สวัสดีครับทุก ๆ ท่าน   


เมื่อช่วงหลังปีใหม่ที่ผ่านมา ผมมีโอกาสได้ไปเที่ยวทางภาคเหนือมาอีกครั้ง ทริปนี้ไปมารวม 11 วัน
ได้ไปมาหลายสถานที่แต่ช่วงนี้ไม่มีเวลามานั่งทำรีวิวแบบยาว ๆ ตลอดทริปเหมือนที่ผ่าน ๆ มา
ดังนั้นจึงขอมาทำเป็นรีวิวเฉพาะจุดให้ชมกันนะครับ

วัดแม่ปาง  อ.แม่ลาน้อย  จ.แม่ฮ่องสอน  เป็นหนึ่งในหลายสถานที่ที่ผมตั้งใจแวะไปในทริปนี้
สาเหตุที่อยากแวะไปก็เป็นเพราะว่า วัดนี้เป็นวัดที่อดีตเจ้าอาวาสวัดช่องลม นาเกลือ ( วัดแถวบ้านผม ) เป็นผู้ไปบุกเบิกก่อสร้างเอาไว้


สำหรับท่านที่สนใจ  ประวัติวัดแม่ปางฉบับย่อ   [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้วัดแม่ปาง เป็นวัดป่า  นิกายธรรมยุตสายหลวงปู่มั่น   ตั้งอยู่ที่หมู่บ้านแม่ปาง อ.แม่ลาน้อย
หมู่บ้านนี้เป็นหมู่บ้านชาวกะเหรี่ยงสะกอ เรียกกันว่ากะเหรี่ยงพัฒนาแล้ว  สภาพทั่วไปเป็นภูเขา ป่าไม้ ห้วย ลำธาร มีที่ราบน้อยมาก
ที่นี้ยังมีคนไทยใหญ่และคนเหนือ (คนเมือง) ปะปนอยู่ด้วยกัน ประเพณีวัฒนธรรม และ ภาษาพูดยังเป็นกะเหรี่ยง

เมื่อปีพ.ศ.2530 พระครูวิบูลธรรมกิจ หรือ หลวงพ่อบัวเกตุ   อดีตเจ้าอาวาสองค์ที่.๓ ของวัดช่องลม นาเกลือ บางละมุง จ.ชลบุรี
ท่านได้จาริกธุดงค์ไปที่ อ.แม่ลาน้อย จ.แม่ฮ่องสอน และได้มาพักปฏิบัติธรรมตามคำนิมนต์ของชาวบ้าน  
ต่อมาท่านเห็นว่าความเป็นไปของพระพุทธศาสนาในถิ่นนี้อ่อนแอมาก ด้วยความรักนับถือในพระพุทธศาสนามาแต่กำเนิด
ท่านจึงคิดว่า“ ถ้าเราอยู่เพียงชั่วคราวแล้วจากไป  ถึงจะเทศนาสอนไว้ดีอย่างไรเมื่อไปแล้วก็ต้องถูกลัทธิอื่นกลบเกลื่อนลบล้างหมด”  
ประกอบกับพิจารณาเห็นว่า วัดในอำเภอแม่ลาน้อยทั้งอำเภอมีเพียง 2 วัดเท่านั้น คือ วัดแม่ลาหลวง และ วัดแม่ลาน้อย  
ดังนั้นพระพุทธศาสนาในถิ่นนั้นจึงแคบ และลดความน่าเชื่อถือลง  ส่วนลัทธิอื่นในอำเภอแม่ลาน้อยมีสำนักอยู่เป็นจำนวนมาก  
หลวงพ่อบัวเกตุจึงคิดว่า ถ้าเราอยู่ที่นี่ได้ ก็ควรสร้างวัดขึ้นจริง ๆ โดยมิได้หวังที่จะเป็นเจ้าอาวาส หรือตำแหน่งใด ๆ
สร้างเพื่อเป็นที่อยู่ปฏิบัติธรรม ให้ผู้คนได้พบได้เห็นพระสงฆ์ที่ปฏิบัติตามพระธรรมวินัย มิได้หวังไปต่อสู้กับลัทธิใด
เมื่อมีวัดก็ต้องมีพระสงฆ์ที่ดี สามารถอยู่เพื่อช่วยกันเผยแผ่พระธรรมขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าให้เจริญรุ่งเรืองสืบไป

ในที่สุดท่านจึงได้ปรึกษากับชาวบ้าน แล้วเสนอต่อทางราชการ   ทุกฝ่ายเห็นด้วยพร้อมทั้งให้การสนับสนุนในการตั้งเป็นวัด
และกรมป่าไม้ได้อนุญาตให้สร้างวัดบนเนื้อที่ 19 ไร่ 2 งาน เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน พ.ศ.2537
ชาวบ้านจึงร่วมใจกันสร้างศาลาบำเพ็ญกุศลขึ้น สำหรับเป็นสถานที่ไหว้พระสวดมนต์บำเพ็ญกุศลทุกวันธรรมสวนะ

ต่อมาทางวัดได้จัดสร้างเสนาสนะ อุโบสถ พระเจดีย์ เรือนพักอุบาสกอุบาสิกา โรงเรียนพระปริยัติธรรม ศูนย์เด็กก่อนวัยเรียน ฯลฯ
และวัดได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อวันที่ 2 ตุลาคม พ.ศ.2543

ในส่วนการปฏิบัติธรรมนั้น หลวงพ่อบัวเกตุได้เทศนาสั่งสอนพระภิกษุสามเณร และญาติโยมมาตั้งแต่ท่านเริ่มมาอยู่ที่นี้
ในปี พ.ศ. 2530  จนถึงปี พ.ศ.2547 ท่านได้ออกจาริกไปเผยแผ่พุทธศาสนา ณ จังหวัดต่าง ๆ ที่ท่านเห็นว่าเหมาะสม
โดยท่านได้มอบหมายให้พระครูประสิทธิคณารักษ์ (พระอาจารย์ถนอม ญาณปาโล เจ้าอาวาส)
รับหน้าที่อบรมสั่งสอนญาติโยมพุทธบริษัทที่วัดแม่ปางแทนท่าน โดยท่านได้แวะเวียนมาอบรมสั่งสอนธรรมะอยู่เสมอ ๆ


เครดิต  ::  www.sptcenter.org/spt/วัดแม่ปาง




ภายในวัดแม่ปางสงบมากและเท่าที่ผมเห็นมีเพียงอุโบสถกับพระเจดีย์แค่นั้น



จอดรถใกล้ ๆ กับด้านหลังพระเจดีย์ เราจึงไปชมพระเจดีย์กันก่อนครับ  พระเจดีย์ชื่อว่า พระบรมธาตุสันติคีรี
สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชฯ ได้ประทานพระสารีริกธาตุเพื่อนำมาประดิษฐานไว้บนยอดเจดีย์
พระบรมธาตุสันติคีรีที่วัดแม่ปางแห่งนี้ ได้ต้นแบบมาจาก วัดสันป่าสัก  อ.เชียงแสน  จ.เชียงราย
พระบรมธาตุสันติคีรีใช้ศิลปะร่วมสมัยผสมผสานระหว่างศิลปะแบบพม่า , เชียงแสน และรัตนโกสินทร์
แบบพม่า คือเป็นทรงสี่เหลี่ยมลดหลั่นเป็นชั้น ๆ ลงมา
แบบเชียงแสน คือเน้นตกแต่งซุ้มจระนำ มีพระราหูอยู่กลาง ประดับลายพรรณพฤกษา และลายฮ่อ




บันไดทางขึ้นเป็นงานปูนปั้นแบบลังกา  ส่วนเศียรพญานาคเป็นแบบล้านนา ( ลัวะ หรือ ละว้า )
ลักษณะของพญานาคแบบนี้พบได้ที่วัดอุโมงค์ และอีกหลาย ๆ วัดในทางภาคเหนือ


บริเวณรอยต่อตรงอกพญานาคมีสัตว์ชื่อ เข - ลา กำลังคาบพญานาค
ในทางเชิงช่าง เขลาเป็นสิ่งที่ทำให้ลวดลายดูกลมกลืนและส่งลายให้ดูต่อเนื่องเพิ่มความสวยงาม



ภายในพระเจดีย์เป็นสถานที่ ๆ สงบ ใช้สำหรับปฏิบัติธรรม นั่งสมาธิ  มีพระประธานนามว่า พระพุทธทิพยเกศโรมุนีนาถ
ฝัเพดาน และ ผนัง เป็นลายพิมพ์ทอง ศิลปะของชาวไทยใหญ่ในจังหวัดแม่ฮ่องสอน



บริเวณด้านหน้าของพระเจดีย์จะมองเห็นด้านหลังของอุโบสถ



ด้านข้างของอุโบสถจะมีงานหน้าต่างปูนปั้นเป็นซุ้มแบบหน้านาง มีปลายเรียกว่าหางวานอยู่ทั้งสองข้าง ศิลปะแบบล้านนา



ด้านหน้าอุโบสถ สองข้างจะเป็นซุ้มประตูโขง
ลวดลายศิลปะอ่อนช้อยงดงามเพราะรวบรวมเอาจุดเด่นของศิลปะล้านนา ล้านช้าง ไทยใหญ่ และ รัตนโกสินทร์มาผนวกรวมไว้ด้วยกัน


ซุ้มประตูโขง ( ซุ้มเรือนแก้ว )  เป็นศิลปะแบบพระธาตุลำปางหลวง  
ตรงกลางเป็นซุ้มปูนปั้น ๕ ชั้น ลวดลายปูนปั้นแบบทราวดี โดยช่างได้แนวมาจากวัดป่าแง  อ.แม่ริม  จ.เชียงใหม่


เสมาเอกหน้าทางเข้าอุโบสถ



ซุ้มประตูทางเข้า งานปูนปั้นศิลปะทางภาคเหนือ บานประตูลงลายพรรณพฤกษา




ด้านในของประตูทางเข้า เป็นลวดลายภาพพิมพ์โบราณศิลปะแบบไทยใหญ่
มีลักษณะเป็นซุ้มและมีหางพญานาคเกาะเกี่ยวกันเป็นบ่วงไว้ดูสวยงาม




พระประธานภายในอุโบสถนามว่า  พระพุทธมหามุนีประชานาถ


พระพักตร์ขององค์พระประธานมีเค้าหน้าจาก พระเจ้าเก้าตื้อ วัดสวนดอก จ.เชียงใหม่  
ลายรวงผึ้งด้านหลังเป็นม่านดอกบัวและพญานาค องค์ประกอบการลดเลี้ยวลายพรรณพฤกษาศิลปะแบบไทยใหญ่


ฐานพระมีลวดลายมาจากวัดสันป่าสัก อ.เชียงแสน


ด้านหน้ามีรูปของหลวงพ่อบัวเกตุ อดีตเจ้าอาวาสองค์ที่.๓ ของวัดช่องลม นาเกลือ  ผู้ริเริ่มก่อสร้งวัดแม่ปางแห่งนี้



เครดิตรายละเอียดเกี่ยวกับศิลปะต่าง ๆ ภายในวัดแม่ปางโดย คุณพรเทพ  ศุภราภรณ์




มีโอกาสผ่าน อ.แม่ลาน้อย อีกเมื่อไหร่ ผมจะต้องแวะไปชมภายในวัดแม่ปางให้ละเอียดกว่านี้แน่นอนครับ  .....  สวัสดี