เริ่มเขียนกระทู้ครั้งแรกแบบจริงจัง
ตัวเราก่อนที่ จะจัดทริปไปไหนก็หาข้อมูลจากกระทู้คนอื่นเหมือนกัน พอไปมาจริงๆเลยอยากมาแชร์บ้าง เผื่อเป็นประโยชน์ได้บ้าง
*ถ้าผิดพลาดตรงไหนขอโทษด้วยจ้า*
ทริปที่ไปมาล่าสุด เวียดนามใต้ ดาลัด มุยเน่ โฮจิมินห์ 30 ธันวา – 3 มกรา 2018
ตั๋วเครื่องบินตอนแรกเราจองของ Thai Lion Air ได้ราคาสามพันนิดๆ แต่โดนเทเพราะเส้นทางที่ไปเวียดนามถูกยกเลิกเลยจองใหม่กับของ Air Asia ประมาณ ห้าพันนิดๆ
ข้อแนะนำก่อนไปคือ สำหรับคนที่ไปช่วงเทศกาลเหมือนเรานะ
1. ให้จองตั๋วรถนอนจากเว็บไซต์ไปก่อนเลย เราจองกับบริษัท Futa Buslines ที่คนไทยฮิตๆ เพราะเราไปช่วงเทศกาลกลัวตั๋วหมด เข้าไปดูวิธีการที่กระทู้นี้
https://pantip.com/topic/36000192 ต้องขอบคุณเจ้าของกระทู้นี้จริงๆ บอกแบบละเอียดมาก แต่เพิ่มเติมนิดนึง พอถึงขึ้นตอนที่ต้องเลือก Pick up point ให้เลือกไปเลยอะไรก็ได้เพราะยังไงเราอ่านไม่ออก แล้วก็ไม่รู้ว่าอยู่ตรงไหน พอถึงนู้นให้ไปขึ้นที่ “ฟาร์มงูเหลา” (ควรเลือกรอบ 23:40 จะได้ไปถึงตอนที่เช้าแล้ว)
2. ตั๋วเครื่องบินควรเลือกรอบบินที่ถึงโฮจิมินห์มืดๆหน่อยสัก ทุ่มสองทุ่ม ไปถึงจะได้ไม่ต้องรอขึ้น Sleeping Bus นาน อ่อแล้วก็ที่เราอ่านมาเค้าบอกว่าใช้เวลาเกือบ 7 ชั่วโมง แต่ตอนที่เราไปใช้เวลาแค่ 5 ชั่วโมงนิดๆ ถึงดาลัดตีสี่ครึ่ง งงดิ้ หนาวก็หนาวไม่รู้จะไปอยู่ไหน (เดี๋ยวบอกข้างล่างว่าไปอยู่ไหน)
3. เอาเสื้อกันหนาวติดไปหน่อยเพราะดาลัดหนาว แล้วหนาวทั้งปี หนาวตลอดวันถึงจะมีแดดก็หนาว
4. สำหรับเราแลกเงินดองไป 6,000 บาท ได้มา 4,100,000 ดอง กับเงินดอลลาร์ ไปอีกเกือบร้อยเหรียญ นี่สำหรับสองคน รวมคือประมาณ 9,000 บาท
5. เราโหลดแอฟ Uni Converter มามีประโยชน์มาก แต่แอฟต้องใช้อินเตอร์เน็ตนะ หน้าตาประมาณนี้

มาเริ่ม!! (30 Dec 17)
ออกจากกรุงเทพเกือบ 4 โมงเย็น ถึงนู้น 6 โมงนิดๆ พอออกจากสนามบินจะเห็นร้านขายซิมเยอะมาก เราเลือก Vinaphone ที่ร้านสีฟ้าๆ 5gb. ใช้ได้หนึ่งเดือนราคาประมาณ 105,000 ดอง หรือ ประมาณ เกือบๆ ร้อยห้าสิบบาท (เลือกร้านนี้เพราะราคาถูกสุด)
พอถึงหน้าประตูทางออกคนเยอะมากโดยเฉพาะพวกแท็กซี่จะเรียกตลอดเวลา บางคนมีการสะกิดด้วยไม่ต้องไปสนใจห้ามหยุดฟังเด็ดขาด ให้รีบเดินไปขึ้นรถเมล์เลย

แต่ให้เราไปถึงรถเมล์ 152 สีเขียวๆ จะจอดอยู่ทางขวามือของทางออก เดินแบบใครเรียกไม่ต้องสนใจพอขึ้นรถบอกคนขับแค่ว่า “ฟาร์มงูเหลา” ถึงแล้วเค้าจะบอกเอง ก็อปชื่อภาษาอังกฤษไปด้วยก็ดีนะ ไว้เสิร์ชในกูเกิ้ลแมป “Pham Ngu Lao”

ค่ารถคนละ 5,000 VND หรือ บาทคือถูกมาก (ให้วางกระเป๋าไว้ตรงที่ๆเรานั่งไม่งั้นเค้าจะคิดค่ารถเพิ่มเป็นอีกที่นึง)

ใช้เวลาประมาณ 30 นาทีนิดๆตอนก่อนลง ลุงกระเป๋ารถเมล์ก็ชี้ๆให้เดินเข้าไปในซอย แต่เราก็เปิดแมปไปด้วยเดินไม่นานก็ถึง 'ฟาร์มงูเหลา' ลักษณะเป็นซอยยาวๆ ริมถนนคนเยอะมาก คึกคักมีร้านผับบาร์เปิดเพลงครึกครื้นพอสมควร อ่อลืมบอกพอเข้ามาบนถนนเส้นนี้ เราเสิร์ชในแมปใหม่ว่า Futa Buslines office มันก็จะขึ้นที่ที่เราต้องไปเอาตั๋วรถนอน หรือไม่ก็ให้สังเกตร้านกาแฟ Highland Coffee ร้านใหญ่ๆตรงหัวมุมให้เลี้ยวซ้ายเข้าซอยไปเลยเดินไปอีกนิดนึงประมาณไม่เกิน 20 ก้าวมีป้ายสีส้มๆ

ขอบคุณรูปภาพอ้างอิงจาก
http://erikaevatohtravels.com/2015/10/4d3n-backpacking-mui-ne-without-a-tour-part-3-futa-phuong-trang-buslines-double-decker-sleeper-bus-from-saigon-hcmc-to-phan-tiet-mui-ne/
แล้วก็เดินเอาเอกสารการจองออนไลน์ไปให้พนักงานหน้าเคาน์เตอร์ดู แล้วเค้าก็จะออกตั๋วมาให้ พนักงานบอกว่าให้มารอที่ท่ารถตรงนี้สิบนาทีก่อนเวลารถออก
เราก็เลยเดินหาอะไรกินที่ไม่ได้ไกลจากซอยท่ารถมาก ตอนนั้นเวลาน่าจะสักทุ่มครึ่งเกือบสองทุ่ม หรือถ้าใครไม่อยากเดินไปไหน แนะนำร้านกาแฟ Highland ตรงหัวมุมนั้นแหละ ร้านปิด 5 ทุ่ม
พอหาอะไรรองท้องเรียบร้อยก็นั่งชิวร้านกาแฟ เวลาขึ้นรถ 23:15 พอไปยืนรอก่อนเวลาสิบนาที จริงๆคือรอนานกว่านั้นมากเพราะช่วงเทศกาลนักท่องเที่ยวเยอะมากกว่าปกติ กว่าเราจะได้ขึ้นรถก็เกือบเที่ยงคืน (พอเห็นรถมาจอดให้ถามพนักงานแถวนั้นบ่อยๆ กันรอบมั่ว ยื่นตั๋วให้เค้าดู)
พอได้เวลาจะมี Shuttle bus มารับ ใช้เวลาประมาณ15-20 นาทีเค้าจะพาไปต่อที่จุดขึ้นรถนอนอีกที
*ก่อนขึ้นรถนอนจะต้องถอดรองเท้าใส่ถุง* กระเป๋าถ้าใหญ่เกินต้องเก็บไว้ใต้ท้องรถ เพราะงั้นให้แยกของมีค่าออกมาก่อนไว้ในกระเป๋าพกเล็กๆ กับติดเสื้อกันหนาวไว้หน่อยบนรถเปิดแอร์เย็นมาก ผ่านไปประมาณเกือบสามชั่วโมงเค้าจะแวะให้เข้าห้องน้ำตามจุดพักรถ
สรุปค่าใช้จ่ายคร่าวๆ ที่จำเป็นนะ
ค่าซิม 105,000 VND
ค่ารถเมล์คนละ 5,000 VND
ค่ากิน ค่ากาแฟ อันนี้ไม่จำเป็นแล้วแต่คน
ประมาณนี้ เพราะเราจองรถนอนมาจากไทยคนละ 210,000 VND
31 Dec 17
เราถึงดาลัดตอน ตีสี่ครึ่งซึ่งเร็วกว่าที่คิดไว้มากต้องตั้งหลักก่อน พอตั้งหลักได้ให้เราไปยืนรอตรงทางที่รถทัวร์จอดมันจะมีรถตู้มารับเข้าไปในตัวเมืองดาลัดอีกที แต่เนื่องด้วยคนที่นี่ไม่พูดภาษาอังกฤษ ก็ให้เราเตรียมที่อยู่ของที่พักที่เราจองมาให้คนขับรถตู้ดูแล้วเค้าจะจัดให้ว่าเราต้องไปคันไหน *แนะนำว่าต้องยื่นให้คนขับรถตู้ดูถึงจะไม่คุยกับเราก็ต้องยื่น ต้องถามตลอดจนกว่าจะได้ขึ้นรถ*
มันคือเรื่องจริงมีนักท่องเที่ยวต่างชาติบางคน รอมาเป็นชั่วโมงยังไม่ได้ขึ้นเพราะมันจะชุลมุนมาก
พอรถตู้มาส่งแถวที่พักแล้วแต่ที่พักยังไม่เปิด แน่ล่ะนั้นมันเกือบตีห้าเอง เราใช้วิธีหาร้านคาเฟ่นั่งรอ สังเกตร้านที่มีอาเจ็กอาแปะนั่งออกมาหน้าร้านเยอะๆ แต่ต้องทำใจเลยว่าเค้าสูบบุหรี่กันจัดมากให้เค้าไปนั่งในๆ แล้วก็สั่งกาแฟจะมาพร้อมชาร้อน แก้วละ 10,000 VND
ฟ้าเริ่มสว่างประมาณหกโมงครึ่งเราเลยเปิดแมปเดินไปที่พักแต่ยังเช็คอินไม่ได้ ขอเค้าเข้าห้องน้ำกับฝากกระเป๋าเสื้อผ้าไว้แล้วออกไปเดินหาทัวร์เที่ยวดาลัด (อยากเช้ามอไซด์นะแต่อากาศหนาวมาก เลยจองทัวร์ดีกว่า)
เราพักที่ Dreams Hotel โดยรวมถือว่าดีมาก ห้องดี สะอาด เจ้าของเป็นป้าที่พูดภาษาอังกฤษดีมากๆ คืนละพันนิดๆ จองกับอโกด้า
สัก 8 โมงเราออกมาเดินหาทัวร์ สรุปได้ที่โรงแรม Backpacker คนละ 120,000 VDN แล้วเราก็จองรถทัวร์ไปมุยเน่เลยรอบเจ็ดโมงเช้าคนละ 170,000 VDN
พอเสร็จทัวร์จะมารับประมาณ 8.30 น. ทัวร์ถึงประมาณ 18.30 น.
ทัวร์เราพาไป 6 ที่มี
• Summer Palace
• Chicken Church
• Cable Car
• Truc Lam Mediation
• Datanla Waterfall
• Van Hanh Pogoda
• Flower Garden
พอทัวร์เราก็กลับที่พักแล้วออกมาเดินเล่นรอบๆตัวเมืองมีคาเฟ่น่ารักมาก ชื่อ An Café
พอเสร็จจากคาเฟ่เราก็เดินหาอะไรทานอีกรอบ ถามป้าที่ที่พักเค้าบอกให้เดินขึ้นจากที่พักไป 500 เมตร จะเจอร้านนึงอยู่ในซอยเล็กๆ เป็นร้านขายเหมือนราดหน้า สุกี้ประมาณนี้นะ รสชาติอร่อยเลย จานละ 30,000 VND ถึงที่พักก็หลับยาว (ไม่มีรูปตอนนั้นหิวมาก)
สรุปค่าใช้จ่ายคร่าวๆ ที่จำเป็นนะ
ค่าทัวร์ดาลัดกับ ค่ารถทัวร์ไปมุยเน่ ราคารวมสองคน 580,000 VDN (ค่ารถคนละ 170,000 VND)
ค่าอาหารกลางวันที่ทัวร์แวะให้ราคาแล้วแต่สั่ง
ค่ากาแฟที่ An Café 125,000 VND
ค่าอาหารเย็น 60,000 VND
1 Jan 18
รถมารับที่ที่พักประมาณ 7.30 น. ขึ้นรถหาที่นั่ง แล้วเค้าก็จะวนไปรับคนอื่นๆ ที่จองตั๋วรถไว้ *ข้อควรระวังคืออย่าให้ใบเสร็จที่เป็นหลักฐานการจองตั๋วรถ กับคนที่มาตรวจบนรถทัวร์เด็ดขาด เคสเราเป็นวันปีใหม่พอดีนักท่องเที่ยวที่ไปมุยเน่เยอะมากเกือบโดนโมเมว่าเราไม่มีตั๋วรถ แล้วให้เราลงไปซื้อตั๋วใหม่ที่จุดขึ้นรถของบริษัทรถทัวร์ เรายืนกรานว่าเราให้ตั๋วกับป้าที่มาเก็บตั๋วตอนแรกไปแล้ว คนที่บริษัทรถทัวร์เหมือนรำคาญก็เลยไม่ได้อะไรกับเราต่อ
ใช้เวลาประมาณเกือบห้าชั่วโมงก็ถึงมุยเน่ เพิ่มเติมถนนบนเขาไม่ค่อยดี
รถจะจอดจุดเดียวเลยคือสถานีของรถทัวร์หยิบกระเป๋าเรียกแท็กซี่ให้ไปส่งที่พักแล้วก็เดินหาซื้อทัวร์มุยเน่ ครึ่งวันบ่าย(13:30-18:00) เราซื้อข้างๆที่พักเลย ราคาแบบเหมารถจิ๊บไปสองคน 550,000 VND
เค้าก็จะพาที่ฮิตๆ 4 ที่
• Fairy Stream
• Fish Village
• White Sand Dune
• Red Sand Dune
ทีเด็ดอยู่ตรงที่ White San Due พอไปถึงไกด์คนขับที่ไปกับเราก็เชียร์ให้เหมารถATV คันใหญ่แบบมีคนขับให้
คนละ 400,000 VND หรือประมาณ 1,200 บาทไทยแพงกว่าค่ารถจิ๊บที่มานี่อีก
แต่สรุปเข้าใจละทำไมแพง คนขับพามาขับรถวิบากเฉย แบบขึ้น-ลงหน้าผาทะเลทราบแบบ 90 องศา หวาดเสียวมากหัวใจจะหลุดอารมณ์แบบรถไต่ถัง แล้ววนอยู่หลายทีมากแบบมันสุดๆ ทรายเข้าหัวเข้าหูไปหมดรวมๆแล้วก็สนุกดีคุ้มราคา
พอเสร็จจะทะเลทรายขาวไกด์เราก็พามาต่อที่ทะเลทรายแดงเพื่อดูพระอาทิตย์ตกคือสวยมากกกก
จากนั้นก็มาส่งถึงที่พัก จัดการตัวเองให้เรียบร้อยแล้วก็ไปหาอะไรกินตั้งใจว่าต้องกินอาหารทะเลที่มุยเน่ให้ได้ เพราะได้ยินว่าถูกมาก
และมันก็ถูกมากจริงๆ รถชาติก็ดีของสดมากๆ กุ้งตัวใหญ่ๆแบบกุ้งแม่น้ำบ้านเราตัวละประมาณ 150 บาทเท่านั้น หอยนางรมสดมากตัวละ 30บาท คือเค้าจะมีตู้แช่แบบเป็นๆเลยให้เลือกชั่งเป็นกิโลเลย แล้วที่ร้านจะมีบริการทำให้แบบไหนก็ได้ มีทั้งแบบเผา นึ่ง ผัดพริกเกลือ
เรากินแบบเยอะมากหมดไป 1,227,000 VND หรือประมาณพันนิดๆ ถือว่าคุ้มราคามากเสียนิดนึงคือไม่มีน้ำจิ้มซีฟู้ดแซ่บๆแบบบ้านเรา
กินเสร็จกลับที่พักนอน ลืมบอกเราจองตั๋วรถจากมุยเน่ไปโฮจิมินห์รอบตี 3:30 เป็นรถนอนเหมือนเดิมถึงโฮจิมินห์ประมาณ 7-8 โมงเช้า
สรุปค่าใช้จ่าย
ค่าทัวร์มุยเน่ 550,000 VND
ค่ากินซีฟู้ดตอนเย็น 1,227,000 VND
ค่าจิปาถะ ซื้อน้ำ ขนม หมวกเวียดนาม และค่าข้าวมื้อกลางวัน แล้วแต่คนนะตรงนี้
2 Jan 18
ก็ไปที่พักเราจองที่พักแถวๆฟาร์มงูเหลาเลยก็ฝากกระเป๋าแล้วก็ออกมาเที่ยวต่อ
เราเริ่มจากขอแผนที่ของที่พักมา แล้วก็เลือกที่ๆอยากไป เพราะเราเลือกที่จะเดิน เลยคิดว่าไม่น่าเก็บได้หมด
ที่ไปมาก็มี
City Tour #1
• Museum of Ho Chi Minh City ค่าเข้าคนละ 30,000 VND มีกล้องคิดเงินเพิ่ม เราเลยเก็บกล้องใช้โทรศัพท์ถ่ายเอา
• Opera House ไม่ได้เข้าไปดูการแสดง แค่ถ่ายรูปข้างหน้าเฉยๆ
• Central Post Office ไม่มีค่าเข้าแต่ถ้าไปแล้วอย่าลืมเขียนโปสการ์ด
• Notre-Dame Cathedal ตอนที่เราไปเค้าไม่ให้เข้าปิดรีโนเวท ได้ถ่ายแค่ข้างหน้า
• ตอนเย็นออกมาดูโชว์น้ำพุ ที่จัตุรัสโฮจิมินห์
3 Jan 18 City tour #2
• เริ่มเช้าวันใหม่ด้วยการไปกิน Pho 2,000 เค้าว่าอร่อยพอไปกินก็อร่อยจริง
• ไปต่อที่ Fine Art Museum แนวแบบภาพวาดศิลปะเยอะๆ
• ไปเดินเล่น ตลาด Ben Thanh เป็นของเยอะๆ แนวสัมเพ็งบวกมาบุญครองบ้านเรา
• ไปนั่งเล่นที่ Café Apartment ตรงจัตุรัสโฮจิมินห์ รอประมาณเกือบบ่ายสามแล้วนั่งแท็กซี่ไปแอร์พอร์ตรอขึ้นเครื่องรอบ 6 โมงเย็น เครื่องดีเลย์แปปนึงเลยถึงกรุงเทพ เกือบ 2 ทุ่ม
สรุปค่าใช้จ่าย วันที่ 2 และ 3 ตรงนี้คือใช้เงินน้อยมาก ส่วนใหญ่คือกินข้าวเราไม่ได้กินแพง ตรงนี้แล้วแต่คนเลย
จบทริปแล้วววว ถ้ามีเขียนตัวสะกดผิดบ้างขออภัยนะค้า
ค่าใช้จ่ายทริปนี้ เงินไทยประมาณ 9,000 บาทสำหรับสองคน ไม่รวมค่าเครื่อง
ปล. เดี๋ยวเรามาอัพรูปสถานที่ต่างๆที่ไปมาตลอดทริปให้ชมวันหลังนะคะ วันนี้พอแค่นี้ก่อน
[CR] มนุษย์เงินเดือนเที่ยวได้ ดาลัด มุยเน่ โฮจิมินห์ 5 วัน 4 คืน by Love to Travel
ตัวเราก่อนที่ จะจัดทริปไปไหนก็หาข้อมูลจากกระทู้คนอื่นเหมือนกัน พอไปมาจริงๆเลยอยากมาแชร์บ้าง เผื่อเป็นประโยชน์ได้บ้าง
*ถ้าผิดพลาดตรงไหนขอโทษด้วยจ้า*
ตั๋วเครื่องบินตอนแรกเราจองของ Thai Lion Air ได้ราคาสามพันนิดๆ แต่โดนเทเพราะเส้นทางที่ไปเวียดนามถูกยกเลิกเลยจองใหม่กับของ Air Asia ประมาณ ห้าพันนิดๆ
ข้อแนะนำก่อนไปคือ สำหรับคนที่ไปช่วงเทศกาลเหมือนเรานะ
1. ให้จองตั๋วรถนอนจากเว็บไซต์ไปก่อนเลย เราจองกับบริษัท Futa Buslines ที่คนไทยฮิตๆ เพราะเราไปช่วงเทศกาลกลัวตั๋วหมด เข้าไปดูวิธีการที่กระทู้นี้ https://pantip.com/topic/36000192 ต้องขอบคุณเจ้าของกระทู้นี้จริงๆ บอกแบบละเอียดมาก แต่เพิ่มเติมนิดนึง พอถึงขึ้นตอนที่ต้องเลือก Pick up point ให้เลือกไปเลยอะไรก็ได้เพราะยังไงเราอ่านไม่ออก แล้วก็ไม่รู้ว่าอยู่ตรงไหน พอถึงนู้นให้ไปขึ้นที่ “ฟาร์มงูเหลา” (ควรเลือกรอบ 23:40 จะได้ไปถึงตอนที่เช้าแล้ว)
2. ตั๋วเครื่องบินควรเลือกรอบบินที่ถึงโฮจิมินห์มืดๆหน่อยสัก ทุ่มสองทุ่ม ไปถึงจะได้ไม่ต้องรอขึ้น Sleeping Bus นาน อ่อแล้วก็ที่เราอ่านมาเค้าบอกว่าใช้เวลาเกือบ 7 ชั่วโมง แต่ตอนที่เราไปใช้เวลาแค่ 5 ชั่วโมงนิดๆ ถึงดาลัดตีสี่ครึ่ง งงดิ้ หนาวก็หนาวไม่รู้จะไปอยู่ไหน (เดี๋ยวบอกข้างล่างว่าไปอยู่ไหน)
3. เอาเสื้อกันหนาวติดไปหน่อยเพราะดาลัดหนาว แล้วหนาวทั้งปี หนาวตลอดวันถึงจะมีแดดก็หนาว
4. สำหรับเราแลกเงินดองไป 6,000 บาท ได้มา 4,100,000 ดอง กับเงินดอลลาร์ ไปอีกเกือบร้อยเหรียญ นี่สำหรับสองคน รวมคือประมาณ 9,000 บาท
5. เราโหลดแอฟ Uni Converter มามีประโยชน์มาก แต่แอฟต้องใช้อินเตอร์เน็ตนะ หน้าตาประมาณนี้
มาเริ่ม!! (30 Dec 17)
ออกจากกรุงเทพเกือบ 4 โมงเย็น ถึงนู้น 6 โมงนิดๆ พอออกจากสนามบินจะเห็นร้านขายซิมเยอะมาก เราเลือก Vinaphone ที่ร้านสีฟ้าๆ 5gb. ใช้ได้หนึ่งเดือนราคาประมาณ 105,000 ดอง หรือ ประมาณ เกือบๆ ร้อยห้าสิบบาท (เลือกร้านนี้เพราะราคาถูกสุด)
พอถึงหน้าประตูทางออกคนเยอะมากโดยเฉพาะพวกแท็กซี่จะเรียกตลอดเวลา บางคนมีการสะกิดด้วยไม่ต้องไปสนใจห้ามหยุดฟังเด็ดขาด ให้รีบเดินไปขึ้นรถเมล์เลย
แต่ให้เราไปถึงรถเมล์ 152 สีเขียวๆ จะจอดอยู่ทางขวามือของทางออก เดินแบบใครเรียกไม่ต้องสนใจพอขึ้นรถบอกคนขับแค่ว่า “ฟาร์มงูเหลา” ถึงแล้วเค้าจะบอกเอง ก็อปชื่อภาษาอังกฤษไปด้วยก็ดีนะ ไว้เสิร์ชในกูเกิ้ลแมป “Pham Ngu Lao”
ค่ารถคนละ 5,000 VND หรือ บาทคือถูกมาก (ให้วางกระเป๋าไว้ตรงที่ๆเรานั่งไม่งั้นเค้าจะคิดค่ารถเพิ่มเป็นอีกที่นึง)
ใช้เวลาประมาณ 30 นาทีนิดๆตอนก่อนลง ลุงกระเป๋ารถเมล์ก็ชี้ๆให้เดินเข้าไปในซอย แต่เราก็เปิดแมปไปด้วยเดินไม่นานก็ถึง 'ฟาร์มงูเหลา' ลักษณะเป็นซอยยาวๆ ริมถนนคนเยอะมาก คึกคักมีร้านผับบาร์เปิดเพลงครึกครื้นพอสมควร อ่อลืมบอกพอเข้ามาบนถนนเส้นนี้ เราเสิร์ชในแมปใหม่ว่า Futa Buslines office มันก็จะขึ้นที่ที่เราต้องไปเอาตั๋วรถนอน หรือไม่ก็ให้สังเกตร้านกาแฟ Highland Coffee ร้านใหญ่ๆตรงหัวมุมให้เลี้ยวซ้ายเข้าซอยไปเลยเดินไปอีกนิดนึงประมาณไม่เกิน 20 ก้าวมีป้ายสีส้มๆ
แล้วก็เดินเอาเอกสารการจองออนไลน์ไปให้พนักงานหน้าเคาน์เตอร์ดู แล้วเค้าก็จะออกตั๋วมาให้ พนักงานบอกว่าให้มารอที่ท่ารถตรงนี้สิบนาทีก่อนเวลารถออก
เราก็เลยเดินหาอะไรกินที่ไม่ได้ไกลจากซอยท่ารถมาก ตอนนั้นเวลาน่าจะสักทุ่มครึ่งเกือบสองทุ่ม หรือถ้าใครไม่อยากเดินไปไหน แนะนำร้านกาแฟ Highland ตรงหัวมุมนั้นแหละ ร้านปิด 5 ทุ่ม
พอหาอะไรรองท้องเรียบร้อยก็นั่งชิวร้านกาแฟ เวลาขึ้นรถ 23:15 พอไปยืนรอก่อนเวลาสิบนาที จริงๆคือรอนานกว่านั้นมากเพราะช่วงเทศกาลนักท่องเที่ยวเยอะมากกว่าปกติ กว่าเราจะได้ขึ้นรถก็เกือบเที่ยงคืน (พอเห็นรถมาจอดให้ถามพนักงานแถวนั้นบ่อยๆ กันรอบมั่ว ยื่นตั๋วให้เค้าดู)
พอได้เวลาจะมี Shuttle bus มารับ ใช้เวลาประมาณ15-20 นาทีเค้าจะพาไปต่อที่จุดขึ้นรถนอนอีกที
*ก่อนขึ้นรถนอนจะต้องถอดรองเท้าใส่ถุง* กระเป๋าถ้าใหญ่เกินต้องเก็บไว้ใต้ท้องรถ เพราะงั้นให้แยกของมีค่าออกมาก่อนไว้ในกระเป๋าพกเล็กๆ กับติดเสื้อกันหนาวไว้หน่อยบนรถเปิดแอร์เย็นมาก ผ่านไปประมาณเกือบสามชั่วโมงเค้าจะแวะให้เข้าห้องน้ำตามจุดพักรถ
ค่าซิม 105,000 VND
ค่ารถเมล์คนละ 5,000 VND
ค่ากิน ค่ากาแฟ อันนี้ไม่จำเป็นแล้วแต่คน
ประมาณนี้ เพราะเราจองรถนอนมาจากไทยคนละ 210,000 VND
31 Dec 17
เราถึงดาลัดตอน ตีสี่ครึ่งซึ่งเร็วกว่าที่คิดไว้มากต้องตั้งหลักก่อน พอตั้งหลักได้ให้เราไปยืนรอตรงทางที่รถทัวร์จอดมันจะมีรถตู้มารับเข้าไปในตัวเมืองดาลัดอีกที แต่เนื่องด้วยคนที่นี่ไม่พูดภาษาอังกฤษ ก็ให้เราเตรียมที่อยู่ของที่พักที่เราจองมาให้คนขับรถตู้ดูแล้วเค้าจะจัดให้ว่าเราต้องไปคันไหน *แนะนำว่าต้องยื่นให้คนขับรถตู้ดูถึงจะไม่คุยกับเราก็ต้องยื่น ต้องถามตลอดจนกว่าจะได้ขึ้นรถ*
มันคือเรื่องจริงมีนักท่องเที่ยวต่างชาติบางคน รอมาเป็นชั่วโมงยังไม่ได้ขึ้นเพราะมันจะชุลมุนมาก
พอรถตู้มาส่งแถวที่พักแล้วแต่ที่พักยังไม่เปิด แน่ล่ะนั้นมันเกือบตีห้าเอง เราใช้วิธีหาร้านคาเฟ่นั่งรอ สังเกตร้านที่มีอาเจ็กอาแปะนั่งออกมาหน้าร้านเยอะๆ แต่ต้องทำใจเลยว่าเค้าสูบบุหรี่กันจัดมากให้เค้าไปนั่งในๆ แล้วก็สั่งกาแฟจะมาพร้อมชาร้อน แก้วละ 10,000 VND
ฟ้าเริ่มสว่างประมาณหกโมงครึ่งเราเลยเปิดแมปเดินไปที่พักแต่ยังเช็คอินไม่ได้ ขอเค้าเข้าห้องน้ำกับฝากกระเป๋าเสื้อผ้าไว้แล้วออกไปเดินหาทัวร์เที่ยวดาลัด (อยากเช้ามอไซด์นะแต่อากาศหนาวมาก เลยจองทัวร์ดีกว่า)
เราพักที่ Dreams Hotel โดยรวมถือว่าดีมาก ห้องดี สะอาด เจ้าของเป็นป้าที่พูดภาษาอังกฤษดีมากๆ คืนละพันนิดๆ จองกับอโกด้า
สัก 8 โมงเราออกมาเดินหาทัวร์ สรุปได้ที่โรงแรม Backpacker คนละ 120,000 VDN แล้วเราก็จองรถทัวร์ไปมุยเน่เลยรอบเจ็ดโมงเช้าคนละ 170,000 VDN
พอเสร็จทัวร์จะมารับประมาณ 8.30 น. ทัวร์ถึงประมาณ 18.30 น.
ทัวร์เราพาไป 6 ที่มี
• Summer Palace
• Chicken Church
• Cable Car
• Truc Lam Mediation
• Datanla Waterfall
• Van Hanh Pogoda
• Flower Garden
พอทัวร์เราก็กลับที่พักแล้วออกมาเดินเล่นรอบๆตัวเมืองมีคาเฟ่น่ารักมาก ชื่อ An Café
พอเสร็จจากคาเฟ่เราก็เดินหาอะไรทานอีกรอบ ถามป้าที่ที่พักเค้าบอกให้เดินขึ้นจากที่พักไป 500 เมตร จะเจอร้านนึงอยู่ในซอยเล็กๆ เป็นร้านขายเหมือนราดหน้า สุกี้ประมาณนี้นะ รสชาติอร่อยเลย จานละ 30,000 VND ถึงที่พักก็หลับยาว (ไม่มีรูปตอนนั้นหิวมาก)
ค่าทัวร์ดาลัดกับ ค่ารถทัวร์ไปมุยเน่ ราคารวมสองคน 580,000 VDN (ค่ารถคนละ 170,000 VND)
ค่าอาหารกลางวันที่ทัวร์แวะให้ราคาแล้วแต่สั่ง
ค่ากาแฟที่ An Café 125,000 VND
ค่าอาหารเย็น 60,000 VND
1 Jan 18
รถมารับที่ที่พักประมาณ 7.30 น. ขึ้นรถหาที่นั่ง แล้วเค้าก็จะวนไปรับคนอื่นๆ ที่จองตั๋วรถไว้ *ข้อควรระวังคืออย่าให้ใบเสร็จที่เป็นหลักฐานการจองตั๋วรถ กับคนที่มาตรวจบนรถทัวร์เด็ดขาด เคสเราเป็นวันปีใหม่พอดีนักท่องเที่ยวที่ไปมุยเน่เยอะมากเกือบโดนโมเมว่าเราไม่มีตั๋วรถ แล้วให้เราลงไปซื้อตั๋วใหม่ที่จุดขึ้นรถของบริษัทรถทัวร์ เรายืนกรานว่าเราให้ตั๋วกับป้าที่มาเก็บตั๋วตอนแรกไปแล้ว คนที่บริษัทรถทัวร์เหมือนรำคาญก็เลยไม่ได้อะไรกับเราต่อ
ใช้เวลาประมาณเกือบห้าชั่วโมงก็ถึงมุยเน่ เพิ่มเติมถนนบนเขาไม่ค่อยดี
รถจะจอดจุดเดียวเลยคือสถานีของรถทัวร์หยิบกระเป๋าเรียกแท็กซี่ให้ไปส่งที่พักแล้วก็เดินหาซื้อทัวร์มุยเน่ ครึ่งวันบ่าย(13:30-18:00) เราซื้อข้างๆที่พักเลย ราคาแบบเหมารถจิ๊บไปสองคน 550,000 VND
เค้าก็จะพาที่ฮิตๆ 4 ที่
• Fairy Stream
• Fish Village
• White Sand Dune
• Red Sand Dune
ทีเด็ดอยู่ตรงที่ White San Due พอไปถึงไกด์คนขับที่ไปกับเราก็เชียร์ให้เหมารถATV คันใหญ่แบบมีคนขับให้
คนละ 400,000 VND หรือประมาณ 1,200 บาทไทยแพงกว่าค่ารถจิ๊บที่มานี่อีก
แต่สรุปเข้าใจละทำไมแพง คนขับพามาขับรถวิบากเฉย แบบขึ้น-ลงหน้าผาทะเลทราบแบบ 90 องศา หวาดเสียวมากหัวใจจะหลุดอารมณ์แบบรถไต่ถัง แล้ววนอยู่หลายทีมากแบบมันสุดๆ ทรายเข้าหัวเข้าหูไปหมดรวมๆแล้วก็สนุกดีคุ้มราคา
พอเสร็จจะทะเลทรายขาวไกด์เราก็พามาต่อที่ทะเลทรายแดงเพื่อดูพระอาทิตย์ตกคือสวยมากกกก
จากนั้นก็มาส่งถึงที่พัก จัดการตัวเองให้เรียบร้อยแล้วก็ไปหาอะไรกินตั้งใจว่าต้องกินอาหารทะเลที่มุยเน่ให้ได้ เพราะได้ยินว่าถูกมาก
และมันก็ถูกมากจริงๆ รถชาติก็ดีของสดมากๆ กุ้งตัวใหญ่ๆแบบกุ้งแม่น้ำบ้านเราตัวละประมาณ 150 บาทเท่านั้น หอยนางรมสดมากตัวละ 30บาท คือเค้าจะมีตู้แช่แบบเป็นๆเลยให้เลือกชั่งเป็นกิโลเลย แล้วที่ร้านจะมีบริการทำให้แบบไหนก็ได้ มีทั้งแบบเผา นึ่ง ผัดพริกเกลือ
เรากินแบบเยอะมากหมดไป 1,227,000 VND หรือประมาณพันนิดๆ ถือว่าคุ้มราคามากเสียนิดนึงคือไม่มีน้ำจิ้มซีฟู้ดแซ่บๆแบบบ้านเรา
กินเสร็จกลับที่พักนอน ลืมบอกเราจองตั๋วรถจากมุยเน่ไปโฮจิมินห์รอบตี 3:30 เป็นรถนอนเหมือนเดิมถึงโฮจิมินห์ประมาณ 7-8 โมงเช้า
ค่าทัวร์มุยเน่ 550,000 VND
ค่ากินซีฟู้ดตอนเย็น 1,227,000 VND
ค่าจิปาถะ ซื้อน้ำ ขนม หมวกเวียดนาม และค่าข้าวมื้อกลางวัน แล้วแต่คนนะตรงนี้
2 Jan 18
ก็ไปที่พักเราจองที่พักแถวๆฟาร์มงูเหลาเลยก็ฝากกระเป๋าแล้วก็ออกมาเที่ยวต่อ
เราเริ่มจากขอแผนที่ของที่พักมา แล้วก็เลือกที่ๆอยากไป เพราะเราเลือกที่จะเดิน เลยคิดว่าไม่น่าเก็บได้หมด
ที่ไปมาก็มี
City Tour #1
• Museum of Ho Chi Minh City ค่าเข้าคนละ 30,000 VND มีกล้องคิดเงินเพิ่ม เราเลยเก็บกล้องใช้โทรศัพท์ถ่ายเอา
• Opera House ไม่ได้เข้าไปดูการแสดง แค่ถ่ายรูปข้างหน้าเฉยๆ
• Central Post Office ไม่มีค่าเข้าแต่ถ้าไปแล้วอย่าลืมเขียนโปสการ์ด
• Notre-Dame Cathedal ตอนที่เราไปเค้าไม่ให้เข้าปิดรีโนเวท ได้ถ่ายแค่ข้างหน้า
• ตอนเย็นออกมาดูโชว์น้ำพุ ที่จัตุรัสโฮจิมินห์
3 Jan 18 City tour #2
• เริ่มเช้าวันใหม่ด้วยการไปกิน Pho 2,000 เค้าว่าอร่อยพอไปกินก็อร่อยจริง
• ไปต่อที่ Fine Art Museum แนวแบบภาพวาดศิลปะเยอะๆ
• ไปเดินเล่น ตลาด Ben Thanh เป็นของเยอะๆ แนวสัมเพ็งบวกมาบุญครองบ้านเรา
• ไปนั่งเล่นที่ Café Apartment ตรงจัตุรัสโฮจิมินห์ รอประมาณเกือบบ่ายสามแล้วนั่งแท็กซี่ไปแอร์พอร์ตรอขึ้นเครื่องรอบ 6 โมงเย็น เครื่องดีเลย์แปปนึงเลยถึงกรุงเทพ เกือบ 2 ทุ่ม
สรุปค่าใช้จ่าย วันที่ 2 และ 3 ตรงนี้คือใช้เงินน้อยมาก ส่วนใหญ่คือกินข้าวเราไม่ได้กินแพง ตรงนี้แล้วแต่คนเลย
ค่าใช้จ่ายทริปนี้ เงินไทยประมาณ 9,000 บาทสำหรับสองคน ไม่รวมค่าเครื่อง
ปล. เดี๋ยวเรามาอัพรูปสถานที่ต่างๆที่ไปมาตลอดทริปให้ชมวันหลังนะคะ วันนี้พอแค่นี้ก่อน