สวัสดีค่ะ วันนี้พอมีเวลาว่างมาเล่าประสบการณ์ของตัวเอง
ส่วนตัวเราเป็นนักเขียนมาพอสมควร เขียนงานหลายแนว ทั้งฟิค นิยาย ชญ และนิยายวาย
เราไม่เคยคิดส่งต้นฉบับไปที่ไหนนะคะ เพราะไม่ได้หวังถึงขนาดนั้น
พูดถึงเราก็เขียนมาหลายนามปากกา แต่มีนามปากกาที่นิยายเป็นที่รู้จักขึ้นมา
การขอต้นฉบับเลยเริ่มขึ้น
สนพ. แรก
- บอกว่าชอบนิยายเรามาก อยากขอพิจารณาพล็อต แต่พอเราส่งไปจริง กลับปฏิเสธ แล้วขอให้เขียนเรื่องใหม่ เราคิดว่าจะส่งเรื่องใหม่ไป แต่ไม่ เพราะว่าหลังจากนั้นมีการเม้นท์สปอยล์พล็อตเรา จากคนอ่าน ทั้งที่เราส่งพล็อตตั้งแต่ต้นจนจบให้ สนพ. แห่งนี้ที่เดียว
สนพ. สอง
- ทำทีเป็นติดต่อมาสองคน เป็นคนในวงการนิยาย บอกว่าจะเปิด สนพ. มาติดต่อเรากับเพื่อนเรา แยกกัน เรายอมรับว่าด้วยความเห็นใจที่เขาจะเปิด สนพ. เราเลยให้ต้นฉบับไป อีกอย่างมีการเซ็นสัญญา เพราะว่าถ้าเกิดเป็นอย่างที่แรก เอางานเราไปแล้วบอกไม่เอาแต่งานอยู่ในมือเขาแล้ว มันแย่กับเรา แต่นี่ก็แสบไม่แพ้กัน ตอนแรกเข้ามาพูดดี ทำตัวน่าสงสาร แต่พอได้สัญญาแล้ว กลับเร่งงาน กำหนดวางแผงที่ว่าจะเป็นกำหนดจ่ายค่าต้นฉบับก็ไม่มี พอดีเพื่อนเราบอกหนังสือวางแผงแล้ว เราเลยถามไป กลับไม่ยอมตอบ ทำเป็นบอกว่าจะถามให้อีกที คือถามใคร? หลังจากนั้นกลายเป็นมหกรรมโบ้ย คือถามอะไรไปจะปฏิเสธหมดและพูดเหมือนกับว่า สนพ. ไม่ใช่ของเขา ที่อยู่ในสัญญากับที่พิมพ์ลงในหนังสือก็คนละที่กัน กว่าเรากับเพื่อนจะได้ค่าต้นฉบับทวงกันนานมาก จากที่คุยดี เทคแคร์ตอนแรก ทำเป็นเงียบ และไม่ว่าจะเป็นค่าต้นฉบับ ค่าอีบุ๊คหลักร้อย ก็จะใช้วิธีโอนผ่านหน้าเคาน์เตอร์ เหมือนกลัวเราสืบได้ อีกอย่างที่มองบนสุด คือพยายามทำตัวห่างเหิน มีการแชทนินทาเรากับเพื่อนและทำแชทหลุดเข้ามาในแชทที่คุยกับเรา คนปกติเขาไม่ทำกันหรอกค่ะ นอกจากคนที่กลัวเราทวงค่าอีบุ๊คที่ยังเหลือสัญญา จนเรากับเพื่อนคิดว่าเปล่าประโยชน์ที่จะคุย ก็เลยไม่ได้ทวงอะไรไปอีก คิดว่าทำบุญไปค่ะ
ทีนี้ เราเลยไม่ให้งานอีก แต่มี สนพ. อื่น ติดต่อเข้ามาเหมือนรู้ว่าเราไม่ให้งานที่นี่แล้ว เราเลยคิดว่าแต่ละที่ถ้าไม่ใช่เจ้าเดียวกันก็คงรู้กัน เพียงแค่เปลี่ยนชื่อ สนพ. เท่านั้น อยากฝากให้ระวัง บางครั้งเราดีใจที่มี สนพ. ติดต่อเข้ามาแต่ก็ต้องดูด้วยว่า ให้ไปแล้วจะเป็นยังไง เหมือนพวกนี้ทำเป็นอาชีพ เราเองยังกลัวเลยว่าเด็กใหม่ที่มาเขียน จะไม่รู้อ่ะค่ะ ถ้าตอนเขาเร่งละเขียนไม่จบ เราต้องเสียค่าปรับ ถึงเขียนจบเขาก็หาวิธีเลี่ยงโน่นนี่นั่นอยู่ดี
เป็นนักเขียนนี่ลำบากแท้
เตือนภัยโดนขอต้นฉบับ
ส่วนตัวเราเป็นนักเขียนมาพอสมควร เขียนงานหลายแนว ทั้งฟิค นิยาย ชญ และนิยายวาย
เราไม่เคยคิดส่งต้นฉบับไปที่ไหนนะคะ เพราะไม่ได้หวังถึงขนาดนั้น
พูดถึงเราก็เขียนมาหลายนามปากกา แต่มีนามปากกาที่นิยายเป็นที่รู้จักขึ้นมา
การขอต้นฉบับเลยเริ่มขึ้น
สนพ. แรก
- บอกว่าชอบนิยายเรามาก อยากขอพิจารณาพล็อต แต่พอเราส่งไปจริง กลับปฏิเสธ แล้วขอให้เขียนเรื่องใหม่ เราคิดว่าจะส่งเรื่องใหม่ไป แต่ไม่ เพราะว่าหลังจากนั้นมีการเม้นท์สปอยล์พล็อตเรา จากคนอ่าน ทั้งที่เราส่งพล็อตตั้งแต่ต้นจนจบให้ สนพ. แห่งนี้ที่เดียว
สนพ. สอง
- ทำทีเป็นติดต่อมาสองคน เป็นคนในวงการนิยาย บอกว่าจะเปิด สนพ. มาติดต่อเรากับเพื่อนเรา แยกกัน เรายอมรับว่าด้วยความเห็นใจที่เขาจะเปิด สนพ. เราเลยให้ต้นฉบับไป อีกอย่างมีการเซ็นสัญญา เพราะว่าถ้าเกิดเป็นอย่างที่แรก เอางานเราไปแล้วบอกไม่เอาแต่งานอยู่ในมือเขาแล้ว มันแย่กับเรา แต่นี่ก็แสบไม่แพ้กัน ตอนแรกเข้ามาพูดดี ทำตัวน่าสงสาร แต่พอได้สัญญาแล้ว กลับเร่งงาน กำหนดวางแผงที่ว่าจะเป็นกำหนดจ่ายค่าต้นฉบับก็ไม่มี พอดีเพื่อนเราบอกหนังสือวางแผงแล้ว เราเลยถามไป กลับไม่ยอมตอบ ทำเป็นบอกว่าจะถามให้อีกที คือถามใคร? หลังจากนั้นกลายเป็นมหกรรมโบ้ย คือถามอะไรไปจะปฏิเสธหมดและพูดเหมือนกับว่า สนพ. ไม่ใช่ของเขา ที่อยู่ในสัญญากับที่พิมพ์ลงในหนังสือก็คนละที่กัน กว่าเรากับเพื่อนจะได้ค่าต้นฉบับทวงกันนานมาก จากที่คุยดี เทคแคร์ตอนแรก ทำเป็นเงียบ และไม่ว่าจะเป็นค่าต้นฉบับ ค่าอีบุ๊คหลักร้อย ก็จะใช้วิธีโอนผ่านหน้าเคาน์เตอร์ เหมือนกลัวเราสืบได้ อีกอย่างที่มองบนสุด คือพยายามทำตัวห่างเหิน มีการแชทนินทาเรากับเพื่อนและทำแชทหลุดเข้ามาในแชทที่คุยกับเรา คนปกติเขาไม่ทำกันหรอกค่ะ นอกจากคนที่กลัวเราทวงค่าอีบุ๊คที่ยังเหลือสัญญา จนเรากับเพื่อนคิดว่าเปล่าประโยชน์ที่จะคุย ก็เลยไม่ได้ทวงอะไรไปอีก คิดว่าทำบุญไปค่ะ
ทีนี้ เราเลยไม่ให้งานอีก แต่มี สนพ. อื่น ติดต่อเข้ามาเหมือนรู้ว่าเราไม่ให้งานที่นี่แล้ว เราเลยคิดว่าแต่ละที่ถ้าไม่ใช่เจ้าเดียวกันก็คงรู้กัน เพียงแค่เปลี่ยนชื่อ สนพ. เท่านั้น อยากฝากให้ระวัง บางครั้งเราดีใจที่มี สนพ. ติดต่อเข้ามาแต่ก็ต้องดูด้วยว่า ให้ไปแล้วจะเป็นยังไง เหมือนพวกนี้ทำเป็นอาชีพ เราเองยังกลัวเลยว่าเด็กใหม่ที่มาเขียน จะไม่รู้อ่ะค่ะ ถ้าตอนเขาเร่งละเขียนไม่จบ เราต้องเสียค่าปรับ ถึงเขียนจบเขาก็หาวิธีเลี่ยงโน่นนี่นั่นอยู่ดี
เป็นนักเขียนนี่ลำบากแท้