ความเดิมจากตอนที่แล้ว
อมยิ้มกับมู่ทู่ มาเล่าเรื่องที่ลุงก้วยกับดาบเก้าเถียงกัน สำหรับวันนี้ อมยิ้มเพิ่งกลับมาจากงานแห่ต้อนรับปลัดจิ๋ว ปลัดคนใหม่ที่ย้ายมาดูแลหมู่บ้าน ขากลับจึงแวะหา จขกท.เพื่อคุยเรื่องฟุตบอลกันต่อ
--------------------

สวัสดีครับ วันนี้ จขกท.ไปไม่ไปงานต้อนรับปลัดจิ๋ว ปลัดคนใหม่ของหมู่บ้านเราหรือครับ เห็นชาวบ้านไปรุมรอกันเพียบเลย หลังรอกันมานาน น้าน นานนนนนน
***************
ออ ปลัดจิ๋วที่ข่าวว่าจะมาภายใน 48 ชั่วโมงนั้นเหรอ แต่คนที่บอกคงคำนวณเวลาจากดาวศุกร์ เพราะ 48 ชั่วโมงของเขา ทำไมมันนานขนาดนี้ 555+ หมู่บ้านเรานี่ก็แปลก ใครจะย้ายไปย้ายมาที เล่นข่าวกันนานสองนาน บางทีจ่อๆ ว่าจะมา ก็ไม่มาเฉย เล่นชาวบ้านเงิบกันเป็นแถบๆ เห็นแล้วนึกถึงการย้ายนักเตะในลีกฟุตบอลอังกฤษ บางคนมีข่าวจะมาๆ จนนักเตะจะแขวนสตั๊ดอยู่แล้วก็ยังไม่มา ต่างจากบุนเดสลีกา ปั๊ปๆ ปุ๊ปๆ แป๊ปๆ เซ็นแล้ว ย้ายแล้ว คนตามเชียร์บางทียังไม่รู้เลยว่าย้ายไปตั้งแต่เมื่อไร 5555555+
***************

ว้าวๆๆ จขกท. เล่าให้ผมฟังได้ไหมฮะ เรื่องนักเตะบุนเดสลีกาที่ย้ายทีม เป็นเรื่องใหม่ของผมเลยนะนี่
***************
ได้สิ แต่จขกท.เลือกเฉพาะนักเตะที่ย้ายไปทั้งตัวแล้วนะ ประเภทเซ็นล่วงหน้าหรือจ่อๆๆๆๆ นี้ ต้องรอโทรถามคุณต้นเจ้าของตลาดก่อน อันนั้นวงในของจริง จขกท.ก็แค่เริ่มต้น เหอๆๆๆ
เพื่อความเข้าใจง่าย ก็พอจะแบ่งได้เป็น กลุ่มๆ คือ
1. กลุ่มนักเตะที่ย้ายเข้า-ย้ายออก-ย้ายกลับ ภายในลีกเดียวกัน
2. กลุ่มนักเตะที่ย้ายเข้า-ย้ายกลับ มาจากต่างลีก ภายในประเทศเยอรมัน
3. กลุ่มนักเตะที่ย้ายเข้า-ย้ายกลับ มาจากต่างลีก ประเทศอื่นๆ
4. กลุ่มนักเตะที่ย้ายออก – ย้ายกลับ ไปต่างลีก ภายในประเทศเยอรมัน
5. กลุ่มนักเตะที่ย้ายออก – ย้ายกลับ ไปต่างลีก ประเทศอื่นๆ

ถ้าจะสังเกตข้อมูลดีๆ จะเห็นว่า นักเตะที่ย้ายกลางฤดูกาลเหล่านี้ มักจะไม่ใช่สตาร์เสียเท่าไหร่ นั้นก็เพราะส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มนักเตะสำรองหรือเตรียมสำรองมากกว่า หรือเป็นนักเตะที่ทางสต๊าฟโค้ชมองแล้วว่าไม่อยู่ในแผนการทำทีม บ้างก็ปล่อยยืมตัวไปฝึกประสบการณ์ หรือไม่ก็พวกอนาคตฉายแววว่าจะเป็นดาวรุ่งพุ่งแรงเอามาฝึกฝนเพื่อขาย ออ..ไม่ใช่ๆ เพื่อไว้ใช้ในอนาคต
ส่วนที่พอจะเป็นข่าวก็คงมี Wagner กับ Gomez ที่ติดอยู่ในทีมชาติเยอรมัน พวกนี้สื่อจะให้ความสนใจเป็นพิเศษ ส่วนอีกคนที่น่านสนใจคือ Marko Pjaca นักเตะชาลเก้ ที่ย้ายมาจากยูเว่ ทีมใหญ่ในอิตาลี อันนี้คาดว่า ชาลเก้คงน่าจะเอามาปั้นไว้ใช้งาน เพราะชาลเก้ถือว่ามีสิทธิใกล้เคียงมากที่จะไปเล่นเวทียุโรปในปีหน้า แต่ด้วยจำนวนนักเตะอยู่ที่ประมาณ 20 กว่าคน การโรเตชั่นนักเตะอาจมีปัญหาได้ ถ้าต้องเจอสถานการณ์ที่ต้องเตะกลางสัปดาห์ติดๆ กันด้วย

การเสริมตัวโดยการดึงนักเตะดาวรุ่งต่างชาติเข้ามาปั้นของชาลเก้ ก็ถือว่าเป็นการแก้ปัญหาที่ดี ช่วยแก้ปัญหาที่ต้องเสียนักเตะสัญชาติเยอรมันตัวท๊อปฟอร์มให้กับทีมใหญ่ในลีกหรือทีมนอกลีก เพราะเงื่อนไขการเสียนักเตะในอนาคตน้อยมาก โอกาสกลับลีกชาติตัวเองมีน้อย อีกข้อคือนักเตะไม่ใช่สัญชาติเยอรมัน ทีมใหญ่ในลีกบางทีมคงไม่เล็งมาก นอกเสียจากอนาคตจะเทพๆ ประมาณเลวาน หรือมีผลงานดีจนถูกทีมลีกอื่นดึงไป อิๆๆๆๆ

***************

พูดถึงลีกบุนเดสลีกา ผมนี่นึกถึงครั้งที่แล้วที่จขกท.บอกว่า ทีมดอร์ทมุนด์หลังจากแพ้ใน UCL ก็กลับมาถล่มโคโลญจน์ในลีก 5 – 0 เล่าให้ฟังได้ไหมครับว่าเป็นอย่างไร
***************
ออๆ บุนเดสลีกานัดที่ 4 นั่นเอง แต่สไตล์ จขกท.เน้นเล่าแบบเป็นลีก อมยิ้มก็ลองเทียบดูแล้วกัน ว่าในสัปดาห์นั้นแต่ละทีมที่อมยิ้มสนใจเป็นอย่างไรบ้าง
ลองมาดูสถานการณ์ก่อนแข่งของทีมในลีกบุนเดสลีกานัดที่ 4 กันก่อนว่าเป็นอย่างไรบ้าง

เมื่อเปรียบเทียบความแตกต่างของทั้งสองตารางนี้จะเห็นได้ว่า Mainz และ Augsburg มีฟอร์มที่โดดเด่นเกินกว่าคะแนนในตาราง ซึ่งต่างจาก Hoffenheim และ Hannover ที่มีคะแนนสูง แต่ฟอร์มการเล่นสะสมค่อนข้างจะดร๊อปลง ซึ่ง Hertha เองก็เช่นกัน
เมื่อแบ่งกลุ่มแล้วก็มาดูผลการแข่งขันว่าเป็นไปตามคาดไหม ที่ต้องดูตรงนี้ เพราะ จขกท.มีสมมติฐานว่า ทีมใดก็ตามที่มีผลงานผิดคาดผิดฟอร์มบ่อยๆ โอกาสที่จะประสบความสำเร็จอย่างยั่งยืนนั้นมีค่อนข้างน้อย หรือเรียกง่ายๆ ว่า
ฉาบฉวย นั่นเอง
1. กลุ่มที่มีผลการแข่งขันเป็นไปตามคาด ก็คือ กลุ่มทีมที่มีผลงานที่ดีกว่ามักเป็นฝ่ายชนะ ก็จะมีคู่ของ
Frankfurt 1 – 2 Augsburg
Bremen 1 – 2 Schalke
Dortmund 5 – 0 Köln
2. กลุ่มทีมที่สูสีกัน ผลจากการแข่งขัน มักมีชนะ เสมอ แพ้ พลัดกันเป็นเรื่องปกติ ก็จะมีคู่ของ
Hannover 2 - 0 Hamburger
Bayern 4 - 0 Mainz
Leverkusen 4 – 0 Freiburg
จะเห็นได้ว่าผลการแข่งขันนั้นมีสกอร์ที่ต่างกันมาก ตรงนี้ก็สะท้อนได้ว่า คู่แข่งที่ฟอร์มโดดขึ้นมาเทียบคู่กันได้ มีความมั่นคงขนาดไหนเมื่อต้องมาเจอกับของจริง เหอๆๆๆ
3. กลุ่มที่มีผลการแข่งขันผิดคาด ซึ่งเมื่อดูเผิน ๆ เหมือนทีมที่ผลงานดีกว่าน่าจะชนะ แต่กลับ เสมอ หรือพ่ายแพ้ ให้กับทีมที่มีผลงานน้อยกว่า ก็จะมีคู่ของ
Stuttgart 1 – 0 Wolfsburg
คู่นี้ จขกท. แทบไม่แปลกใจมาก ถึงแม้ผลจะออกมาผิดคาด เป็นเพราะว่า Wolfsburg ปีนี้ดูจะมีปัญหามากๆ ไม่ว่าจะเป็นจำนวนผู้เล่น ศักยภาพผู้เล่น โอกาสจะพลิกแพ้ให้กับทีมแชมป์จากลีก 2 ปีที่แล้ว ก็ไม่น่าจะมีข้อถกเถียงเท่าไหร่
Leipzig 2 – 2 Gladbach
พูดได้ว่า อีกแล้วครับท่านสำหรับ Gladbach ถ้าไม่ใช่แฟนคลับแท้ๆ ก็ยากที่จะเข้าใจ Gladbach ได้เลยว่า เกิดอะไรขึ้น กับฟอร์มที่เพี้ยนไปเพี้ยนมา บางครั้งก็ชนะ ทั้งที่ไม่น่าจะชนะ แพ้ก็แบบไม่สมควรแพ้ นัดนี้ก็มาเสมอแบบสุดยอดอีก จขกท.ขอข้ามเคสนี้แล้วกัน อธิบายยาก รอให้ แฟนคลับตัวจริงอธิบายเองดีกว่า น่าจะถูกต้องกว่า
Hoffenheim 1 – 1 Hertha
ทีมดาวรุ่งปะทะทีมเมืองหลวง ฟอร์มของทีมดาวรุ่งดูจะเหนือกว่า แต่กลับทำได้แค่เสมอ อันนี้ก็ไม่รู้จะโทษอะไรดี ก็คงให้เครดิตทีมเมืองหลวงไปละกัน แต่ที่แน่ๆ จขกท.รู้สึกแย่ทั้งคู่ กับผลงานที่ดูป่วยๆ สำหรับทีมที่ได้เป็นตัวแทนไปเล่นเวทียุโรปชุดนี้ ซึ่งก็คงเห็นคล้ายกับความเห็นของอดีตนักเตะ ที่เพื่อนของ จขกท. คนหนึ่งส่งมาให้อ่าน ซึ่งต้องขอบคุณเขามากที่ทำให้จขกท. รู้ว่าไม่ได้คิดไปเองคนเดียว มาเปรียบเทียบความเห็นกันดูดีกว่า

อันนี้ จขกท. เห็นด้วย มันช่างน่าตกใจและแปลกใจ และน่าตั้งข้อสงสัยยิ่งนักว่าทำไม

อันนี้ก็เห็นด้วย ซึ่งใจยังรับไม่ได้ แต่เมื่อลองค้นหาข้อมูลดูก็ยังพอเบาใจได้บ้าง ไม่ใช่ทีมแต่ละทีมจะไม่ปรับ แต่เป็นเหมือนการปรับจากจุดต่ำสุดขึ้นมามากกว่า สังเกตจะเห็นว่ามีนักเตะดาวรุ่ง หรือแม้แต่โค้ชดาวรุ่งก็ขึ้นมาเยอะ รวมถึงลักษณะการบริหารทีมที่เปลี่ยนไปด้วย ก็ยังมั่นใจว่า อีกไม่นาน ลีกเยอรมันจะกลับเข้ามาสู่จุดเดิมได้

อันนี้คือสิ่งที่ จขกท.จะสื่อมาตลอดว่าไม่ใช่เป็นแค่กลุ่มที่ไปยูโรปาเท่านั้นที่ฟอร์มย่ำแย่ แต่เป็นเกือบทั้งลีก ซึ่ง จขกท. จะวิเคราะห์ให้ดูเป็นนัดๆ ไป

อันนี้ฝากให้คิดเฉยๆ ตรงใจจริงๆ 5555+
ทีนี้มาดูแนวโน้มสถานการณ์ของแต่ละทีมหลังจบนัดที่ 4
กลุ่มที่ 1 กลุ่มที่มีสิทธิไปเล่น UCL

ดูจากสถานการณ์แล้วช่างยุ่งเหยิงชะมัด แต่ก็ยังไม่เลวร้ายสักเท่าไหร่สำหรับ Bayern และ Dortmund แต่กับ Leipzig นี่ค่อนข้างน่าห่วง ก็คงวัดกันที่นัดถัดไปว่าจะยืนอยู่หัวตารางได้นานหรือไม่ หรือจะเป็นได้แค่ทีมฉาบฉวยอีกทีมหนึ่งเท่านั้น
กลุ่มที่ 2 กลุ่มที่มีสิทธิไปเล่น EUROPA

สถานการณ์ยังคงเหมือนเดิม (หะ-หร่วย เหมือนเดิม 55555+) เพิ่มเติมตรงที่ทั้งสามทีมอยู่ใต้เส้นค่าเฉลี่ยทั้งหมด แถวบ้าน จขกท. เรียกทริปเปิ้ลเพอร์เฟค
กลุ่มที่ 3 กลุ่มที่มีโอกาสแย่งพื้นที่ไปแข่งขันชิงถ้วยยุโรปในปีหน้า

Schalke ก็ยังคงเรื่อย ๆ เหมือนเดิม ถ้ายังคงสถานการณ์ไปแบบนี้ หรือพีคๆ ขึ้นมานี่โอกาสโค่นแชมป์ได้เลย ส่วน Leverkusen กับ Augburg ให้ถือว่าเป็นสถานการณ์ที่ร้อนแรงขึ้นมาช่วงระยะหนึ่ง ต้องดูนัดถัดๆ ไป ว่าจะรักษาฟอร์มได้ดีเหมือน Schalke หรือไม่
กลุ่มที่ 4 กลุ่มเสี่ยงตกชั้น

น่าตกใจที่ทำไมกลัดบัคถึงตกมาอยู่โซนนี้ได้ จขกท. ขอให้ความเห็นว่า จากสถานการณ์ 3 นัดหลังที่ เสมอ-แพ้-เสมอ รวมถึงการโรเตทผู้เล่นที่มีน้อย ถึงน้อยมากๆ นั่นทำให้ จขกท. ที่ไม่รู้เกี่ยวกับสภาพทีมภายใน มองแต่เปลือกนอกเห็นว่า มันเสี่ยงมาก ยิ่งถ้าในกรณีที่มีนักเตะสำคัญบาดเจ็บ นั้นก็ทำให้สถานการณ์ทีมจะต้องแย่ลงแน่นอน โอกาสที่จะพลาดจากการเก็บแต้มจนตกชั้น จึงมีสูงตามไปด้วย
พอมาดูตัวผู้เล่นที่โดดเด่นในสัปดาห์นี้

Maximilian Philipp จาก Dortmund คือสุดยอดผู้เล่นของ จขกท. ในสัปดาห์ที่ 4 จากการยิง 2 ประตูและพาทีม ชนะ Köln มา 5 – 0
ส่วนสุดยอดแห่งความพีคถึงช่วงสัปดาห์ที่ 4 นี้ ขอยกให้ Joshua Kimmich พีคขนาดเบียด Werner กระเด็น

แต่ผลงานที่สุดยอดต่อเนื่องมาจากไหนหล่ะ แค่ถูกเลือกให้เป็นตัวจริงในการลงเล่นทุกนัดของบาเยิร์น รวมถึงเป็นผู้เล่นหลักในระดับทีมชาติ แค่นี้ยังไม่เพียงพอ ต้องรวมถึงการยิงประตูและการแอสซิสต์ของเขาที่อยู่ในระดับเป็นเลิศด้วย ล่าสุดในนัดที่ 4 ก็แอสซิสต์ไปถึง 3 ประตูด้วยกัน ถึง จขกท. จะเป็นกองแช่งบาเยิร์น แต่นักเตะคนนี้ฟอร์มถือว่าถูกใจจริงๆ ยกนิ้วให้เลย

***************

ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับ ดูๆไปแล้ว ผมนี้สนใจข้อมูลของ Schalke จริงๆ ครับ ผมว่าจะเลือกเชียร์ทีมนี้ แต่ผมขอดูต่ออีกนัดนะครับ ว่างๆ ผมจะมาคุยอีก วันนี้ขอลาละครับ สวัสดีครับ
--------------------
ตอนต่อไป เมื่อหมู่บ้านกำลังมีคอนเสิร์ต
Bundesliga 2017 #Match Day 4 : เมื่อปลัดจิ๋วย้ายมาประจำที่หมู่บ้าน
ความเดิมจากตอนที่แล้ว
อมยิ้มกับมู่ทู่ มาเล่าเรื่องที่ลุงก้วยกับดาบเก้าเถียงกัน สำหรับวันนี้ อมยิ้มเพิ่งกลับมาจากงานแห่ต้อนรับปลัดจิ๋ว ปลัดคนใหม่ที่ย้ายมาดูแลหมู่บ้าน ขากลับจึงแวะหา จขกท.เพื่อคุยเรื่องฟุตบอลกันต่อ
--------------------
***************
ออ ปลัดจิ๋วที่ข่าวว่าจะมาภายใน 48 ชั่วโมงนั้นเหรอ แต่คนที่บอกคงคำนวณเวลาจากดาวศุกร์ เพราะ 48 ชั่วโมงของเขา ทำไมมันนานขนาดนี้ 555+ หมู่บ้านเรานี่ก็แปลก ใครจะย้ายไปย้ายมาที เล่นข่าวกันนานสองนาน บางทีจ่อๆ ว่าจะมา ก็ไม่มาเฉย เล่นชาวบ้านเงิบกันเป็นแถบๆ เห็นแล้วนึกถึงการย้ายนักเตะในลีกฟุตบอลอังกฤษ บางคนมีข่าวจะมาๆ จนนักเตะจะแขวนสตั๊ดอยู่แล้วก็ยังไม่มา ต่างจากบุนเดสลีกา ปั๊ปๆ ปุ๊ปๆ แป๊ปๆ เซ็นแล้ว ย้ายแล้ว คนตามเชียร์บางทียังไม่รู้เลยว่าย้ายไปตั้งแต่เมื่อไร 5555555+
***************
***************
ได้สิ แต่จขกท.เลือกเฉพาะนักเตะที่ย้ายไปทั้งตัวแล้วนะ ประเภทเซ็นล่วงหน้าหรือจ่อๆๆๆๆ นี้ ต้องรอโทรถามคุณต้นเจ้าของตลาดก่อน อันนั้นวงในของจริง จขกท.ก็แค่เริ่มต้น เหอๆๆๆ
เพื่อความเข้าใจง่าย ก็พอจะแบ่งได้เป็น กลุ่มๆ คือ
1. กลุ่มนักเตะที่ย้ายเข้า-ย้ายออก-ย้ายกลับ ภายในลีกเดียวกัน
2. กลุ่มนักเตะที่ย้ายเข้า-ย้ายกลับ มาจากต่างลีก ภายในประเทศเยอรมัน
3. กลุ่มนักเตะที่ย้ายเข้า-ย้ายกลับ มาจากต่างลีก ประเทศอื่นๆ
4. กลุ่มนักเตะที่ย้ายออก – ย้ายกลับ ไปต่างลีก ภายในประเทศเยอรมัน
5. กลุ่มนักเตะที่ย้ายออก – ย้ายกลับ ไปต่างลีก ประเทศอื่นๆ
ถ้าจะสังเกตข้อมูลดีๆ จะเห็นว่า นักเตะที่ย้ายกลางฤดูกาลเหล่านี้ มักจะไม่ใช่สตาร์เสียเท่าไหร่ นั้นก็เพราะส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มนักเตะสำรองหรือเตรียมสำรองมากกว่า หรือเป็นนักเตะที่ทางสต๊าฟโค้ชมองแล้วว่าไม่อยู่ในแผนการทำทีม บ้างก็ปล่อยยืมตัวไปฝึกประสบการณ์ หรือไม่ก็พวกอนาคตฉายแววว่าจะเป็นดาวรุ่งพุ่งแรงเอามาฝึกฝนเพื่อขาย ออ..ไม่ใช่ๆ เพื่อไว้ใช้ในอนาคต
ส่วนที่พอจะเป็นข่าวก็คงมี Wagner กับ Gomez ที่ติดอยู่ในทีมชาติเยอรมัน พวกนี้สื่อจะให้ความสนใจเป็นพิเศษ ส่วนอีกคนที่น่านสนใจคือ Marko Pjaca นักเตะชาลเก้ ที่ย้ายมาจากยูเว่ ทีมใหญ่ในอิตาลี อันนี้คาดว่า ชาลเก้คงน่าจะเอามาปั้นไว้ใช้งาน เพราะชาลเก้ถือว่ามีสิทธิใกล้เคียงมากที่จะไปเล่นเวทียุโรปในปีหน้า แต่ด้วยจำนวนนักเตะอยู่ที่ประมาณ 20 กว่าคน การโรเตชั่นนักเตะอาจมีปัญหาได้ ถ้าต้องเจอสถานการณ์ที่ต้องเตะกลางสัปดาห์ติดๆ กันด้วย
การเสริมตัวโดยการดึงนักเตะดาวรุ่งต่างชาติเข้ามาปั้นของชาลเก้ ก็ถือว่าเป็นการแก้ปัญหาที่ดี ช่วยแก้ปัญหาที่ต้องเสียนักเตะสัญชาติเยอรมันตัวท๊อปฟอร์มให้กับทีมใหญ่ในลีกหรือทีมนอกลีก เพราะเงื่อนไขการเสียนักเตะในอนาคตน้อยมาก โอกาสกลับลีกชาติตัวเองมีน้อย อีกข้อคือนักเตะไม่ใช่สัญชาติเยอรมัน ทีมใหญ่ในลีกบางทีมคงไม่เล็งมาก นอกเสียจากอนาคตจะเทพๆ ประมาณเลวาน หรือมีผลงานดีจนถูกทีมลีกอื่นดึงไป อิๆๆๆๆ
***************
***************
ออๆ บุนเดสลีกานัดที่ 4 นั่นเอง แต่สไตล์ จขกท.เน้นเล่าแบบเป็นลีก อมยิ้มก็ลองเทียบดูแล้วกัน ว่าในสัปดาห์นั้นแต่ละทีมที่อมยิ้มสนใจเป็นอย่างไรบ้าง
ลองมาดูสถานการณ์ก่อนแข่งของทีมในลีกบุนเดสลีกานัดที่ 4 กันก่อนว่าเป็นอย่างไรบ้าง
เมื่อเปรียบเทียบความแตกต่างของทั้งสองตารางนี้จะเห็นได้ว่า Mainz และ Augsburg มีฟอร์มที่โดดเด่นเกินกว่าคะแนนในตาราง ซึ่งต่างจาก Hoffenheim และ Hannover ที่มีคะแนนสูง แต่ฟอร์มการเล่นสะสมค่อนข้างจะดร๊อปลง ซึ่ง Hertha เองก็เช่นกัน
เมื่อแบ่งกลุ่มแล้วก็มาดูผลการแข่งขันว่าเป็นไปตามคาดไหม ที่ต้องดูตรงนี้ เพราะ จขกท.มีสมมติฐานว่า ทีมใดก็ตามที่มีผลงานผิดคาดผิดฟอร์มบ่อยๆ โอกาสที่จะประสบความสำเร็จอย่างยั่งยืนนั้นมีค่อนข้างน้อย หรือเรียกง่ายๆ ว่า ฉาบฉวย นั่นเอง
1. กลุ่มที่มีผลการแข่งขันเป็นไปตามคาด ก็คือ กลุ่มทีมที่มีผลงานที่ดีกว่ามักเป็นฝ่ายชนะ ก็จะมีคู่ของ
Frankfurt 1 – 2 Augsburg
Bremen 1 – 2 Schalke
Dortmund 5 – 0 Köln
2. กลุ่มทีมที่สูสีกัน ผลจากการแข่งขัน มักมีชนะ เสมอ แพ้ พลัดกันเป็นเรื่องปกติ ก็จะมีคู่ของ
Hannover 2 - 0 Hamburger
Bayern 4 - 0 Mainz
Leverkusen 4 – 0 Freiburg
จะเห็นได้ว่าผลการแข่งขันนั้นมีสกอร์ที่ต่างกันมาก ตรงนี้ก็สะท้อนได้ว่า คู่แข่งที่ฟอร์มโดดขึ้นมาเทียบคู่กันได้ มีความมั่นคงขนาดไหนเมื่อต้องมาเจอกับของจริง เหอๆๆๆ
3. กลุ่มที่มีผลการแข่งขันผิดคาด ซึ่งเมื่อดูเผิน ๆ เหมือนทีมที่ผลงานดีกว่าน่าจะชนะ แต่กลับ เสมอ หรือพ่ายแพ้ ให้กับทีมที่มีผลงานน้อยกว่า ก็จะมีคู่ของ
Stuttgart 1 – 0 Wolfsburg
คู่นี้ จขกท. แทบไม่แปลกใจมาก ถึงแม้ผลจะออกมาผิดคาด เป็นเพราะว่า Wolfsburg ปีนี้ดูจะมีปัญหามากๆ ไม่ว่าจะเป็นจำนวนผู้เล่น ศักยภาพผู้เล่น โอกาสจะพลิกแพ้ให้กับทีมแชมป์จากลีก 2 ปีที่แล้ว ก็ไม่น่าจะมีข้อถกเถียงเท่าไหร่
Leipzig 2 – 2 Gladbach
พูดได้ว่า อีกแล้วครับท่านสำหรับ Gladbach ถ้าไม่ใช่แฟนคลับแท้ๆ ก็ยากที่จะเข้าใจ Gladbach ได้เลยว่า เกิดอะไรขึ้น กับฟอร์มที่เพี้ยนไปเพี้ยนมา บางครั้งก็ชนะ ทั้งที่ไม่น่าจะชนะ แพ้ก็แบบไม่สมควรแพ้ นัดนี้ก็มาเสมอแบบสุดยอดอีก จขกท.ขอข้ามเคสนี้แล้วกัน อธิบายยาก รอให้ แฟนคลับตัวจริงอธิบายเองดีกว่า น่าจะถูกต้องกว่า
Hoffenheim 1 – 1 Hertha
ทีมดาวรุ่งปะทะทีมเมืองหลวง ฟอร์มของทีมดาวรุ่งดูจะเหนือกว่า แต่กลับทำได้แค่เสมอ อันนี้ก็ไม่รู้จะโทษอะไรดี ก็คงให้เครดิตทีมเมืองหลวงไปละกัน แต่ที่แน่ๆ จขกท.รู้สึกแย่ทั้งคู่ กับผลงานที่ดูป่วยๆ สำหรับทีมที่ได้เป็นตัวแทนไปเล่นเวทียุโรปชุดนี้ ซึ่งก็คงเห็นคล้ายกับความเห็นของอดีตนักเตะ ที่เพื่อนของ จขกท. คนหนึ่งส่งมาให้อ่าน ซึ่งต้องขอบคุณเขามากที่ทำให้จขกท. รู้ว่าไม่ได้คิดไปเองคนเดียว มาเปรียบเทียบความเห็นกันดูดีกว่า
อันนี้ จขกท. เห็นด้วย มันช่างน่าตกใจและแปลกใจ และน่าตั้งข้อสงสัยยิ่งนักว่าทำไม
อันนี้ก็เห็นด้วย ซึ่งใจยังรับไม่ได้ แต่เมื่อลองค้นหาข้อมูลดูก็ยังพอเบาใจได้บ้าง ไม่ใช่ทีมแต่ละทีมจะไม่ปรับ แต่เป็นเหมือนการปรับจากจุดต่ำสุดขึ้นมามากกว่า สังเกตจะเห็นว่ามีนักเตะดาวรุ่ง หรือแม้แต่โค้ชดาวรุ่งก็ขึ้นมาเยอะ รวมถึงลักษณะการบริหารทีมที่เปลี่ยนไปด้วย ก็ยังมั่นใจว่า อีกไม่นาน ลีกเยอรมันจะกลับเข้ามาสู่จุดเดิมได้
อันนี้คือสิ่งที่ จขกท.จะสื่อมาตลอดว่าไม่ใช่เป็นแค่กลุ่มที่ไปยูโรปาเท่านั้นที่ฟอร์มย่ำแย่ แต่เป็นเกือบทั้งลีก ซึ่ง จขกท. จะวิเคราะห์ให้ดูเป็นนัดๆ ไป
อันนี้ฝากให้คิดเฉยๆ ตรงใจจริงๆ 5555+
ทีนี้มาดูแนวโน้มสถานการณ์ของแต่ละทีมหลังจบนัดที่ 4
กลุ่มที่ 1 กลุ่มที่มีสิทธิไปเล่น UCL
ดูจากสถานการณ์แล้วช่างยุ่งเหยิงชะมัด แต่ก็ยังไม่เลวร้ายสักเท่าไหร่สำหรับ Bayern และ Dortmund แต่กับ Leipzig นี่ค่อนข้างน่าห่วง ก็คงวัดกันที่นัดถัดไปว่าจะยืนอยู่หัวตารางได้นานหรือไม่ หรือจะเป็นได้แค่ทีมฉาบฉวยอีกทีมหนึ่งเท่านั้น
กลุ่มที่ 2 กลุ่มที่มีสิทธิไปเล่น EUROPA
สถานการณ์ยังคงเหมือนเดิม (หะ-หร่วย เหมือนเดิม 55555+) เพิ่มเติมตรงที่ทั้งสามทีมอยู่ใต้เส้นค่าเฉลี่ยทั้งหมด แถวบ้าน จขกท. เรียกทริปเปิ้ลเพอร์เฟค
กลุ่มที่ 3 กลุ่มที่มีโอกาสแย่งพื้นที่ไปแข่งขันชิงถ้วยยุโรปในปีหน้า
Schalke ก็ยังคงเรื่อย ๆ เหมือนเดิม ถ้ายังคงสถานการณ์ไปแบบนี้ หรือพีคๆ ขึ้นมานี่โอกาสโค่นแชมป์ได้เลย ส่วน Leverkusen กับ Augburg ให้ถือว่าเป็นสถานการณ์ที่ร้อนแรงขึ้นมาช่วงระยะหนึ่ง ต้องดูนัดถัดๆ ไป ว่าจะรักษาฟอร์มได้ดีเหมือน Schalke หรือไม่
กลุ่มที่ 4 กลุ่มเสี่ยงตกชั้น
น่าตกใจที่ทำไมกลัดบัคถึงตกมาอยู่โซนนี้ได้ จขกท. ขอให้ความเห็นว่า จากสถานการณ์ 3 นัดหลังที่ เสมอ-แพ้-เสมอ รวมถึงการโรเตทผู้เล่นที่มีน้อย ถึงน้อยมากๆ นั่นทำให้ จขกท. ที่ไม่รู้เกี่ยวกับสภาพทีมภายใน มองแต่เปลือกนอกเห็นว่า มันเสี่ยงมาก ยิ่งถ้าในกรณีที่มีนักเตะสำคัญบาดเจ็บ นั้นก็ทำให้สถานการณ์ทีมจะต้องแย่ลงแน่นอน โอกาสที่จะพลาดจากการเก็บแต้มจนตกชั้น จึงมีสูงตามไปด้วย
พอมาดูตัวผู้เล่นที่โดดเด่นในสัปดาห์นี้
ส่วนสุดยอดแห่งความพีคถึงช่วงสัปดาห์ที่ 4 นี้ ขอยกให้ Joshua Kimmich พีคขนาดเบียด Werner กระเด็น
แต่ผลงานที่สุดยอดต่อเนื่องมาจากไหนหล่ะ แค่ถูกเลือกให้เป็นตัวจริงในการลงเล่นทุกนัดของบาเยิร์น รวมถึงเป็นผู้เล่นหลักในระดับทีมชาติ แค่นี้ยังไม่เพียงพอ ต้องรวมถึงการยิงประตูและการแอสซิสต์ของเขาที่อยู่ในระดับเป็นเลิศด้วย ล่าสุดในนัดที่ 4 ก็แอสซิสต์ไปถึง 3 ประตูด้วยกัน ถึง จขกท. จะเป็นกองแช่งบาเยิร์น แต่นักเตะคนนี้ฟอร์มถือว่าถูกใจจริงๆ ยกนิ้วให้เลย
***************
--------------------
ตอนต่อไป เมื่อหมู่บ้านกำลังมีคอนเสิร์ต