⭐️🌟⭐️ THE WEEKLY GLOVES วีคที่ 4 เรื่องสั้น#7 "สัมผัสที่ต่างกัน" โดย "ถุงมือลายพราง" ครับ ⭐️🌟⭐️

กระทู้คำถาม


หลังจากกลับบ้านแล้วเมื่อวานนี้ ถึงวันนี้ก็กลางสัปดาห์พอดี เมื่อวานตอนเย็นก็เฉลยไปสองถุงมือ ทั้งถุงมือกวีและถุงมือเรื่องสั้น เย็นวันนี้ก็จะเฉลยอีก 2 เช่นกัน ฉะนั้น มาอ่านเรื่องใหม่กันดีกว่าครับ

เริ่มจากเรื่องสั้น เรื่องที่ 7 แล้ว มาอ่านไปพร้อมกันครับ กรรมการก็ยังไม่ได้อ่านเหมือนกัน... อมยิ้ม04หัวใจดอกไม้






“เราจะไปไหนกันดีคะ” เสียงของเยวอนแว่วขึ้นพร้อมกับเสียงของที่ปัดน้ำฝน ซูโรซึ่งขับรถอยู่บนถนนที่ชุ่มชื้น และอากาศภายนอกที่แสนจะเหน็บหนาว กำลังครุ่นคิดถึงคำถามที่สาวเจ้าไถ่ถาม

          “คุณล่ะครับอยากไปไหน” ชายหนุ่มถามกลับ เพราะคิดอะไรไม่ออกตอนนี้ เขาอยากให้เธอเป็นคนตัดสินใจมากกว่า

          หญิงสาวใช้เวลาคิดอยู่ชั่วครู่  ไม่นานนัก พวกเขาทั้งสองก็ถึงที่หมาย จอดรถและลงเดิน เยื้องย่างท่ามกลางสายฝนในหมู่บ้านกัมชอน

          ชายหนุ่มกางร่มให้หญิงสาวเพื่อไม่ให้เธอต้องเม็ดฝน เยวอนจับมือซูโรอย่างแนบแน่น ความอบอุ่นของซูโรทำให้เลือดในมือของเยวอนฝาดขึ้นกว่าเมื่อครู่ แต่พายุฝนเจ้ากรรมทำให้พวกเขาต้องหาที่หลบฝนชั่วคราว

          ซูโรพาเยวอนเข้าร้านกาแฟซึ่งตั้งเรียงรายในหมู่บ้านแห่งนี้ ซูโรเลือกร้านที่มีผู้คนเบาบางที่สุดเพื่อไม่ให้เป็นที่จับตามองในร้านแห่งนั้น เขาและเธอต่างดื่มกาแฟร้อนเพื่อคลายความหนาว และเฝ้ารอให้พายุฝนนั้นซาลง สายตาที่ซูโรมองไปยังเยวอนช่างเต็มไปด้วยความทะเยอทะยานและความอ่อนแอในคราวเดียวกัน เขาพินิจเส้นผมที่ยาวตรงและดำขลับ ประกอบกับใบหน้าอันไร้เดียงสาและหวานละมุนจากหญิงสาวที่เขารัก ก็พลางทำให้เขามีความสุข ราวกับมีหัตถ์ของพระผู้เป็นเจ้ามาปิดกั้นลมหายใจของซูโรเลยก็ว่าได้ แต่ในขณะเดียวกัน เขากลับกลัววันเวลาที่จะมาถึง วันเวลาที่จะพรากเธอไปจากเขา

          เขานึกถึงห้วงเวลาแรกที่เขาพบกับเยวอนในสตูดิโอของสถานีโทรทัศน์เอ็มบีซีในโซล สถานที่ซึ่งไม่มีใครแม้กระทั่งตัวของเขาเองจะคิดว่าชีวิตของเขาซึ่งผ่านร้อนหนาวมาสามสิบปีจะต้องมาพบเจออะไรแบบนี้ เขาเองก็ไม่นึกว่าชายโสดสนิทอายุสามสิบอย่างเขาในตอนนั้น จะตกหลุมรักเธอได้เพียงเสี้ยววินาที ยิ่งกว่านั้น เขาไม่นึกว่าชายหนุ่มผู้ซึ่งเป็นอดีตผู้กำกับภาพในรายการเพลงอย่างเขาจะกล้าหลงรักเยวอน ผู้ซึ่งเป็นอดีตไอดอลแห่งวงการเค-ป็อบ เป็นมนุษย์เทียม และมีอายุขัยอย่างจำกัดเพียงแค่สิบปีเท่านั้น

          ความกล้าหาญที่จะหลงรักเยวอนนำพาชีวิตอันแสนจะทุกข์ทรมานนับตั้งแต่วันนั้นเอง เขารู้ดีว่าการหลงรักไอดอลสาวก็เป็นเรื่องปกติธรรมดา ดั่งการที่ใครสักคนหลงใหลในตัวศิลปินหรือดารา แต่ความรักของเขาทอดตัวยาวและดำดิ่งไปมากกว่านั้นด้วยคำว่า”รักครั้งแรก” อีกทั้งเป็นรักครั้งแรกซึ่งน้อยคนจะเข้าใจ

          เขารู้ดีว่าการหลงรักมนุษย์เทียมเป็นเรื่องที่อยู่ในความถี่ระหว่างไม่มีทางเป็นไปได้ กับแทบจะไม่มีทางเป็นไปได้ เพราะด้วยระยะเวลาสิบปี ไม่สิ เพียงแค่สามปีเท่านั้น เหล่าไอดอลมนุษย์เทียมทั้งชายหญิง พวกเขามีเวลาที่จะมอบจิตวิญญาณเพื่อความผ่อนคลายทางอารมณ์ให้แก่มนุษย์แท้ ๆ เพียงแค่เจ็ดปี สามปีหลังจากนั้น ไอดอลเหล่านี้จะถูกเกษียณชีวิตตัวเอง ปลีกตนเองออกจากวงการ หายลับไปพร้อมไร้ร่องรอยที่น้อยคนจะรู้ได้ว่าชีวิตหลังเกษียณของไอดอลนั้นเป็นอย่างไร

          ระยะเวลาแค่สามปี พวกเขาหรือเธออยู่เพื่อทำอะไรสักอย่าง และรอความตายอันเป็นนิรันดร์ หรือบางครั้ง พวกเขาก็เลือกที่จะอยู่นิ่ง ๆ ในบ้านพักที่ทางนายทุนจัดไว้ให้ แต่ในน้อยครั้ง เหล่าไอดอลมนุษย์เทียมก็เลือกที่จะทำอะไรระห่ำอย่างเช่นการก่ออาชญากรรม แต่อัตราการก่ออาชญากรรมที่เกิดขึ้นโดยเหล่ามนุษย์เทียมนั้นเกิดขึ้นได้น้อยครั้งมาก ๆ เพราะนับตั้งแต่มีการผลิตมนุษย์เทียมเพื่อป้อนเข้าสู่อุตสาหกรรมทาสเพื่อความบันเทิงเมื่อยี่สิบปีก่อนนั้น มีเหตุฆาตกรรมและการปล้นชิงขึ้นเพียงแค่สามครั้งเท่านั้น

          ในช่วงที่เขายังทำงานอยู่ในสถานีโทรทัศน์เอ็มบีซี เขาพบหน้าเยวอนอย่างน้อยสี่เดือนครั้ง ถึงแม้ว่าเขาจะพบกับเธอด้วยเวลาอันแสนสั้น แต่มันกลับทำให้เขารู้สึกรักเธอมากกว่าเดิมในทุก ๆ ครั้ง ด้วยท่วงทำนองของการสนทนาในแต่ละครั้งก็พอจะยกระดับให้ซูโรหมกมุ่นในตัวเธอได้มหาศาล เขาลาออกจากอาชีพผู้กำกับภาพเมื่อเกือบสามปีที่แล้ว เหตุผลเดียวที่พอจะเป็นเหตุผลได้นั้นคือภาพของเกิร์ลกรุ๊ปที่ปราศจากใบหน้าของเยวอน เมื่อเขาแน่ใจว่าไม่พบข่าวคราวใด ๆ ของเธออีกนับแต่นั้น

          เขากลับบ้าน กลับมาสานต่อกิจการเป็นพ่อค้าคนกลางที่ตลาดปลาจากัลซี่แห่งนี้อีกครั้ง เขามีชีวิตอยู่ก็เพื่องานและงาน กับการคัดสรรปลาที่ได้คุณภาพดีที่สุดและส่งมอบมันให้แก่ลูกค้า ในทางตรงข้าม สิ่งที่ซูโรทำนั้น ก็เพื่อลบล้างและฉีกตัวเองให้ห่างไกลออกจากความอาจหาญที่เขาสร้างมันมาเอง เขาปิดตนเอง ไม่มีแม้กระทั่งโทรทัศน์ในบ้านของซูโร เขาเกรงว่าหากเปิดโทรทัศน์ รายการต่าง ๆ ที่หนีไม่พ้นก็จะเป็นรายการเพลง ความคลั่งไคล้ของมนุษย์แท้บนเลือดเนื้อของมนุษย์เทียมทำให้เขาเวทนาเยวอนในที่สุด  

          ซูโรพบเยวอนโดยบังเอิญเมื่อห้าสัปดาห์ก่อน ขณะที่เธอกำลังเมาและฟุบหลับในบาร์แห่งหนึ่งละแวกมีโพ ถนนมูนแทน ไม่มีกฎเกณฑ์ข้อใดที่ห้ามเหล่าไอดอลมนุษย์เทียม พวกเขาหรือเธอใช้ชีวิตหลังเกษียณได้ตามใจต้องการ หลังจากที่พวกเธอสร้างความสุขให้แก่เหล่าผู้โง่เขลาทั้งวันคืนแล้ว ร่างกายของเหล่ามนุษย์เทียมย่อมอ่อนล้าลงตามอายุขัย หากแต่ใบหน้าและรูปร่างของพวกเธอจะยังอยู่คงเดิม

          ใบหน้าของหญิงสาวในวัยยี่สิบสามอย่างเยวอนประทับอยู่ในใจของซูโร ทันทีที่เห็นแค่ปอยผมที่ปกปิดใบหน้าด้านข้าง ท้องก็ซูโรก็ปั่นป่วน จังหวะของหัวใจเต้นไม่เป็นท่าทาง ใบหน้าของเขาก็แดงก่ำ มิใช่เพราะฤทธิ์ของเบียร์ยี่ห้อวีทแอนด์ลาร์เจอร์ที่เขาเพิ่งดื่ม หากแต่เขาแน่แก่ใจว่านี่คือเยวอน อดีตศิลปินเค-ป็อบ หญิงสาวในดวงใจตลอดกาลอยู่ตรงหน้า

          เขาประหม่าจนทำอะไรไม่ถูก ความคิดในหัวของเขาตีอันอลหม่าน เขาไม่รู้ว่าจะเริ่มจากตรงไหน เขาเฝ้ารอเธอจนกระทั่งร้านปิดตอนตีสอง เขากระอักกระอ่วนใจที่จะรับมือกับเธอในสภาพแบบนี้ แต่ในท้ายที่สุด ท่ามกลางความเป็นห่วงของเจ้าของบาร์ ซูโรเสแสร้งกับเขาว่าจะพยุงตัวเธอไปเรียกรถแท็กซี่ให้ เจ้าของร้านเชื่อใจสนิท เขาปล่อยให้ซูโรโอบตัวเยวอนออกจากร้าน

          เมื่อลับตาคน ซูโรอุ้มเธอขึ้นรถ มันเป็นความสุขเหลือจะพรรณนาได้ว่านี่เป็นครั้งแรกที่เขาสัมผัสกายของเธอ เนื้อตัวของเยวอนช่างอ่อนนุ่มและแน่นตึงอย่างกับเด็กสาวที่เพิ่งผลิเนื้อสาว ซูโรขับรถพาเธอซึ่งอยู่ในสภาพไร้สติกลับไปพักที่บ้านของเขา

          เมื่อถึงบ้าน เขาอุ้มเธอลงจากรถ เยวอนในอ้อมกอดของเขาร่นเวลาที่แสนจะเนิ่นนานในชีวิตของซูโรให้หดสั้นลงเพียงแค่ข้ามคืน ทว่าเมื่อถึงห้องนอน เขาไม่ได้แตะต้องอะไรเกินเลยมากกว่านั้น เขานั่งเฝ้าเธอ เพ่งพินิจดูใบหน้าที่ขี้เซาด้วยความสุข ตลอดเวลาสามปีที่เขาพยายามจะหาตัวเธอ เขาพยายามจะช่วยตัวเองด้วยการนึกถึงใบหน้าของเยวอนในทุกครั้ง แต่ความทรงจำก็ดูจะเลือกลางเมื่อขวบปีก่อน เขานึกภาพของเธอไม่ออกจนคืนนี้ เยวอนในชีวิตหลังเกษียณดูสวยกว่าปกตินัก เขาคิด อาจเป็นเพราะเธอไม่ต้องโหมงานหนักเหมือนชีวิตทาสในช่วงเวลาเจ็ดปีก่อนหน้า

          ซูโรกำลังนั่งจดจ้องใบหน้าและร่างกายเธอไม่รู้หน่าย กระทั่งรุ่งสาง เมื่อเยวอนตื่นขึ้นมาด้วยอารมณ์สะลืมสะลือ เธอเหลือบมองใบหน้าของเขาเพียงชั่วครู่ สติของเธอชักความคิดและระลึกรู้ว่านี่คือซูโร เธอพยายามเรียบเรียงความคิดของตน แต่ก็จนมุมอยู่อย่างนั้น เฉกเช่นกับซูโร พวกเขาต่างอยู่ในภวังค์แห่งความงุนงง และปลื้มปีติที่ได้เห็นบุคคลที่คุ้นเคยกันมานาน

          แต่ไม่นานนัก กลับเป็นซูโรที่ยอมแพ้ เขาร้องไห้ออกมา เขานึกว่าในชีวิตอันแสนจะยาวนานของเขาจะต้องจมปลักอยู่กับเยวอนในจินตนาการเสียแล้ว แต่ภาพที่เขาเห็นตรงหน้า เยวอนอยู่ห่างจากตัวของเขาเพียงไม่กี่คืบ เลือดเนื้อและจิตวิญญาณของเธอช่างอบอุ่นกว่าความอบอุ่นใด ๆ ในโลก เขาใช้นิ้วปาดน้ำตา สัญชาตญาณของเยวอนบอกกับเธอเองว่าน้ำตาที่ไหลรินออกจากเบ้าตาของซูโรนั้นทำให้เธอรู้ว่าเขารักเธอมากมายขนาดไหน ทั้ง ๆ มันเป็นเรื่องที่เธอควรจะรับรู้มาเนิ่นนาน แต่เธอกลับเพิ่งรู้สึกว่ายังมีใครสักคนที่รักเธอหลงเหลืออยู่

          พวกเขาใช้เวลาเนิ่นนานตลอดทั้งวันเพื่อไถ่ถามเรื่องราวต่าง ๆ เยวอนซึ่งไร้เดียงสากับความรัก เธอไม่รู้เลยว่าเธอใช้ชีวิตตลอดสองปีครึ่งหลังเกษียณกับจินอี หญิงสาวไอดอลจากต่างวง เธอนึกว่ามันคือจุดสิ้นสุดของชีวิตที่เธอเรียกมันว่า ”ความรักครั้งแรก” เฉกเช่นกับซูโร เธอทุกข์ทรมานกับการสูญเสีย เมื่อเธอพบว่าในเช้าวันหนึ่งที่แดดส่องสว่างกลางกรุงโซล จีนอีทิ้งเยวอนไป เธอทิ้งเยวอนไปโดยไม่มีที่มา และไม่มีเหตุผลใด ๆ ที่พอจะอธิบายให้เธอได้รับรู้ สูญหายไปกับสายลมแห่งความเบิกบาน เยวอนจะใช้ชีวิตที่เหลืออยู่อีกหกเดือนโดยปราศจากจินอีได้อย่างไร เธอคิด ความเคว้งคว้างนำพาไปเธอต้องใช้เงินหลังเกษียณซึ่งมีอยู่เท่าที่ใจต้องการ เร่ร่อนไปตามสถานที่ต่าง ๆ จนกระทั่งมาพบกับซูโรที่นี่ พวกเขาใช้เวลาไม่นานนักในการเริ่มต้นใหม่ ทว่าเป็นการเริ่มต้นเพื่อไปถึงจุดจบ เยวอนบอกกับเขาว่าเธอมีเวลาอีกแค่เดือนเดียวเท่านั้น และจิตวิญญาณของเธอก็คงล่องลอยไปตามสายธารของโลกหลังความตาย
--------------------------------------------------------------------------------------------------------


(ต่ออีกนิดครับ)
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่