ห้องเพลง**คนรากหญ้า** พักยกการเมือง 23/1/2018 ประตูพระบรมมหาราชวัง...กลบบัตรสุมเพลิง...ตัดหางปล่อยวัด cnck

เมื่อเราไปเที่ยวพระบรมมหาราชวัง หรือ วัดพระแก้ว จะพบว่ามีประตูด้านนอกทั้งหมด 12 ประตู

ซึ่งมีชื่อคล้องจองกันดังนี้

1. ประตูวิมานเทเวศร์  2. ประตูวิเศษไชยศรี 3. ประตูมณีนพรัตน์ 4. ประตูสวัสดิโสภา
  
5. ประตูเทวาพิทักษ์ 6. ประตูศักดิ์ไชยสิทธิ์ 7. ประตูวิจิตรบรรจง 8. ประตูอนงคารักษ์
  
9. ประตูพิทักษ์บวร 10. ประตูสุนทรทิศา 11. ประตูเทวาภิรมย์  12 ประตูอุดมสุดารักษ์



เรื่องราวทั้ง 12 ประตูมีมากมาย แต่วันนี้จะขอกล่าวถึงประตูที่ 4 ที่ชื่อว่า ประตู สวัสดิโสภา


ประตูสวัสดิโสภา  อยู่ทางด้านทิศตะวันออก อยู่ระหว่างป้อมเผด็จดัสกรและป้อมสัญจรใจวิง
ตรงข้ามกับกระทรวงกลาโหม (มีชื่อสามัญว่า ประตูทอง )
เพราะเป็นทางผ่านสำหรับประชาชนที่จะไปปิดทองคำเปลวบูชาพระแก้วมรกต


ข้อมูล : วิกีพีเดีย


เนื่องจากในบริเวณพระบรมมหาราชวัง เป็นที่ประทับของพระมหากษัตริย์

จึงมีกฏมณเฑียรบาลข้อหนึ่งที่เข้มงวด ประกาศใช้คือ



เมื่อเกิดเหตุการณ์ที่ โลหิตของราษฎร ตกในพระบรมมหาราชวังแล้ว พรามหณ์ ต้องรีบทำพิธีเพื่อแก้สิ่งอัปมงคลนี้ทันที

โดยการทำพิธีที่เรียกว่า "กลบบัตรสุมเพลิง"

พิธี กลบบัตรสุมเพลิงนี้มีรายละเอียดแสดงไว้ในจดหมายเหตุในสมัยรัชกาลที่ ๔ ดังนี้

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้


มีตัวอย่างที่เกิดขึ้นในอดีตดังต่อไปนี้

"วันนี้ที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2462   พราหมณ์พฤฒิบาศ ได้ตั้งพระราชพิธีกลบบัตรสุมเพลิง
ที่หน้าประตูสวัสดิโสภา ตามประเพณีเพราะเหตุที่ เมื่อคืนนี้  ฝนตก
จ่าตรีเขียน กรมยุทธศึกษาทหารเรือ เดินทางมาเกรงฝนจะเปียก จึงถอดเครื่องแบบหนีเข้าไปแฝงอยู่ใกล้ซุ้มประตู

บังเอิญอสุนีบาตตกต้องยอดซุ้มประตูนั้น แตกออกเป็น 3 เสี่ยง ยอดนภสูลตกปูนพังลงมา
บางส่วนตกลงมาในพระบรมมหาราชวัง ทับหลังคาโรงทหารรักษาวัง
กองพันที่ 1 กองร้อยที่ 3 ชำรุดยาวประมาณ 1 วาแต่จ่าตรีเขียนผู้ที่แฝงอยู่นั้น
ได้ล้มลงตายอยู่ที่ริมประตูภายนอก ห่างประมาณ 2 ศอก ทหาร รักษาวังทราบเหตุ
จึงได้โทรศัพท์ไปที่กองสารวัตร ทหารฯ บอกไปที่กรมยุทธศึกษาทหารเรือฯ
ได้มารับศพไปแต่เวลา 4.00 ก.ท. ในวันเดียวกันแพทย์ทหารเรือตรวจว่า ไม่มีบาดแผลฉกรรจ์
ที่จะทำให้ถึงตายได้ สันนิษฐานว่า จ่าตรีเขียนคงจะตายด้วยหัวใจหยุด"


ที่มา ส.พลายน้อย


ดังที่กล่าวมาข้างต้น พิธีนี้จะใช้ ไก่ เป็นตัวแทนเสนียด และความอุบาทว์ เมื่อเสร็จพิธีก็จะนำไปปล่อย

แต่ก่อนจะไปปล่อย จะต้องนำมาตัดหางเสียก่อน และส่วนใหญ่จะไปปล่อยในวัด

เพราะเป็นเขตอภัยทาน เผื่อมีคนที่จะมาจับ จะได้รู้ว่า นี่คือ ไก่ ในพิธี กลบบัตรสุมเพลิง


การปล่อย ไก่ เป็นตัวแทนเสนียดจัญ..ให้ออกไปนี้  ประชาชนก็สามารถทำได้ เช่น

เมื่อผู้ใดเจ็บป่วยหนัก หรือได้รับอันตรายต่างๆ หรือสงสัยว่าจะเคราะห์ร้าย

ก็จะหาไก่มาทำพิธีปัดรังควานจากผู้ป่วยหรือผู้มีเคราะห์ไปอยู่ในตัวไก่  ตัดหางไก่ แล้วเอาไก่ไปปล่อยที่วัด

เพราะฉะนั้น สำนวน "ตัดหางปล่อยวัด" จึงหมายถึง "ไก่" ไม่ใช่ สุนัข ตามความเข้าใจของคนส่วนใหญ่



ป.ล ในเม้นท์ย่อยจะมีเรื่องราวลักษณะไก่อัปมงคล ที่ห้ามคนเลี้ยง หรือ เข้าใกล้

ป.ล 2  ของไทยเราใช้ ไก่ ในพิธี แต่ที่ เนปาล ใช้อะไรแทน ? เม้นท์ย่อยมีเฉลย

ป.ล 3 คำว่า บัตร ในกระทู้อาจเขียนว่า บาต หรือ บาท ได้ทั้งสิ้น

ป.ล 4 เมื่อคราวกบฏวังหลวง ประตูสวัสดิโสภา ได้ถูกฝ่ายรัฐบาลจอมพล ป ยิงถล่มจนเสียหาย

พร้อมๆกับประตู วิเศษไชยศรี

ป.ล 5 สังเกตให้ดี ประตูด้านทิศเหนือ (หันหน้าไปทางสนามหลวง) จะมี 4 ประตู

และประตูด้านตะวันตก (หันหาแม่น้ำเจ้าพระยา) จะมีแค่ 2 ประตู แต่มีประตู ช่องกุด ใช้เป็นทางเข้าออก

ป.ล 6 พรุ่งนี้จะพาไปกินของอร่อยๆแถว วังบูรพา พร้อมกับ เรื่องราวทางประวัติศาสตร์

cnck
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 1
ในตำราโบราณที่สืบทอดกันมา มีไก่ที่มีลักษณะอัปมงคล

ที่เมื่อพบเห็นแล้ว ต้องไม่เอาไปเลี้ยง หรือ เข้าใกล้ เป็นอันขาด

มิฉะนั้น จะนำเรื่องทุกข์ร้อน และเจ็บไข้ได้ป่วย มาให้



ลักษณะของ ไก่อัปมงคล


๑.  ไก่กลิ่นตัวเหม็น คือ ไก่ที่มีกลิ่นตัวเหมือนอุจาระ,ซากศพ หรือมีกลิ่นสาบสาง
    
จะอาบน้ำล้างน้ำก็ไม่หมดกลิ่น ถือเป็นเสนียดจัญ.. ทำลายชื่อเสียงวงศ์ตระกูลของผู้เป็นเจ้าของ

๒.ไก่ตัวเมียขันยาม คือ ไก่ตัวเมียขันตอนกลางคืนแบบตัวผู้ ไม่ใช่ไก่ตัวเมียที่ขันสอนลูก
      
ไก่ตัวเมียขันยามนี้ ถือว่าเป็นอาเพศ ให้เกิดเหตุร้ายขึ้นแก่เจ้าของ บ้านช่อง และครอบครัว

๓.  ไก่ขันลากเสียงโหยหวนน่ากลัว ถือว่า อัปมงคล ไม่ควรเลี้ยงไว้ จะทำให้คนในครอบครัว
      
หรือผู้ที่อยู่ใกล้เคียง มีร่างกายอ่อนแอ เกิดการเจ็บป่วยเป็นประจำ

๔.  ไก่ปากเหม็น เหมือนอุจจาระ หรือเป็นเน่าโดยปกติ ไม่ได้เป็นโรค    
    
โบราณว่าไก่ปากเหม็น จะส่งผลให้ผู้เลี้ยง เกิดเหตุร้ายการเจรจา พูดไม่เข้าหูคน
      
เจรจากับใครๆมีแต่ผลเสีย เป็นที่รังเกียจของคนทั่วไปเพราะคำพูดจา

๕.  ไก่ที่มีเกล็ดแข้งต้องห้าม  ๕ ชนิดคือ เกล็ด ประตูผี, หนีเดิมพัน, เกล็ดอันบอด
      
เกล็ดถอดหัวหนี, เกล็ดขี้แพ้ ไก่ที่มีเกล็ดห้าชนิดนี้ จะทำให้ผู้เลี้ยงเสียทรัพย์สิ้นเนื้อประดาตัว

๖.   ไก่ตัวเมียจิกกินลูก เป็นไก่ผี ไก่ปีศาจ อัปมงคล ผู้เลี้ยงไว้จะเกิดความสูญเสียชื่อเสียงทรัพย์ และของรัก

๗.  ไก่ที่ชอบไล่จิกตีเจ้าของในบ้าน ถือเป็นไก่อัปมงคล ทำให้เจ้าของเกิดอุบัติเหตุถึงแก่ชีวิต

๘.  ไก่ฝ่าเท้าแดง หมายถึง ไก่ที่มีฝ่าเท้าแดงเป็นสีเลือด เหมือนเกล็ดสังวาลข้างแข้ง
    
นับเป็นไก่อัปมงคล จะเกิดอัคคีภัย โจรภัย หรือเดือดเนื้อร้อนใจแก่ผู้เลี้ยงอยู่เป็นประจำ

๙.  ไก่โกโรโกโส คือ ไก่ผอมแห้ง ซีดเซียว ไม่มีน้ำหนัก ชอบยืนหงอซอมซ่อ ไม่ร้องไม่ขัน
      
เป็นไก่อัปมงคล เป็นไก่ผลาญทรัพย์ ทำให้ผู้เลี้ยง ยากจน หมดทรัพย์  หมดสง่าราศี

๑๐.ไก่,แขนที่หลัง หรือ ปีกมองดูเป็นลาย คล้ายหน้าผี หน้ายักษ์ หากเลี้ยงไว้
      
เด็กๆในบ้านจะอยู่ไม่เป็นสุข หวาดกลัวผวา จิตใจไม่ปกติ และเจ็บป่วย

๑๑.ไก่ตีนเป็ด คือ มีพังผืดง่ามเท้าเป็นแผ่นแบบตีนเป็ด ถือเป็นอัปมงคล
      
ผู้ใดเลี้ยงไว้ทำให้จะไม่เจริญ  ทำกิจการงานใด? ก็ล้มเหลว ขาดทุน

๑๒.ไก่ชอบกินของสกปรก กินของเน่าเหม็น กิจอุจจาระคน หมา ขี้ไก่อื่นๆ
      
หรือแม้แต่กินขี้ตัวเอง ไม่ชอบกินข้าว ผักหญ้า ผลไม้ เป็นไก่อัปมงคล
        
จะทำเกิดอาเพศในบ้าน ยากจน ขาดแคลน เดือดร้อนสารพัด

๑๓.ไก่ชอบขึ้นมาคุ้ยเขี่ย ทำลายข้าวของทรัพย์สินในบ้าน ให้แตกหักเสียหายเป็นประจำ
      
หรือขึ้นมาขี้บนบ้านถือเป็นอัปมงคล ทำให้เกิดหายนะ เป็นปากเสียง เสียทรัพย์

ตามคำตำราโบราณ ใครพบเห็น ไก่อัปมงคลเหล่านี้ ต้องกำจัด ห้ามเอามากิน



ขอให้เพื่อนๆพิจารณาดูว่าจริงเท็จประการใด?


ฉะนั้นเพื่อนๆท่านใด? ที่คิดเล็งๆจะเอาไก่ชนิดนี้มาเลี้ยง โปรดคิดพิจารณาให้รอบคอบ

ป.ล ข้อมูลจาก บ้านคนรักษ์ไก่
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 19
หัวกระทู้พูดถึงประตูพระบรมมหาราชวัง มีความอัศจรรย์อย่างหนึ่งที่เกี่ยวกับชื่อประตูค่ะ




นั่นคือ อ่านไล่เรียงกันไปก็คล้องจอง  

1.  วิมานเทเวศร์
2.  วิเศษไชยศรี
3.  มณีนพรัตน์  
4.  สวัสดิโสภา  
5.  เทวาพิทักษ์
6.  ศักดิ์ไชยสิทธิ์  
7.  วิจิตรบรรจง
8.  อนงคารักษ์  
9.  พิทักษ์บวร
10. สุนทรทิศา  
11. เทวาภิรมย์  
12. อุดมสุดารักษ์  

และเมื่ออ่านชื่อสลับหน้าหลัง ไล่ย้อนกลับก็ยังคล้องจองกันอีก

12. สุดารักษ์-อุดม
11. ภิรมย์-เทวา
10. ทิศา-สุนทร
9.  บวร-พิทักษ์
8.  คารักษ์-อนง
7.  บรรจง-วิจิตร
6.  ไชยสิทธิ์-ศักดิ์
5.  พิทักษ์-เทวา
4.  โสภา-สวัสดิ
3.  นพรัตน์-มณี
2.  ไชยศรี-วิเศษ
1.  เทเวศร์-วิมาน
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่