🌟🌕⚡️ The Weekly Gloves วีคที่ 5 เรื่องสั้น#9 "โค้งกรรม" โดย "ถุงมือสายบัว" ครับ ⚡️🌕🌟

กระทู้คำถาม


จากถุงมือกวี ก็มาต่อด้วยถุงมือนักเขียน เป็นเรื่องสั้นซึ่งเนื้อหาจะ "หนัก" แต่มีคติสอนใจ...

มาช่วยกันหาดูครับ ว่า ใคร คือเจ้าของถุงมือนี้กันครับ อมยิ้ม04หัวใจดอกไม้





กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว

ถ้าจะดักยิงใครสักคนที่ขับรถเข้าออกจากอำเภอเล็กๆแห่งนี้  ถนนทางโค้งเลียบหน้าผา ห่างออกจากทางเข้าอำเภอประมาณสามสี่กิโลเมตร เป็นทำเลเหมาะที่สุดในการลอบสังหาร เพราะเส้นทางเฉียดหน้าผาค่อนข้างสูงชันคับแคบ บังคับให้รถวิ่งเข้าทางปืนโดยไม่มีทางเลี่ยง  แม้สภาพทางภูมิศาสตร์จะไม่ค่อยน่ากลัว แต่ก็ทำให้คนขับต้องชะลอความเร็วลงทุกคัน ไม่อย่างนั้นอาจจะวิ่งชนรั้วกั้นถนน หล่นลงไปในหุบเหวข้างทางได้   อีกด้านเป็นเชิงผาเต็มไปด้วยพืชพรรณไม้ใหญ่น้อย เหมาะในการหลบซ่อนตัว หลังจากปฏิบัติการแล้วสามารถหลบหนีขึ้นไปบนเชิงเขาได้ไม่ยาก  ไม่เคยมีใครคิดแบบนี้นอกจาก เจ้าเที่ยง หนุ่มบ้านนอก ผู้แฝงกายอยู่ในพุ่มไม้สูงห่างออกไปจากทางเลี้ยวอันตรายในระยะยิงหวังผล

ปืนแก๊บสมัยคุณปู่ในมือยังมีสภาพงดงาม ลำกล้องเหล็กถูกขัดถูสะอาด  ไม้แดงที่ใช้ทำด้ามปืนเป็นมันวาวจากการดูแลรักษาเป็นอย่างดีแม้ไม่เคยใช้งานมานาน ดินปืนถูกอัดเต็มปริมาณที่ปืนจะสามารถรองรับได้ กระสุนเหล็กหลายขนาดอัดใส่กระบอกปืนเต็มที่ เรียกว่ายิงนัดเดียวหวังผลครอบคลุมไปโดนหลายคน

เป้าหมายของเจ้าเที่ยง ไม่ใช่ชาวบ้านธรรมดา แต่เป็นปลัดอำเภอ นายตำรวจ และกำนันประจำหมู่บ้าน

สามผู้ยิ่งใหญ่แห่งพื้นที่มารวมพลกันอย่างไม่ได้นัดหมาย ท้องทุ่งนาเคยสงบร่มเย็น ความรู้สึกของหนุ่มบ้านนาในเวลานี้เปลี่ยนไปกลายเป็นดินแดนแห่งความรุ่มร้อนทุกข์เข็ญ  นายตำรวจคนใหม่มาพักพร้อมกับการวางอำนาจยิ่งใหญ่ ราวกับถูกเก็บกดจากครอบครัววงค์ตระกูล   ส่วนปลัดอำเภอหนุ่ม ส่อแววมักมากในกามคุณให้เห็น ตั้งแต่วันแรกเมื่อเข้ามา เขามักใช้คำพูดและการจาบจ้วงต่อหญิงสาวชาวบ้าน แทะโลมน่ารังเกียจ กำนันผู้เคยวางตัวเป็นกลางเสมอมา ก็พลอยเป็นไปกับเขาด้วย วิ่งเอาอกเอาใจปลัดหนุ่มและนายตำรวจยิ่งกว่าพ่อบังเกิดเกล้า ไม่ว่านายตำรวจและปลัดจะเดินทางไปไหน เป็นต้องเสนอหน้าอาสารับใช้ ติดสอยห้อยตามมิได้ขาด โดยมีลูกบ้านหลายคนเป็นมือเท้า

“ท่านปลัดและท่านนายตำรวจ ให้เกียรติมาพักมาทำงานกับเรา พวกเขาจะนำความเจริญมาให้หมู่บ้านเรา”

เป็นเสียงประกาศของท่านกำนันในวันประชุมลูกบ้านประจำฤดูกาล   ด้วยน้ำเสียงและสีหน้าแห่งความหวัง ปลัดคนก่อนเกษียณตัวเองไปก็ไม่เห็นมีผลงานอะไร วันๆ เอาแต่วุ่นวายกับเกษตรกรเทือกสวนไร่นา   ส่วนนายตำรวจแก่ๆ ประจำโรงพักในตัวอำเภอคนที่ย้ายออกไปไม่เห็นมีผลงานอะไร นอกจากการจับโจรลักเล็กขโมยน้อย จับเหล้าเถื่อน จับวงไพ่ ไม่เห็นสร้างความเจริญอะไรให้ชุมชน

เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ กำนันจึงตื่นตัวขึ้นมาจากการหลับไหลทันที   มีคนใหญ่คนโตมาพักพาอาศัยเป็นศิริมงคลต่อชาวบ้าน สังคมเล็กๆ แห่งนี้ควรมีอะไรพัฒนาไปในทิศทางแห่งความเจริญบ้าง แต่ดูท่าทางกำนันเองก็ไม่รู้ว่าความเจริญดังกล่าวคืออะไรและสำคัญแค่ไหน  เป็นกำนันมาหลายสิบปียังไม่เคยออกไปไล่ล่าจับขุนโจรนอกฏหมาย  ยาบ้ายาเสพติดก็ไม่เคยจับได้กับเขาสักที ขณะอำเภออื่นมีข่าวจับกุมกันอยู่ทุกวี่ทุกวัน ท่าทางบ้านเรามันจะสงบเงียบขาดการพัฒนาเกินไป

ตะวันลอยโผล่พ้นยอดไม้ บนถนนมีรถของชาวบ้านวิ่งผ่านไปมาไม่มากนัก  หนุ่มบ้านนอกสะกดใจรอคอยต่อไป ยกปืนขึ้นเล็งให้คล่องตัว  ในชีวิตไม่เคยคิดจะทำร้ายใคร แต่วันนี้มันเหลือทนแล้วจริงๆ

บัว  สาวบ้านนาคนงามที่ดูใจกันมานานหลายปี  กับระยะเวลาในการช่วยกันทำนาและการเกษตรสร้างชาติ ชีวิตราบเรียบควรจะสงบสุข ถ้าไม่เพราะเดือนก่อน กำนันได้มาติดต่อพ่อแม่ของบัวให้ไปทำงานเป็นคนรับใช้พิเศษ ที่บ้านปลัดหนุ่ม โดยแลกกับเงินเดือนจำนวนหนึ่ง  แต่พ่อแม่ของบัวเหมือนจะรู้ข่าวความเจ้าชู้ของท่านปลัด จึงบ่ายเบี่ยงปฏิเสธตลอดมา ไม่ว่ากำนันจะมาเจรจาถึงบ้านรวมทั้งนายตำรวจหนุ่มคนนั้นด้วยก็ตาม

“ยอมๆ คุณปลัดไปเภอะน่า...ทำงานอยู่บ้านท่าน ดีจะตาย ใครก็อยากไปทำ อยู่ใกล้คนใหญ่คนโต เราจะได้พลอยพึ่งพาบารมีคุ้มหัวเราไปด้วย เผลอๆ เป็นคุณนายน้อยท่านปลัดคนที่หก   อีกหน่อยท่านปลัดเป็นนายอำเภอ  สบายไปทั้งชาติทั้งตระกูล”

คำพูดของกำนันผู้กว้างขวางหัวร่อร่าอยู่หน้าบ้าน ในขณะเจ้าเที่ยงกับสาวคนรักนั่งทำอาหารอยู่หลังบ้าน คำพูดของกำนันเหมือนคมมีดบาดกลางใจ  ทำไมพากันคิดไปในทางเสื่อมเสียกันไปหมด คนเราไม่ใช่สิ่งของจะประเคนให้ใครได้ง่ายๆ  ใครๆก็รู้กันทั่วว่าท่านปลัดหนุ่มมีเมียแล้วหลายคน เพราะวันมาส่งตัวคุณนายปลัดตัวจริงก็มาด้วย และประกาศทำนองผัวข้าใครอย่าแตะ  แต่เมื่อคุณนายปลัดกลับไป คำพูดนั้นก็จางหายไปกับสายลมท้องทุ่งนา

หลายครั้งกับการเจรจา แต่พ่อแม่ของบัวยังปฏิเสธเสียงแข็ง จนล่าสุดสัปดาห์ก่อน เจ้าไก่น้องชายแท้ๆของบัว โดนจับข้อหามียาบ้าในครอบครอง  ท่ามกลางความมึนงงของชาวบ้าน เพราะเด็กหนุ่มคนนี้ขยันทำมาหากิน ไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับอบายมุขใดๆ ทั้งสิ้น  แล้วจะมียาบ้าครอบครองได้อย่างไร  ตำรวจบอกว่ามีสายสืบรายงานว่าเจ้าไก่เสพยาบ้า จึงขอเข้าตรวจค้นขณะเดินไปซื้ออาหารปลาหน้าร้านค้าประจำหมู่บ้าน พวกตำรวจค้นตัวไม่ถึงสองสามวินาที ก็นำเอายาเม็ดเล็กๆ จำนวนหนึ่งออกมาโชว์ แล้วบอกว่าเป็นยาเสพติด น้องชายของบัวถูกจับตัวเข้าห้องขังทั้งที่ปฏิเสธด้วยน้ำตานองหน้าว่าไม่เคยเสพเคยใช้ยาบ้าแม้แต่น้อย ไม่เคยรู้จักด้วยซ้ำว่าหน้าตายาบ้าเป็นอย่างไร  ชาวบ้านเองก็ไม่เชื่อ แต่ปืนในมือตำรวจมีอำนาจมากกว่าไม้ตีพริกในมือชาวบ้านเสมอ

เจ้าไก่นอนห้องขังหนึ่งคืน รุ่งขึ้นกำนันมาพบพ่อของเจ้าไก่ตั้งแต่เช้า บอกว่าจะวิ่งเต้นช่วยเหลือประกันตัวออกมาให้ แต่ต้องยอมให้บัวไปทำงานที่บ้านปลัด

คนบ้านป่าบ้านดงจะเอาอะไรมาต่อสู้กับมือกฏหมาย ถ้ามือนั้นเปื้อนอวิชชามืดดำ  สุดท้ายบัวต้องยอมไปทำงานที่บ้านปลัดหนุ่มเพื่ออิสรภาพของน้องชาย

สองวันผ่านไปไม่มีอะไรเกิดขึ้น ท่ามกลางความโล่งใจของพ่อแม่ แต่แล้ววันที่สาม บัววิ่งร้องไห้ออกมาจากบ้านท่านปลัด บอกกับทุกคนว่าท่านปลัดฉวยโอกาสคนไม่อยู่บ้านพยายามปลุกปล้ำลวนลามจนเลื้อผ้าขาดวิ่นหลักฐานชัดเจน แต่สาวบ้านนาใจเด็ดเอาแจกันฟาดหัวปลัดก่อนหนีรอดออกมาได้หวุดหวิด และสาบานว่าจะไม่เหยียบเข้าไปในบ้านอุบาทว์หลังนั้นอีก แต่เรื่องราวยังไม่จบ ปลัดหนุ่มออกข่าวว่าบัวขโมยของในบ้าน ตนเองจับได้คาหนังคาเขา จนเกิดการต่อสู้กันขึ้น พร้อมกับการข่มขู่ว่าถ้าไม่ยอมความขอขมาลาโทษ และกลับไปทำงานตามเดิม  จะแจ้งตำรวจมาจับข้อหาทำร้ายร่างกายและลักขโมย

นั่นเป็นเหตุการณ์ล่าสุดเมื่อไม่กี่วันมานี้เอง ยังดีกว่าพอดีท่านผู้ยิ่งใหญ่ทั้งหลายจะต้องเดินทาง ไปงานแต่งงานของลูกสาวนายอำเภอ ที่มีบ้านอยู่ในตัวอำเภอ ห่างออกไปไม่ไกลนัก ทำให้อำนาจมืดของกฏหมายวางมือชั่วคราว

เส้นทางไปงานต้องผ่านทางโค้งแห่งนี้

ด้วยความเจ็บแค้นของหนุ่มบ้านนา เจ้าเที่ยงตัดสินใจเด็ดขาดไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น  ต้องปกป้องสาวคนรักและครอบครัวให้ได้  ถ้าเขาเป็นอะไรไปก็เชื่อว่าต้องมีคนดูแลคุณยาย ญาติคนเดียวของเขา  การไม่ทำอะไรเสียเลย ปล่อยให้สาวคนรักถูกกระทำหยามใจ ยอมได้อย่างไร  ปืนของคุณปู่จะได้ทำหน้าที่ครั้งสุดท้าย แม้จะเป็นปืนเก่าล้าสมัยแต่ก็ทรงอำนาจพอจะฆ่าคนได้หรืออย่างน้อยก็บาดเจ็บสาหัสเลี้ยงไม่โตไปหลายคน

นั่นไง  ในที่สุดเป้าหมายมาแล้ว ใกล้ระยะยิงเข้ามาทุกที

รถจี๊ปคันงามชองท่านปลัด มีนายตำรวจและกำนันพร้อมสมุนคู่ใจอีกสามสี่คน นั่งกันมาเต็มรถ  เจ้าเที่ยงยกปืนขึ้นเล็งด้วยหัวใจเต้นระทึก มองดูใบหน้าเปื้อนยิ้มกำลังพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน ไม่ได้มีทีท่าสำนึกผิดคิดกลับตัวอะไรเลยสักนิด คนพวกนี้อยู่ไปก็รกโลก ก่อกรรมทำเข็ญให้คนอื่นเดือดร้อนไม่มีที่สิ้นสุด  พวกมันสมควรตาย บาปก็ขอบาป ไอ้เที่ยงคนนี้จะขอรับบาปนรกนั้นไว้เพียงผู้เดียว

ตูม!!!!

เสียงปืนลูกซองดังสนั่นกึกก้องไปทั้งหุบเขา กระจกหน้ารถแตกกระจัดกระจายท่ามกลางเสียงร้องอย่างตกอกตกใจ รถเสียหลักเลี้ยวพุ่งชนรั้วกั้นข้างทาง ก่อนพลิกคว่ำกลิ้งไถลโครมครามลงไปยาวนาน ชนิดคนพวกนั้นไม่ตายก็คางเหลือง


เปล่า..เจ้าเที่ยง ไม่ได้เหนี่ยวไก เป็นเพียงภาพในใจที่อยากเห็นเท่านั้น
ก่อนใบหน้าเต็มไปด้วยความเมตตาของคุณยายปรากฏขึ้นมาในห้วงแห่งความนึกคิด อดทนให้ถึงที่สุด เที่ยงเอ้ย   วันนี้หลานยังอดทนไม่ถึงที่สุด  เที่ยงเป็นอะไรไปใครจะอยู่กับยาย

เจ้าเที่ยงปาดหน้าน้ำตาลูกผู้ชาย ระงับอารมณ์ตั้งสติจนใจสงบ ก่อนเดินกลับบ้านอย่างเงียบงัน ด้วยความรู้สึกของคนเดินเฉียดปากเหวอันน่ากลัว

“แย่แล้ว !!! แย่แล้ว!!!....รถปลัดตกเหว ตายสามสาหัสสี่คน!!!”

เสียงร้องของผู้คนปลุกในยามยามค่ำแตกตื่นอีกครั้งก่อนการหลับไหล  ออกมารวมตัวชุมนุมกันอยู่ลานบ้านกำนันซึ่งสมาชิกครอบครัวพากันร่ำไห้ตร่ำครวญ ฟังไม่ได้สรรพ รวมทั้งครอบครัวของบัวและเจ้าเที่ยงด้วยพากันออกมาสังเกตการณ์ อำเภอแห่งนี้ไม่ได้ใหญ่โตเกินไป มีข่าวสำคัญอะไรชาวบ้านรับรู้ได้อย่างรวดเร็วในสังคมเล็กๆ

ไม่นาน ชาวบ้านกลุ่มหนึ่งพากันลำเลียงร่างผู้เสียชีวิตมาหน้าบ้าน ปลัดหนุ่มสภาพคอหักหมุนแทบได้รอบ ใบหน้าหล่อเหลาเจ้าชู้แหลกยับเต็มไปด้วยเลือด  แขนขาหักผิดรูปน่าสยดสยอง นายตำรวจหนุ่มและกำนันเองก็มีสภาพแทบไม่ต่างกัน ความตายจัดให้ทุกคนได้รับเท่าเทียมกันเสมอตามวาระโอกาสอันเหมาะสม    

ชาวบ้านเล่าว่า ทั้งหมดไปงานแต่งงาน ดื่มเหล้ากันจนเมา อยู่บ้านนอกไม่ต้องกลัวกฏหมายเมาแล้วขับ ไม่มีใครตรวจหาปริมาณแอลกอฮอล์ จึงพากันดื่มกินสนุกสนานกันอย่างเต็มที่  สุดท้ายเลิกงานตอนเย็น ขับรถมาแหกโค้งนรกตรงทางโค้งมรณะ บาดเจ็บล้มตายกันทั้งคนรถ

เจ้าเที่ยงกุมมือคนรักแน่น ขอบคุณที่การตัดสินใจเมื่อช่วงสายของวันนี้ มีความยับยั้งชั่งใจ แม้เพียงเสี้ยววินาที เขาเองก็เกือบจะสร้างบาปไปแล้ว  หวุดหวิดหวาดเสียวเหลือเกิน ถ้าเหนี่ยวไกปืนไม่รู้ว่าชีวิตข้างหน้าจะเป็นอย่างไร

ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ผู้ยิ่งใหญ่ทั้งสาม ต่างคนต่างกรรม จบชีวิตลง ตรงทางโค้งกรรมนั่นเอง





รายชื่อให้เลือกตอบครับ

1.    B-thirteen
2.    Christian Trevelyan Grey
3.    GTW
4.    kasareev
5.    KTHc
6.    Lady Star 919
7.    ladylongleg
8.    Luckard
9.    Na(นะ)
10.    peiNing
11.    psycho_factory
12.    Soul Master
13.    Susisiri
14.    Tantava
15.    turtle_cheesecake
16.    WANG JIE
17.    เกสรผกา
18.    คีตมินทร์
19.    จอมยุทธนักสืบ
20.    ชายขอบคันนายาว
21.    นลินมณี
22.    น้องลิงน้อย
23.    เปลวอัคคี
24.    ยัยตัวร้ายมุกอันดา
25.    รัชต์สารินท์
26.    ลายลิขิต
27.    สวนดอก
28.    อิสิ

*** รายชื่อ อาจมีการเปลี่ยนแปลง เพิ่มเติม หรือเอาออก ตลอดเวลา ^^

*** เนื่องจาก เป็นเกมแบบ "เก็บคะแนนสะสมยาว" จึงให้ตอบ เฉพาะในกระทู้ จะไม่มีการให้ตอบรวม

****************************************************************************************
การให้คะแนน เจ้าของถุงมือ
เมื่อผ่านไป 3 วันแล้วถึงคราวต้องเฉลยในกระทู้
ไม่มีใครทายถูกเลย 20 คะแนน
ทายถูก 1 คน เหลือ 18 คะแนน
ทายถูก 2 คน เหลือ 17 คะแนน
ทายถูก 3 คน เหลือ 16 คะแนน.......ไปเรื่อยๆ ครับ

*** จะเฉลยถุงมือนี้ใน วันที่ 5 กุมภาพันธ์ุ 2561 ***

สโลแกนของเราคือ "อยากเขียน อยากแต่ง ตอนไหนก็ได้ ไม่มีคำว่า หมดเขตเมื่อไร"

จัดไป ในแต่ละสัปดาห์ จนครบเดือน จะสรุปผลคะแนน

ผู้ชนะที่ 1 และ/หรือ ผู้ที่ไม่มีใครทายถูก จะได้สิทธิ์ร่วมรายการ THE GLOVES FINAL 2018 ตอนปลายปี ครับผม
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่