เรากับแฟนคบกัน เข้าปีที่ 5 / แต่งงานกันอย่างไม่เป็นทางการ จดทะเบียนสมรสกัน เมื่อ กันยายนปี 2559 แต่ยังไม่ได้จัดงานเลี้ยงอย่างเป็นทางการ
ตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกัน มีแยกกันอยู่บ้าง เราทำงานธุรกิจส่วนตัวที่บ้านเราเอง ส่วนแฟนก็ทำงาน เรียน จะอยู่ไม่เป็นหลักแหล่ง ไปโน่นมานี่ตลอด ช่วงหลังจะไม่ได้อยู่ด้วยกัน (ช่วงเข้าปีที่ 3) ช่วงแรก ปีที่ 1-2 ที่คบกันอยู่ด้วยกันตลอด เเต่เพราะหน้าที่การงานบ้าง ธุรกิจบ้าง เเละเหตุผลอื่นๆเลยทำให้ไม่ได้อยู่ด้วยกัน
เราตกลงแต่งงานด้วยการจดทะเบียนสมรส (เพราะร่วมกันสร้างบ้านเพื่อสร้างอนาคตร่วมกัน) เริ่มสร้างบ้านในปี 2560 และ เพิ่งจะเสร็จไปไม่นานนี้เอง
เข้าหัวข้อกันเลยนะคะ ... แฟนสวมเขา ...
ระหว่างที่คบกัน เรารู้สึกว่าตัวเองโชคดีมาก ที่แฟนขยันทำงาน รับผิดชอบในเรื่องค่าใช้จ่าย ไม่เคยมีเรื่องผู้หญิงเข้ามาให้ปวดหัว ถึงแม้กายจะห่างกัน แต่เราก็ยังติดต่อกันตลอด มีบางช่วงที่เขาหายไป แต่ก็จะโทรมาบอกว่าทำงานนะ แล้วก็หายไปเป็นระยะ จากที่เราเคยอยู่ด้วยกันในตอนแรก จนเราชิน ร้องไห้ ทะเลาะกันบ่อยมาก เพราะแฟนไม่ค่อยใส่ใจ เราอยู่กันคนละบ้าน แต่ ... บ้านอยู่ห่างกันประมาณ 300 เมตรเท่านั้นค่ะ แต่เขาแทบจะไม่มาหาเราเลย มีแต่เราพยายามจะเข้าหาตลอด จะมีช่วงเวลาที่อยู่ด้วยก็แค่ทานข้าวเที่ยง ข้าวเย็นกัน แล้วก็แยกย้าย บางทีก็น้อยใจ อยู่ใกล้กันแค่นี้แต่ทำไมรู้สึกไกลมาก เราเองอยู่คนเดียว แฟนก็อยู่คนเดียว แต่แยกกันอยู่คนละบ้าน จนเวลาผ่านไปเป็นปี ที่เราอยู่คนเดียวจนชิน เเทบจะเรียกได้ว่าอยู่คนเดียวมาตลอด 2 ปีเต็มๆ (หลังจากที่เคยอยู่ด้วยกัน ตอนเริ่มคบ 2 ปีแรกอยู่หอด้วยกัน พอ 2 ปีหลังก็แยกกันอยู่) น้อยใจมั้ย...ตอบเลยมาก จนเคยพูดกับแฟนเลยว่า อยู่ใกล้กันแค่นี้ก็ไม่คิดจะมาหากันบ้าง รอเราตายก่อนสินะ ถึงมาเคาะโลง อยากอยู่ด้วยแค่ไหนก็ทำไม่ได้อีกแล้ว แล้วอย่ามาคิดได้ตอนถึงวันนั้นละกัน ... เราคิดตลอด ว่าเราอยากใช้ชีวิต ให้เวลา ใช้เวลาด้วยกัน เพราะไม่รู้วันไหนจะต้องจากกัน ไม่อยากเสียดายเวลาที่วันนึงพอไม่มีกันแล้วมานึกเสียดาย นึกคิดถึงแต่ก็คงไม่ถึงกันแล้ว ...
เราจดทะเบียนสมรสกัน เมื่อกันยายน 2559 และวางแผนสร้างบ้าน ซื้อที่ดิน และได้เริ่มสร้างบ้าน เมื่อมกราคม 2560
เมื่อเดือน กันยายน ตุลาคม พฤศจิกายน ธันวาคม 2560 แฟนไปทำงานอีสาน ทำให้เราต้องไกลกันพอสมควร เราอยู่ภาคใต้ค่ะ แฟนก็จะบอกไม่ค่อยมีเวลา แฟนไม่ค่อยโทรมา อย่างมากเฉลี่ยคือ 2 วันจะได้คุยกันครั้งนึง ครั้งละไม่กี่นาที (ไม่ถึง 10 นาทีด้วยซ้ำซะส่วนใหญ่) เขาบอกงานยุ่ง ทำงาน โอเค เราเข้าใจ
ช่วงนั้นเราจัดการเรื่องสร้างบ้านอยู่คนเดียว เหนื่อยมาก งานส่วนตัวก็ต้องทำ บ้านก็ต้องทำ คุยงานเอง จนถึงธันวาคม แฟนกลับมาจากอีสาน แต่ก็ไม่ได้มาอยู่ด้วยกัน เขาไปอยู่บ้านที่อื่น ซึ่งบอกว่าไปทำงานเช่นกัน เช่าบ้านแถวนั้น สะดวกดี เราโอเค เพราะตกลงกันแล้วว่าถ้าบ้านเสร็จสมบูรณ์เมื่อไหร่ ก็ย้ายมาอยู่ด้วยกันจริงๆ
ระหว่างนั้นก็มีน้อยใจนะ มาหาเราตอนกลางวัน แล้วช่วงเย็นก็ขับรถกลับ บ้านที่เขาเช่าอยู่ไกลจากบ้านเราพอสมควร เขาไม่บอกเรา ไม่พาเราไปด้วย ว่าที่เขาพักอยู่ที่ไหน เราก็ไม่ได้เป็นคนเซ้าซี้อะไรอยู่แล้ว ก็เฉยๆไป
แต่ไม่รู้ทำไม มีวันนึง เราถามว่า ทำไมกลับแต่บ้านเช่า ไม่มานอนบ้านเราบ้าง ที่บ้านมีใครอยู่หรือยังไงถึงรีบกลับ ต้องกลับทุกคืนเลย แฟนเราก็บอกไม่มีอะไร ไร้สาระ...
แต่ ... เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น สดๆร้อนๆเลย (ค่ำของวันที่ 3/2/2561) ระหว่างช่วยกันต่อเติมบ้านเล็กๆน้อยๆ เราใช้มือถือของแฟนส่องแฟลชดูงานในบ้าน แล้วแชต Messenger เด้งขึ้นมา เป็น FB ของ แฟนเก่า (เมียเก่า) ของนาง callเข้ามา เราไม่ทันรับสายและ Message มาว่า “เมื่อไหร่จะกลับบ้าน”
ตอนนั้นคือ บอกตรงๆว่า หัวใจแทบจะหล่น ที่ผ่านมาตลอดระยะเวลา 5 ปีเราเชื่อใจเขามาตลอด จนเราคิดว่าเราโง่หรือเปล่านะที่เชื่อใจขนาดนี้ ไม่เคยระแวง ไม่เคยเช็คมือถือ เพราะเคยจับมือถือเขานะ เขาจะลบแชตออกหมดเลย ถึงเช็คก็ไม่เจออะไร ก็เลยไม่ยุ่ง
แล้วเราก็เข้าหน้า FB ของแฟนเก่านางค่ะ เลื่อนลงดูเรื่อยๆ มีภาพถ่ายรูปที่สระว่ายน้ำ แต่มีแฟนเราอยู่ในภาพด้วยโผล่แวปๆอยู่ข้างหลังเช็คอินที่ รร.ในเชียงใหม่ / สิ้นปี เช็คอินที่อีสาน (จังหวัดเดียวกับที่แฟนเราอยู่) ถ่ายรูปกินหมูกระทะ ติดมือแฟนเราในภาพ นาฬิกาข้อมือที่เราซื้อให้ / อีกวันก็เช็คอินหมูกระทะ ติดภาพเสื้อ กางเกง ตัวแฟนเรา แต่ไม่เห็นภาพ / ต่อมาก็ภาพคู่กันแบบเห็นหน้าชัดๆ ยืนถ่ายคู่กันที่ผาช่อ (เชียงใหม่) เราหยุดดูถึงแค่นั้น เราตะโกนเรียกชื่อแฟนลั่นบ้านเลย นางยังคงไม่รู้ตัว เดินเข้ามาหา ตอนนั้นพูดตรงๆ ทั้งโกรธ ทั้งเจ็บใจ จุกใจอกพูดไม่ถูก เราตบหน้าเข้าไปเต็มแรง แล้วพูดเสียงนิ่งว่า ทำแบบนี้กับกูได้ยังไง คิดว่ามันคงรู้ว่าเราหมายถึงอะไร
แฟนเราพาเข้ามานั่งในบ้าน อธิบายเหตุผล ว่ามีเหตุผลอะไรถึงทำแบบนี้ ถึงต้องติดต่อกับแฟนเก่า เพราะเขาช่วยเรื่องงาน เขาเข้าใจนางทุกเรื่อง เขารู้ทุกเรื่องเกี่ยวกับนาง คุยกัน ช่วยเหลือกันแบบเพื่อนเท่านั้น … มันเคยบอกเราค่ะ ว่าเพื่อนชื่อเมย์ มันเช่าบ้านอยู่บ้านเพื่อน ติดกัน เพื่อนชื่อเมย์ แมวที่เลี้ยงก็ฝากเมย์ เพราะตลอดเวลามันโกหกเราว่าเพื่อนชื่อ เมย์ ค่ะ เวลามีอะไรมันก็จะเล่าถึงเพื่อน แต่จะโกหกชื่อเพื่อนตลอด ว่าชื่อนั่นชื่อนี่บ้าง แต่ความจริง เพื่อนทุกคนที่โกหกมาคือคนเดียว คือ แฟนเก่าคนนี้ ซึ่งชื่อ ร... แต่แฟนเราแทนชื่อคนอื่นแทน เพื่อปิดไม่ให้เรารู้ว่าเพื่อนมันคือใคร
มันยอมรับที่โกหกเพราะไม่อยากให้เราไม่สบายใจ มันย้ำตลอดว่าไม่มีอะไรกัน เราพูดว่า คนมันเคยเคยกันลองถามคนอื่นสิว่าใครเชื่อบ้าง แต่มันกลับโกรธเรา หาว่าเราดูถูกมัน ว่าเรางี่เง่าไร้สาระ เราฟังเหตุผลของมันที่อธิบาย เราไม่ได้บ้า โวยวาย กรี้ดปรี้ดแตก เราฟังค่ะ ส่วนจะเชื่อหรือไม่เชื่อ เราพิจารณาเอง แต่เอาความจริง ความเชื่อใจที่มีให้มาตลอดก็เหมือนแก้ว พอถูกทำให้แตกแล้วมันก็ไม่มีทางกลับมาแล้วถูกมั้ยคะ
เราถามมันว่าผู้หญิงรู้มั้ยว่าเราแต่งงานจดทะเบียนสมรสกันแล้ว มันบอกผู้หญิงรู้ค่ะ ตอนนั้นถ้าถามเรา เราไม่โกรธฝ่ายผู้หญิงนะ แต่คนของเราเองที่_หี้_ ที่เลือกจะปิดบังโกหกที่ผ่านมา ที่มันคิดจะโกหก มันคือไม่บริสุทธิ์ใจแต่แรกแล้ว มันถามงั้นพาไปคุยกันเลยมั้ย เราโอเค ดีเลย หลังจากนั้นมันก็ขับรถพาไปหาผู้หญิงคนนั้น ระหว่างทางที่ขับรถไป เราขอมือถือมันมาค่ะ เราจะเช็คต่อ ว่ามันติดต่อกันตั้งแต่เมื่อไหร่ เพราะตอนที่เคลียรอบแรก เราเข้าใจแค่ว่ามันติดต่อกันไม่นาน ตอนไปทำงานที่อีสาน (เมื่อช่วงสิ้นปีนี้เอง)
แต่ ... เราเลื่อน FB ของผู้หญิงดูเรื่อยๆ ไปจนถึงปี 2559 ไปจนถึง วันที่เราจดทะเบียนสมรส 30 กันยายน 2559
ต่อมา 1 ตุลาคม 2559 มันไปงานแต่งเพื่อน ถ่ายภาพคู่ เรียงกัน แฟนเรา เจ้าบ่าว เจ้าสาว และแฟนเก่านาง ตีมชุดสีแดง มา เป็นคู่ คืออะไร ?
ต่อมาไปกระบี่ ไปเที่ยวกัน เช็คอิน ถ่ายรูปลงมีความสุขมาก
ต่อมาไปเกาะสมุย เที่ยวกัน ขับรถไปกันเอง มีความสุขมาก
ต่อมาก็ไปดูหนังกันสองคน ไปกินข้าว ไปร้านเหล้า ไปนั่งริมทะเล ไปร้านนั่งชิว
มีอัพเดทจาก FB ของผู้หญิงตลอด มีพร่ำเพ้อ FB ตลอดว่า เราทำตามความรู้สึก / แค่นี้ก็มีความสุข อยากหยุดเวลานี้ไว้ อยากอยู่นานๆ บลาๆๆๆๆๆ เยอะแยะมากมาย มีทั้งภาพที่ถ่ายในรถแฟนเรา ภาพที่ถ่ายในบ้านแฟนเรา (จำโซฟาได้)
ไปเที่ยวเกาะ เที่ยวทะเล ไปอีสาน ไปเหนือ ที่สำคัญพาไปนอนบ้านตัวเองด้วย (แฟนเราเป็นคนเหนือค่ะ มันพาไปนอนบ้านมันด้วย ผู้ใหญ่ในบ้านก็รับรู้ทุกอย่างทั้งเรื่องของเรา และแฟนเก่านางคนนี้) เราปะติดปะต่อเรื่องราวและจำได้ทุกอย่าง มันไปเชียงรายกลับไปหาญาติพี่น้อง ไปเที่ยว แต่มีผู้หญิงคนนี้ไปกับครอบครัวมันด้วย มีภาพที่ลงคู่กันบ้าง ภาพเดี่ยวของผู้หญิงบ้างเยอะแยะมากมายไปหมด ตอนนั้นนิ้วชา มือเย็น ใจเต้นไม่เป็นจังหวะเลย เจ็บ จุกสุดๆ มันสวมเขาให้เรามานานขนาดนี้แล้วเหรอเนี่ย
ถึงบ้านผู้หญิง เราเรียกเข้ามานั่งคุยในรถ ถามเลยไปด้วยกันจริงมั้ย พวกมันยอมรับ นอนด้วยกันมั้น ก็มีพวกมันยอมรับ แต่มันบอกไม่เคยมีอะไรกัน เป็นเพื่อนกันเท่านั้น ... ถามคน 100 คน หรือให้ถามคนทั้งโลกใครจะเชื่อ จริงมั้ย เราพูดตรงๆว่า ความเชื่อใจเราไม่มีอีกเลย เราขอหย่า แฟนเราไม่ยอมหย่าค่ะ ทำตัวปกติมาก เหมือนไม่ได้ทำอะไรผิดร้ายแรงเลย เรารับไม่ไหวจริงๆ หัวใจตอนนี้ล่มไม่เป็นท่า ตอนกลางวัน แฟนยังขอมีลูกด้วยกันปีหน้า แต่งงาน พูดเป็นเรื่องเป็นราว แต่ตกกลางคืนเราต้องมารับรู้ว่าเราถูกแฟนสวมเขามานานขนาดนี้แล้วจริงๆหรือเนี่ย
มานั่งแค้นใจ เสียใจตัวเองที่ทำไมโง่มาก เชื่อใจมาตลอด ... เราอยากเลิกจริงๆ แต่ติดที่เขาไม่ยอมหย่าให้ค่ะ ไหนจะเรื่องสร้างบ้าน (ชื่อร่วม 2คน) มันกะจะเอาทั้งเรา ทั้งแฟนเก่า ทั้งบ้าน คาทะเบียนสมรส ... มักมากจริงๆ
หลังจากคุยเคลียกับผู้หญิงจบ เราเป็นคนมีเหตุผลค่ะ ไม่โวยวาย ถามมันไปตรงๆเลย ว่ารักกันมั้ย รู้สึกยังไงต่อกัน เราจะได้ถอยมาให้ได้รักกันไป จะได้จบๆ เราไม่อยากโง่ พวกมันก็บอกแค่เพื่อน แต่เพื่อนกันพากันไปเที่ยวไปทำอะไรลับหลังเรา แล้วโกหกเรามาตลอด ปิดบังเรามาตลอด จะให้เราเชื่อใจได้อีกเหรอ เราย้อนถามแฟนเก่ามันว่า ถ้าเธอมีแฟน แล้วแฟนเธอทำแบบเดียวกับที่เธอทำกับเราจะรู้สึกยังไง แน่นอนมันตอบว่าไม่โอเค ซึ่งใช่ ใครจะโอเค แล้วไปเที่ยวกับ คุยกันมาตั้งแต่ปี 2559 คุยกันมาตลอด หลอกเรา ปิดบังเรามาตลอด ใครที่ไหนจะรับได้ เราขอแฟนเลิกซ้ำๆ มันก้ไม่เลิก ไม่เลิกท่าเดียว
ถามว่าเรารักมั้ย รักนะ แต่เราอยู่คนเดียวมานานแล้ว เราเลิกได้ เราอยู่คนเดียวได้ ชีวิตเราดีกว่าแฟนเรามากด้วยซ้ำ ครอบครัว ฐานะบ้านเราก็ดีกว่ามาก คบกันแฟน เรายอมมาลำบากเริ่มจากศูนย์ ช่วยกันทำงานตั้งแต่เรียน ทำงานด้วยเรียนด้วย จนเก็บเงินก้อนและสร้างบ้าน มีรถขับ จนทุกวันนี้ มันเจ็บมั้ยล่ะ รถที่มันขับก็เงินเรา50% แต่มันพาแฟนเก่าไปเที่ยว ไปมีความสุข ทิ้งเราอยู่บ้านทำงานหาเงินลำบากอยู่คนเดียว ทั้งๆที่พวกมันไปมีความสุข
ไม่เคยคิดเลยจริงๆว่าจะมาเจอกับตัวเองแบบนี้ เจ็บ จน พูด ไม่ ออก กัน เลย ที เดียว
สุดท้ายนี้...
มันยังยืนยัน นั่งยัน นอนยันกันทั้งสองคนว่าเป็นแค่เพื่อนกัน ไม่มีอะไรกัน ทั้งๆที่มีการกอด ซบถ่ายลงเฟสเห็นหลังแฟนเรา จับมือก็มี นอนค้างด้วยกันก็มี ... ถามจริงๆว่ายังมีอีกเหรอแบบนี้ ปิดบังกันขนาดนี้ ยังจะมายืนยันว่าไม่มีอะไรกัน มันเชื่อยากจริงๆ
เราบอกให้เลิกขาดได้มั้ย เรารับไม่ได้ มันบอกก็ได้ แต่ มีต่อท้ายว่า ก็แค่เสียเพื่อนดีดีคนนึงไปเท่านั้นเอง
มันยอมรับว่ามันผิด มันขอโทษ และขอให้เราให้เวลามัน ยังไงมันก็ไม่มีทางเลิกให้เด็ดขาด
ถ้าแฟนคุณกลับไปเที่ยว ไปตจว ไปไหนมาไหนกับแฟนเก่า คิดว่ามันจะไม่มีอะไรกัน จริงเหรอ ?
ตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกัน มีแยกกันอยู่บ้าง เราทำงานธุรกิจส่วนตัวที่บ้านเราเอง ส่วนแฟนก็ทำงาน เรียน จะอยู่ไม่เป็นหลักแหล่ง ไปโน่นมานี่ตลอด ช่วงหลังจะไม่ได้อยู่ด้วยกัน (ช่วงเข้าปีที่ 3) ช่วงแรก ปีที่ 1-2 ที่คบกันอยู่ด้วยกันตลอด เเต่เพราะหน้าที่การงานบ้าง ธุรกิจบ้าง เเละเหตุผลอื่นๆเลยทำให้ไม่ได้อยู่ด้วยกัน
เราตกลงแต่งงานด้วยการจดทะเบียนสมรส (เพราะร่วมกันสร้างบ้านเพื่อสร้างอนาคตร่วมกัน) เริ่มสร้างบ้านในปี 2560 และ เพิ่งจะเสร็จไปไม่นานนี้เอง
เข้าหัวข้อกันเลยนะคะ ... แฟนสวมเขา ...
ระหว่างที่คบกัน เรารู้สึกว่าตัวเองโชคดีมาก ที่แฟนขยันทำงาน รับผิดชอบในเรื่องค่าใช้จ่าย ไม่เคยมีเรื่องผู้หญิงเข้ามาให้ปวดหัว ถึงแม้กายจะห่างกัน แต่เราก็ยังติดต่อกันตลอด มีบางช่วงที่เขาหายไป แต่ก็จะโทรมาบอกว่าทำงานนะ แล้วก็หายไปเป็นระยะ จากที่เราเคยอยู่ด้วยกันในตอนแรก จนเราชิน ร้องไห้ ทะเลาะกันบ่อยมาก เพราะแฟนไม่ค่อยใส่ใจ เราอยู่กันคนละบ้าน แต่ ... บ้านอยู่ห่างกันประมาณ 300 เมตรเท่านั้นค่ะ แต่เขาแทบจะไม่มาหาเราเลย มีแต่เราพยายามจะเข้าหาตลอด จะมีช่วงเวลาที่อยู่ด้วยก็แค่ทานข้าวเที่ยง ข้าวเย็นกัน แล้วก็แยกย้าย บางทีก็น้อยใจ อยู่ใกล้กันแค่นี้แต่ทำไมรู้สึกไกลมาก เราเองอยู่คนเดียว แฟนก็อยู่คนเดียว แต่แยกกันอยู่คนละบ้าน จนเวลาผ่านไปเป็นปี ที่เราอยู่คนเดียวจนชิน เเทบจะเรียกได้ว่าอยู่คนเดียวมาตลอด 2 ปีเต็มๆ (หลังจากที่เคยอยู่ด้วยกัน ตอนเริ่มคบ 2 ปีแรกอยู่หอด้วยกัน พอ 2 ปีหลังก็แยกกันอยู่) น้อยใจมั้ย...ตอบเลยมาก จนเคยพูดกับแฟนเลยว่า อยู่ใกล้กันแค่นี้ก็ไม่คิดจะมาหากันบ้าง รอเราตายก่อนสินะ ถึงมาเคาะโลง อยากอยู่ด้วยแค่ไหนก็ทำไม่ได้อีกแล้ว แล้วอย่ามาคิดได้ตอนถึงวันนั้นละกัน ... เราคิดตลอด ว่าเราอยากใช้ชีวิต ให้เวลา ใช้เวลาด้วยกัน เพราะไม่รู้วันไหนจะต้องจากกัน ไม่อยากเสียดายเวลาที่วันนึงพอไม่มีกันแล้วมานึกเสียดาย นึกคิดถึงแต่ก็คงไม่ถึงกันแล้ว ...
เราจดทะเบียนสมรสกัน เมื่อกันยายน 2559 และวางแผนสร้างบ้าน ซื้อที่ดิน และได้เริ่มสร้างบ้าน เมื่อมกราคม 2560
เมื่อเดือน กันยายน ตุลาคม พฤศจิกายน ธันวาคม 2560 แฟนไปทำงานอีสาน ทำให้เราต้องไกลกันพอสมควร เราอยู่ภาคใต้ค่ะ แฟนก็จะบอกไม่ค่อยมีเวลา แฟนไม่ค่อยโทรมา อย่างมากเฉลี่ยคือ 2 วันจะได้คุยกันครั้งนึง ครั้งละไม่กี่นาที (ไม่ถึง 10 นาทีด้วยซ้ำซะส่วนใหญ่) เขาบอกงานยุ่ง ทำงาน โอเค เราเข้าใจ
ช่วงนั้นเราจัดการเรื่องสร้างบ้านอยู่คนเดียว เหนื่อยมาก งานส่วนตัวก็ต้องทำ บ้านก็ต้องทำ คุยงานเอง จนถึงธันวาคม แฟนกลับมาจากอีสาน แต่ก็ไม่ได้มาอยู่ด้วยกัน เขาไปอยู่บ้านที่อื่น ซึ่งบอกว่าไปทำงานเช่นกัน เช่าบ้านแถวนั้น สะดวกดี เราโอเค เพราะตกลงกันแล้วว่าถ้าบ้านเสร็จสมบูรณ์เมื่อไหร่ ก็ย้ายมาอยู่ด้วยกันจริงๆ
ระหว่างนั้นก็มีน้อยใจนะ มาหาเราตอนกลางวัน แล้วช่วงเย็นก็ขับรถกลับ บ้านที่เขาเช่าอยู่ไกลจากบ้านเราพอสมควร เขาไม่บอกเรา ไม่พาเราไปด้วย ว่าที่เขาพักอยู่ที่ไหน เราก็ไม่ได้เป็นคนเซ้าซี้อะไรอยู่แล้ว ก็เฉยๆไป
แต่ไม่รู้ทำไม มีวันนึง เราถามว่า ทำไมกลับแต่บ้านเช่า ไม่มานอนบ้านเราบ้าง ที่บ้านมีใครอยู่หรือยังไงถึงรีบกลับ ต้องกลับทุกคืนเลย แฟนเราก็บอกไม่มีอะไร ไร้สาระ...
แต่ ... เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น สดๆร้อนๆเลย (ค่ำของวันที่ 3/2/2561) ระหว่างช่วยกันต่อเติมบ้านเล็กๆน้อยๆ เราใช้มือถือของแฟนส่องแฟลชดูงานในบ้าน แล้วแชต Messenger เด้งขึ้นมา เป็น FB ของ แฟนเก่า (เมียเก่า) ของนาง callเข้ามา เราไม่ทันรับสายและ Message มาว่า “เมื่อไหร่จะกลับบ้าน”
ตอนนั้นคือ บอกตรงๆว่า หัวใจแทบจะหล่น ที่ผ่านมาตลอดระยะเวลา 5 ปีเราเชื่อใจเขามาตลอด จนเราคิดว่าเราโง่หรือเปล่านะที่เชื่อใจขนาดนี้ ไม่เคยระแวง ไม่เคยเช็คมือถือ เพราะเคยจับมือถือเขานะ เขาจะลบแชตออกหมดเลย ถึงเช็คก็ไม่เจออะไร ก็เลยไม่ยุ่ง
แล้วเราก็เข้าหน้า FB ของแฟนเก่านางค่ะ เลื่อนลงดูเรื่อยๆ มีภาพถ่ายรูปที่สระว่ายน้ำ แต่มีแฟนเราอยู่ในภาพด้วยโผล่แวปๆอยู่ข้างหลังเช็คอินที่ รร.ในเชียงใหม่ / สิ้นปี เช็คอินที่อีสาน (จังหวัดเดียวกับที่แฟนเราอยู่) ถ่ายรูปกินหมูกระทะ ติดมือแฟนเราในภาพ นาฬิกาข้อมือที่เราซื้อให้ / อีกวันก็เช็คอินหมูกระทะ ติดภาพเสื้อ กางเกง ตัวแฟนเรา แต่ไม่เห็นภาพ / ต่อมาก็ภาพคู่กันแบบเห็นหน้าชัดๆ ยืนถ่ายคู่กันที่ผาช่อ (เชียงใหม่) เราหยุดดูถึงแค่นั้น เราตะโกนเรียกชื่อแฟนลั่นบ้านเลย นางยังคงไม่รู้ตัว เดินเข้ามาหา ตอนนั้นพูดตรงๆ ทั้งโกรธ ทั้งเจ็บใจ จุกใจอกพูดไม่ถูก เราตบหน้าเข้าไปเต็มแรง แล้วพูดเสียงนิ่งว่า ทำแบบนี้กับกูได้ยังไง คิดว่ามันคงรู้ว่าเราหมายถึงอะไร
แฟนเราพาเข้ามานั่งในบ้าน อธิบายเหตุผล ว่ามีเหตุผลอะไรถึงทำแบบนี้ ถึงต้องติดต่อกับแฟนเก่า เพราะเขาช่วยเรื่องงาน เขาเข้าใจนางทุกเรื่อง เขารู้ทุกเรื่องเกี่ยวกับนาง คุยกัน ช่วยเหลือกันแบบเพื่อนเท่านั้น … มันเคยบอกเราค่ะ ว่าเพื่อนชื่อเมย์ มันเช่าบ้านอยู่บ้านเพื่อน ติดกัน เพื่อนชื่อเมย์ แมวที่เลี้ยงก็ฝากเมย์ เพราะตลอดเวลามันโกหกเราว่าเพื่อนชื่อ เมย์ ค่ะ เวลามีอะไรมันก็จะเล่าถึงเพื่อน แต่จะโกหกชื่อเพื่อนตลอด ว่าชื่อนั่นชื่อนี่บ้าง แต่ความจริง เพื่อนทุกคนที่โกหกมาคือคนเดียว คือ แฟนเก่าคนนี้ ซึ่งชื่อ ร... แต่แฟนเราแทนชื่อคนอื่นแทน เพื่อปิดไม่ให้เรารู้ว่าเพื่อนมันคือใคร
มันยอมรับที่โกหกเพราะไม่อยากให้เราไม่สบายใจ มันย้ำตลอดว่าไม่มีอะไรกัน เราพูดว่า คนมันเคยเคยกันลองถามคนอื่นสิว่าใครเชื่อบ้าง แต่มันกลับโกรธเรา หาว่าเราดูถูกมัน ว่าเรางี่เง่าไร้สาระ เราฟังเหตุผลของมันที่อธิบาย เราไม่ได้บ้า โวยวาย กรี้ดปรี้ดแตก เราฟังค่ะ ส่วนจะเชื่อหรือไม่เชื่อ เราพิจารณาเอง แต่เอาความจริง ความเชื่อใจที่มีให้มาตลอดก็เหมือนแก้ว พอถูกทำให้แตกแล้วมันก็ไม่มีทางกลับมาแล้วถูกมั้ยคะ
เราถามมันว่าผู้หญิงรู้มั้ยว่าเราแต่งงานจดทะเบียนสมรสกันแล้ว มันบอกผู้หญิงรู้ค่ะ ตอนนั้นถ้าถามเรา เราไม่โกรธฝ่ายผู้หญิงนะ แต่คนของเราเองที่_หี้_ ที่เลือกจะปิดบังโกหกที่ผ่านมา ที่มันคิดจะโกหก มันคือไม่บริสุทธิ์ใจแต่แรกแล้ว มันถามงั้นพาไปคุยกันเลยมั้ย เราโอเค ดีเลย หลังจากนั้นมันก็ขับรถพาไปหาผู้หญิงคนนั้น ระหว่างทางที่ขับรถไป เราขอมือถือมันมาค่ะ เราจะเช็คต่อ ว่ามันติดต่อกันตั้งแต่เมื่อไหร่ เพราะตอนที่เคลียรอบแรก เราเข้าใจแค่ว่ามันติดต่อกันไม่นาน ตอนไปทำงานที่อีสาน (เมื่อช่วงสิ้นปีนี้เอง)
แต่ ... เราเลื่อน FB ของผู้หญิงดูเรื่อยๆ ไปจนถึงปี 2559 ไปจนถึง วันที่เราจดทะเบียนสมรส 30 กันยายน 2559
ต่อมา 1 ตุลาคม 2559 มันไปงานแต่งเพื่อน ถ่ายภาพคู่ เรียงกัน แฟนเรา เจ้าบ่าว เจ้าสาว และแฟนเก่านาง ตีมชุดสีแดง มา เป็นคู่ คืออะไร ?
ต่อมาไปกระบี่ ไปเที่ยวกัน เช็คอิน ถ่ายรูปลงมีความสุขมาก
ต่อมาไปเกาะสมุย เที่ยวกัน ขับรถไปกันเอง มีความสุขมาก
ต่อมาก็ไปดูหนังกันสองคน ไปกินข้าว ไปร้านเหล้า ไปนั่งริมทะเล ไปร้านนั่งชิว
มีอัพเดทจาก FB ของผู้หญิงตลอด มีพร่ำเพ้อ FB ตลอดว่า เราทำตามความรู้สึก / แค่นี้ก็มีความสุข อยากหยุดเวลานี้ไว้ อยากอยู่นานๆ บลาๆๆๆๆๆ เยอะแยะมากมาย มีทั้งภาพที่ถ่ายในรถแฟนเรา ภาพที่ถ่ายในบ้านแฟนเรา (จำโซฟาได้)
ไปเที่ยวเกาะ เที่ยวทะเล ไปอีสาน ไปเหนือ ที่สำคัญพาไปนอนบ้านตัวเองด้วย (แฟนเราเป็นคนเหนือค่ะ มันพาไปนอนบ้านมันด้วย ผู้ใหญ่ในบ้านก็รับรู้ทุกอย่างทั้งเรื่องของเรา และแฟนเก่านางคนนี้) เราปะติดปะต่อเรื่องราวและจำได้ทุกอย่าง มันไปเชียงรายกลับไปหาญาติพี่น้อง ไปเที่ยว แต่มีผู้หญิงคนนี้ไปกับครอบครัวมันด้วย มีภาพที่ลงคู่กันบ้าง ภาพเดี่ยวของผู้หญิงบ้างเยอะแยะมากมายไปหมด ตอนนั้นนิ้วชา มือเย็น ใจเต้นไม่เป็นจังหวะเลย เจ็บ จุกสุดๆ มันสวมเขาให้เรามานานขนาดนี้แล้วเหรอเนี่ย
ถึงบ้านผู้หญิง เราเรียกเข้ามานั่งคุยในรถ ถามเลยไปด้วยกันจริงมั้ย พวกมันยอมรับ นอนด้วยกันมั้น ก็มีพวกมันยอมรับ แต่มันบอกไม่เคยมีอะไรกัน เป็นเพื่อนกันเท่านั้น ... ถามคน 100 คน หรือให้ถามคนทั้งโลกใครจะเชื่อ จริงมั้ย เราพูดตรงๆว่า ความเชื่อใจเราไม่มีอีกเลย เราขอหย่า แฟนเราไม่ยอมหย่าค่ะ ทำตัวปกติมาก เหมือนไม่ได้ทำอะไรผิดร้ายแรงเลย เรารับไม่ไหวจริงๆ หัวใจตอนนี้ล่มไม่เป็นท่า ตอนกลางวัน แฟนยังขอมีลูกด้วยกันปีหน้า แต่งงาน พูดเป็นเรื่องเป็นราว แต่ตกกลางคืนเราต้องมารับรู้ว่าเราถูกแฟนสวมเขามานานขนาดนี้แล้วจริงๆหรือเนี่ย
มานั่งแค้นใจ เสียใจตัวเองที่ทำไมโง่มาก เชื่อใจมาตลอด ... เราอยากเลิกจริงๆ แต่ติดที่เขาไม่ยอมหย่าให้ค่ะ ไหนจะเรื่องสร้างบ้าน (ชื่อร่วม 2คน) มันกะจะเอาทั้งเรา ทั้งแฟนเก่า ทั้งบ้าน คาทะเบียนสมรส ... มักมากจริงๆ
หลังจากคุยเคลียกับผู้หญิงจบ เราเป็นคนมีเหตุผลค่ะ ไม่โวยวาย ถามมันไปตรงๆเลย ว่ารักกันมั้ย รู้สึกยังไงต่อกัน เราจะได้ถอยมาให้ได้รักกันไป จะได้จบๆ เราไม่อยากโง่ พวกมันก็บอกแค่เพื่อน แต่เพื่อนกันพากันไปเที่ยวไปทำอะไรลับหลังเรา แล้วโกหกเรามาตลอด ปิดบังเรามาตลอด จะให้เราเชื่อใจได้อีกเหรอ เราย้อนถามแฟนเก่ามันว่า ถ้าเธอมีแฟน แล้วแฟนเธอทำแบบเดียวกับที่เธอทำกับเราจะรู้สึกยังไง แน่นอนมันตอบว่าไม่โอเค ซึ่งใช่ ใครจะโอเค แล้วไปเที่ยวกับ คุยกันมาตั้งแต่ปี 2559 คุยกันมาตลอด หลอกเรา ปิดบังเรามาตลอด ใครที่ไหนจะรับได้ เราขอแฟนเลิกซ้ำๆ มันก้ไม่เลิก ไม่เลิกท่าเดียว
ถามว่าเรารักมั้ย รักนะ แต่เราอยู่คนเดียวมานานแล้ว เราเลิกได้ เราอยู่คนเดียวได้ ชีวิตเราดีกว่าแฟนเรามากด้วยซ้ำ ครอบครัว ฐานะบ้านเราก็ดีกว่ามาก คบกันแฟน เรายอมมาลำบากเริ่มจากศูนย์ ช่วยกันทำงานตั้งแต่เรียน ทำงานด้วยเรียนด้วย จนเก็บเงินก้อนและสร้างบ้าน มีรถขับ จนทุกวันนี้ มันเจ็บมั้ยล่ะ รถที่มันขับก็เงินเรา50% แต่มันพาแฟนเก่าไปเที่ยว ไปมีความสุข ทิ้งเราอยู่บ้านทำงานหาเงินลำบากอยู่คนเดียว ทั้งๆที่พวกมันไปมีความสุข
ไม่เคยคิดเลยจริงๆว่าจะมาเจอกับตัวเองแบบนี้ เจ็บ จน พูด ไม่ ออก กัน เลย ที เดียว
สุดท้ายนี้...
มันยังยืนยัน นั่งยัน นอนยันกันทั้งสองคนว่าเป็นแค่เพื่อนกัน ไม่มีอะไรกัน ทั้งๆที่มีการกอด ซบถ่ายลงเฟสเห็นหลังแฟนเรา จับมือก็มี นอนค้างด้วยกันก็มี ... ถามจริงๆว่ายังมีอีกเหรอแบบนี้ ปิดบังกันขนาดนี้ ยังจะมายืนยันว่าไม่มีอะไรกัน มันเชื่อยากจริงๆ
เราบอกให้เลิกขาดได้มั้ย เรารับไม่ได้ มันบอกก็ได้ แต่ มีต่อท้ายว่า ก็แค่เสียเพื่อนดีดีคนนึงไปเท่านั้นเอง
มันยอมรับว่ามันผิด มันขอโทษ และขอให้เราให้เวลามัน ยังไงมันก็ไม่มีทางเลิกให้เด็ดขาด