[CR] "เที่ยวระนองลองแลต๊ะ"

สวัสดีครับ ใกล้วันหยุดสุดสัปดาห์ ผมขออนุญาต พา พี่ๆ น้องๆ ทุกๆ ท่าน จัดกระเป๋าหลีกหนีอากาศร้อนๆ บ้านเมืองที่วุ่นวายไปใช้ชีวิต สโลว์ไลฟ์ชิวๆ ในบ้านเกิดของผม นั้นก็คือจังหวัดระนอง เมืองที่รายล้อมด้วยภูเขาอันเขียวขจี และวิวทะเลที่คงความเป็นธรรมชาติอันสมบูรณ์สวยงาม น้ำตก แม่น้ำ น้ำแร่ร้อนบำบัดสุขภาพ อีกทั้งยังเป็นเมืองที่มีประวัติศาสตร์ที่ยาวนานและยังคงขับเคลื่อนไม่หยุดนิ่ง ผู้คนที่เป็นมิตร อาหารพื้นเมืองอันสุดแสนอร่อย ถึงแม้ระนองจะขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองฝนแปดแดดสี่ แต่เชื่อมั้ยครับว่าจะเที่ยวฤดูไหนระนองก็ยังสวยเสมอทริปนี้ผมขออนุญาตตั้งชื่อทริปว่า “ระนอง ลองแล ต๊ะ” ทริปนี้ผมไม่ได้มาคนเดียวนะครับ ผมพาแฟนสุดที่รักร่วมเดินทางเคียงข้างผมมาด้วย หลายๆคนฟังแล้วก็คงอยากที่จะสัมผัสกับอีกหนึ่งเมืองที่เป็นเมืองต้องห้ามพลาดแล้วใช่มั้ยครับ

เราออกเดินทางจากสายใต้โดยรถโดยสารประจำทางบริษัท นิวมิตรทัวร์ เวลา21.00 น. มาถึงจังหวัดระนองเวลาโดยประมาณ 5.30 น.
“กองทัพก็ต้องเดินด้วยท้อง”หลังจากที่เราเดินทางกันมาทั้งคืนก่อนเริ่มต้นการเดินทาง จุดหมายแรกที่ผมจะพาไปคือร้านขนมจีนเจ้าเก่าแก่ เจ้าดังที่สานต่อฝีมือจากรุ่นสู่รุ่น “ร้านป้าอิ้ง”เดินออกจากบริษัท นิวมิตรทัวร์ มุ่งหน้าไปทางขวา ประมาณ 200 เมตร ร้านจะอยู่ทางขวามือเลยครับ (เดินเท้าสบายมากอากาศดีสุดๆ)
อิ่มท้องแล้วเดินข้ามถนนมาทางขวามืออีกนิด จะเจอร้านข้าวแกงป้าติ๋ว (สังเกตง่ายอยู่ตรงข้ามธนาคารออมสิน) ร้านเล็กๆ หน้าร้านขายขนมคาว -หวานเยอะแยะเต็มไปหมด ที่สำคัญร้านนี้มีที่กรวดน้ำสำหรับคนที่ต้องการตักบาตรก็ใช้บริการได้ เราจึงถือโอกาสเอาฤกษ์เอาชัยด้วยการทำบุญตักบาตร
อิ่มบุญแล้ว ท้องก็ร้องหาของหวาน จากหน้าร้านข้าวแกงป้าติ๋วเดินไปทางสี่แยกไฟแดง เลี้ยวซ้ายอีกครั้ง ข้ามถนนมาจะเห็นธนาคารกรุงเทพ ร้านจะอยู่ห่างออกมาประมาณสองคูหา มีชื่อว่า “ร้านใบเตย”

เยื้องฝังตรงข้ามร้านใบเตย จะเป็นศาลเจ้าเก่าแก่ของจังหวัดระนอง ซึ่งชาวระนองให้ความเคารพนับถือมาอย่างช้านาน ก่อตั้งเมื่อใดนั้นไม่ปรากฏหลักฐาน แต่มีป้ายศาลเจ้าเขียนเป็นอักษรจีนอ่านว่า “จู เจ่ เกง”แปลว่า ตำหนักแห่งการช่วยเหลือและสงเคราะห์อย่างเสมอภาค นั้นก็คือ“ศาลเจ้าต่ายเต๊เอี๋ย”เราก็ถือโอกาสไว้พระขอพรเพื่อเป็นสิริมงคลแก่เราทั้งสอง
เดินออกจากศาลเจ้ามาทางซ้ายมือ เดินต่อขึ้นมาอีกประมาณ 200-300 เมตร ฝั่งข้ามถนนจะเห็นผ้าผืนสีสันสวยงาม แฟนผมก็อดใจไม่ได้ พุ้งเข้าใส่ทันที ร้านผ้าร้านนี้ชื่อร้าน ”โชคดี” มีผ้าหลากหลายรูปแบบ จากการพูดคุยกับเจ้าของร้านเล่าว่า ร้านนี้เปิดมาแล้วด้วยกัน 3 รุ่น (เจ้าของตอนนี้ก็คงเป็นรุ่นหลานๆแล้วล่ะซินะ) ซึ่งผ้าที่นิยมในปัจจุบันคงหนีไม่พ้น ผ้าปาเต๊ะที่ละลานตา หลายลายหลากสีอยู่เต็มร้าน มีราคาตั้งแต่ผืนละหลักร้อยถึงหลักพัน เพราะคนระนองนิยมเอามาตัดชุด “บะบ่า ยะหยา”เป็นชุดประจำของคนจังหวัดระนอง อีกอย่างผ้าปาเต๊ะเหมาะสำหรับเป็นของฝากหรือของขวัญให้กับผู้ใหญ่ ...แน่นอนครับ แฟนผมซื้อเต็มไม้เต็มมือเลยทีเดียว
ออกจากร้านโชคดีขึ้นมาอีกนิด ถึงแล้ว!!! ใจกลางเมือง ตลาดสดเทศบาลเมืองระนอง ตลาดที่นี้แปลกกว่าที่อื่นตรงที่ ตลาดสดนี้ตั้งอยู่บนเนินเขา เรามาถึงเช้าพอดีเป็นเวลาที่ผู้คนกำลังจับจ่ายตลาดกันอย่างคึกคัก ทำให้เราได้เห็นวิถีชีวิตแม่ค้าพ่อค้าและชาวระนอง
หน้าตลาดจะมีรถประจำทาง ชาวระนองจะเรียกว่า “รถสองแถว” ตรงนี้จะเป็นจุดรวมรถทุกสาย จะไปที่ไหนถามคนขับหรือคนแถวนั้นได้เลยครับ ราคาก็เป็นไปตามระยะทางเริ่มที่ 10 บาทครับ
เดินข้ามถนนมาฝั่งตรงข้ามตลาด จะมีร้านทองเต็มไปหมด และระหว่างร้านทองจะมีทางขึ้นไปเป็นบันได ด้านบนเป็นศาลเจ้า ”ฮกเต็กสือ” ขอลองเดินขึ้นไปชมสักหน่อย ด้านบนร่มรื่นสงบมากครับ
เดินถ่ายรูปชมวิถีชีวิตคนระนองเพลินๆ แฟนผมก็บ่นหิวอีกแล้วครับ เดินลงจากศาลเจ้า ผ่านมาประมาณ 2-3 คูหา ก็จะเจอร้านพร น้ำแข็งใสไอติมไข่แข็ง(แค่ชื่อก็หนาวแล้วครับ) เป็นไอติมโบราณร้านแรกของระนอง ที่ขายตั้งแต่ปี 2512 มีด้วยกัน 3 รสชาติ กะทิ วานิลา ช๊อตโกแลตและยังสามารถเลือกใส่ท๊อปปิ้งได้ตามใจชอบเลยครับ เช่น ขนมปัง ลูกชิด มันเชื่อม วุ้นมะพร้าว ฯลฯ ราคาตามนี้เลยครับ
เดินกันต่อมาเรื่อยๆระหว่างรอรถสองแถว(ถนนเส้นนี้จะเป็น one-way ครับ เราจึงสามารถเรียกรถสองแถวตรงจุดรับ-ส่งผู้โดยสาร ตรงไหนก็ได้) ระหว่างนั้นผมก็หันไปเจอร้านชื่อว่าร้าน Pon’s place travel & tour ภายในร้านจะมีบริการขนม และเครื่องดื่มหลากหลายเมนูให้เราได้ทาน สำหรับผม และแฟนขอชาเขียวนมสดกับกาแฟเย็นสักแก้วละกันครับ  และหากท่านใดสนใจทริปดำน้ำเที่ยวเกาะต่างๆที่นี้ก็มีแพคเกจให้เลือกชมครับ
เราขอขึ้นรถสองแถวตรงนี้ละกันนะครับ(หมดแรงขาบวกกับความง่วงที่มีเราขอเข้าที่พักกันก่อนนะครับ) ขึ้นรถสองแถวแจ้งได้เลยว่าไป โรงแรมเดอะบีระนอง

แน่นอนครับวันนี้เราเลือกพัก “โรงแรมเดอะบีระนอง” โรงแรมที่ตกแต่งสไตล์ loft ปูนดิบขัดมันตัดกับสีสันที่ฉูดฉาด อาคารน่าจะประมาณ 3-4 ชั้น มีสระว่ายน้ำที่ชั้นด่านฟ้า lobby แต่งสไตล์ฮิปๆ ง่ายๆ แต่ดูดี ห้องพัก จัดได้อย่างลงตัว อุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครัน เราจองห้องพักผ่าน Agoda.com ห้องที่เราพักเป็นห้อง Superior room ราคา 860 บาท รวมๆแล้วดีครับ แต่ตอนนี้ขอตัวไปงีบก่อนนะครับ

หลังจากที่ได้งีบกันคนละตื่น ก็อาบน้ำแต่งตัวออกมาขึ้นรถสองแถว หน้าโรงแรมไปยังสถานที่ต่อไป ที่นั้นคือพระที่นั่งรัตนรังสรรค์ (จำลอง) สมัยก่อนพระที่นั่งรัตนรังสรรค์จัดสร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์การเสด็จประทับแรมจังหวัดระนองของพระมหากษัตริย์ 3 พระองค์ ได้แก่ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 พระบาทสมเด็จพระมงกุฎ เกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 และพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 7 พระราชวังรัตนรังสรรค์ สวยงามมากครับ สำหรับท่านใดที่สนใจเข้าชมสามารถติดต่อเข้าชมได้จากเจ้าหน้าที่ เทศบาลเมืองระนอง โทร.077 811422 ในวันจันทร์ –วันศุกร์ เวลา 08.30 น. – 17.30 น. เว้นวันหยุดราชการ
หลังจากที่เดินชมพระที่นั่งรัตนรังสรรค์(จำลอง)เสร็จจากนั้นต่อรถสองแถว ไปยังจุดหมายต่อไป จวนเจ้าเมืองระนองหรือค่ายเจ้าเมืองระนอง เมื่อพี่ๆน้องๆมาถึง จะพบกับคุณลุงโกศล ณ ระนอง ที่จะคอยเล่าเรื่องให้ความรู้ประวัติความเป็นมาของจวนเจ้าเมืองระนอง โดยคุณลุงโกศลเล่าว่าจวนเจ้าเมืองนั้นสร้างขึ้นในปี พ.ศ.2420 บนเนื้อที่ประมาณ 33 ไร่เศษ เป็นบ้านเจ้าเมืองคนแรกของระนอง พระยาดำรงสุจริตมหิศรภักดี (คอซู้เจียง ณ ระนอง) ท่านเป็นคนจีนที่สมรสกับคนไทยชาวพังงา และได้เข้ารับราชการ มีคุณงามความดีหลายอย่าง ได้รับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งให้เป็นหลวงรัตนเศรษฐีในรัชกาลพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว
จวนเจ้าเมืองระนองมีการก่อสร้างในลักษณะค่าย ประกอบไปด้วย บ้านหลังเล็กๆ ของตระกูล ณ ระนอง, ศาลบรรพบุรุษ ส่วนตัวอาคารเก่าที่เจ้าเมืองระนองได้พักอาศัย, เรือนรับรองแขก โรงเก็บสินค้า หน่วยงานราชการ ฯลฯ แต่ในปัจจุบันได้ทรุดโทรมไปตามกาลเวลา เหลือเพียงเสาและกำแพงอิฐ
และแล้วก็ถึงเวลาที่แฟนผมรอคอย เพราะทริปนี้จะเป็นทริปที่เราจะไปดินเนอร์อาหารทะเลที่สุดแสนพิเศษ พิเศษยังไงหรอครับ? พิเศษตรงที่ผมจะพาแฟนไปทานอาหารทะเลที่กลางทะเล(ฮ่าๆๆ)....งงละสิไม่ต้องตกใจครับ
เพราะทริปดินเนอร์นี้เราเลือกใช้บริการของ The Royal Andaman ที่จะพาเราล่องเรือดินเนอร์ท่องทะเลอันดามัน ตามรอยเสด็จประภาส รัชกาลที่5 ด้วยเรือไม้โบราณเอาเป็นว่าจากจุดนัดรับส่งของบริการที่ทาง The Royal Andaman จัดรถไว้ให้บริการนั้น ก็ออกเดินทางสู่ท่าเทียบเรือประภาคาร แค่เห็นประภาคารก็ว้าว...แล้วครับ วิวสวยมากอากาศก็ดี ระหว่างที่เรารอเรือออก ชั้นบนสุดของประภาคารก็มีร้านcafeให้เราได้นั่งชิวๆชมวิว360องศาเพลินๆกันด้วยครับ
เมื่อถึงเวลาขึ้นเรือ เริ่มต้นก็สุขแล้ว แค่การต้อนรับที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มของทีมงานบนเรือผมกับแฟนก็ประทับใจแล้วครับ ยังเสิร์ฟ welcome drink ด้วยน้ำส้มจี๊ดผสมน้ำผึ้งดับร้อนผ่อนคลายกันตั้งแต่เริ่มต้น
บนเรื่อจะมีไกด์นำทุกๆท่านย้อนรอยอดีตไปพร้อมๆกันจากการเล่าของคุณหลวงอรรถ(มัคคุเทศก์ประจำเรือ)
เรือรอยัลอันดามัน มีชื่อเดิมว่า เรือท่าเมือง สร้างในยุคเหมืองแร่ระนอง ถือว่าเป็นยุคเริ่มต้นของเมือง ราวปี พ.ศ. 2470 ของบริษัทท่าเมือง เพื่อใช้เป็นเรือโดยสาร ระหว่าง ระนองกระบุรี ตะกั่วป่า เพราะในสมัยนั้นการสัญจรทางน้ำคือช่องทางเดียวที่คนจะเดินทางเข้าออกเมืองระนองต่อมาเมื่อมีถนนตัดเข้าเมืองระนอง เรือลำนี้จึงได้ถูกเก็บโดยลูกหลานของเจ้าของด้วยความหวงแหนและดูแลเป็นอย่างดีเพื่อเป็นเหมือนเครื่องเตือนตนและรำลึกถึงระนองในยุคเหมือนแร่ ซึ่งในยุคของการท่องเที่ยว เจนเนอเรชั่นหลานจึงนำมาใช้ในการทำทริปล่องเรือไทม์แมชชีนเหมือนกับการที่ได้นั่งเรือย้อนกลับไปลำลึกถึงยุคเหมืองแร่ระนองโดยเรือโบราณในยุคนั้นและเปลี่ยนชื่อใหม่ว่า "เรือรอยัลอันดามัน" เพราะต้องการที่จะต้อนรับและดูแลทุกท่านดั่งอาคันตุกะของเมือง
ออกจากประภาคารระนองที่สูงที่สุดของไทยมุ่งตรงไปยังเกาะสรนีย์ เกาะแห่งประวัติศาสตร์ที่ปัจจุบันคือที่ประดิษฐานของเจ้าแม่กวนอิมศักดิ์สิทธิ์กลางทะเลแห่งเดียวในโลก
ชื่อสินค้า:   เที่ยวระนอง
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่