วันแรกที่ผมรู้ว่าแฟนของผมตั้งท้อง ผมดีใจมาก และตั้งใจทำงานและทำหน้าที่พ่อให้ดีที่สุด
ผมมีนิสัยอารมณ์ร้อน และ ขี้โมโหง่าย เวลามีเรื่องหรือปัญหาอะไรผมจะเก็บไว้ไม่บอกใคร
ผมเห็นเพื่อนผมหลายมีลูกเหมือนผมเลย แต่ทำไมแต่ละคนเค้าทำงานดี มีอะไรมากมาย ซื้อรถ ซื้อบ้าน ดูแลเมียและรักกันมาก
แต่ผมเคยคิดว่าทำไมผมเป็นคนไร้ค่ามากเลย คนอื่นเค้าทำงานดีดี มีเงิน มีรถ มีบ้าน
ผมเคยคิดว่าทำไมตัวผมไม่เคยมีอะไรดีซักอย่างเลย ไม่เคยก้าวหน้าเรื่องการงาน ให้แฟนกับลูกผมได้ภูมิใจในตัวผมบ้างเลย
ผมขอเล่าเรื่องของผมกับแฟนหน่อย
คือครอบครัวผมได้เปิดร้านให้ผมกับแฟนได้ขายของกัน ช่วงแรกก็ขายของดีมีความสุขมาด้วยกัน พักหลังขายของไม่ค่อยดีบางวันแทบขายของไม่ได้เลย
ต้องมาจ่ายเงินค่าเช่าบ้านอีก บางเดือนหมุนเงินไม่ทันแม่ผมก็มาช่วยจ่ายให้ พักหลังแม่ผมจะมาช่วยจ่ายค่าเช่าบ้านบ่อยมาก
ตอนนั้นแฟนผมได้ตั้งท้องผมดีใจแต่มีบางวันผมเคยคิดว่าทำไมผมมันไร้ค่า ไม่เคยก้าวหน้าอะไรเหมือนคนอื่นเลย คนอื่นเค้าก้าวหน้าเรื่องงาน
จนมีเงิน ซื้อรถยนต์ ซื้อบ้าน
แต่ดูผมสิ ไม่มีอะไรเลย ร้านครอบครัวก็เปิดให้ แถมขายของไม่ได้จนบางเดือนแม่ต้องมาช่วยจ่ายค่าเช่าบ้าน แถมรถยนต์แม่ก็ซื้อให้เพื่อสะดวกเวลาพาแฟนไปหาหมอ มีวันนึงผมโมโหตัวเองที่ไม่สามารถทำอะไรได้เลยผมดูแย่มากไม่เคยก้าวหน้าอะไรบ้างเลยเหมือนยืนอยู่กับที่ไม่ไปไหนเลย
ตอนนั้นผมกำลังหงุดหงิดอยู่แล้วแฟนผมดันมาว่าผมอีกว่าเป็นไรอยู่ดีดีทำไมถึงงี่เง่าอะไรตอนนี้ เราได้ทะเลาะกัน แต่ที่ทำให้ผมเสียใจที่สุดคือ
ผมได้ตบหน้าแฟนขนาดตอนนั้นแฟนผมท้องอยู่แท้แท้ ตอนนั้นผมรู้สึกว่าผมเป็นพ่อที่ไม่ได้เรื่องจริงจริง
หลังจากนั้นแฟนผมได้คลอดลูกวันแรกที่ผมได้เห็นหน้าลูกผมดีใจมาก
ตอนแฟนผมอุ้มลูกครั้งแรกผมยิ้มแล้วบอกว่าผมรักแฟนและลูกมากผมจะดูแลแฟนและลูกให้ดีที่สุดผมสัญญา
ผมเป็นคนชอบเก็บเรื่องต่างต่างไม่บอกใครแถมขี้โมโหง่ายด้วย วันนั้นผมดันโมโหเสียงดังและขว้างของใส่พื้นด้วยโดยที่ผมลืมไปว่าลูกกับแฟนอยู่ในห้องด้วย เพราะทุกครั้งที่เวลาผมโมโห ผมจะไม่โมโหต่อหน้าลูกและแฟน แต่ผมก็ทำไม่ได้ผมชอบโมโหต่อหน้าแฟนกับลูกเวลาผมโมโหจะเสียงดังชอบข้างของด้วย ผมทำแบบนี้ต่อหน้าลูกและแทบทุกครั้งและเวลาที่ลูกร้องผมจะไปกล่อมและขอโทษลูกทุกครั้ง
ตอนลูกผมเด็กเด็กลูกผมน่ารักมาก แต่ที่ผมเสียใจที่สุดและไม่มีวันให้อภัยตัวเองคือ ผมได้ทำให้ลูกของผมเป็นเด็กก้าวร้าว เวลาไม่ได้อะไรดั้งใจจะขว้างข้าวของทุกครั้งและลูกผมเป็นเด็กพูดช้าด้วยเลยไม่รู้ว่าแกต้องการอะไรเพราะสื่อสารกันไม่รู้เรื่องเลย และไม่รู้ว่าตอนนั้นเวลานั้นลูกต้องการอะไร
พอลูกผมเริ่มโตจนเข้าเตรียมอนุบาลลูกผมก็พูดช้าด้วยเลยบอกครูประจำชั้นไว้
และผมได้พาลูกไปที่ศูนย์พัฒนาการการพูดด้วยเป็นคลีนิค เวลาผมพาลูกไปหัดพูดแทบทุกครั้งลูกผมจะดิ้นไม่ยอมพูดยอมทำตามที่หมอบอกแถมขว้างของในห้องหัดพูดด้วย
พอลูกผมเข้าอนุบาลหนึ่งลูกผมพูดช้าแต่เริ่มคุยรู้เรื่องบ้าง แต่เรื่องอารมณ์เหมือนเดิม เวลาไปโรงเรียน เวลาโดนขัดใจชอบขว้างของใส่เพื่อนชอบดึงผมเพื่อน ครูจะมาเล่าให้ผมกับแฟนฟัง พอผมรู้เรื่องทั้งหมดที่ครูเล่าให้ฟัง
ผมคิดว่าตัวเองนี้แหละที่ทำให้ลูกเป็นเด็กก้าวร้าวเวลาไม่ได้อะไรดั้งใจชอบขว้างข้าวของ
แฟนผมเลี้ยงลูกได้ดีมากถึงดีและดีที่สุดในฐานะแม่คนนึงแต่เป็นผมเองนี้แหละที่ทำให้ลูกมีพฤติกรรมก้าวร้าว ตอนนี้ผมกลัวลูกผมโตมาจะเข้าสังคมไม่ได้ ไม่มีเพื่อนและกลัวจะไม่มีใครรักเพราะพฤติกรรมก้าวร้าวนี้แหละ
ผมมันเป็นพ่อที่แย่มากและไม่เคยทำหน้าที่พ่อที่ดีให้ลูกได้เลย
ผมไม่เคยทำหน้าที่พ่อที่ดีได้เลย
ผมมีนิสัยอารมณ์ร้อน และ ขี้โมโหง่าย เวลามีเรื่องหรือปัญหาอะไรผมจะเก็บไว้ไม่บอกใคร
ผมเห็นเพื่อนผมหลายมีลูกเหมือนผมเลย แต่ทำไมแต่ละคนเค้าทำงานดี มีอะไรมากมาย ซื้อรถ ซื้อบ้าน ดูแลเมียและรักกันมาก
แต่ผมเคยคิดว่าทำไมผมเป็นคนไร้ค่ามากเลย คนอื่นเค้าทำงานดีดี มีเงิน มีรถ มีบ้าน
ผมเคยคิดว่าทำไมตัวผมไม่เคยมีอะไรดีซักอย่างเลย ไม่เคยก้าวหน้าเรื่องการงาน ให้แฟนกับลูกผมได้ภูมิใจในตัวผมบ้างเลย
ผมขอเล่าเรื่องของผมกับแฟนหน่อย
คือครอบครัวผมได้เปิดร้านให้ผมกับแฟนได้ขายของกัน ช่วงแรกก็ขายของดีมีความสุขมาด้วยกัน พักหลังขายของไม่ค่อยดีบางวันแทบขายของไม่ได้เลย
ต้องมาจ่ายเงินค่าเช่าบ้านอีก บางเดือนหมุนเงินไม่ทันแม่ผมก็มาช่วยจ่ายให้ พักหลังแม่ผมจะมาช่วยจ่ายค่าเช่าบ้านบ่อยมาก
ตอนนั้นแฟนผมได้ตั้งท้องผมดีใจแต่มีบางวันผมเคยคิดว่าทำไมผมมันไร้ค่า ไม่เคยก้าวหน้าอะไรเหมือนคนอื่นเลย คนอื่นเค้าก้าวหน้าเรื่องงาน
จนมีเงิน ซื้อรถยนต์ ซื้อบ้าน
แต่ดูผมสิ ไม่มีอะไรเลย ร้านครอบครัวก็เปิดให้ แถมขายของไม่ได้จนบางเดือนแม่ต้องมาช่วยจ่ายค่าเช่าบ้าน แถมรถยนต์แม่ก็ซื้อให้เพื่อสะดวกเวลาพาแฟนไปหาหมอ มีวันนึงผมโมโหตัวเองที่ไม่สามารถทำอะไรได้เลยผมดูแย่มากไม่เคยก้าวหน้าอะไรบ้างเลยเหมือนยืนอยู่กับที่ไม่ไปไหนเลย
ตอนนั้นผมกำลังหงุดหงิดอยู่แล้วแฟนผมดันมาว่าผมอีกว่าเป็นไรอยู่ดีดีทำไมถึงงี่เง่าอะไรตอนนี้ เราได้ทะเลาะกัน แต่ที่ทำให้ผมเสียใจที่สุดคือ
ผมได้ตบหน้าแฟนขนาดตอนนั้นแฟนผมท้องอยู่แท้แท้ ตอนนั้นผมรู้สึกว่าผมเป็นพ่อที่ไม่ได้เรื่องจริงจริง
หลังจากนั้นแฟนผมได้คลอดลูกวันแรกที่ผมได้เห็นหน้าลูกผมดีใจมาก
ตอนแฟนผมอุ้มลูกครั้งแรกผมยิ้มแล้วบอกว่าผมรักแฟนและลูกมากผมจะดูแลแฟนและลูกให้ดีที่สุดผมสัญญา
ผมเป็นคนชอบเก็บเรื่องต่างต่างไม่บอกใครแถมขี้โมโหง่ายด้วย วันนั้นผมดันโมโหเสียงดังและขว้างของใส่พื้นด้วยโดยที่ผมลืมไปว่าลูกกับแฟนอยู่ในห้องด้วย เพราะทุกครั้งที่เวลาผมโมโห ผมจะไม่โมโหต่อหน้าลูกและแฟน แต่ผมก็ทำไม่ได้ผมชอบโมโหต่อหน้าแฟนกับลูกเวลาผมโมโหจะเสียงดังชอบข้างของด้วย ผมทำแบบนี้ต่อหน้าลูกและแทบทุกครั้งและเวลาที่ลูกร้องผมจะไปกล่อมและขอโทษลูกทุกครั้ง
ตอนลูกผมเด็กเด็กลูกผมน่ารักมาก แต่ที่ผมเสียใจที่สุดและไม่มีวันให้อภัยตัวเองคือ ผมได้ทำให้ลูกของผมเป็นเด็กก้าวร้าว เวลาไม่ได้อะไรดั้งใจจะขว้างข้าวของทุกครั้งและลูกผมเป็นเด็กพูดช้าด้วยเลยไม่รู้ว่าแกต้องการอะไรเพราะสื่อสารกันไม่รู้เรื่องเลย และไม่รู้ว่าตอนนั้นเวลานั้นลูกต้องการอะไร
พอลูกผมเริ่มโตจนเข้าเตรียมอนุบาลลูกผมก็พูดช้าด้วยเลยบอกครูประจำชั้นไว้
และผมได้พาลูกไปที่ศูนย์พัฒนาการการพูดด้วยเป็นคลีนิค เวลาผมพาลูกไปหัดพูดแทบทุกครั้งลูกผมจะดิ้นไม่ยอมพูดยอมทำตามที่หมอบอกแถมขว้างของในห้องหัดพูดด้วย
พอลูกผมเข้าอนุบาลหนึ่งลูกผมพูดช้าแต่เริ่มคุยรู้เรื่องบ้าง แต่เรื่องอารมณ์เหมือนเดิม เวลาไปโรงเรียน เวลาโดนขัดใจชอบขว้างของใส่เพื่อนชอบดึงผมเพื่อน ครูจะมาเล่าให้ผมกับแฟนฟัง พอผมรู้เรื่องทั้งหมดที่ครูเล่าให้ฟัง
ผมคิดว่าตัวเองนี้แหละที่ทำให้ลูกเป็นเด็กก้าวร้าวเวลาไม่ได้อะไรดั้งใจชอบขว้างข้าวของ
แฟนผมเลี้ยงลูกได้ดีมากถึงดีและดีที่สุดในฐานะแม่คนนึงแต่เป็นผมเองนี้แหละที่ทำให้ลูกมีพฤติกรรมก้าวร้าว ตอนนี้ผมกลัวลูกผมโตมาจะเข้าสังคมไม่ได้ ไม่มีเพื่อนและกลัวจะไม่มีใครรักเพราะพฤติกรรมก้าวร้าวนี้แหละ
ผมมันเป็นพ่อที่แย่มากและไม่เคยทำหน้าที่พ่อที่ดีให้ลูกได้เลย