https://news.sanook.com/5188574/
http://www.bangkokbiznews.com/news/detail/790738
ตามลิงค์ด้านบนครับ โครงการก้าวคนละก้าว ได้จัดสรรเงินครั้งแรกจำนวน 1,300 ล้านบาท ซึ่งเป็นเงินบริจาคจากคนไทยทั้งประเทศ ให้แก่ 10 โรงพยาบาลศูนย์์ บวก โรงพยาบาลพระมงกุฎอีกหนึ่งโรงพยาบาล เป็น11 โรงพยาบาล
ในตอนแรกเริ่มโครงการ จขกท. สงสัยว่าโรงพยาบาลพระมงกุฎอยู่ในกทมและน่าจะมีงบประมาณเยอะอยู่แล้วอีกทั้งไม่ใช่ รพ.ศูนย์ ไม่น่าจะอยู่ใน 11 โรงพยาบาล
ต่อมาได้ยินข่าวว่าเป็นเพราะต้องรับหน้าที่รวบรวมเงินบริจาคเลยได้เป็นหนึ่งใน11โรงพยาบาลด้วย ก็พอเข้าใจครับ และเคารพในการตัดสินใจของทีมงานโครงการ แต่รู้สึกแปลกนิดหน่อย เพราะไม่น่าตรงกับแนวคิดหลักของโครงการ แต่ก็เข้าใจว่าแต่ละ รพ.ก็คงได้รับเงินกันเท่าๆกัน หรือไม่ห่างกันมาก และอย่างไรเสียก็เป็นประโยชน์กับผู้ป่วยเหมือนกัน
แต่เอาเข้าจริงปรากฎว่ามีการใช้เกณฑ์จำนวนเตียงในการพิจารณาแบ่งเงิน ถามว่าเหมาะสมมั้ย ก็พอมีเหตุผลนะครับ แต่ด้วยความที่เป็นโรงบาลแต่ละศูนย์ ถ้าจะเอาจำนวนเตียงก็ควรจะหมายถึงจำนวนเตียงในเขตรับผิดชอบของศูนย์นั้น ไม่ใช่แค่ รพ.นั้น ทำให้มันมีปัญหาต้องคิดตามมาอีกว่า เช่น ในกทม. รพ.กระจุกตัวเยอะ แล้วจะคำนวณให้ยังไง กลายเป็นว่าเลือกที่จะเอาจำนวนเตียงของแต่ละ รพ.มาคำนวณ ซึ่งผมไม่ค่อยเห็นด้วย
สุดท้ายปรากฎว่า รพ.พระมงกุฎ รับไปถึง 17 เปอร์คือ 221 ล้านบาทขณะที่โรงพยาบาลไกลๆ อย่างน่าน หรือยะลา ได้ 7 เปอร์เซ็น คือ 91 ล้านบาท ต่างกันมาก มากกว่า 2 เท่า ขนาดสองโรงพยาบารนี้รวมกันยังไม่เท่า รพ.พระมงกุฎที่เดียวเลย
โดยให้เหตุผลว่าโรงพยาบาลพระมงกุฎมีเตียงมากกว่า และยังได้รับเพิ่มเนื่องจากเป็นคนบริหารจัดการเงินอีก 5 เปอร์เซ็น !!
ผมรู้สึกประหลาดใจมากครับ ว่าทำไม รพ.พระมงกุฎ ถึงได้ส่วนแบ่งมากกว่าแห่งอื่นเพราะทำหน้าที่บริหารเงินถึง 5 เปอร์เซ็น (คิดเป็นเงิน 65ล้านบาท)เพราะทีแรกก็เห็นบอกว่าได้เป็น 11 รพ.ก็เพราะทำหน้าที่ตัวกลางกระจายเงิน แต่นี่ยังได้เพิ่มอีก 5 เปอร์เซ็น ลองคิดดูนะครับ ว่า รพ.ยะลาและอีกหลาย รพ.ได้ 7 เปอร์เซ็นเท่านั้น จะเห็นว่า แค่ค่าบริหารเงินที่ รพ.พระมงกุฎได้ ก็เกือบจะเท่ากับเงินทั้งหมดที่ รพ.บางแห่งได้
มันทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำอย่างมาก ทั้งที่ รพ.พระมงกุฎอยู่ใน กทม ซึ่งมี รพ.อื่นมากมาย ความพร้อมทางการแพทย์มากกว่า ตจว อยู่แล้ว มันจึงไม่น่าตรงกับเจตนารมณ์ของโครงการ และของคนไทยหลายๆคนที่บริจาค ที่อยากเห็นการกระจายความช่วยเหลือไปอย่างเท่าเทียมครับ
และเนื่องจากโครงการนี้เป็นโครงการรับบริจาคจากสาธารณะ ผมเป็นเสียงเล็กๆ เสียงนึง แสดงความเห็นที่ไม่เห็นด้วยกับการแบ่งเงินแบบนี้ ไว้ ณ ที่นี้ครับ
จัดสรรเงินให้ 11 โรงพยาบาลอย่างไร บาง รพ.ได้งบเยอะกว่าที่อื่นมากกว่าสองเท่า
http://www.bangkokbiznews.com/news/detail/790738
ตามลิงค์ด้านบนครับ โครงการก้าวคนละก้าว ได้จัดสรรเงินครั้งแรกจำนวน 1,300 ล้านบาท ซึ่งเป็นเงินบริจาคจากคนไทยทั้งประเทศ ให้แก่ 10 โรงพยาบาลศูนย์์ บวก โรงพยาบาลพระมงกุฎอีกหนึ่งโรงพยาบาล เป็น11 โรงพยาบาล
ในตอนแรกเริ่มโครงการ จขกท. สงสัยว่าโรงพยาบาลพระมงกุฎอยู่ในกทมและน่าจะมีงบประมาณเยอะอยู่แล้วอีกทั้งไม่ใช่ รพ.ศูนย์ ไม่น่าจะอยู่ใน 11 โรงพยาบาล
ต่อมาได้ยินข่าวว่าเป็นเพราะต้องรับหน้าที่รวบรวมเงินบริจาคเลยได้เป็นหนึ่งใน11โรงพยาบาลด้วย ก็พอเข้าใจครับ และเคารพในการตัดสินใจของทีมงานโครงการ แต่รู้สึกแปลกนิดหน่อย เพราะไม่น่าตรงกับแนวคิดหลักของโครงการ แต่ก็เข้าใจว่าแต่ละ รพ.ก็คงได้รับเงินกันเท่าๆกัน หรือไม่ห่างกันมาก และอย่างไรเสียก็เป็นประโยชน์กับผู้ป่วยเหมือนกัน
แต่เอาเข้าจริงปรากฎว่ามีการใช้เกณฑ์จำนวนเตียงในการพิจารณาแบ่งเงิน ถามว่าเหมาะสมมั้ย ก็พอมีเหตุผลนะครับ แต่ด้วยความที่เป็นโรงบาลแต่ละศูนย์ ถ้าจะเอาจำนวนเตียงก็ควรจะหมายถึงจำนวนเตียงในเขตรับผิดชอบของศูนย์นั้น ไม่ใช่แค่ รพ.นั้น ทำให้มันมีปัญหาต้องคิดตามมาอีกว่า เช่น ในกทม. รพ.กระจุกตัวเยอะ แล้วจะคำนวณให้ยังไง กลายเป็นว่าเลือกที่จะเอาจำนวนเตียงของแต่ละ รพ.มาคำนวณ ซึ่งผมไม่ค่อยเห็นด้วย
สุดท้ายปรากฎว่า รพ.พระมงกุฎ รับไปถึง 17 เปอร์คือ 221 ล้านบาทขณะที่โรงพยาบาลไกลๆ อย่างน่าน หรือยะลา ได้ 7 เปอร์เซ็น คือ 91 ล้านบาท ต่างกันมาก มากกว่า 2 เท่า ขนาดสองโรงพยาบารนี้รวมกันยังไม่เท่า รพ.พระมงกุฎที่เดียวเลย
โดยให้เหตุผลว่าโรงพยาบาลพระมงกุฎมีเตียงมากกว่า และยังได้รับเพิ่มเนื่องจากเป็นคนบริหารจัดการเงินอีก 5 เปอร์เซ็น !!
ผมรู้สึกประหลาดใจมากครับ ว่าทำไม รพ.พระมงกุฎ ถึงได้ส่วนแบ่งมากกว่าแห่งอื่นเพราะทำหน้าที่บริหารเงินถึง 5 เปอร์เซ็น (คิดเป็นเงิน 65ล้านบาท)เพราะทีแรกก็เห็นบอกว่าได้เป็น 11 รพ.ก็เพราะทำหน้าที่ตัวกลางกระจายเงิน แต่นี่ยังได้เพิ่มอีก 5 เปอร์เซ็น ลองคิดดูนะครับ ว่า รพ.ยะลาและอีกหลาย รพ.ได้ 7 เปอร์เซ็นเท่านั้น จะเห็นว่า แค่ค่าบริหารเงินที่ รพ.พระมงกุฎได้ ก็เกือบจะเท่ากับเงินทั้งหมดที่ รพ.บางแห่งได้
มันทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำอย่างมาก ทั้งที่ รพ.พระมงกุฎอยู่ใน กทม ซึ่งมี รพ.อื่นมากมาย ความพร้อมทางการแพทย์มากกว่า ตจว อยู่แล้ว มันจึงไม่น่าตรงกับเจตนารมณ์ของโครงการ และของคนไทยหลายๆคนที่บริจาค ที่อยากเห็นการกระจายความช่วยเหลือไปอย่างเท่าเทียมครับ
และเนื่องจากโครงการนี้เป็นโครงการรับบริจาคจากสาธารณะ ผมเป็นเสียงเล็กๆ เสียงนึง แสดงความเห็นที่ไม่เห็นด้วยกับการแบ่งเงินแบบนี้ ไว้ ณ ที่นี้ครับ