เสียงหัวใจวันไร้เธอ : จากบทเพลง......เป็นเรื่องสั้น

.......................................
ต้องอยู่ยังไง ต้องทนต้องทำอะไรยังไง
ชีวิตที่มีแต่ลมหายใจ มืดมน อ้างว้างและว่างเปล่า
ยิ่งเดินยิ่งเคว้ง ทุกครั้งที่กอดตัวเองยิ่งหนาว
แค่ลมพัดเบาเบา ราวหัวใจ
ดังเหมือนจะดับไปกับแสงตะวัน
..........................................
“คุณฟังเพลงนี้มากเกินไปแล้วนะคะ”
นิ้วเรียวสวยของนางพยาบาลสาว ยื่นไปปิดเสียงเครื่องเล่นเพลงบนหัวเตียง เจ้าเพลง ที่กำลังคร่ำครวญหวนไห้ ราวใจจะขาด คนไข้สาวในวัยเดียวกัน มองหน้าอย่างจะขอร้องขอความเมตตา แต่ท้ายที่สุดเธอก็เบือนหน้าไปทางอื่น เอาแก้มแนบหมอนอย่างไม่จำเป็นต้องพูดอะไร
“ทำไม คุณไม่ฟังเพลงอื่นบ้างคะ”
นางพยาบาลชวนคุยขณะวางถาดยาลงบนโต๊ะเล็กข้างเตียง คนไข้รายนี้ไม่เคยมีพฤติกรรมก้าวร้าว เพียงขอบฟังเพลงซ้ำไปซ้ำมาเท่านั้น บทเพลงมันจะมีความหมายอะไรกันนักกันหนา....มันก็แค่ประกอบมาจากเครื่องดนตรีหลากหลาย... ขับขานตัวโน้ตออกมาผ่านโสตประสาทเท่านั้น
หัวใจ..ที่ไร้เธอ...ฉันเป็นคนเผลอเอง....
เสียงคนไข้เอื้อนเอ้ยถ้อยคำ โดยไม่แสดงอาการต่อต้าน นัยน์ตาคล้ายมองไปไกลแสนไกล เกินใครจะติดปิกโบยบินไปถีง แน่นอนว่ามันผิดธรรมชาติมากมาย
ฉันเกรง ต้องบอกจากลา....ครั้งสุดท้าย
ถ้าอยากจาก...ไม่ต้องพูดมาก.....รีบจากไปเลย....ไปเลยไป !
นี่ไม่ใช่บทกวี ... ที่ถูกทาง
“คุณคิดอย่างนั้นหรือคะ....” นางพยาบาลสาวยังไม่ยอมเดินออกจากห้อง แต่เดินมานั่งบนเก้าอี้ตัวเล็กข้างเตียงกุมมือคนไข้ ราวกับจะสื่อสารบางอย่าง
“คุณเป็นคนผลักไส เขาไป ใช่ไหมคะ”
จู่ๆ นางพยาบาลเอ่ยถาม แบบไม่มีที่ไปที่มา หญิงสาวบนเพียงทำหน้าคล้ายฝืนยิ้ม แต่เธอไม่จำเป็นต้องยิ้มจริงๆ เพราะโรงพยาบาลวิเคราะห์โรคทางจิต จะไม่ใส่ใจกับพฤติกรรมของคนไข้ ถ้านั่นไม่ใช่ข้อมูลพื้นฐาน ในการนำไปประยุกต์ใช้ โดยเฉพาะข้อมูลพิเศษ กับคนไข้พิเศษ ทันใดนั้น นางพยาบาลลุกจากเก้าอี้ ฮัมบทเพลงในลำคอเบาๆ แต่กระจ่างชัดในความรู้สึกของคนฟัง
เธออยู่ที่ไหน ความรักเราตายแล้วหรือ
ไขว่คว้าไม่เจอสักมือ เฝ้ารออย่างท้อใจ
ทำได้เพียงเท่านั้น เรียกเธอซ้ำซ้ำ
หมื่นแสนล้านคำทุกวัน
เผื่อเธอซึ้งถึงความร้าวราน เธอจะเดินกลับมา
หายใจช้าช้า หัวใจเต้นเบากว่าเดิมช้าช้า
ไม่เหลือเรี่ยวแรงจะเช็ดน้ำตา ฉันทำได้เพียงแค่ร้องไห้
ยิ่งลืมยิ่งช้ำ สุดท้ายคำตอบคือทำไม่ไหว
แอบฟังเสียงในใจ เสียงหัวใจ
ดังเหมือนจะดับไปกับแสงตะวัน
“หายใจช้าๆนะคะ....”มือนุ่มกดบ่าคนไข้บนเตียงอย่างระมัดระวัง แต่แฝงความเด็ดขาดอยู่ในที ทั้งที่ตอนนี้เริ่มไม่รู้แล้วว่าใครบ้ากว่าใคร ในที่สุดมือของหญิงสาวจับหมอนใบนุ่ม ยกมากดลงใบบนใบหน้าของคนไข้ พร้อมสายตาจ้องมองเอาจริงเอาจัง และเอาชีวิต ตาย....ตายซะ!
“ตามบทเพลง... คุณต้องหายใจช้า..แล้วอย่าหวังว่าจะมีใครเช็ดน้ำตา เพราะคนที่จะเช็ดน้ำตาให้คุณ เขาตายไปแล้ว เขาเป็นพี่ชายของฉันเอง.....รู้ไหมคะ...ฉันรอวันนี้มานานแค่ไหน...ความหึงหวงของคุณทำลายทุกอย่าง นี่เป็นเพลงสุดท้ายที่คุณจะได้ยิน”
เธออยู่ที่ไหน ไม่สงสารใจฉันหรือ
ไขว่คว้าไม่เจอกับมือ เฝ้ารออย่างท้อใจ
ทำได้เพียงแค่นั้น เรียกเธอซ้ำซ้ำ
หมื่นแสนล้านคำทุกวัน
เผื่อเธอซึ้งถึงความร้าวราน เธอจะเดินกลับมา
เผื่อเธอสงสารคนไร้ค่า เธอจะมาก่อนฉันตาย
คนไข้ดิ้นขลุกขลัก แต่อาการของเธอเป็นไปตามสัญชาตญาณมากกว่าจะกว่าตาย ไม่ได้ร้องขอชีวิต บางครั้งการมีชีวิตอยู่มันทรมานยิ่งกว่าการตายเสียอีกกับความรู้สึกผิด เธอยิงสามีตายเพราะเข้าใจผิดคิดว่าเขาไปมีอะไรกับหญิงอื่น ทั้งที่ผู้หญิงคนนั้น เป็นน้องสาวของเขาเอง เพียงอยากให้ตื่นเต้นกับงานวันเกิด ไม่มีใครคิดว่าจะเป็นงานฆาตกรรมอันโหดร้าย ส่งเธอมาอยู่โรงพยาบาลโรคประสาท แต่คนควรจะมีหน้าที่ดูแลกลับอาการน่ากลัวมากกว่า
สายลมเย็นพัดผ่านมาจากทางหน้าต่าง เป็นยะเยือกจับขั้วหัวใจ อากาศรวมตัวกันเป็นชายหนุ่มกับใบหน้าสงบเยือกเย็น เขาเอื้อมมือดึงแขนของนางพยาบาลออกจากการทำร้ายอันน่ากลัว
นางพยาบาลสาวหันไปมองแล้วน้ำตาไหลริน...ปล่อยวางจากทุกอย่าง คนไข้ที่จมอยู่กับทั้งความรัก ความหวง หึง ไร้เหคุผล มันจะมีประโยชน์อะไรกับการทำร้ายกัน ในเมื่อไม่มีทางรักษา ในเมื่อพี่ชายแสนดีออกมาแล้ว
“เราไปกันได้แล้วน น้องสาวของพี่”
มืออบอุ่นของพี่ชายแตะบ่าอย่างอ่อนโยน ไม่ได้เย็นยะเยือกเหมือนมือคนตาย..บางครั้งคนเราต้องลด ละ เลิก กับการก้มหน้าก้มตาไขว่คว้ายึดติดแบบไม่คิดชีวิต ...บางอย่างยิ่งพยายามเกาะกุม มันยิ่งหนีห่างออกไป บางครั้งคนเราต้องยอมปล่อยสิ่งที่เรารัก ถ้ามันเป็นของเราตามพรหมลิขิต มันก็ต้องกลับมาหาเราสักวัน ความรักบางครั้งคล้ายเงา ยิ่งวิ่งตาม มันยิ่งวิ่งหนี พอเราหนีมันกลับไล่ตามเรา พอหันไปคว้า ก็ได้แค่ความว่างเปล่า อยู่ในอุ้งมือและหัวใจ ความเจ็บมรมานเป็นเครื่องวัดหัวใจตน ว่าจะทนหรือแหลกสลาย
ทั้งสองคนจางหายไป ในอากาศธาตุ อะไรคือความจริงความเท็จกันแน่ ชีวิตคืออะไร
คนไข้สาวนอนน้ำตาไหลริน..หวังเพียงสักวัน เธอจะลุกขึ้นได้
แล้ววิ่งหนีให้ไกลแสนไกล ชีวิตและความรัก ที่เธอเชื่อมั่นตลอดมาว่านั้นคือความรัก แต่วันนี้เธอเริ่มเข้าใจแล้วว่า สิ่งที่เธอยึดถือตลอดมา ยังห่างไกลจากคำว่า ความรัก นับแสนร้อยโยชน์ แต่ความรู้สึกผิดต่างหากที่น่ากลัว มันจะคอยกัดกร่อนชีวิต และวิญญาณตลอดลมหายใจ
นางพยาบาลไม่อยู่แล้ว แต่วิทยุข้างเตียงนอนกลับเปิดทำงานเอง พร้อมกับขับขานบทเพลงแสนเศร้า
เธอออยู่ที่ไหน ความรักเราตายแล้วหรือ....
ไขว่คว้าไม่เจอสักมือ เฝ้ารออย่างท้อใจ....
ทำได้เพียงเท่านั้น เรียกเธอซ้ำซ้ำ...
หมื่นแสนล้านคำทุกวัน...
เผื่อเธอซึ้งถึงความร้าวราน ..เธอจะเดินกลับมา....
กลับมา...หรือไม่ก็ตาย
จบแล้วเด้อครับ
ใช่แล้ว....มีเพียงความคิดและน้ำตาเป็นเพื่อนใจ ในวันเวลาที่ “เสียงหัวใจวันไร้เธอ “
อ้อ
ไม่ใช่ชีวิตจริงของข้อยเด้อ
เห็นว่ากะดาย


เสียงหัวใจวันไร้เธอ : จากบทเพลง......เป็นเรื่องสั้น
.......................................
ต้องอยู่ยังไง ต้องทนต้องทำอะไรยังไง
ชีวิตที่มีแต่ลมหายใจ มืดมน อ้างว้างและว่างเปล่า
ยิ่งเดินยิ่งเคว้ง ทุกครั้งที่กอดตัวเองยิ่งหนาว
แค่ลมพัดเบาเบา ราวหัวใจ
ดังเหมือนจะดับไปกับแสงตะวัน
..........................................
“คุณฟังเพลงนี้มากเกินไปแล้วนะคะ”
นิ้วเรียวสวยของนางพยาบาลสาว ยื่นไปปิดเสียงเครื่องเล่นเพลงบนหัวเตียง เจ้าเพลง ที่กำลังคร่ำครวญหวนไห้ ราวใจจะขาด คนไข้สาวในวัยเดียวกัน มองหน้าอย่างจะขอร้องขอความเมตตา แต่ท้ายที่สุดเธอก็เบือนหน้าไปทางอื่น เอาแก้มแนบหมอนอย่างไม่จำเป็นต้องพูดอะไร
“ทำไม คุณไม่ฟังเพลงอื่นบ้างคะ”
นางพยาบาลชวนคุยขณะวางถาดยาลงบนโต๊ะเล็กข้างเตียง คนไข้รายนี้ไม่เคยมีพฤติกรรมก้าวร้าว เพียงขอบฟังเพลงซ้ำไปซ้ำมาเท่านั้น บทเพลงมันจะมีความหมายอะไรกันนักกันหนา....มันก็แค่ประกอบมาจากเครื่องดนตรีหลากหลาย... ขับขานตัวโน้ตออกมาผ่านโสตประสาทเท่านั้น
หัวใจ..ที่ไร้เธอ...ฉันเป็นคนเผลอเอง....
เสียงคนไข้เอื้อนเอ้ยถ้อยคำ โดยไม่แสดงอาการต่อต้าน นัยน์ตาคล้ายมองไปไกลแสนไกล เกินใครจะติดปิกโบยบินไปถีง แน่นอนว่ามันผิดธรรมชาติมากมาย
ฉันเกรง ต้องบอกจากลา....ครั้งสุดท้าย
ถ้าอยากจาก...ไม่ต้องพูดมาก.....รีบจากไปเลย....ไปเลยไป !
นี่ไม่ใช่บทกวี ... ที่ถูกทาง
“คุณคิดอย่างนั้นหรือคะ....” นางพยาบาลสาวยังไม่ยอมเดินออกจากห้อง แต่เดินมานั่งบนเก้าอี้ตัวเล็กข้างเตียงกุมมือคนไข้ ราวกับจะสื่อสารบางอย่าง
“คุณเป็นคนผลักไส เขาไป ใช่ไหมคะ”
จู่ๆ นางพยาบาลเอ่ยถาม แบบไม่มีที่ไปที่มา หญิงสาวบนเพียงทำหน้าคล้ายฝืนยิ้ม แต่เธอไม่จำเป็นต้องยิ้มจริงๆ เพราะโรงพยาบาลวิเคราะห์โรคทางจิต จะไม่ใส่ใจกับพฤติกรรมของคนไข้ ถ้านั่นไม่ใช่ข้อมูลพื้นฐาน ในการนำไปประยุกต์ใช้ โดยเฉพาะข้อมูลพิเศษ กับคนไข้พิเศษ ทันใดนั้น นางพยาบาลลุกจากเก้าอี้ ฮัมบทเพลงในลำคอเบาๆ แต่กระจ่างชัดในความรู้สึกของคนฟัง
เธออยู่ที่ไหน ความรักเราตายแล้วหรือ
ไขว่คว้าไม่เจอสักมือ เฝ้ารออย่างท้อใจ
ทำได้เพียงเท่านั้น เรียกเธอซ้ำซ้ำ
หมื่นแสนล้านคำทุกวัน
เผื่อเธอซึ้งถึงความร้าวราน เธอจะเดินกลับมา
หายใจช้าช้า หัวใจเต้นเบากว่าเดิมช้าช้า
ไม่เหลือเรี่ยวแรงจะเช็ดน้ำตา ฉันทำได้เพียงแค่ร้องไห้
ยิ่งลืมยิ่งช้ำ สุดท้ายคำตอบคือทำไม่ไหว
แอบฟังเสียงในใจ เสียงหัวใจ
ดังเหมือนจะดับไปกับแสงตะวัน
“หายใจช้าๆนะคะ....”มือนุ่มกดบ่าคนไข้บนเตียงอย่างระมัดระวัง แต่แฝงความเด็ดขาดอยู่ในที ทั้งที่ตอนนี้เริ่มไม่รู้แล้วว่าใครบ้ากว่าใคร ในที่สุดมือของหญิงสาวจับหมอนใบนุ่ม ยกมากดลงใบบนใบหน้าของคนไข้ พร้อมสายตาจ้องมองเอาจริงเอาจัง และเอาชีวิต ตาย....ตายซะ!
“ตามบทเพลง... คุณต้องหายใจช้า..แล้วอย่าหวังว่าจะมีใครเช็ดน้ำตา เพราะคนที่จะเช็ดน้ำตาให้คุณ เขาตายไปแล้ว เขาเป็นพี่ชายของฉันเอง.....รู้ไหมคะ...ฉันรอวันนี้มานานแค่ไหน...ความหึงหวงของคุณทำลายทุกอย่าง นี่เป็นเพลงสุดท้ายที่คุณจะได้ยิน”
เธออยู่ที่ไหน ไม่สงสารใจฉันหรือ
ไขว่คว้าไม่เจอกับมือ เฝ้ารออย่างท้อใจ
ทำได้เพียงแค่นั้น เรียกเธอซ้ำซ้ำ
หมื่นแสนล้านคำทุกวัน
เผื่อเธอซึ้งถึงความร้าวราน เธอจะเดินกลับมา
เผื่อเธอสงสารคนไร้ค่า เธอจะมาก่อนฉันตาย
คนไข้ดิ้นขลุกขลัก แต่อาการของเธอเป็นไปตามสัญชาตญาณมากกว่าจะกว่าตาย ไม่ได้ร้องขอชีวิต บางครั้งการมีชีวิตอยู่มันทรมานยิ่งกว่าการตายเสียอีกกับความรู้สึกผิด เธอยิงสามีตายเพราะเข้าใจผิดคิดว่าเขาไปมีอะไรกับหญิงอื่น ทั้งที่ผู้หญิงคนนั้น เป็นน้องสาวของเขาเอง เพียงอยากให้ตื่นเต้นกับงานวันเกิด ไม่มีใครคิดว่าจะเป็นงานฆาตกรรมอันโหดร้าย ส่งเธอมาอยู่โรงพยาบาลโรคประสาท แต่คนควรจะมีหน้าที่ดูแลกลับอาการน่ากลัวมากกว่า
สายลมเย็นพัดผ่านมาจากทางหน้าต่าง เป็นยะเยือกจับขั้วหัวใจ อากาศรวมตัวกันเป็นชายหนุ่มกับใบหน้าสงบเยือกเย็น เขาเอื้อมมือดึงแขนของนางพยาบาลออกจากการทำร้ายอันน่ากลัว
นางพยาบาลสาวหันไปมองแล้วน้ำตาไหลริน...ปล่อยวางจากทุกอย่าง คนไข้ที่จมอยู่กับทั้งความรัก ความหวง หึง ไร้เหคุผล มันจะมีประโยชน์อะไรกับการทำร้ายกัน ในเมื่อไม่มีทางรักษา ในเมื่อพี่ชายแสนดีออกมาแล้ว
“เราไปกันได้แล้วน น้องสาวของพี่”
มืออบอุ่นของพี่ชายแตะบ่าอย่างอ่อนโยน ไม่ได้เย็นยะเยือกเหมือนมือคนตาย..บางครั้งคนเราต้องลด ละ เลิก กับการก้มหน้าก้มตาไขว่คว้ายึดติดแบบไม่คิดชีวิต ...บางอย่างยิ่งพยายามเกาะกุม มันยิ่งหนีห่างออกไป บางครั้งคนเราต้องยอมปล่อยสิ่งที่เรารัก ถ้ามันเป็นของเราตามพรหมลิขิต มันก็ต้องกลับมาหาเราสักวัน ความรักบางครั้งคล้ายเงา ยิ่งวิ่งตาม มันยิ่งวิ่งหนี พอเราหนีมันกลับไล่ตามเรา พอหันไปคว้า ก็ได้แค่ความว่างเปล่า อยู่ในอุ้งมือและหัวใจ ความเจ็บมรมานเป็นเครื่องวัดหัวใจตน ว่าจะทนหรือแหลกสลาย
ทั้งสองคนจางหายไป ในอากาศธาตุ อะไรคือความจริงความเท็จกันแน่ ชีวิตคืออะไร
คนไข้สาวนอนน้ำตาไหลริน..หวังเพียงสักวัน เธอจะลุกขึ้นได้
แล้ววิ่งหนีให้ไกลแสนไกล ชีวิตและความรัก ที่เธอเชื่อมั่นตลอดมาว่านั้นคือความรัก แต่วันนี้เธอเริ่มเข้าใจแล้วว่า สิ่งที่เธอยึดถือตลอดมา ยังห่างไกลจากคำว่า ความรัก นับแสนร้อยโยชน์ แต่ความรู้สึกผิดต่างหากที่น่ากลัว มันจะคอยกัดกร่อนชีวิต และวิญญาณตลอดลมหายใจ
นางพยาบาลไม่อยู่แล้ว แต่วิทยุข้างเตียงนอนกลับเปิดทำงานเอง พร้อมกับขับขานบทเพลงแสนเศร้า
เธอออยู่ที่ไหน ความรักเราตายแล้วหรือ....
ไขว่คว้าไม่เจอสักมือ เฝ้ารออย่างท้อใจ....
ทำได้เพียงเท่านั้น เรียกเธอซ้ำซ้ำ...
หมื่นแสนล้านคำทุกวัน...
เผื่อเธอซึ้งถึงความร้าวราน ..เธอจะเดินกลับมา....
กลับมา...หรือไม่ก็ตาย
จบแล้วเด้อครับ
ใช่แล้ว....มีเพียงความคิดและน้ำตาเป็นเพื่อนใจ ในวันเวลาที่ “เสียงหัวใจวันไร้เธอ “
อ้อ
ไม่ใช่ชีวิตจริงของข้อยเด้อ
เห็นว่ากะดาย