ไปอ่านเจอมาบทความหนึ่งดีมาก.. ชีวิตเราคืออะไร จากจอห์น เลนนอน

ชีวิตเราคืออะไร? / โดย เพจลงทุนแมน
เราทุกคน
พยายามหาความหมายของชีวิต
หามานาน หาไม่เคยจบ และไม่เคยพอใจกับชีวิตตอนนี้
เรามักอยากให้ชีวิตเราเป็นแบบนั้น แบบนี้
แต่จริงๆแล้ว เราอาจจะมองข้ามอะไรไป..

หลายคนน่าจะรู้จักวงเดอะบีเทิลส์
ซึ่งเป็นวงร็อกแอนด์โรลชื่อดังจากอังกฤษ
มีสมาชิกทั้งหมด 4 คน โดยที่จอห์น เลนนอน
เป็นหนึ่งในสมาชิกของวง

เลนนอนเป็นคนที่มีอัจฉริยภาพทางความคิด ที่ถ่ายทอดออกมาผ่านเสียงเพลง

บทเพลงของเขาหลายบทเพลงแฝงไปด้วยปรัชญาความเข้าใจชีวิตที่ลึกซึ้ง

จอห์น เลนนอน เกิดเมื่อ 9 ตุลาคมปี 1940 ที่เมืองลิเวอร์พูล อังกฤษ
ชีวิตในวัยเด็กของเขานั้น ครอบครัวแยกกันอยู่
โดยที่พ่อของเลนนอนมีอาชีพเป็นพ่อค้าเดินเรือ
ทำให้พ่อไม่ได้อยู่ด้วยกันกับเขาเท่าไร
เลนนอนจึงใช้เวลาอยู่กับแม่เป็นส่วนใหญ่

จนมาวันหนึ่งพ่อของเลนนอนกลับมาที่บ้านแล้วเสนอที่จะดูแลครอบครัว
แต่แม่ของเลนนอนได้ตั้งท้องกับชายคนอื่น จึงไม่เห็นด้วยกับแนวคิดนี้

อย่างไรก็ตาม พ่อของเขาอยากพาเขาไปอยู่ด้วย
จึงวางแผนจะพาเลนนอนไปอยู่ด้วยกันที่นิวซีแลนด์
เมื่อตอนที่เลนนอนอายุ 5 ขวบ แต่ระหว่างที่จะออกเดินทาง
แม่ของเลนนอนและสามีใหม่ได้ตามหาจนเจอ
จนเกิดการทะเลาะกันอย่างรุนแรง
จนพ่อของเลนนอนบังคับให้เขาเลือกว่า จะอยู่กับใคร ระหว่างพ่อหรือแม่

ในวันนั้น เลนนอนยืนยันเลือกที่จะไปกับพ่อเขาถึงสองครั้ง
แต่ระหว่างที่แม่ของเขากำลังเดินจากไป
เลนนอนเริ่มร้องไห้และสุดท้ายเลือกที่จะวิ่งตามแม่ของเขาไป

หลังจากนั้น แม่ของเลนนอนจึงส่งเขาไปอยู่กับป้าและจะมาเยี่ยมเลนนอนเสมอๆ

วันหนึ่งขณะที่เลนนอนอายุ 17 แม่ได้มาเยี่ยมเขาที่บ้านป้าตามปกติ
แต่ตอนกลับ
แม่ของเลนนอนถูกรถชนเสียชีวิต..

ในช่วงระหว่างวัยเรียน
ครูที่โรงเรียนไม่ค่อยชอบเขาเท่าไร เนื่องจากบุคลิกที่เกเรและความคิดที่ไม่ค่อยเหมือนเด็กทั่วไป
มีอยู่วันหนึ่งครูได้ถามนักเรียนในห้องว่าตอนโตอยากเป็นอะไร..

เลนนอนตอบครูไปว่า.. "ความสุข"

เรื่องนี้ทำให้นักเรียนในห้องหัวเราะเยาะเขา รวมทั้งครูก็ไม่พอใจและบอกเขาว่า เธอไม่เข้าใจคำถาม

แต่เลนนอนกลับตอบไปว่า “พวกคุณต่างหากที่ไม่เข้าใจชีวิต”

เลนนอนโด่งดังสุดขีดกับวงเดอะบีเทิลส์ในช่วงทศวรรษ 1960 ประสบความสำเร็จอย่างมากมากทั้งชื่อเสียงและเงินทอง

แต่ชีวิตครอบครัว โดยเฉพาะในช่วงแรกๆ กลับไม่เป็นเช่นนั้น

เขาแต่งงานครั้งแรกกับภรรยาที่คบกันมาตั้งแต่สมัยเรียนมีลูกด้วยกัน 1 คน
ซึ่งเป็นช่วงที่เขาไม่ได้มีเวลาดูแลครอบครัว โดยเฉพาะลูกเขาเท่าไร
เนื่องจากงานเพลงของเขา รวมไปถึงมีข่าวที่เขาทะเลาะกับภรรยาเสมอๆ

ในช่วงปลายทศวรรษที่ 60 หลังจากที่วงเดอะบีเทิลส์ยุบวงไป
สมาชิกแต่ละหันไปทำเพลงตามแนวทางที่ตนเองชอบ
โดยเลนนอนก็หันไปสนใจสังคมและต่อต้านสงครามเพื่อสันติภาพ
โดยเฉพาะการแต่งเพลง Imagine ซึ่งต่อมาได้กลายเป็นหนึ่งในเพลงที่โด่งดังที่สุดในโลก

ในปลายทศวรรษ 60 สงครามเวียดนามที่ดำเนินมาตั้งแต่ปี 1955 ยังคงยืดเยื้อและไม่มีท่าทีจะจบลงง่ายๆ

เลนนอนเป็นหนึ่งในศิลปินที่เรียกร้องสันติภาพ
โดยเขาพยายามใช้ชื่อเสียงของตัวเองเพื่อยุติสงครามมาตลอด
ไม่ว่าจะผ่านดนตรีและการประท้วงแสดงสัญลักษณ์

เขาเคยกระทั่งคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ MBE เพื่อประท้วงที่กองทัพอังกฤษเข้าร่วมสงครามมาแล้ว

ในปี 1969 เลนนอนแต่งงานครั้งที่ 2 กับภรรยาชาวญี่ปุ่น และมีลูกด้วยกัน 1 คน

หลังจากมีลูก เลนนอนได้หยุดงานเพลงทุกอย่างที่เขารัก เพื่อมาดูแลลูกชายเขา

เขาประกาศพักงานดนตรีอย่างเป็นทางการ

จากที่เคยเป็นคนตื่นไม่เป็นเวลา เลนนอนมาตื่นนอนเวลา 6 โมงเช้าทุกวันเพื่อเตรียมอาหารและใช้เวลากับลูก

เลนนอนรักลูกชายคนนี้มาก ถึงขนาดแต่งเพลง Beautiful Boy เพื่อมอบให้กับลูกชายเขาซึ่งในท่อนหนึ่งของเนื้อเพลงมีประโยคสุดคลาสสิค คือ

Life is what happens to you, While you're busy making other plans

ชีวิตคือสิ่งที่เกิดขึ้นกับเราในปัจจุบัน ในขณะที่เรากำลังวางแผนอื่นในชีวิต

คำอธิบายง่ายๆของประโยคนี้ก็คือ เราไม่เคยพอใจกับชีวิตของเราในปัจจุบัน เรามองข้ามทุกอย่างที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน

และรอคอยวางแผนในอนาคตว่าชีวิตเราต้องเป็นแบบนั้นแบบนี้

จริงๆแล้ว

จอห์น เลนนอน ตั้งใจจะบอกว่าเราควรจะให้ความสำคัญกับสิ่งที่เกิดขึ้นในตอนนี้

ชีวิตของเราจริงๆ ก็คือ สิ่งที่เป็นอยู่ในตอนนี้..

ในเดือนตุลาคมปี 1980 เลนนอนเริ่มกลับมาทำงานเพลง หลังจากใช้เวลาเลี้ยงลูกอยู่ประมาณ 5 ปี แต่ไม่มีใครรู้ว่านั่นจะเป็นปีสุดท้ายที่เขายังมีชีวิตดูหน้าลูกชายเขา

วันที่ 8 ธันวาคมปี 1980 เลนนอนและภรรยาได้ใช้เวลาให้สัมภาษณ์สื่อในช่วงบ่าย

และในช่วงเย็นระหว่างที่จะเดินทางไปห้องอัด

เขาได้พบกับแฟนเพลงคนหนึ่งที่เข้ามาขอลายเซ็นเขา โดยที่เลนนอนได้เซ็นไปและถามแฟนเพลงคนนั้นว่า ต้องการอะไรอีกไหม แฟนเพลงคนนั้นตอบว่า ไม่ครับ ขอบคุณ

ในวันนั้น เลนนอนและภรรยาใช้เวลาในห้องอัดถึงประมาณ 22.30 น.

หลังจากเสร็จงาน ภรรยาของเขาถามว่าจะไปหาอะไรกินก่อนไหม แต่เลนนอนกลับบอกว่า เขาอยากกลับที่พักเพื่อไปดูลูกชายมากกว่า

แต่ขณะที่กำลังเดินผ่านทางเข้าที่พักกับภรรยา ก็มีชายคนหนึ่งส่งเสียงเรียกเลนนอนจากข้างหลัง พร้อมทั้งยิงปืนเข้าใส่เขาทันทีถึง 5 นัดซ้อน ส่งผลให้เลนนอนเสียชีวิตในเวลาต่อมา

ซึ่งคนที่ยิงเขาก็คือ แฟนเพลงที่มาขอลายเซ็นเขาในตอนเย็นนั่นเอง..

โดยแรงจูงใจของมือปืนที่ก่อเหตุ เพียงเพราะแค่อยากจะขโมยความดังจากเลนนอนมาให้ตัวเองบ้างเท่านั้น

จึงทำให้นั่นเป็นวันสุดท้ายของเลนนอนที่ได้มีโอกาสเห็นหน้าลูกชายที่เขารัก

เรื่องราวของจอห์น เลนนอน สะท้อนให้เห็นมุมหนึ่งว่า หลายครั้งเราต้องใช้เวลามากมายทุ่มเทกับเรื่องงาน ทำมาหากิน กลับบ้านดึกๆ ดื่นๆ ใช้เวลากับการวางแผนในอนาคตมากเกินไป

มากจนลืมนึกไปว่า คนที่เรารัก โดยเฉพาะครอบครัว กำลังรอเราอยู่

เราน่าจะมีความสุขมากขึ้น ถ้าสามารถแบ่งเวลาไปสร้างความสุขที่อยู่ตรงหน้าเราในปัจจุบันด้วย
ก่อนที่หลายอย่างอาจจะสายเกินไป

เพราะจริงๆ แล้วเราทุกคนไม่รู้หรอกว่าวันพรุ่งนี้จะมีอยู่จริงหรือไม่

มองไปรอบตัวเรา ท้องฟ้า ท้องถนน ต้นไม้ พื้นดิน เราคิดอะไร หัวใจเราต้องการอะไร

หยุดวางแผน
และ ใส่ใจในรายละเอียดของทุกอย่างที่เกิดขึ้นกับชีวิตเรา.. ในขณะนี้

https://www.facebook.com/longtunman/posts/275983176267631

สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 1
ยังดีนะ ที่เจอ ภรรยา คนที่ 2


ไม่งั้นคงหาความสุข ไม่เจอ


อ่านแล้วก็ให้คิดว่า

พูดถึงแต่ ครอบครัว ที่ 2 ว่าเป็นความสุข

แล้ว ภรรยา คนแรก กับ ลูก ล่ะ

เพราะไม่รักกันแล้ว เลย ไม่ต้องใส่ใจ ??




มุมมองชีวิต ไม่ได้ดี อะไร

เหมือนกับ ความคิด ของฝรั่งหลาย ๆ คน

ที่บอกว่า อดีตเป็นสิ่งที่ผ่านมาแล้ว

อนาคตเป็นสิ่งที่ยังมาไม่ถึง

ปัจจุบัน คือ สิ่งที่พิเศษที่สุด

นั่นเป็นเหตุผลที่ ทำไม ใช้คำว่า present  ซึ่งแปลว่า ของขวัญ
อะไรประมาณนี้
ความคิดเห็นที่ 9
ถ้าอ่านชีวิตเค้าจริงๆจะคนละเรื่องกับบทความเลย

ภรรยาคนแรกของจอห์น. โดนตบประจำ.  domestic violence จอห์น พูดเองว่า ตบผู้หญิงเป็นประจำในบทสัมภาษณ์
ให้สัมภาษณ์ตอนลูกคนที่สองเกิดว่า ลูกคนแรก( Julian) เกิดจากวิสกี้ ไม่ได้ตั้งใจให้เกิด ไม่เหมือนลูกคนนี้( sean)  
ลูกคนแรกกับเมีย คนแรกที่อยู่กับจอห์นมาตั้งแต่งเรียนไฮสคูล( นานกว่าโยโกะ) บอกว่าจอห์นเป็น.  Hypocrites คือปากว่าตาขยิบ
ขณะที่เรียกร้องสันติภาพให้คนทั่วโลก. แต่ตบตีลูกเมียตัวเอง??

กับโยโกะเอง อยู่กันมาห้าปี.เอง ถ้าไม่ตายก่อน อาจจะลายออกก็ได้นะ.

น้อมรับคำด่า

แต่จะบอกว่าเหรียญมีสองด้าน. จอห์นก็ไม่ใช่คนที่แบบfamily man อะไรขนาดบทความเขียน
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่