อีกประสบการณ์ของโรคซึมเศร้า

ปัจจุบันโรคซึมเศร้าค่อนข้างเป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย เป็น hot issue ที่คนจำนวนไม่น้อยรู้จักนั่นเพราะมันเป็นภัยเงียบที่คร่าชีวิตคนดังไปมากมาย อาจจะมีหลายคน หลายค่าย หลายเพจ หลายสำนักออกมาตีแผ่ความรู้ในทางทฤษฎีถึงนิสัยและสาเหตุของโรค ซึ่งทุกสำนักก็เป็นไปในลักษณะ ทิศทางเดียวกัน และความเป็นจริงมันก็ไม่ได้แตกต่างเลย จากประสบการณ์ของคนที่เป็นและเผชิญอยู่กับโรคนี้ โรคนี้เป็นโรคเกี่ยวกับเคมีในสมองที่มันไม่ปกติ ขาดความสมดุล ทำให้หาความสุขหรือจุดที่ทำให้ตัวเองมีความสุขไม่ได้ อ้างว้างแม้มีคนรายล้อมรอบกาย จมอยู่กับความทุกข์ ความไร้ค่า คิดไปต่างๆนาๆเพ้อเจ้อโทษตัวเองทั้งที่ตามเหตุและผล ตัวเองอาจจะไม่ใช่คนผิดเลยด้วยซ้ำ อาจจะมีคำพูดหรือเหตุการณ์จากคนรอบข้างที่เข้ามากระทบจิตใจ แต่ในขณะเดียวกันเหตุการณ์หรือคำพูดเหล่านั้นถ้าเกิดกับคนปกติมันก็เป็นแค่เรื่องเล็กน้อย แต่สำหรับคนซึมเศร้ามันคือเรื่องใหญ่มาก ใหญ่เหมือนก้อนหินมหึมาที่กำลังจะหล่นทับหัว คำพูดหรือการกระทำเล็กๆเหล่านั้นจะฉายซ้ำไปซ้ำมาในหัว วนเวียนจนทำให้นอนไม่หลับ ร่างกายอ่อนเพลีย หลีกหนีผู้คน ซึ่งก็แล้วแต่กรณีของผู้ป่วยที่จะแสดงมันออกมา พวกเค้าไม่สามารถหลุดพ้นความทุกข์ทรมานทางความคิดได้ด้วยตัวเอง

คนซึมเศร้าไม่ใช่คนเอาแต่ใจตัวเอง คนซึมเศร้าไม่ใช่คนบ้าไร้เหตุผล คนซึมเศร้าไม่ใช่คนอ่อนแอ ไม่ได้ไร้สมรรถภาพ แต่คนซึมเศร้าคือผู้ป่วยที่สมควรมีคนดูแล

การให้กำลังใจคนซึมเศร้าอย่าพูดคำว่า ”สู้ๆ” เพราะเค้าไม่ได้กำลังแข่งขัน
อย่าพูดคำว่า “เดี๋ยวมันก็ผ่านไป” เพราะถ้าเค้าผ่านมันได้ด้วยตัวเอง เค้าก็ไม่ป่วย
อย่าพูดคำว่า “เรื่องแค่นี้เอง คนอื่นแย่กว่านี้ตั้งเยอะ” เพราะว่าปัญหาแต่ละคนมันต่างกัน การยอมรับสภาพได้มันมีความแตกต่างกัน ก่อนจะเกิดการเปลี่ยนแปลงทางเคมีไม่มีใครรู้ได้ว่าเค้าคิดอะไร เจ็บปวดทุกข์ทรมานด้วยเรื่องอะไร ถ้าเค้าเอามันออกมาได้เค้าก็จะไม่ป่วย
อย่าพูดว่า "ไปออกกำลังกายสิจะได้ไม่ฟุ้งซ่าน" แม้จะลุกจากเตียงบางคนยังทำได้ยาก อะดีนาลิน ไม่ได้ช่วยอะไรกับโรคซึมเศร้า
อย่าพูดว่า "ไปวัดสิ ความสงบช่วยได้" จิตสงบไม่จำเป็นต้องไปวัดหรอก ถ้าเค้าสงบก็ไม่ป่วยเช่นกัน

หลายคนอาจจะรำคาญและกำลังคิดว่า "แล้วกรุต้องทำยังไงวะ" ฉันไม่สามารถตอบแทนผู้ป่วยคนอื่นได้ แต่สิ่งหนึ่งที่คล้ายกันคือผู้ป่วยส่วนใหญ่เลือกคน เลือกไว้ใจคน เค้าต้องการคนที่ไว้ใจให้อยู่เคียงข้าง มันอาจจะเหมือนกำลังเอาแต่ใจแต่มันไม่ใช่ มันคือความต้องการที่พึ่ง

การอยู่กับผู้ป่วยโรคซึมเศร้าไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็ไม่ใช่เรื่องยาก แค่เปิดใจ ยอมรับฟังและอย่าซ้ำเติมหรือแสดงความคิดเห็นใดๆในขณะที่เค้าไม่พร้อมที่จะฟัง การรับฟังเค้า (แม้เราเองจะคิดว่าโคตรไร้สาระ) อยู่เคียงข้าง และโอบกอดเค้าไว้ให้รู้ว่าเค้าไม่ได้โดดเดี่ยว นั่นอาจจะเป็นการช่วยเหลือได้ดีมากกว่าคำพูดที่คุณคิดว่ามันคือกำลังใจ

การศึกษา หน้าที่การเงิน ทรัพย์สมบัติ ซื่อเสียง ยศฐาบันดาศักดิ์ ทุกสิ่งไม่สามารถการันตีหรือเป็นวัคซีนสำหรับโรคซึมเศร้าได้

สิ่งที่ฉันเขียนนี้ ฉันอยากให้คนอีกมากมายได้รับรู้เหลือเกินว่าโรคที่ทำให้คนไม่มีความสุขนั้นมีอยู่จริง ถึงแม้ว่าทางกายภาพภาพนอกจะดูเพรียบพร้อมขนาดไหน แต่ไม่มีใครรู้ได้ว่าคนคนนั้นเค้าขาดอะไร ต้องการอะไร ซึ่งตัวผู้ป่วยบางคนรู้ตัวแต่ทำไม่ได้ บางคนไม่รู้ตัวจึงหลุดพ้นไม่ได้ ทุกคนจะให้ความสนใจกับโรคซึมเศร้าก็ต่อเมื่อมีคนดังเสียชีวิตเพราะมัน

ปล. เราอาจจะไม่รู้ว่าใครบ้างหรือคนใกล้ตัวคนไหนกำลังป่วย แบบสอบถามทางจิตวิทยาง่ายๆในอินเตอร์เน็ต ถ้าไม่หลอกตัวเอง มันสามารถบอกเบื้องต้นได้ อย่าอายที่จะพบจิตแพทย์ เพราะอาการเครียดเพียงเล็กน้อยแท้จริงไม่รู้ว่ามันมีอะไรที่ซ่อนเร้น ดังนั้นไม่มีใครเป็นที่พึ่งให้ผู้มีปัญหาได้ดีเท่าจิตแพทย์อีกแล้ว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่