กรุงเทพเป็นเมืองใหญ่ มีประชากรจำนวนมาก นักท่องเที่ยวเยอะอันดับต้น ๆ ของโลก มีสถานที่ท่องเที่ยวทั้งทางวัฒนธรรมและความบันเทิงสมัยใหม่ครบครันแล้ว สวนสาธารณะให้ประชาชนออกมาใช้เวลาว่างก็มีจำนวนหนึ่ง (แม้จะไม่เยอะมาก แต่ยังดีที่พอมีบ้าง)
แต่ผมอยากทราบว่าทำไมกรุงเทพถึงไม่ค่อยมีบริเวณที่เป็น square ส่วนกลาง พื้นที่โล่ง ๆ ขนาดใหญ่หน่อย อาจจะมี landmark เล็ก ๆตรงกลาง (อาจเป็นน้ำพุ อนุสวรีย์ หรือผลงานศิลปะอะไรก็ได้) พื้นปูด้วยอิฐดี ๆ หน่อย และห้ามรถเข้ามาวิ่ง มีร้านค้าต้งอยู่รอบ ๆ square นั้น อาจจะขายทั้งอาหาร เครื่องดื่ม หรือเสื้อผ้า บริเวณ square หน้าร้านค้าต่าง ๆ ก็มีโต๊ะแบบ outdoor มีร่มกางก็ได้ ให้คนได้ออกมานั่งกินข้าวแล้วนั่งต่อนาน ๆ พูดคุยหรือนั่งมองผู้คน ผมว่ามันเป็นความสุขอย่างหนึ่งของคนยุโรปเลยนะ (ไม่รู้เป็นทุกที่ไหม แต่จากประสบการณ์อันน้อยนิดเค้าจะซึมซับบรรยากาศตรงนี้กันจริงจังมากครับ)
เห็นจะมีก็แต่เอกชนทำ ซึ่งเป็นเจ้าของเดียว แต่มีร้านรวงมาเช่าพื้นที่ และค่อนข้างเบียดเสียด เพราะเน้นจัดสรรพื้นที่ให้ร้านค้ามากกว่าพื้นที่โล่ง ๆ ที่ให้คนมานั่งร่วมกัน
ต่างจากที่เคยเห็นในยุโรปที่เป็นตึกแถวของใครของมันรอบ ๆ square ซึ่ง square ก็ดูแล้วน่าจะเป็นของส่วนกลาง (น่าจะเทศบาลดูแล?)
แล้วประเทศอื่นใกล้ ๆ เรานี่มีไหมครับ ? ผมมีประสบการณ์การท่องเที่ยวน้อย เลยไม่ทราบข้อมูลครับ ถ้าจำไม่ผิดที่ไซ่ง่อน ตรงลานหน้าศาลากลางเมืองก็เป็น square (ที่เป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้า) แล้วมีร้านรวงอยู่รอบ ๆ เหมือนกัน คิดว่าได้อิทธิพลมาจากฝรั่งเศสซึ่งเคยปกครองเอาไว้ แต่เมืองอื่น ๆ ก็ไม่ทราบแล้วครับ
เหตุผลที่ผมพอจะนึกออกที่บ้านเราไม่มี square หรืออะไรเทือกนั้นก็น่าจะประมาณนี้ครับ
- ร้อนเกินไป คนไม่นั่งกลางแจ้งตอนกลางวันแน่นอน
- หากมีแล้วพื้นต้องสกปรกแน่นอน เพราะเราอยู่เขตร้อน เกิดกลิ่นเน่าเสียได้ง่าย
- ไม่มีพื้นที่ใหญ่ขนาดนั้นใจกลางเมือง หากมีนอกเมือง ก็เดินทางยาก และคนไม่ไปเที่ยว
- เคยมีแล้วไม่เวิร์ค เลยทะยอยปิดไป ? (อันนี้ไม่ทราบข้อมูลครับ)
- ส่วนกลางดูแลไม่ไหว (เรื่องความสะอาด การตกแต่งสถานที่ เทศกาลหมุนเวียน)
- รสนิยมการเที่ยวของคนกรุงเทพหรือคนไทยไม่เป็นแบบนั้น ? (อันนี้อาจจะจริงครับ เพราะก่อนหน้าจะไปสัมผัสอะไรพวกนั้น ก็ไม่เคยคิดจะนั่งกินข้าวกลางแจ้ง ยกเว้นมันจะเย็นจริง ๆ แต่หลังจากได้สัมผัสแล้ว ให้นั่งกลางแจ้งที่กรุงเทพช่วงเย็นหรือกลางคืนก็พอได้อยู่นะครับ)
- กลัวจะออกมาคล้ายลานเบียร์ ทำให้คนที่ไม่ดื่ม ไม่กล้าที่จะมานั่ง เพราะกลัวจะถูกเหมารวมว่ามาดื่ม?
นอกจากนี้ยังอยากทราบว่าบรรยากาศแบบนี้จะมีใครมานั่งไหมครับ ผมรู้สึกว่าการได้นั่งทานอาหารในบรรยากาศไม่เร่งรีบ นั่งมอง landmark มันช่วยให้คุณภาพชีวิต (ณ วันนั้น) มันดีขึ้นนิดนึงนะ 55
ณ วันนี้ผมมองว่าถ้าจะให้มันเกิดขึ้นมาในกรุงเทพคงยากแล้ว เพราะพื้นที่ในกลางเมืองถูกยึดครองไปหมด แต่ถ้าทำได้ มีพื้นที่ซัก 1–2 ไร่ ที่เคลียร์ไว้เป็น square ไม่มีตึกสูง แล้ว square นี้อยู่ท่ามกลางดงตึกสูง มันจะสวยมาก ๆ เลยนะครับ กลายเป็น landmark แห่งใหม่ได้เลย (แต่ก็เป็นไปไม่ได้หรอกที่จะมีใครยอมเอาที่มาทำ)
อย่างไรก็ตาม ณ ต่างจังหวัดก็ยังคงมีหวังครับ โดยเฉพาะจังหวัดที่ไม่ได้มีที่เที่ยวอะไรมาก จะมีใครคิดว่าไอเดียนี้มันเวิร์คไหม? สร้าง square ดี ๆ ให้เป็น landmark เป็นพื้นที่ส่วนกลางการจัดกิจกรรม ให้ศิลปินได้นำผลงานมาจัดแสดง และเป็นที่ให้ประชาชนได้ออกมาใช้เวลาว่างช่วงเย็นอย่างมีความสุข (นี่ผมจินตนาการไกลไปไหม)
ถ้ามี square แบบนี้เกิดจริง ๆ พวกคุณจะสนับสนุนไหมครับ ?
====================================
เอารูป square บางแห่งที่เคยถ่ายจากยุโรปมาฝากครับ (ขออภัยที่รูปถ่ายไม่สวยเอามาก ๆ อาจจะขัดตาหลายคน คือ square มันสวยกว่าในภาพทุกอัน 5555)
อันนี้ Lilla Torg (Little Square) ที่เมือง Malmö, Sweden
ส่วนด้าล่างนี้ Stortorget market square ที่ Malmö เช่นกัน
อันนี้จาก Denmark ครับ เป็นเมืองเล็ก ๆ ชานเมือง Copenhagen ผมจำไม่ได้เหมือนกัน น่าจะ Helsingør?
ไม่เชิงเป็น square แต่เป็นถนนคนเดิน ซึ่งริมถนนมีโต๊ะของร้านค้าตั้งเรียงราย แต่บรรยากาศไม่เบียดเสียดครับ
ด้านล่างนี้ถ่ายจาก Leuven, Belgium ครับ เมืองมหาลัยเก่าแก่ของเบลเยี่ยม ศุกร์-เสาร์เย็น จะมีนักศึกษาเยอะมากกกก บรรยากาศสนุกน่าอิจฉาสุด ๆ
อันนี้จาก Delft, the Netherlands ครับ เมืองเล็ก ๆ แต่น่ารัก เหมือน Amsterdam จำลอง
Square ที่นี่มีทั้ง square โล่ง กับที่มีต้นไม้ปลูกซึ่งผมชอบเป็นพิเศษครับ วันที่ไปอุณหภูมิประมาณ 35ºC สำหรับยุโรปก็คือร้อนนะ แต่พอมีต้นไม้ก็ช่วยชีวิตได้เยอะมาก ๆ (เมืองไทยอาจจะมีปัญหาเรื่องอึนกพิราบ ซึ่งต้องหาวิธีแก้กันต่อไป)
หรือว่าจะเป็นบรรยากาศริมคูคลองแทน landmark อย่างเมือง Leiden หรือ Utrecht, the Netherlands ก็ได้ครับ
เพราะบ้านเราก็มีคูคลองเยอะพอสมควร อาจจะสกปรกหน่อย แต่มันต้องแก้ได้สิ! ผมว่าถ้าจัดการดี ๆ มันเป็นจุดขายได้เลยนะ
เพราะคูคลองเราอ่ะ อยู่กลางเมืองเลย ส่วนริมแม่น้ำเจ้าพระยาก็มีร้านค้าเปิดเป็นปกติ แต่มันไม่ได้เป็นจุดรวมคนเยอะ ๆ อ่ะครับ
มันกระจัดกระจาย มันให้บรรยากาศและความสนุกต่างกันนะ การได้ "เดิน" เลือกร้านอาหารในย่านที่มีร้านเยอะ ๆ มันสนุกกว่านะ
อันนี้จาก Leiden ครับ เมืองมหาลัยเก่าแก่เช่นกัน แต่คน hang out ไม่ใช่แค่นักศึกษา แต่เป็นนักท่องเที่ยวด้วยครับ ต่างจาก Leuven ที่เป็นนักศึกษาซะส่วนใหญ่ บรรยากาศของ Leiden เลยมีความหลากหลายมากกว่า Leuven นิดนึง
สุดท้าย จาก Utrecht ครับ เมืองเก่าแก่ ถนนตรอกซอกซอยแคบมาก ๆ มีแต่ square เล็ก ๆ แต่คนเค้าเน้นมานั่งริมคลองมากกว่า คือจัดแค่สรรให้มีพื้นที่ริมคลองพอที่จะนั่งกินข้าวได้ก็โอเคแล้วครับ
ขอบคุณที่ช่วย discuss นะครับ ผมอยากทราบความคิดเห็นทุกคนจริง ๆ แล้วถ้าเสียงเราดังพอ มันอาจจะดังไปถึงคนที่สามารถทำอะไรพวกนี้ได้
มันอาจจะเป็นเรื่องเล็ก ๆ เรื่องหนึ่งครับ แต่การที่ประชาชนมีความสุขมากขึ้นจากกิจกรรมใหม่ ๆ มันก็ยกระดับคุณภาพชีวิตขึ้นมาอย่างนึงเช่นกัน
[Discussion] ทำไมกรุงเทพถึงไม่ค่อยมี Square หรือพื้นที่ส่วนกลางที่ให้เราออกมานั่งชิลครับ ?
แต่ผมอยากทราบว่าทำไมกรุงเทพถึงไม่ค่อยมีบริเวณที่เป็น square ส่วนกลาง พื้นที่โล่ง ๆ ขนาดใหญ่หน่อย อาจจะมี landmark เล็ก ๆตรงกลาง (อาจเป็นน้ำพุ อนุสวรีย์ หรือผลงานศิลปะอะไรก็ได้) พื้นปูด้วยอิฐดี ๆ หน่อย และห้ามรถเข้ามาวิ่ง มีร้านค้าต้งอยู่รอบ ๆ square นั้น อาจจะขายทั้งอาหาร เครื่องดื่ม หรือเสื้อผ้า บริเวณ square หน้าร้านค้าต่าง ๆ ก็มีโต๊ะแบบ outdoor มีร่มกางก็ได้ ให้คนได้ออกมานั่งกินข้าวแล้วนั่งต่อนาน ๆ พูดคุยหรือนั่งมองผู้คน ผมว่ามันเป็นความสุขอย่างหนึ่งของคนยุโรปเลยนะ (ไม่รู้เป็นทุกที่ไหม แต่จากประสบการณ์อันน้อยนิดเค้าจะซึมซับบรรยากาศตรงนี้กันจริงจังมากครับ)
เห็นจะมีก็แต่เอกชนทำ ซึ่งเป็นเจ้าของเดียว แต่มีร้านรวงมาเช่าพื้นที่ และค่อนข้างเบียดเสียด เพราะเน้นจัดสรรพื้นที่ให้ร้านค้ามากกว่าพื้นที่โล่ง ๆ ที่ให้คนมานั่งร่วมกัน
ต่างจากที่เคยเห็นในยุโรปที่เป็นตึกแถวของใครของมันรอบ ๆ square ซึ่ง square ก็ดูแล้วน่าจะเป็นของส่วนกลาง (น่าจะเทศบาลดูแล?)
แล้วประเทศอื่นใกล้ ๆ เรานี่มีไหมครับ ? ผมมีประสบการณ์การท่องเที่ยวน้อย เลยไม่ทราบข้อมูลครับ ถ้าจำไม่ผิดที่ไซ่ง่อน ตรงลานหน้าศาลากลางเมืองก็เป็น square (ที่เป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้า) แล้วมีร้านรวงอยู่รอบ ๆ เหมือนกัน คิดว่าได้อิทธิพลมาจากฝรั่งเศสซึ่งเคยปกครองเอาไว้ แต่เมืองอื่น ๆ ก็ไม่ทราบแล้วครับ
เหตุผลที่ผมพอจะนึกออกที่บ้านเราไม่มี square หรืออะไรเทือกนั้นก็น่าจะประมาณนี้ครับ
- ร้อนเกินไป คนไม่นั่งกลางแจ้งตอนกลางวันแน่นอน
- หากมีแล้วพื้นต้องสกปรกแน่นอน เพราะเราอยู่เขตร้อน เกิดกลิ่นเน่าเสียได้ง่าย
- ไม่มีพื้นที่ใหญ่ขนาดนั้นใจกลางเมือง หากมีนอกเมือง ก็เดินทางยาก และคนไม่ไปเที่ยว
- เคยมีแล้วไม่เวิร์ค เลยทะยอยปิดไป ? (อันนี้ไม่ทราบข้อมูลครับ)
- ส่วนกลางดูแลไม่ไหว (เรื่องความสะอาด การตกแต่งสถานที่ เทศกาลหมุนเวียน)
- รสนิยมการเที่ยวของคนกรุงเทพหรือคนไทยไม่เป็นแบบนั้น ? (อันนี้อาจจะจริงครับ เพราะก่อนหน้าจะไปสัมผัสอะไรพวกนั้น ก็ไม่เคยคิดจะนั่งกินข้าวกลางแจ้ง ยกเว้นมันจะเย็นจริง ๆ แต่หลังจากได้สัมผัสแล้ว ให้นั่งกลางแจ้งที่กรุงเทพช่วงเย็นหรือกลางคืนก็พอได้อยู่นะครับ)
- กลัวจะออกมาคล้ายลานเบียร์ ทำให้คนที่ไม่ดื่ม ไม่กล้าที่จะมานั่ง เพราะกลัวจะถูกเหมารวมว่ามาดื่ม?
นอกจากนี้ยังอยากทราบว่าบรรยากาศแบบนี้จะมีใครมานั่งไหมครับ ผมรู้สึกว่าการได้นั่งทานอาหารในบรรยากาศไม่เร่งรีบ นั่งมอง landmark มันช่วยให้คุณภาพชีวิต (ณ วันนั้น) มันดีขึ้นนิดนึงนะ 55
ณ วันนี้ผมมองว่าถ้าจะให้มันเกิดขึ้นมาในกรุงเทพคงยากแล้ว เพราะพื้นที่ในกลางเมืองถูกยึดครองไปหมด แต่ถ้าทำได้ มีพื้นที่ซัก 1–2 ไร่ ที่เคลียร์ไว้เป็น square ไม่มีตึกสูง แล้ว square นี้อยู่ท่ามกลางดงตึกสูง มันจะสวยมาก ๆ เลยนะครับ กลายเป็น landmark แห่งใหม่ได้เลย (แต่ก็เป็นไปไม่ได้หรอกที่จะมีใครยอมเอาที่มาทำ)
อย่างไรก็ตาม ณ ต่างจังหวัดก็ยังคงมีหวังครับ โดยเฉพาะจังหวัดที่ไม่ได้มีที่เที่ยวอะไรมาก จะมีใครคิดว่าไอเดียนี้มันเวิร์คไหม? สร้าง square ดี ๆ ให้เป็น landmark เป็นพื้นที่ส่วนกลางการจัดกิจกรรม ให้ศิลปินได้นำผลงานมาจัดแสดง และเป็นที่ให้ประชาชนได้ออกมาใช้เวลาว่างช่วงเย็นอย่างมีความสุข (นี่ผมจินตนาการไกลไปไหม)
ถ้ามี square แบบนี้เกิดจริง ๆ พวกคุณจะสนับสนุนไหมครับ ?
====================================
เอารูป square บางแห่งที่เคยถ่ายจากยุโรปมาฝากครับ (ขออภัยที่รูปถ่ายไม่สวยเอามาก ๆ อาจจะขัดตาหลายคน คือ square มันสวยกว่าในภาพทุกอัน 5555)
อันนี้ Lilla Torg (Little Square) ที่เมือง Malmö, Sweden
ส่วนด้าล่างนี้ Stortorget market square ที่ Malmö เช่นกัน
อันนี้จาก Denmark ครับ เป็นเมืองเล็ก ๆ ชานเมือง Copenhagen ผมจำไม่ได้เหมือนกัน น่าจะ Helsingør?
ไม่เชิงเป็น square แต่เป็นถนนคนเดิน ซึ่งริมถนนมีโต๊ะของร้านค้าตั้งเรียงราย แต่บรรยากาศไม่เบียดเสียดครับ
ด้านล่างนี้ถ่ายจาก Leuven, Belgium ครับ เมืองมหาลัยเก่าแก่ของเบลเยี่ยม ศุกร์-เสาร์เย็น จะมีนักศึกษาเยอะมากกกก บรรยากาศสนุกน่าอิจฉาสุด ๆ
อันนี้จาก Delft, the Netherlands ครับ เมืองเล็ก ๆ แต่น่ารัก เหมือน Amsterdam จำลอง
Square ที่นี่มีทั้ง square โล่ง กับที่มีต้นไม้ปลูกซึ่งผมชอบเป็นพิเศษครับ วันที่ไปอุณหภูมิประมาณ 35ºC สำหรับยุโรปก็คือร้อนนะ แต่พอมีต้นไม้ก็ช่วยชีวิตได้เยอะมาก ๆ (เมืองไทยอาจจะมีปัญหาเรื่องอึนกพิราบ ซึ่งต้องหาวิธีแก้กันต่อไป)
หรือว่าจะเป็นบรรยากาศริมคูคลองแทน landmark อย่างเมือง Leiden หรือ Utrecht, the Netherlands ก็ได้ครับ
เพราะบ้านเราก็มีคูคลองเยอะพอสมควร อาจจะสกปรกหน่อย แต่มันต้องแก้ได้สิ! ผมว่าถ้าจัดการดี ๆ มันเป็นจุดขายได้เลยนะ
เพราะคูคลองเราอ่ะ อยู่กลางเมืองเลย ส่วนริมแม่น้ำเจ้าพระยาก็มีร้านค้าเปิดเป็นปกติ แต่มันไม่ได้เป็นจุดรวมคนเยอะ ๆ อ่ะครับ
มันกระจัดกระจาย มันให้บรรยากาศและความสนุกต่างกันนะ การได้ "เดิน" เลือกร้านอาหารในย่านที่มีร้านเยอะ ๆ มันสนุกกว่านะ
อันนี้จาก Leiden ครับ เมืองมหาลัยเก่าแก่เช่นกัน แต่คน hang out ไม่ใช่แค่นักศึกษา แต่เป็นนักท่องเที่ยวด้วยครับ ต่างจาก Leuven ที่เป็นนักศึกษาซะส่วนใหญ่ บรรยากาศของ Leiden เลยมีความหลากหลายมากกว่า Leuven นิดนึง
สุดท้าย จาก Utrecht ครับ เมืองเก่าแก่ ถนนตรอกซอกซอยแคบมาก ๆ มีแต่ square เล็ก ๆ แต่คนเค้าเน้นมานั่งริมคลองมากกว่า คือจัดแค่สรรให้มีพื้นที่ริมคลองพอที่จะนั่งกินข้าวได้ก็โอเคแล้วครับ
ขอบคุณที่ช่วย discuss นะครับ ผมอยากทราบความคิดเห็นทุกคนจริง ๆ แล้วถ้าเสียงเราดังพอ มันอาจจะดังไปถึงคนที่สามารถทำอะไรพวกนี้ได้
มันอาจจะเป็นเรื่องเล็ก ๆ เรื่องหนึ่งครับ แต่การที่ประชาชนมีความสุขมากขึ้นจากกิจกรรมใหม่ ๆ มันก็ยกระดับคุณภาพชีวิตขึ้นมาอย่างนึงเช่นกัน