[CR] หนีความวุ่นวายนั่งรถไฟ..ไปพักกายพักใจ ที่กาญจนบุรีกันเถอะ

สวัสดีตอนเช้า ตื่นตั้งแต่ตี5 เพราะวันนี้เรามีนัดกันที่กาญจนบุรี อาบน้ำแต่งตัว นัดเจอกันที่สถานีรถไฟธนบุรี รอบเช้า 07.50 น. ห้ามเกิน 7.30 น. จะได้เตรียมตัวกันทัน ไม่รีบเกินไป มีเวลาพักบ้าง ทริปนี้เราไปกัน 5 คน ผมกับเพื่อน3คน ถึงอนุสาวรีย์ชัย ประมาณ 06.40 น. ส่วนเพื่อนผม2คน ถึงสถานีรถไฟธนบุรีเรียบร้อยแล้วครับ เลยให้เพื่อนซื้อตั๋วไว้ให้เลย ถามเพื่อนว่าคนละเท่าไหร่ เพื่อนตอบว่า คนละ 35 บาท ผมงงมาก ทำไมถูกจัง ก่อนที่ผมจะไป คนคิดว่าไปรถไฟฟรี ประหยัดดี ผมโทรไปเช็คตารางเดินรถกับการรถไฟแห่งประเทศตอนวันที่ 31 ต.ค 2560 ซึ่งจะเดินทาง 4-5 พ.ย 2560 ผมโทรเช็ค เจ้าหน้าที่บอกว่า ราคาคนนละ100บาท ผมเลยงง ไม่ใช่รถไฟฟรีเหรอครับ เขาบอกว่า รถไฟฟรี ให้บริการวันนี้วันสุดท้าย วันที่ 1 พ.ย 2560 เป็นต้นไป จะไม่มีแล้ว แป๋วแหว๋ว! ไม่เป็นไร ไม่ฟรีเราก็ไปได้ พอไปถึงอนุสาวรีย์ชัย ก็ไปต่อรถแท็กซี่ บอกพี่เค้าว่าไปสถานีรถไฟธนบุรีครับ จากนั้นก็ไป สักพักพี่เค้าก็พาผมขึ้นทางด่วน ผมก็เลยงงว่า ต้องขึ้นทางด่วนด้วยเหรอ(คิดในใจ ไม่เป็นไร เผื่อจะได้ไปถึงเร็ว) พอลงทางด่วนก็วิ่งผ่านเส้นสาทรด้วย ผมเลยงงมาก และแล้วพี่เค้าก็พาผมและเพื่อนไปลงที่สถานีรถไฟฟ้ากรุงธนบุรี ผมกับเพื่อนงงมากเลยถามว่า ใช่ตรงนี้เหรอครับ แล้วสถานีรถไฟมันอยู่ตรงไหน ต้องเดินเข้าไปตรงไหน พี่เค้าเลยชี้ให้ดู เลยบอกว่าไม่ใช่นะครับ สถานีรถไฟธนบุรีที่จะไปต่างจังหวัด เพื่อนผมเลยพูดว่า สถานีรถไฟปู๊นๆ ฉึกฉักๆๆอ่ะค่ะ จากนั้นที่แท็กซี่ก็อ้อออ..ผิดทาง เลยวิ่งต่อไป ถามทางกับพี่วินที่สถานีรถไฟวงเวียนใหญ่ไปเรื่อยๆ และอยู่ห่างจากที่นี่ไม่ไกล เลยทราบว่า สถานีรถไฟธนบุรี เรียกอย่างว่าสถานีรถไฟบางกอกน้อย จนพี่เท็กซี่บอกว่า ถ้าบอกพี่ว่ามาสถานีรถไฟบางกอกน้อยพี่เข้าใจเลย พอบอกว่าสถานีรถไฟธนบุรี พี่ก็นึกว่าเป็นสถานีรถไฟฟ้า (เห้อออ..ประสบการณ์ ต่อไปจะได้รู้ไว้ เสียเวลา เสียค่าเท็กซี่ไปซะหลายบาทเบย ค่าทางด่วนอีก อิอิ บทเรียน)   เพื่อนก็โทรตามว่าถึงไหนแล้ว นานจัง ผมและเพื่อนไปถึงสถานีรถไฟบางกอกน้อยตอนประมาณ7.25 น.




จากนั้นก็พากันเข้าห้องน้ำ เตรียมตัวขึ้นรถไฟ ขณะที่รอรถไฟมา คนก็รอเยอะมากๆ จะไปเที่ยวกาญจนบุรี เพื่อนที่เคยไปบอกว่า ให้นั่งฝั่งซ้ายนะ วิวจะสวยกว่า ผมและเพื่อนรีบเล็งไว้เบย หุหุ


จากนั้นรถไฟก็เคลื่อนตัวออกจากสถานีรถไฟธนบุรี มุ่งหน้าสู่กาญจนบุรี อากาศดีมากๆเลยครับ ลมพัดเย็นสบาย แดดก็ไม่ค่อยร้อนมากเพราะเป็นช่วงเช้าอยู่ครับ พอเริ่มออกจากตัวเมืองก็จะเริ่มเห็นวิวสวยๆ ท้องไร่ทุ่งนา ผ่าน จ.นครปฐม จ.ราชบุรี แล้วก็เข้าสู่ จ.กาญจนบุรีครับ




ระหว่างที่นั่งรถ ก็พากันนั่งทานขนมไปที่เตรียมมา สักพักก็มีคนขายของ ขึ้นมาขายก๋วยเตียวแห้งที่ห่อกระดาษ ห่อละ10บาท น่าสนใจดี เลยจัดไปคนละห่อ เปิดออกมา มันน่ารักมากๆเลย ลูกชิ้นอร่อยมากๆ เส้นก็ไม่แข็งนุ่มมาก แค่นี้ก็อิ่มแล้ว รองท้องเบาๆ


ระหว่างทางที่วิ่ง ก็จะผ่านช่วงที่มีวัชพืช ต้นไม้เล็กๆ ที่ขึ้นริมทางรถไฟ คือเป็นวัชพื้ชที่ไม่เคยมีการตัด มันก็สูงเลื้อยเข้ามาติดขบวนรถไฟเลย เวลารถไฟขับไป ก็จะโดนพวกต้นไม้เหล่านั้น เศษมันก็จะกระเด็นกระจายเต็มตัว เต็มหัว เต็มรถไฟเลย นั่งไปปัดไป ฮามาก ตอนรถไฟหยุด หัดไปเจอ คนที่ขึ้นรถไฟไปเที่ยวด้วยกัน เค้านั่งหลับ แล้วเอาเสื้อคลุมหัวสีดำ แต่ตัวเขามีแต่วัชพืชโรยเต็มตัวไปหมดเลย เป็นภาพที่ผมเห็นแล้วฮามาก คือมันเยอะจริงๆ



ขับไปเรื่อยๆ ก็เริ่มเห็นภูเขาแล้ว แสดงว่าใกล้จะถึง จ.กาญจนบุรีแล้ว


พอไปถึงกาญจนบุรี รถไฟก็จอดประมาณครึ่ง ชม. บุรุษรถไฟก็พากันทำความสะอาดใหญ่เลย กวาดเศษวัชพืช เยอะมากๆเลย เป็นกองได้



สักพักก็มุ่งหน้าต่อไป สู่สะพานข้ามแม่น้ำแคว คนก็รอขึ้นเยอะมากๆครับ


ชมวิวระหว่างทางไปเรื่อยๆนะครับ




แล้วก็มุ่งหน้าสู่น้ำตกไทรโยค แต่พวกเรามีนัดลงกันที่สถานีถ้ำกระแซ2(ถ้ำกระแซแรกลงไม่ได้นะ ต้องผ่านสะพานมรณะก่อน ถึงจะลงได้ ซึ่งเป็นสถานีถ้ำกระแซ2) อันนี้คือสถานีถ้ำกระแซ1นะครับ


ก็คือผ่านวิว ชมวิวก่อน ถึงจะลงได้ อิอิ พอเคลื่อนตัวเข้าสู่สะพานมรณะ รถไฟก็จะขับช้าลง นั่งท่องเที่ยวทุกคนก็จะพร้อมใจกันชะโงกหน้าออกมาเทควิว พร้อมกับถ่ายรูป เซลฟี่กันอย่างตื่นเต้น จะรอไรครับ จัดไป แชะๆๆๆๆๆๆๆ



พอถึงสถานีถ้ำกระแซ ก็โทรหาที่พักให้เขาขับเรือมารับ ถึงที่นั่นก็เกือบบ่ายโมง รถไฟช้าเลทเยอะหน่อยวันนี้ ระหว่างที่รอเรือ ก็เดินหาซื้อของกินครับ เพราะหิวกันมาก ทานข้าวอีกทีคงเย็นที่รีสอร์ทเค้าเตรียมไว้ให้ เลยบอกเพื่อนๆว่าใครอยากกินไร ซื้อกินเองเลยนะครับ ผมเองก็จัดไป แดงมะนาว ไส้กรอก มะขามป้อม มะขามดอง ขนม และก็เดินดูของ มีของกิน เสื้อผ้า อื่นๆเยอะแยะครับ


ไม่เกิน10นาที เรือก็ข้ามฟากมารับ พร้อมกับบอกว่าให้ลงตรงไหน ผมกับเพื่อนก็พากันลงเรือไป บรรยากาศดีง่า อากาศไม่ค่อยร้อนมาก เย็นๆ ไม่นานก็ถึงแพ มีเจ้าหน้าที่มารอรับ พร้อมกับจ่ายค่าห้องอีก50% ก็คือตอนที่เราติดต่อจองที่พัก ต้องจ่ายล่วงหน้าก่อน50% พอเข้าพักก็จ่ายที่เหลือ ถ้าต้องการแพหน้าห้อง ตอนที่โทรมาจอง ให้บอกเจ้าหน้าที่ไว้เลย ว่าขอห้องที่มีแพหน้าห้องด้วย จากนั้นเจ้าหน้าที่ก็ให้กุญแจห้อง ผมและเพื่อนก็เข้าห้องพักมี2ห้อง ห้องหนึ่งนอนได้ห้องละ4คน แต่ผมไป5คน แบ่งนอนห้องละ3 กับ2 เจ้าหน้าที่บอกว่า ถ้าต้องการล่องแพเปียก ให้ใส่ชูชีพมามารอที่แพได้เลย จะล่องแพเปียกตอน 15.30 น.


พอเอาของเข้าห้องเสร็จ ก็พากันมานั่งเล่นริมแพ ณ ตอนนั้นที่แพไม่มีใครเลย มีแต่พวกผม ผมก็งงว่า ที่อ่านรีวิวมา ถ้าใครจะมาพักที่นี่ต้องจองล่วงหน้า เพราะเต็มหมด ตอนนี้ไม่มีใครเลย สงสัยไม่ใช่หน้าเที่ยวมั้ง พวกผมก็พากันไปนั่งเล่นริมแพ เอาเสื่อไปปูนอน ทานขนม ข้าว จิบเบียร์เย็นๆ เทควิว บรรยากาศดีมากๆเลย แถมน้ำใสมากๆ เย็นเจี๊ยบ มองเห็นปลาเลย อยากเล่นน้ำก็อยากเล่น ไม่รู้ว่านำจะลึกขนาดไหน แต่ไม่กล้าเล่น เลยนั่งเอาเท้าจุมลงในแม่น้ำแควน้อยเล่น สบายๆ ไม่นานก็มีรถไฟแล่นผ่านมา ก็พากันโบกมือบ๊ายบายส่งให้กัน เขามองเราเรามองเขา บรรยากาศดีมากๆเลยครับ รู้สึกผ่อนคลาย เวลาเจอรถไฟแล่นผ่านมา ความรู้สึกเหมือนกิ้งกือยาวๆกำลังเดินผ่านมา (หึ๊ยยย ขนลุก ผมกลัวกิ้งกือ)

ชื่อสินค้า:   บ้านริมแคว - แพริมน้ำ รีสอร์ท
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่