ผู้ชายคนหนึ่ง กับ ผู้หญิงคนหนึ่ง, โจร กับ เจ้าทรัพย์, มิใช่บทเรียน แต่คือบทจบของจอมโกหก จบที่เรือนจำ

การโกหก  เป็นจุดเริ่มต้นของความเลวทั้งปวง

เมื่อโกหกครั้งหนึ่ง  เพื่อปิดบังการโกหกนั้น  ก็ต้องโกหกซ้ำแล้วซ้ำอีก
เมื่อโกหกเรื่องหนึ่ง  เพื่อกลบเกลื่อนการโกหกเรื่องนั้น  ก็ต้องโกหกเรื่องอื่น ๆ ต่อไป
เมื่อโกหกในเรื่องเล็ก  เพื่อไม่ให้โดนจับได้  ก็ต้องโกหกในเรื่องที่ใหญ่ขึ้น ๆ

การโกหก  นอกจากสร้างความเสียหายให้แก่ตัวเอง  ยังสร้างความเสียหายต่อคนรอบข้างด้วย
และเมื่อใดที่การโกหกโดนจับได้ไล่ทัน  คุณค่าความเป็นคนก็จะหมดลงทันที






1. ชายคนหนึ่ง  ซึ่งแสดงตัวชัดเจนว่าตัวเองเป็นใคร  
     ตั้งกระทู้เล่าเรื่องเกี่ยวกับ  หญิงคนหนึ่ง  ด้วยการใช้ นามสมมุติสำหรับ หญิงคนหนึ่ง นั้น
     แต่กลับแสดงข้อมูล และระบุพยานผู้รู้เห็นเหตุการณ์  อันบ่งบอกชี้ชัดว่า ผู้หญิงคนหนึ่ง นั้น  เป็นใคร

2. ในการเล่าเรื่อง  ชายคนหนึ่ง  กล่าวหา  หญิงคนหนึ่ง  หลายเรื่อง  ทำให้ หญิงคนหนึ่ง  ได้รับความเสื่อมเสีย
    เข้าข่ายความผิดฐานหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 326, 328

3. ชายคนหนึ่ง  ทำความผิดฐานหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณาในกระทู้เล่าเรื่องหลายกรรม
    เป็นการแสดงเจตนามุ่งให้ ผู้หญิงคนหนึ่ง ได้รับความเสียหาย  ตามหลักกฎหมายเรียกว่าเป็นพฤติกรรมการกระทำผิดโดยสันดาน
    มิใช่กระทำผิดด้วยอารมณ์ชั่ววูบ หรือผิดพลาดโดยพลั้งเผลอ  เข้าหลักเจตนาตามหลักกฎหมายอาญาชัดแจ้ง

4. ชายคนหนึ่ง  นอกจากเจตนาทำให้ ผู้หญิงคนหนึ่ง ได้รับความเสื่อมเสียต่อสาธารณะแล้ว
    ยังประกาศต่อสาธาณระว่าจะฟ้องร้องดำเนินคดีกับ หญิงคนหนึ่ง โดยไม่สำนึกสักนิดว่าเป็นตัวเองต่างหากที่จะถูกดำเนินคดี

5. หญิงคนหนึ่ง เมื่อถูกใส่ความให้ได้รับความเสื่อมเสีย  ก็ได้ตอบโต้คำกล่าวหาของ ชายคนหนึ่ง  เพื่อปกป้องตัวเอง
    ซึ่งไม่ถือเป็นความผิดใด ๆ  เพราะกฎหมายให้ความคุ้มครอง ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 329

6. การเล่าเรื่องของ ชายคนหนึ่ง  เต็มไปด้วยการโหก  เล่าเรื่องเพียงบางด้าน  เล่าแบบสร้างเรื่อง
    เพื่อให้ตัวเองดูดี เพื่อให้ หญิงคนหนึ่ง เสียหาย

7. การกระทำของ ชายคนหนึ่ง  เป็นการพาตัวเองเดินสู่ประตูคุกอย่างไม่มีทางเลี่ยง  
    พฤติกรรม  หลักฐาน  พยาน  มัดตัวเองแบบไม่มีทางดิ้นหลุด  ไม่มีข้อต่อสู้ใด ๆ ทางกฎหมาย

8. การกระทำผิดของ ชายคนหนึ่ง  ในทางกฎหมายถือว่าเป็น "ตัวการ" ในการกระทำผิด
    และหากมีใครให้ความเห็นด้วย  เชียร์  ไม่ว่าทางเฟซบุค  หรือทางอื่นใด  นับว่าเป็น "ผู้สนับสนุน"
    ถือเป็นผู้ร่วมกระทำผิด  มีโทษทางอาญา 1 ใน 3  ของ "ตัวการ"

9. สำหรับผู้ให้กิ๊ฟ ชายคนหนึ่ง  ในกระทู้ที่กระทำผิดนั้น  อาจถูกเจ้าพนักงานเรียกไปสอบปากคำในฐานะพยาน
    โดนสอบปากคำเข้าไป  ให้ปากคำไม่ดี  อาจกลายเป็น "จำเลยร่วม" เอาง่าย ๆ



จากเรื่องราวที่ไล่เรียงมา    สรุปได้ดังนี้  คือ

ชายคนหนึ่ง  ใส่ความ  หญิงคนหนึ่ง  ต่อบุคคลที่สามในเว็บบอร์ดสาธารณะ
และยังขู่ฟ้องร้องดำเนินคดีกับ หญิงคนหนึ่ง

เป็นเรื่องน่าขำ ปนน่าสมเพช  ที่แสดงให้เห็นถึงวุฒิภาวะ และความด้อยความรุ้ของ ชายคนหนึ่ง
เป็นการสร้างความเดือดร้อนให้ตัวเองอย่างสิ้นคิด  เป็นการขุดหลุมผังตัวเองทั้งเป็น

ทำผิด  แถมยังขู่

ทำให้นึกถึงสำนวนที่ว่า  โจรปล้นเจ้าทรัพย์  แล้วยังขู่ฟ้องเจ้าทรัพย์ซะอีก

อย่างนี้  ศาลท่านไม่มีทางเมตตา  ไม่มีทางรอลงอาญา   จะโดนจำคุกมากหรือน้องเท่านั้นเอง



ทางออก

ชายคนหนึ่ง  ควรรีบติดต่อขอโทษ หญิงคนหนึ่ง  โดยเร็ว  

ถ้า หญิงคนหนึ่ง  ให้กราบขอโทษ  ก็ควรทำซะ  ดีกว่าติดคุก

นอกจากติดคุกแล้ว  ยังอาจต้องโดนศาลสั่งให้ตั้งกระทู้ขอโทษ  
ที่กระทู้จะโดนแชร์ไปทั่วโลก  รู้ถึงไหนอายถึงนั่น  ไม่มีที่ยืนในสังคม




ชอบนัก  ชอบมีเรื่องกับผู้หญิง  ไม่รู้โดนเข้าไปกี่คดีแล้ว
รีบติดต่อขอโทษซะเถอะ

บอกไว้ก่อน  งานนี้  บรรดาเธอ ๆ  ไม่มียอมความหากเรื่องถึงศาล
ฉะนั้น  ให้รีบติดต่อขอโทษไกล่เกลี่ยยอมความซะโดยเร็ว  ก่อนที่จะสายเกินไป



เกิดมาชาติหนึ่ง   ทำในสิ่งที่ถูกต้องสักเรื่องเหอะ