ห้องเพลง**คนรากหญ้า** พักยกการเมือง 25/1/2018 โหมโรง...นักเลงเก้ายอด...ของอร่อยวังบูรพา cnck

เมื่อวาน ได้เขียนกระทู้เรื่องราวของเจ้านายที่ครอง วังบูรพาภิรมย์คือ

พระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้าภาณุรังษีสว่างวงศ์ (ภายหลังดำรงพระอิสสริยยศเป็น

สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าภาณุรังษีสว่างวงศ์ กรมพระยาภาณุพันธุวงศ์วรเดช ต้นราชสกุลภาณุพันธุ์)


https://pantip.com/topic/37312157


"โหมโรง"

เป็นเรื่องราวของ ศร นักระนาดเอกในสมัย ร.5 (ซึ่งอิงจากประวัติจริงของ หลวงประเดิษฐ์ไพเราะ)

โดยมีฉากเด็ดของเรื่องที่ ศร ต้องประชันฝีมือกับยอดระนาดเอกแห่งยุคนาม ขุนอินทร์



ในตอนดังกล่าว มีผู้แสดงหลักอีก 2 ท่านเป็นเจ้านายของ ศร และเจ้านายของ ขุนอินทร์

ซึ่งในบทภาพยนต์ไม่ได้เอ่ยชื่อไว้ แต่ใช้นามว่า "สมเด็จ" ทั้ง 2 พระองค์

ภาพ ผู้แสดงเป็น "สมเด็จ" ทั้ง ๒ พระองค์


ซึ่งเมื่อย้อนรอยกลับไปเปรียบเทียบกับประวัติศาสตร์แล้ว

สมเด็จ ที่เป็นเจ้านายของ ศร  จะตรงกับ สมเด็จวังบูรพา

และในหนัง สมเด็จวังบูรพา ได้แสดงกริยาอ่อนน้อมกับ เจ้านายของขุนอินทร์

ซึ่งถ้าเป็นดังนี้ บุคคลที่เป็นเจ้านายของ ขุนอินทร์ จะต้องเป็น ล้นเกล้ารัชกาลที่ ๕ แต่เพียงพระองค์เดียว

การวิเคราะห์ส่วนนี้ ขอยกเครดิตให้กับ  ล็อกอิน ศรีสรรเพชญ์ ล็อกอินดังจาก ห้องสมุด




ร้านอาหารที่แนะนำยังคงอยู่ในซอยเดียวกับเมื่อวาน คืออยู่เยื้องๆกับร้านขนมหวาน

ร้านนี้ชื่อ "นายฮุย" ซึ่งเปิดมาประมาณ 80 ปีแล้ว เรื่องรสชาติไม่ต้องพูดถึง

เพราะคนที่เป็นลูกค้าร้านนี้ ส่วนใหญ่ก็เป็นขาประจำมานานหลายสิบปีขึ้นไป

จุดเด่นของร้านนี้อยู่ที่ หมูกรอบและกุนเชียง ที่กรอบและหอม เคี้ยวเพลินดี



ช่วงที่ จอมพล ป เป็นนายกรัฐมนตรีครั้งที่ 2 หลังจากรัฐประหาร 8 พฤศจิกายน พ.ศ 2490

พลตำรวจเอก เผ่า ศรียานนท์ ซึ่งเป็นอธิบดีกรมตำรวจ ได้มีนโยบายในการปราบนักเลง

โดยใช้ "นักเลงปราบนักเลง"

นักเลงในสมัยนั้นแบ่งเป็น 2 พวกคือนักเลงจีนกับนักเลงไทย     

นักเลงจีนมาจากคนจีนแผ่นดินใหญ่   ส่วนใหญ่มาอยู่กันที่ย่านเยาวราช

ตั้งแก๊งค์รีดไถ เก็บส่วยเอากับคนจีนที่มาทำมาหากินสุจริต ใครไม่ให้ก็ ทำร้ายร่างกาย ร้ายสุดก็ฆ่าทิ้ง

แกงค์นี้มีอิทธิพลไม่น้อย  ตำรวจไทยปราบยังไงก็ปราบไม่สำเร็จ  ก็เลยใช้วิธีโจรปราบโจร

นักเลงไทยเป็นเจ้าถิ่นมาแต่เดิม  รวมตัวเป็นแก๊งค์นักเลงไทย เรียกตัวเองว่า "เก้ายอด"

คือสักที่ท้ายทอยเป็นยันต์เก้ายอด เมื่อมีตำรวจส่งสัญญาณให้ท้าย อย่างนี้ก็เข้าทาง

จึงยกพวกเข้าตะลุยเยาวราช ตีกันฆ่ากันบาดเจ็บล้มตายกันมากทั้งสองฝ่าย  

ถ้าฝ่ายเก้ายอดชนะ  ตำรวจไทยก็ทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น

จับแต่พวกแก๊งค์จีน  ไม่จับแก๊งค์เก้ายอด

จากนั้นนักเลงเก้ายอดก็กลายมาเป็นลูกน้องของตำรวจไทย   ไปไหนมาไหนได้ตามสบาย

ชาวบ้านเกรงกลัว  เพราะพวกเขาเป็นมือเป็นขาให้ตำรวจ  ยุคนั้นจึงได้ชื่อว่า อันธพาลครองเมือง



เมื่อพูดถึงนักเลงเก้ายอด แหล่งที่พวกนี้สุมหัวกันอยู่ จะเริ่มตั้งแต่ โรงหนังเฉลิมกรุง ไปทาง ดิโอลด์สยาม

ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับ กองปราบปราม (สามยอด) เดิม

ซึ่งข้างๆโรงหนังเฉลิมกรุง ฝั่งด้านถนนเจริญกรุง จะมีด้านกาแฟดังอยู่ร้านนึง

หน้าร้านเป็นร้านค่อนข้างเก่า แต่กลับมีประวัติมากว่า 80 ปี เถ้าแก่เนี้ยเจ้าของร้าน

ปัจจุบันอายุ 86 ปี คุ้นเคยกับ จขกท อัธยาศัยในการต้อนรับลูกค้าดีมาก

บรรยากาศในร้านช่วงเช้าถึงเที่ยง หาที่นั่งยากมาก


เมื่อพูดถึงรสชาติของอาหาร ถือว่าคงคุณภาพได้ดีมาก

วัตถุดิบที่ใช้ล้วนแล้วแต่เกรด A  เมนูทุกอย่างในร้านนี้อร่อยทุกอย่าง

โดยเฉพาะขนมปัง ทานคู่สังขยา (ขายเป็นชุดราคา 85 บาท ) บอกได้คำเดียว สุดยอดดดดด





ป.ล ยันต์ที่สักไว้ที่ต้นคอ ที่บอกว่าเป็นยันต์เก้ายอด ต้นตำรับเป็นของ หลวงปู่หรุ่น แห่งวัด อัมพวัน



ป.ล 2 มีนักเลงเก้ายอดคนหนึ่งซึ่งโด่งดังมาก เคยเป็นถึงเลขาธิการพรรค ประชาธิปัตย์

และเป็นผู้ว่ากรุงเทพ ฯ คนแรกที่มาจากการเลือกตั้ง นักเลงเก้ายอดคนนี้คือ

นาย ธรรมนูญ เทียนเงิน


ป.ล 3 อันธพาลยุคก่อน พ.ศ 2500 ทั้งหมดถูกปราบในยุค จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์

ป.ล 4 อาทิตย์หน้า ถ้าเจ้าของพื้นที่ห้องเพลง อนุมัติ ก็จะพาไปกินร้าน เจ้ไฝ

พร้อมกับเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ และ การเมือง

cnck