การเติบโตของMAKRO คิดว่าจะกำไรจะโตปีละกี่%ใน10ปีข้างหน้า???

ผมเริ่มสงสัยความคิดของเจ้าสัวธนิน ที่ซื้อMAKROไปเมื่อปี2556 ว่ามันคุ้มหรือไม่
เพราะดูกิจการค้าส่ง ที่ลูกค้าเป็นร้านค้าปลีกรายย่อย ธุรกิจอาหาร มันน่าจะค่อยๆหดตัว
เพราะการเปิดของร้านสะดวกซื้อของรายใหญ่ อย่าง CPALLของเจ้าสัวเอง ,mini BIGC ของBJC ก็ทยอยเปิดสาขา
น่าจะทำให้ลูกค้าMAKROหด แต่ทำไมตัว รายได้ กำไร ของMAKROในงบมันเพิ่มหละครับ???
    ถ้าธุรกิจMAKRO ในอนาคตโตจริง โตเพราะอะไร ?? และการอัตราการเติบโตระยะยาวควรเป็นเท่าใด???
         -ขอขอบคุณทุกคำตอบล้วงหน้ามา ณ ที่นี้ครับ-
เม่าเนิร์ด
แก้ไขข้อความเมื่อ

คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 4
อันนี้ผมเดานะ

ลูกค้าแมคโครนี่ คนละกลุ่มกับ7-11 หรือมินิบิ๊กซี เลยครับ ไม่ได้ส่งผลกระทบโดยตรง
คุณอาจมองว่า 7-11และมินิบิ๊กซี จะสร้างผลกระทบให้ร้านโชว์ห่วยแบบเก่าขายน้อยลง
อันนี้จริงครับ มีร้านค้าที่ปิดไป แต่ก็มีร้านใหม่เปิดมาแทน
แต่พฤติกรรมการซื้อของเข้าร้านของโชว์ห่วยก็เปลี่ยนไปด้วยเช่นกัน

เรื่องนี้ย้อนกลับไปที่ร้านค้าส่งรุ่นเก่า
ร้านค้าส่งแบบเก่า รุ่นเก่าเนี่ย เถ้าแก่หลายๆท่าน เท่าที่ผมเคยนั่งคุยด้วย เขามีปัญหาบางอย่าง
- คือมันอยู่มานานละ รุ่นลูกไม่อยากสานต่อ เขาก็ไม่อยากลงทุนอะไรไปเพิ่มละ
- กำไรค้าส่งปัจจุบันต่ำมากในระดับ 0.5-2% ก็มี คือตัดราคากันเละเทะ
ต้องแข่งกับห้าง แข่งกับหน่วยรถเงินสด แข่งกับพวกตัดสินค้าหลังห้างมาขาย(เวลาห้างจัดรายการ)
- เป้าสินค้าแต่ละตัวที่ซัพพลายเออร์เสนอขาย มันสูงขึ้น สวนทางกับยอดขายเขา
ทำให้เขาไม่สามารถสั่งซื้อทีละเยอะๆได้แบบเมื่อก่อน จากเดิมสั่งทีเป็นหลายๆพันลัง ก็ลดลงหลักร้อยก็มี
- แต่ละบริษัทซัพพลายเออร์ มีการเพิ่ม SKU สินค้า ทั้งขนาด สี กลิ่น รสชาติ เยอะมาก
เขาสต็อกกันไม่หวาดไหว จึงเลือกเฉพาะสินค้าหลักที่คิดว่ายังขายได้
พอเป็นแบบนี้ มันก็เสียจุดแข็งในการแข่งขันแล้วครับ
สินค้าไม่หลากหลาย ราคาต้นทุนที่สูงกว่า

สภาพแบบนี้ ย้อนกลับไปหาร้านโชว์ห่วย ที่ต้องมีความหลากหลายของสินค้าสูง
พวกร้านโชว์ห่วยเลยซื้อสินค้าจากร้านค้าส่งน้อยลง
พฤติกรรม ก็หันไปซื้อที่แมคโครมากขึ้น

ยกตัวอย่างสักตัวละกัน
อย่างชาหวานๆใส่ขวด ใน7-11 กะคร่าวๆคงมีสัก 6 ยี่ห้อ รวมๆเกิน40 SKU น่าจะได้(รวมทุกรส ทุกไซส์)
โชว์ห่วยอยากจะขายสัก 3 ยี่ห้อ รวมๆสัก 10 SKU พอ
เขาไปหาซื้อที่ร้านค้าส่ง จะได้ไม่ครบนะครับ นี่คือเรื่องจริง
อาจต้องวิ่งซื้อ2-3 ที่ จึงจะได้ที่ต้องการ
นี่แค่กับสินค้าเดียวนะครับ แล้วมันเกิดกับสินค้าแทบทุกกลุ่ม
งั้นไปแมคโครเลยดีกว่า ได้ของ50% ละ ที่เหลือซื้อร้านส่งรุ่นเก่าบ้าง หน่วยรถมาส่งบ้าง

ส่วนธุรกิจอาหาร ผมว่าก็แนวๆเดียวกัน
ลองไปเดินสาขาใกล้ๆบ้านผม แผนกอาหารสดนี่อย่างกับแจกฟรี
ร้านอาหารมาซื้อกันเยอะมาก
ตู้แช่แข็งนี่เรียงอย่างกะรถไฟ
เครื่องปรุงแบบเป็นแกลลอน ซึ่งหาซื้อตามร้านตลาดไม่ได้
วัตถุดิบแปลกๆ แบบที่ร้านข้างนอกไม่เอามาขาย
มาที่เดียวเกือบจบ ขาดแค่ผักเล็กๆน้อยๆไปซื้อตลาดสด
ซึ่งพวกร้านอาหารชอบมาก เวลาน้อยไม่ต้องไปเดินหาหลายที่

ในสองสามปีนี้ ผมว่าคงยังโตได้เรื่อยๆนะครับ
แต่ก็เริ่มเห็นบางธุรกิจเริ่มพยายามแทรกช่องว่างเข้ามาเหมือนกัน
อย่างพวกอาหารแช่แข็งเนี่ย
ผมเห็นบริษัทที่เริ่มวิ่งส่งวัตถุดิบแช่แข็งให้กับร้านหมูกะทะต่างๆ
ส่งเซลล์มาวิ่งส่งสินค้าให้กับร้านอาหารต่างๆบ้างแล้ว
หมายความว่า พวกธุรกิจที่เล็กกว่า ก็เริ่มปรับตัว หาทางเจาะตลาดกลับเหมือนกัน

ผมเดาแนวคิดของเจ้าสัว ว่าเป็นการต่อจิ๊กซอว์ให้ครบมากกว่า
เพราะโพสิชั่นของห้างค้าส่งแบบนี้ คนแทรกเข้ามายากมากครับ
แล้วดูจากการเพิ่มสัดส่วนของแผนกของสด ก็คงเป็นการเพิ่มช่องทางจำหน่ายสินค้าในเครือได้ ซึ่งกำไรมากกว่า
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่