน้อยที่ต้องมารอ ก็มีการขอโทษกันเริ่มขึ้น และแจ้งว่าให้เราสงบอารมณ์แล้วมาคุยกันดีๆมั้ยเวลาจะไม่ได้ล่วงเลยไปกว่านี้ทางรีสอร์ทจะพยายามดูแลให้เต็มที่เลยของกรุ๊ปเรา เค้าต้องขอโทษด้วย ถ้าจะไปล่องเรือซึ่งทางรีสอร์ทแจ้งไว้ตอน check in ว่ากรุ๊ปเราจะได้รอบ 16.30 จะไปเตรียมเรือให้ ณ ตอนนั้นมันคงไม่มีอะไรดีกว่านี้ต้องเดินหน้าต่อเรียกทุกคนเตรียมเปลี่ยนเสื้อผ้าไปล่องเรือ และมีการสรุปถึงแผนตอนเย็นไว้ว่าให้เค้าจัดพื้นที่ให้กรุ๊ปเราตอนเย็นไว้ทานข้าว พร้อมทั้งเช่าเตาปิ้งย่างและคาราโอเกะ (เฉพาะคารา่โอเกะ ทางผู้จัดการตกลงที่จะจัดเตรียมให้ซึ่งค่าใช้จ่ายทางเราจะจ่ายเพิ่ม 3,000 บาท)
6.พนักงานทุกคนเริ่มหยิบเสื้อ เจ้าหน้าที่เข้ามาเช็คถามถึงจำนวนคนว่ากี่คน เพราะว่าที่ณัฐพล รีสอร์ท มีค่าเช่าเสื้อชูชีพเพิ่มเติมสำหรับลูกค้าทุกท่านไม่ว่าจะซื้อแพคเกจล่องเรือแล้วหรือไม่ซื้อก็ตาม จริงๆก็คิดนะว่าเหมาแพคเกจแล้วจริงๆไม่ควรมีค่าเช่าชูชีพแล้ว เพราะที่อื่นๆส่วนใหญ่เค้าก็จะมีเตรียมให้โดยไม่ต้องเช่า แต่ไม่เป็นไรค่ะนี่คือกฎของเค้าเราก็ต้องทำตาม สุดท้ายผู้จัดการไม่ได้เก็บค่าเช่ากรุ๊ปเราเพื่อเป็นการขอโทษ อันนี้ก็ต้องขอบคุณค่ะ
7.กลับจากล่องเรือลงมาทานข้าวกันประมาณ 18.45-19.00 โดยพนักงานทยอยมานั่งอาหารจัดเป็น 4 เซต คาราโอเกะมีการจัดเตรียมไว้ตรงซอกใต้บันไดแถวที่นั่งริมน้ำ ทุกคนมีความหวังว่าอะไรมันต้องดีขึ้นละเย็นนี้เราจะจับของขวัญ เล่นเกมส์เต้น ร้องเพลงกัน พอตักข้าวเริ่มแจกจ่ายหลายคนเรียกถามข้าวไม่สุกรึเปล่าคือเม็ดแข็งมาก มีไข่เจียว ปลาราดพริก แกงส้มน้ำใสๆและต้มจืดแบบไม่ค่อยมีเต้าหู้หรือสาหร่ายเจอผักซะส่วนใหญ่ ทุกคนเริ่มเครียดกันอีกรอบและกะจะเพิ่งการปิ้งย่างที่เราเตรียมของสดกันมาเองดีกว่า หันไปหันมาอ้าวทำไมไม่เห็นเจอเตาปิ้งย่างที่คุยกันไว้ ถามน้องพนักงานที่เดินมาเสิร์ฟก็ยังไม่รู้เรื่องจนสักพักเด็กหายไปคงจะไปถามผู้จัดการ ระหว่างนั้นทุกคนเริ่มหมดความอดทนและลงมติว่าไม่มีอารมณ์แล้ว เซ็งมาก ขอกลับไปนอนและค่อยกลับไปจับฉลากรวมทั้งปิ้งย่างที่โรงงานของเราที่กรุงเทพเลยดีกว่า ค่าคาราโอเกะเช่ามา3,000แต่ไม่ได้ร้องไม่เป็นเรายอมจ่าย ทุกคนรู้สึกว่ามันไม่ไหวแล้วจริงๆ
8.หลังจากพนักงานทุกคนทยอยกลับห้อง เลยต้องขอคุยกับผู้จัดการอีกรอบ แต่รอบนี้คือคุยแบบไม่ได้หวังอะไรแล้วจริงๆ เพราะมันคงจะไม่มีอะไรดีขึ้นมาแล้ว เราอธิบายทุกอย่างซึ่งผู้จัดการเข้าใจ เราแนะถึงปัญหาหลักที่เรามองเห็นคือการประสานงานและการจัดการของรีสอร์ทที่มีวุ่นวายมาก รับลูกค้าทุกรูปแบบไม่ว่าจะbookห้อง,ลูกค้า walk in,ทริปเฉพาะเล่นน้ำ1วัน ไม่มีการจัดพื้นที่ให้ลูกค้าแต่ละกรุ๊ป ยึดหลักใครมาก่อนก็บริการคนที่มาก่อนไปเรื่อยๆซึ่งมันไม่ถูกต้อง ลูกค้าที่bookบ้านไว้เข้าเช็คอิน 14.00 ตามหลักสากลที่ใครๆก็ยึดตามนี้ก็ต้องเสียเปรียบไปในทุกเรื่องๆไม่ว่าจะที่จอดรถหน้าบ้านพัก พื้นที่ใช้สอยส่วนกลาง และอื่นๆที่ไม่ได้เตรียมไว้ให้เลย ทั้งๆที่คุณต้องรู้อยู่แล้วว่าวันนี้คุณมีลูกค้ากี่กรุ๊ป กี่คน สามารถรับลูกค้านอกได้มั้ย แต่นี่คุณรับหมดทุกทางในขณะที่คุณไม่มีศักยภาพพอที่จะดูแล ถ้ายิ่งเป็นแบบนี้ไปลูกค้าก็คงจะไม่อยากจะมาbookบ้านหรือห้องพักและจะส่งผลเสียแก่รีสอร์ทเอง ซึ่งผู้จัดการรีสอร์ทก็ยอมรับในจุดนี้และบอกว่าคำแนะนำของเราเป็นคำแนะนำที่เค้ามาคิดแล้วมันถูกและโอเค ซึ่งเค้าจะนำมาปรับปรุงการบริการและจัดการทุกสิ่งในรีสอร์ทให้ดีขึ้นพร้อมทั้งขอโทษพวกเราทุกคนด้วย
ทุกอย่างก็จบลง แต่มันคือการจบลงแบบต้องจำใจยอมรับโดยที่ทำอะไรไม่ได้ดีไปกว่านี้ อยากมาแชร์ประสบการณ์ให้ทุกคนรอบคอบก่อนการตัดสิน บางที่การsearchหาข้อมูลที่พักในอินเตอร์เนตแล้วขึ้นชื่อที่พักในทุกๆช่องทางเป็นลำดับต้นๆหรือถึงแม้มีการออกรายการโทรทัศน์บางทีก็ไม่ได้แปลว่าจะโอเคเสมอไป เราไม่ได้ต้องการอะไรมากกว่านี้แล้ว คนไทยด้วยกันเราแค่ต้องการการบริการพื้นฐานตามที่เราได้จ่ายเงินไปไม่ใช่การดูแลแบบไปทีที่ดูเหมือนจะเป็นการเอาเปรียบลูกค้ามากมายขนาดนี้ ฝากเหตุการณ์นี้ไว้เป็นอุทาหรณ์ให้ทุกคนหรือผู้ที่ให้บริการด้านที่พัก ช่วยกันทำให้ลูกค้ารู้สึกว่า "อยากพัก"เพราะประทับใจและพอใจที่จะพักไม่ใช่ "ต้องพัก"เพราะจ่ายเงินไปแล้ว ขอบคุณ
ค่ะ