-เปิดฉากวันพิจารณาคดี : นั่งนิ่งเหมือนคนหมดอาลัยตายอยาก สีหน้าดวงตาแห้งผาก หมดแล้วทุกสิ่ง สุดแล้วทุกทาง
-ตอนปลอมตัวฆ่าอดีตสามี : ดูเก้งๆ กังๆ ปลอมตัวก็ไม่เนียน น้ำเสียงก็ไม่มา ดูลนลาน ไม่มีความมั่นใจ เพราะนี้คือการ ล่า การฆ่าคนครั้งแรกในชีวิต
-ตอนเป็นยายรัตน์ : ปลอมตัวดีกว่าครั้งแรก เสียงพอได้แต่ไม่เป๊ะ ความเมตตา vs ความอาฆาต ต่อสู้กันอย่างหนัก มีความลังเลจะฆ่าไม่ฆ่าดี
-ตอนเป็นรูทเบียร์: มีความมั่นใจเด็ดเดี่ยวมากขึ้น ฟันคอฉึบ! แต่เสียงยังไม่เป๊ะ มีเรื่องให้หลุดเปิดหน้าให้เด็กเห็น ทิ้งร่องรอย
-ริต้า: มาเต็มๆ รุ้งออกมาเต็มตัว มธุสรเข้าไปอยู่ในกระจกแทบจะถาวร ปลอมตัวเนียนขึ้น เสียงมาเต็ม จริตริต้าตีบทเกินแตก มีความเป๊ะมากขึ้น มากขึ้น เห็นถึงพัฒนาการของความเป็นรุ้งได้อย่างชัดเจน
“นี่แหละคือความเรียลของการแสดง”
“นี่แหละตัวละครที่มีพัฒนาการ”
“นี่แหละจากแม่...จากเมียผู้อ่อนแอ..จากนักบัญชี มาสู่นักฆ่าที่พัฒนาฝีมือทีละขั้นทีละตอน”
“และนี่แหละ นักแสดงที่แสดงได้อย่างมีมิติ...นักแสดงที่ถ่ายทอดคนคนหนึ่งที่ปลอมตัวเป็นคนอีกคนหนึ่งได้อย่างแนบเนียน”
และ... นี่แหละ ลลิตา ปัญโญภาส
การแสดงแบบมีมิติของหมิว ลลิตาใน “ล่า”
-ตอนปลอมตัวฆ่าอดีตสามี : ดูเก้งๆ กังๆ ปลอมตัวก็ไม่เนียน น้ำเสียงก็ไม่มา ดูลนลาน ไม่มีความมั่นใจ เพราะนี้คือการ ล่า การฆ่าคนครั้งแรกในชีวิต
-ตอนเป็นยายรัตน์ : ปลอมตัวดีกว่าครั้งแรก เสียงพอได้แต่ไม่เป๊ะ ความเมตตา vs ความอาฆาต ต่อสู้กันอย่างหนัก มีความลังเลจะฆ่าไม่ฆ่าดี
-ตอนเป็นรูทเบียร์: มีความมั่นใจเด็ดเดี่ยวมากขึ้น ฟันคอฉึบ! แต่เสียงยังไม่เป๊ะ มีเรื่องให้หลุดเปิดหน้าให้เด็กเห็น ทิ้งร่องรอย
-ริต้า: มาเต็มๆ รุ้งออกมาเต็มตัว มธุสรเข้าไปอยู่ในกระจกแทบจะถาวร ปลอมตัวเนียนขึ้น เสียงมาเต็ม จริตริต้าตีบทเกินแตก มีความเป๊ะมากขึ้น มากขึ้น เห็นถึงพัฒนาการของความเป็นรุ้งได้อย่างชัดเจน
“นี่แหละคือความเรียลของการแสดง”
“นี่แหละตัวละครที่มีพัฒนาการ”
“นี่แหละจากแม่...จากเมียผู้อ่อนแอ..จากนักบัญชี มาสู่นักฆ่าที่พัฒนาฝีมือทีละขั้นทีละตอน”
“และนี่แหละ นักแสดงที่แสดงได้อย่างมีมิติ...นักแสดงที่ถ่ายทอดคนคนหนึ่งที่ปลอมตัวเป็นคนอีกคนหนึ่งได้อย่างแนบเนียน”
และ... นี่แหละ ลลิตา ปัญโญภาส