แชร์การปรับตัว + ใช้ชีวิตเรียนโทที่อังกฤษ + packing tips

สวัสดีค่ะ กระทู้นี้เป็นการแชร์ครั้งแรกของเรา เกี่ยวกับการใช้ชีวิตหรือการปรับตัวต่าง ๆ เมื่อมาเรียนโทที่ต่างประเทศนะคะ แต่ละเมืองในอังกฤษหรือในประเทศอื่นคงจะมีอะไรที่แตกต่างกันบ้าง แต่หวังว่าจะเป็นประโยชน์ได้บ้างไม่มากก็น้อยค่ะ

สำหรับกระทู้นี้จะไม่พูดถึงการขอวีซ่าหรือการเตรียมเอกสารนะคะ เนื่องจากตัวแทนแทบทุกที่คงให้ข้อมูลในส่วนนั้นอยู่แล้ว แต่จะแชร์ถึงการปรับตัวช่วงแรก ๆ ที่มาถึงค่ะ

เพื่อเป็น reference เราขอเล่าเกี่ยวกับตัวเองคร่าว ๆ นะคะ ตอนนี้เราอยู่ที่อังกฤษมาประมาณ 4 เดือนแล้วตั้งแต่กันยายน 2017 อยู่ที่เมือง Bournemouth ซึ่งเป็นเมืองที่ไม่ใหญ่มากในอังกฤษ ก่อนหน้านี้เคยเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนที่ฟินแลนด์อยู่ 1 ปีตอนเรียนมัธยม และเคยแลกเปลี่ยนอีก 1 เทอมที่ประเทศสวิซเซอร์แลนด์ตอนอยู่มหาลัยค่ะ แต่การมาเรียนโทก็ค่อนข้างแตกต่างกับการไปแลกเปลี่ยนอยู่พอสมควรเลยค่ะ เนื่องจากตอนแลกเปลี่ยนเราได้อยู่กับโฮส หรือได้มากับเพื่อน ๆ จากไทย แต่ครั้งนี้เป็นครั้งแรกเลยที่มาใช้ชีวิตเริ่มต้นแบบตัวคนเดียวค่ะ

หากมีอะไรอยากทราบเพิ่มเติมหรืออยากเสริมก็ยินดีเลยนะคะ  

-----------------

Packing List – ควรนำอะไรหรือที่พักควรมีอะไรบ้าง

ก่อนที่เราจะบินมาที่นี่เราได้ทำลิสต์เอาไว้ base จากประสบการณ์การมาเรียนต่างประเทศครั้งก่อน ๆ ค่ะ สามารถดูเป็น guideline คร่าว ๆ และเพิ่มลดได้เองจากลิงค์นี้เลยนะคะ

http://bit.ly/GTOverseasPackList

สิ่งที่แนะนำให้พกจากไทย item ที่คิดว่าสำคัญที่สุด (นอกนั้นสามารถดูได้ที่ packing list ค่ะ)

- น้ำยาล้างคอนแทคเลนส์ ที่อังกฤษราคาแพงค่ะ ขวดละ 10-15 ปอนด์ (ประมาณ 450 บาท)
- ครีมกันแดด ที่นี่จะไม่ค่อยมีขายเท่าไหร่ หรือไม่ก็ตัวเลือกน้อยและ SPF ไม่เยอะ
- สำหรับสาว ๆ แนะนำพกผ้าอนามัยมาด้วยก็ดีค่ะ ที่นี่มีขายแบบแผ่นเหมือนกันแต่คุณภาพจะไม่ดีเท่าลอริเอะหรือโซฟี อีกอย่างที่อยากแนะนำสาว ๆ คือ ยกทรงค่ะ ที่นี่ทรงหลายร้านจะไม่ค่อยเข้ากับสรีระคนไทยเท่าไหร่ ยิ่งตัวเล็ก ๆ ยิ่งแนะนำให้พกมาจากไทยค่ะ

-----------------

วันแรกที่มาถึง

มหาลัยที่อังกฤษถ้าอยู่เมืองที่ไกลจากลอนดอนหน่อยจะมีรถโค้ชมารับจากสนามบินไปส่งถึงเมืองฟรี ในวันเสาร์-อาทิตย์ก่อนเริ่ม orientation week ซึ่งอันนี้เราต้องจองที่ก่อนในเว็บไซต์ของมหาลัยค่ะ แต่ต้องเผื่อเวลาไว้ซักหน่อยเพราะตม.ของอังกฤษจะต่อคิวนานเนื่องจากคนเยอะมากค่ะ ของเราต่อคิวประมาณ 1 ชม.

ถ้าเป็นไปได้อยากแนะนำให้มาถึงวันเสาร์ หรือไม่ก็วันอาทิตย์เช้า เพราะวันอาทิตย์ส่วนใหญ่ร้านค้าหรือซูเปอร์จะปิดเร็ว 3-4 โมงเย็นก็ปิดแล้ว จะเหลือเปิดเป็นร้านสะดวกซื้อซึ่งราคาจะแพงค่ะ

ซื้อของใช้ต่าง ๆ เข้าหอที่ไหนดี?

สำหรับอังกฤษ เราแนะนำให้ซื้อจาก Wilko หรือ Asda ค่ะ ซึ่งเข้าใจว่ามีแทบทุกเมือง ถูกกว่า Argos และ Tesco ค่ะ ส่วนตัวเราเชียร์ Wilko เพราะว่า Asda คนจะเยอะมาก นักเรียนจะต่างแห่ไปซื้อของ ของหมดสต๊อคแทบทุกอย่าง สำหรับ Wilko เค้าจะมี section ที่เป็น essentials ราคาถูก จะมีขายแทบทุกอย่างเลย ที่แนะนำให้ซื้อก็ประมาณนี้นะคะ

- ผ้าปูที่นอน หมอน ปลอกหมอน ผ้านวม กับ duvet cover (เราอยู่หอนักเรียน จะไม่มีพวกนี้ให้ มีแต่ฟูกเปล่า ๆ ถ้าอยู่หอนอกอาจจะมีให้ ลองเช็คดูนะคะ)
- ผ้าเช็ดตัว ผ้าขี้ริ้วไว้เช็ดทำความสะอาดห้อง พรมเช็ดเท้าในห้องน้ำ พรมเช็ดเท้าหน้าห้อง ถุงขยะ (เช็คในห้องก่อนว่าไซส์ไหนนะคะ) ไม้แขวนเสื้อ สบู่เหลวล้างมือ
เครื่องครัว (สำหรับคนอยู่แบบ studio)
- พวกหม้อ กระทะ อันนี้อยากให้ลงทุนนิดนึง เพราะอันที่ราคาถูกที่สุดจะใช้ได้กับไฟเบากับไฟปานกลางเท่านั้น อ่านก่อนซื้อนะคะ
- มีด ตะหลิว ช้อนส้อมมีด เขียง จาน ชาม แก้ว ที่คว่ำจาน ที่ drain เส้นพาสต้า
- ฟองน้ำล้างจาน น้ำยาล้างจาน
- กาต้มน้ำร้อนแบบ 1 ลิตร เครื่องปิ้งขนมปัง หรือหม้อหุงข้าว อันนี้ลองอ่านกล่องดี ๆ นะคะ เพราะจะมีหม้อที่เป็น slow cooker ด้วย หน้าตาคล้ายกันกับหม้อหุงข้าว (แต่เราไม่ได้ซื้อค่ะ เพราะชอบกินเส้น ๆ มากกว่า)

และแนะนำให้ซื้อราวตากผ้า กับพัดลม heater ด้วยค่ะ (ราคาประมาณ 10-15 ปอนด์) เพราะเสื้อผ้าหลายอย่าง เช่น เลคกิ้งหรือเสื้อบางตัว ถ้าเอาเข้าเครื่องอบจะเสี่ยงหดค่ะ (โดนมาแล้วเสื้อ Uniqlo กลายเป็นเสื้อเด็กเลยค่ะ 555) และพอถึงช่วงหนาว ฮีตเตอร์ของหอจะแทบไม่ช่วยให้อุ่นขึ้นเลย พัดลม heater จะช่วยได้เยอะค่ะ

-----------------

ซื้ออาหารเข้าบ้าน

- ถ้าราคาถูก แนะนำซื้อ Asda, LIDL, Aldi ค่ะ บางทีซื้อช่วงเย็น ๆ จะมีลดราคาพวกของใกล้หมดอายุด้วย
- ถ้าหลังจากสามที่นี้แล้ว เรียงจากถูกไปแพงก็จะเป็น Tesco / Sainsbury / Waitrose ค่ะ (เคยคุยกับคนที่นี่ คนที่ไปซื้อของที่ Waitrose จะถือว่าเป็นคนฐานะดี และจะมักไม่ซื้อของที่ LIDL, Aldi เพราะจะอายถ้าเจอคนรู้จักที่นั่น แต่เราเป็นนักเรียน เน้นราคาถูกดีกว่าค่ะ 5555)
- ผัก ผลไม้ ลองดูว่าเมืองที่อยู่มีพวกร้าน Farmer shop รึเปล่า ราคาจะถูกกว่า ถูกกว่า Asda, LIDL, Aldi อีก และสามารถซื้อเป็นลูก ๆ เดี่ยว ๆ ได้ ส่วนใหญ่ในซูเปอร์จะให้ซื้อเป็นแพ็คถ้าจะเอาราคาต่อหน่วยถูก แต่ถ้าอยู่คนเดียวบางทีมักจะกินไม่ทันหมดอายุค่ะ

-----------------

ซื้อ Toilettries (สบู่ แชมพู etc.)

- แนะนำให้ซื้อจาก Boots หรือ Superdrug ค่ะ แต่ละช่วงจะจัดโปรโมชั่นแตกต่างกันไป บางอย่าง Boots ถูกกว่า บางอย่าง Superdrug ถูกกว่า ถ้ามีเวลาลองเทียบ ๆ ดู ส่วนใหญ่สองร้านนี้จะอยู่ใกล้ ๆ กัน เดินถึงกันได้ค่ะ

-----------------

ซื้อเสื้อผ้า
- ถ้าราคาถูก และแบบให้เลือกเยอะ แนะนำ Primark ค่ะ ร้านใหญ่มากและเสื้อผ้าให้เลือกเยอะมาก ราคาส่วนใหญ่ก็ 5-15 ปอนด์ มีเสื้อผ้าเบสิคแทบทุกประเภท รวมถึงรองเท้า ถุงเท้าด้วย
- ราคาถูกถัดมาก็จะเป็นพวก New Look, H&M ค่ะ

** แนะนำว่าถ้าใครชอบ Zara ให้หาเวลาไปเที่ยวสเปน ราคาถูกกว่าที่อังกฤษประมาณ 30-40% เปอร์เซ็นต์ และมีให้เลือกเยอะกว่ามาก ค่าตั๋วก็ประมาณ 30-40 ปอนด์ของ Ryanair ค่ะ

-----------------

เที่ยวระหว่างเมือง

- ช่วงที่มาถึงมีแต่คนบอกให้ทำบัตรนักเรียนสำหรับรถไฟ 16-25 Railcard ราคา 30 ปอนด์ต่อปี (ถ้าอายุเกิน 25 แต่เป็นนักเรียน full time ก็สามารถทำได้ค่ะ) จะได้ลดราคาค่าตั๋วไป 1/3 ของราคาเต็ม
- แต่เราแนะนำว่าถ้าอยู่ไม่ไกลจากลอนดอนมาก ทำบัตร Young Coach Card ดีกว่าค่ะ เดินทางโดยรถโค้ช ปีละ 10 ปอนด์ และค่าเดินทางมักจะถูกกว่ารถไฟเป็นส่วนใหญ่ (เมืองที่เราอยู่ใช้เวลาประมาณ 2.5 ชั่วโมงเข้าลอนดอนค่ะ ไม่ต่างจากรถไฟมาก)

-----------------

รถบัสในเมือง สำหรับคนที่จะมาเรียนเมือง Bournemouth เท่านั้น**

- ถ้าอยู่หอของมหาลัย หรือเป็นพาร์ทเนอร์กับมหาลัย จะมีตัวเลือกให้รวม bus pass รายปีชื่อ unibus / more bus ราคา 250 ปอนด์ต่อปีเข้าไปในค่าหอด้วย แต่สำหรับเมืองนี้ แนะนำให้ทำบัตรปีของ yellow bus ดีกว่าค่ะ ราคา 200 ปอนด์ต่อปี และรถมีเยอะกว่า มาบ่อยกว่า หลายเส้นกว่า

-----------------

ทำงาน

Tier 4 visa จะกำหนดให้ทำงานได้แค่ 20 ชั่วโมงต่ออาทิตย์ และก่อนจะทำงานต้องโทรไปขอ National Insurance Number ก่อน โดยพอโทรไปแล้วเค้าจะส่งไปรษณีย์มาให้กรอกข้อมูล และใช้เวลาประมาณ 2 อาทิตย์ถึงได้เบอร์มาค่ะ

หลังจากที่ได้ฟังหรือรู้ข้อมูลมา ตามความเห็นเราแล้วทำร้านไทย ที่เจ้าของเป็นคนไทยดูจะดีที่สุดแล้วค่ะ เหตุผลเพราะ

1. เวลาการทำงานมักจะยืดหยุ่นได้มากกว่าร้านที่ชาติอื่นเป็นเจ้าของ เพื่อนเราทำงานที่ร้านสะดวกซื้อที่คนเกาหลีกับเพื่อนอีกคนทำงานที่ร้านกาแฟที่คนอังกฤษเป็นเจ้าของ จะกำหนดเวลาทำงานเองแทบไม่ได้ ลากลับไทยหรือลาไปเที่ยวเป็นอาทิตย์บางทีก็ไม่ได้ และจะปฏิบัติกับพนักงานค่อนข้างโหดกว่า
2. หลายร้านอาหารไทยที่ทราบมาพอหลังจากเลิกงานจะขับรถไปส่งให้ถึงหอ มีข้าวให้กินก่อนเข้างาน และบางที่มีอาหารเป็นกล่องใส่กลับบ้านมาได้ด้วย เหมาะมากสำหรับคนที่ไม่ชอบทำอาหาร
3. เรื่องค่าจ้าง เทียบกับร้านที่คนต่างชาติเป็นเจ้าของอาจจะสู้ไม่ได้ ส่วนใหญ่ร้านไทยจะจ่ายเป็นเรทต่อคืน แต่ร้านที่ต่างชาติจะจ่ายเป็นชั่วโมง ข้อดีคือร้านไทยจะไม่โดนหักภาษีเพราะส่วนใหญ่จะยื่นไม่ถึง minimum ที่ต้องจ่ายภาษี ร้านต่างชาติมักจะโดนหักบ้างค่ะ แต่สำหรับร้านไทย คิดว่ามัน offset ด้วยข้าวที่ได้มากิน กับสุขภาพจิตในการทำงานที่ดี และคนไทยที่เป็นกันเองมากกว่าค่ะ ต้องลองเช็คว่าแต่ละที่เค้าให้สวัสดิการอะไรบ้าง
4. บางที่อาจจะได้ของใช้จากเจ้าของหรือเด็กเสิร์ฟรุ่นก่อน ๆ มาด้วย อย่างเราได้เครื่องปริ๊นท์สีมาฟรี ได้เก้าอี้มาเพิ่ม ได้แก้วมาให้ยืมใช้ พอเรียนจบก็สามารถส่งต่อให้นักเรียนรุ่นต่อไปได้ค่ะ

-----------------

อยู่ที่นี่ตัวคนเดียว

ต้องบอกเลยว่าอันนี้คงแล้วแต่นิสัยของแต่ละคนค่ะ ส่วนตัวแล้วเราเป็น introvert ซึ่งไม่ชอบไปที่ที่คนเยอะ ไม่ชอบไปเที่ยวเป็นกลุ่มใหญ่ ๆ ชอบมี space โลกส่วนตัวสูง นี่คือเหตุผลที่เราเลือกจ่ายเพิ่มอีกหน่อยแล้วอยู่ห้อง Studio ที่ไม่ต้องแชร์ครัวกับใคร เราโอเคที่จะออกไปเดินเล่น ออกไปซื้อของคนเดียว

แต่ ต้องบอกเลยว่าถึงจะชอบอยู่คนเดียว แต่ก็มีเหงาบ้างค่ะ ยิ่งช่วงหน้าหนาวที่โรงเรียนปิดคริสต์มาส อากาศไม่ค่อยดี พระอาทิตย์ขึ้นช้าตกเร็ว แดดไม่ค่อยออก ฝนตกบ่อย เพื่อนก็ไปเที่ยว หรือกลับประเทศกันหมด ช่วงนี้นี่เหงามากเลย วัน ๆ อยู่กับการดูละครหรือซีรีส์ หรือเล่นเกมส์บนมือถืออย่างเดียว เพื่อนหรือครอบครัวถึงจะสนิทแต่ก็อยู่ไกล timezone ก็ต่างกันมาก สิ่งที่ยากคือ หากใครมีช่วงที่เจออะไรเศร้า ๆ หรือเครียด ๆ ในชีวิต จะยิ่งเหงาเป็นพิเศษ เพราะคนที่รู้จักที่นี่ก็ยังไม่ได้สนิทพอขนาดนั้น อันนี้ไม่ได้อยากดราม่านะคะ แต่เป็นสิ่งที่สามารถเกิดขึ้นได้ และมันจะยาก แต่ยังไงก็ตามเดี๋ยวมันก็จะดีขึ้นและสามารถผ่านไปได้ค่ะ

-----------------

ตอนนี้นึกออกแค่นี้ค่ะ ถ้ามีอะไรเพิ่มเติมจะทยอยมาเพิ่มเรื่อย ๆ นะคะ
ถ้ามีคำถาม หรือมีอะไรอยากเสริม ยินดีเลยนะคะ

ขอบคุณค่า
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่