1.)ในอดีตเมื่อ 50 ปีก่อนลงไป วัดไม่มีลานจอดรถ..และวัดมีต้นไม้มาก..พอๆกับหมาแมวเพียบ
สิ่งปลูกสร้างในวัดมีเพื่อพุทธศาสนาอย่างเดียว..โบสถ์..วิหาร. หอไตร..หอระฆัง..ศาลาการเปรียญ..และกุฏิให้พระจำวัด..แล้วก็ต้นโพธิ์ (ใต้นโพธิ์ก็มีพระพุทธรูปซักองค์)
...ปัจจุบัน...วัดไม่มีต้นไม้แมัแต่ต้นโพธิ์ยังตัด..เทปูนทังวัดเอารถมาจอด..สร้างศาลาเจ้าแม่กวนอิม..และสารพัดเทพมากกว่าพระพุทธรูป...เผลอๆในวัดสปา..บริการนวด..ร้านค้า..ขายหวย..ตลาดนัด..ขายนกขายเต่า...ขายพระเครื่อง ฯลฯ...
2.)พิธีกรรมทางศาสนาในวัดที่เปลี่ยนไป...เมื่อ 50 ปีก่อน เราจะมาร่วมถวายอาหารเพลแด่พระภิกษุในศาลาการเปรียญ..พระนั่งสวดในธรรมาศ..ร่วมฟังธรรมเทศนา..จบด้วยการนั่งทานข้าวกลางวันด้วยกันในหมู่อุบาสก อุบาสิกา....อันนี้คือแสตนดาร์ด..เป็นเหมือนกันทุกวัด...
...งานศพ..จริงๆเมื่อ 70-80 ปีก่อน ไม่ได้จัดในวัด
วัดไม่มีเมรุเผาศพ...ส่วนมากนิมนต์พระไปสวดในบ้านที่มีคนตาย...สวดเสร็จ..ถ้าไม่เผาก็นำไปฝังในป่าช้า..หรือถ้าเผาก็เผาใกล้ๆบ้านคนตายไปเลย
....วัดจะมีป่าช้า..ให้คนนำศพมาฝัง..มาเก็บไว้ในโกดัง...ถ้าตัองการเผาศพ..ก็จ้างสัปเหร่อเผาในเชิงตะกอนในป่าช้า..เพื่อนำเถ้ากระดูกไปบูชา....
...ในวัดไม่มีพิธีการศพเลย...
...ในวัดไม่มีพิธีสวดภาณยักษ์อะไรๆ..จะมีก็แค่สวดปาติโมกต์ทุกวันพระใหญ่ตามปกติ...ไม่มีพิธีปลุกเสกพระเครื่องในโบสถ์ใดๆ....เพราะพระที่ทำพระเครื่องจะปลุกเสกในกุฏิเอง....อย่างสมเด็จโต..ท่านทำพระสมเด็จในกุฏิของท่านเอง..ทำไว้แจกชาวบ้านที่มาใส่บาตร....ไม่ได้ทำไว้ขาย
...ไม่มีการรับดูดวงชะตา..สักยันต์..นอนโลง..ใบ้หวยในวัด...สิ่งนัถ้ามีพระลูกวัดทำ..มักจะถูกเจ้าอาวาสไล่ออกจากวัดไป...เพราะรบกวนพระรูปอื่นที่ต้องทนเสียงคนมาร่วมงมงายในสิ่งนี้
....ในวัดไม่มีตู้บริจาค...เพราะไม่มีไฟฟ้าให้เสียค่าไฟ..ไม่จำเป็นต้องเปิดไฟ...เพื่อให้คนมาทำบุญเยอะๆ...
....กิจกรรมของวัดมีแค่ในวันสำคัญทางศาสนาที่มาร่วมเวียนเทียน...วัดสงกรานต์ขนทรายเข้าวัดแค่นั้น
...งานบวช..ก็แห่มาจากบ้าน..ทำพิธีในโบสถ์ก็คือจบ
...ปัจจุบัน...วัดทุกวัดสร้างเมรุเผาศพ...และรับภาระในการเผาศพ..สวดศพ..มีศาลาสวดมากหลังในวัด...เป็นพิธีกรรมหลักในวัด
...ศาลาการเปรียญถูกปิดตาย...และรอวันรื้อทิ้งเพราะไม่มีการมาทำบุญในวันพระอีกแล้ว....ธรรมาศแสดงธรรมเทศนา..ถูกนำไปไว้ในศาลาสวดศพแทน...
...วัดหลายที่กลายเป็นสถานที่บวชเนขัมมะ...ที่แสดงกิจกรรมสวดมนต์..เดินจงกลมบ้าง..แลัวแต่จะคิด
....หลายๆที่เป็นสำนักสักยันต์..ต่อชะตาอายุ..หมอดู..
...มีงานวัดประหลาดๆเกิดขึ้น..เช่นพิธีปลุกเสกพระเขิญเกจิอาจารย์ดังมาสวดในโบสถ์...งานปริวาส(ที่แปลว่าพระต้องอาบัติ)...สวดภาณยักษ์ตามบาลี..ฮินดู...สารพัดแบบ
...ตอนนี้..วัดก็มีรายได้จากตู้บริจาคทั่วเต็มวัดเพราะต้องจ่ายค่าน้ำค่าไฟเยอะ...และพระทุกองค์จะสวดบังสุกุลได้...พอๆกับสวดรับการถวายสังฆทาน...ที่คนมาหาพระได้ทุกวัน...
...วัดเป็นที่จัดงานลอยกระทง..และงานบวชที่กินโต๊ะจีน...ก็อาจมาจัดในวัดได้...
งานอะไรๆก็ใช้วัดจัดได้..วันสำคัญทางศาสนา..เวียนเทียนยังคงเดิม..และจะมาจัดดนตรีแก้บนพระพุทธรูปหลวงพ่ออะไรๆในวัด..ทำได้เลย...จุดพรุ..ยิงปืนขึ้นฟ้าตามสะดวก
3.)พระสงฆ์สมัยก่อนมี 2 ประเภท อันแรกบวชเรียน อันที่สองบวชจริง....บวชเรียนคือสมัยก่อนไม่มีโรงเรียน..อยากอ่านออกเขียนได้มาบวชเป็นเณรในวัดเรียนอักษร .ความรู้ต่างๆ...อายุครบ 20 ก็บวชพระ..บวชพระไม่นานก็สึกไปมีครอบครัว
...อย่างที่สองบวชจริง...คือมาบวชเอง...จะบวชแบบไม่สึกเลยตลอดชีวิต....
ปัจจุบัน...บวชเรียนแทบไม่มีแล้ว...แต่มาบวชทดแทนคุณพ่อแม่ ตามความเชื่อคราวละ 15 วันถึง 3 เดือนเยอะ....บวชแก้บน...บวชแก้ซวย...โดนคดีความมาบวชเพื่อแก้โชคร้าย....บางคนลูกหลานติดยาเกเร..เอาลูกมาบวชให้เลิกยาก็มี...บวชหน้าไฟงานศพ...เพื่อจูงโลงศพในพิธีแห่รอบเมรุก่อนเผา
4.).สมัยก่อนพระไม่รับเงินเลย...เงินไม่ใช่สิ่งที่พระต้องมีใช้จ่าย...เพราะพระไม่มีรายจ่ายเลย...อยู่ด้วยผ้าสามผืน..บาตรหนึ่งใบพอแค่นั้น
...พระรับกิจนิมนต์น้อยมาก...นานๆจะไปงานศพตามบ้านบ้างตอนเย็นมีสวด...และก็ไม่รับซอง...ตอนถวายปัจจัยธัยธรรม
ปัจจุบัน....พระรับเงินเป็นเรื่องปกติ...ทำอะไรๆให้พระต้องใส่ซอง...ตอนไปบิณฑบาตร...ในบาตรมีแต่ธนบัตร..จนไม่กล้าตักข้าวใส่ลงไป...
พระรับงานนอกมาก..ทำบุญขึ้นบ้านใหม่...สารพัดงานวิ่งรอก..โปรแกรมในปฏิทินตามเกือบปี ที่มีงานจอง
...พระใช้จ่ายเงินเยอะ...ทั้งนำเงินไปเรียนเปรียญเพื่อสอบนักธรรม..และเก็บเงินไปจาริกแสวงบุญที่อินเดีย
5.)...พระสงฆ์สมัยก่อน...ไม่มีกิจกรรมทางโลกทั้งสิ้น
...ปัจจุบัน...มีพระมาร่วมชุมนุมทางการเมือง...ไปเข้าร่วมกิจกรรมเดินธุดงค์ธรรมชัย...ไปชุมนุมประท้วง...หรือไปเรียนหนังสือในมหาวิทยาลัย...ไปสอบทำงาน...ไปสอบราชการ..เดินตลาดซื้อของ...
พุทธศาสนาที่กลับกลายในปี 2561
สิ่งปลูกสร้างในวัดมีเพื่อพุทธศาสนาอย่างเดียว..โบสถ์..วิหาร. หอไตร..หอระฆัง..ศาลาการเปรียญ..และกุฏิให้พระจำวัด..แล้วก็ต้นโพธิ์ (ใต้นโพธิ์ก็มีพระพุทธรูปซักองค์)
...ปัจจุบัน...วัดไม่มีต้นไม้แมัแต่ต้นโพธิ์ยังตัด..เทปูนทังวัดเอารถมาจอด..สร้างศาลาเจ้าแม่กวนอิม..และสารพัดเทพมากกว่าพระพุทธรูป...เผลอๆในวัดสปา..บริการนวด..ร้านค้า..ขายหวย..ตลาดนัด..ขายนกขายเต่า...ขายพระเครื่อง ฯลฯ...
2.)พิธีกรรมทางศาสนาในวัดที่เปลี่ยนไป...เมื่อ 50 ปีก่อน เราจะมาร่วมถวายอาหารเพลแด่พระภิกษุในศาลาการเปรียญ..พระนั่งสวดในธรรมาศ..ร่วมฟังธรรมเทศนา..จบด้วยการนั่งทานข้าวกลางวันด้วยกันในหมู่อุบาสก อุบาสิกา....อันนี้คือแสตนดาร์ด..เป็นเหมือนกันทุกวัด...
...งานศพ..จริงๆเมื่อ 70-80 ปีก่อน ไม่ได้จัดในวัด
วัดไม่มีเมรุเผาศพ...ส่วนมากนิมนต์พระไปสวดในบ้านที่มีคนตาย...สวดเสร็จ..ถ้าไม่เผาก็นำไปฝังในป่าช้า..หรือถ้าเผาก็เผาใกล้ๆบ้านคนตายไปเลย
....วัดจะมีป่าช้า..ให้คนนำศพมาฝัง..มาเก็บไว้ในโกดัง...ถ้าตัองการเผาศพ..ก็จ้างสัปเหร่อเผาในเชิงตะกอนในป่าช้า..เพื่อนำเถ้ากระดูกไปบูชา....
...ในวัดไม่มีพิธีการศพเลย...
...ในวัดไม่มีพิธีสวดภาณยักษ์อะไรๆ..จะมีก็แค่สวดปาติโมกต์ทุกวันพระใหญ่ตามปกติ...ไม่มีพิธีปลุกเสกพระเครื่องในโบสถ์ใดๆ....เพราะพระที่ทำพระเครื่องจะปลุกเสกในกุฏิเอง....อย่างสมเด็จโต..ท่านทำพระสมเด็จในกุฏิของท่านเอง..ทำไว้แจกชาวบ้านที่มาใส่บาตร....ไม่ได้ทำไว้ขาย
...ไม่มีการรับดูดวงชะตา..สักยันต์..นอนโลง..ใบ้หวยในวัด...สิ่งนัถ้ามีพระลูกวัดทำ..มักจะถูกเจ้าอาวาสไล่ออกจากวัดไป...เพราะรบกวนพระรูปอื่นที่ต้องทนเสียงคนมาร่วมงมงายในสิ่งนี้
....ในวัดไม่มีตู้บริจาค...เพราะไม่มีไฟฟ้าให้เสียค่าไฟ..ไม่จำเป็นต้องเปิดไฟ...เพื่อให้คนมาทำบุญเยอะๆ...
....กิจกรรมของวัดมีแค่ในวันสำคัญทางศาสนาที่มาร่วมเวียนเทียน...วัดสงกรานต์ขนทรายเข้าวัดแค่นั้น
...งานบวช..ก็แห่มาจากบ้าน..ทำพิธีในโบสถ์ก็คือจบ
...ปัจจุบัน...วัดทุกวัดสร้างเมรุเผาศพ...และรับภาระในการเผาศพ..สวดศพ..มีศาลาสวดมากหลังในวัด...เป็นพิธีกรรมหลักในวัด
...ศาลาการเปรียญถูกปิดตาย...และรอวันรื้อทิ้งเพราะไม่มีการมาทำบุญในวันพระอีกแล้ว....ธรรมาศแสดงธรรมเทศนา..ถูกนำไปไว้ในศาลาสวดศพแทน...
...วัดหลายที่กลายเป็นสถานที่บวชเนขัมมะ...ที่แสดงกิจกรรมสวดมนต์..เดินจงกลมบ้าง..แลัวแต่จะคิด
....หลายๆที่เป็นสำนักสักยันต์..ต่อชะตาอายุ..หมอดู..
...มีงานวัดประหลาดๆเกิดขึ้น..เช่นพิธีปลุกเสกพระเขิญเกจิอาจารย์ดังมาสวดในโบสถ์...งานปริวาส(ที่แปลว่าพระต้องอาบัติ)...สวดภาณยักษ์ตามบาลี..ฮินดู...สารพัดแบบ
...ตอนนี้..วัดก็มีรายได้จากตู้บริจาคทั่วเต็มวัดเพราะต้องจ่ายค่าน้ำค่าไฟเยอะ...และพระทุกองค์จะสวดบังสุกุลได้...พอๆกับสวดรับการถวายสังฆทาน...ที่คนมาหาพระได้ทุกวัน...
...วัดเป็นที่จัดงานลอยกระทง..และงานบวชที่กินโต๊ะจีน...ก็อาจมาจัดในวัดได้...
งานอะไรๆก็ใช้วัดจัดได้..วันสำคัญทางศาสนา..เวียนเทียนยังคงเดิม..และจะมาจัดดนตรีแก้บนพระพุทธรูปหลวงพ่ออะไรๆในวัด..ทำได้เลย...จุดพรุ..ยิงปืนขึ้นฟ้าตามสะดวก
3.)พระสงฆ์สมัยก่อนมี 2 ประเภท อันแรกบวชเรียน อันที่สองบวชจริง....บวชเรียนคือสมัยก่อนไม่มีโรงเรียน..อยากอ่านออกเขียนได้มาบวชเป็นเณรในวัดเรียนอักษร .ความรู้ต่างๆ...อายุครบ 20 ก็บวชพระ..บวชพระไม่นานก็สึกไปมีครอบครัว
...อย่างที่สองบวชจริง...คือมาบวชเอง...จะบวชแบบไม่สึกเลยตลอดชีวิต....
ปัจจุบัน...บวชเรียนแทบไม่มีแล้ว...แต่มาบวชทดแทนคุณพ่อแม่ ตามความเชื่อคราวละ 15 วันถึง 3 เดือนเยอะ....บวชแก้บน...บวชแก้ซวย...โดนคดีความมาบวชเพื่อแก้โชคร้าย....บางคนลูกหลานติดยาเกเร..เอาลูกมาบวชให้เลิกยาก็มี...บวชหน้าไฟงานศพ...เพื่อจูงโลงศพในพิธีแห่รอบเมรุก่อนเผา
4.).สมัยก่อนพระไม่รับเงินเลย...เงินไม่ใช่สิ่งที่พระต้องมีใช้จ่าย...เพราะพระไม่มีรายจ่ายเลย...อยู่ด้วยผ้าสามผืน..บาตรหนึ่งใบพอแค่นั้น
...พระรับกิจนิมนต์น้อยมาก...นานๆจะไปงานศพตามบ้านบ้างตอนเย็นมีสวด...และก็ไม่รับซอง...ตอนถวายปัจจัยธัยธรรม
ปัจจุบัน....พระรับเงินเป็นเรื่องปกติ...ทำอะไรๆให้พระต้องใส่ซอง...ตอนไปบิณฑบาตร...ในบาตรมีแต่ธนบัตร..จนไม่กล้าตักข้าวใส่ลงไป...
พระรับงานนอกมาก..ทำบุญขึ้นบ้านใหม่...สารพัดงานวิ่งรอก..โปรแกรมในปฏิทินตามเกือบปี ที่มีงานจอง
...พระใช้จ่ายเงินเยอะ...ทั้งนำเงินไปเรียนเปรียญเพื่อสอบนักธรรม..และเก็บเงินไปจาริกแสวงบุญที่อินเดีย
5.)...พระสงฆ์สมัยก่อน...ไม่มีกิจกรรมทางโลกทั้งสิ้น
...ปัจจุบัน...มีพระมาร่วมชุมนุมทางการเมือง...ไปเข้าร่วมกิจกรรมเดินธุดงค์ธรรมชัย...ไปชุมนุมประท้วง...หรือไปเรียนหนังสือในมหาวิทยาลัย...ไปสอบทำงาน...ไปสอบราชการ..เดินตลาดซื้อของ...