[CR] กวางมาเฟียที่จังหวัดนารา ญี่ปุ่น


Day 15:
จากที่เราอกหักจากนาราเมื่อ 3 วันที่แล้ว เนื่องจากไปถึงแล้วฝนตกหนักมากจนต้องเดินกลับเข้าสถานีนั่งรถไฟกลับเกียวโต
วันนี้เรามาอีกครั้ง! และพบว่าวันนี้อากาศดีมากกก เย้!


เราข้ามถนนตรงหน้าสถานีแล้วเดินตรงตามทางมาเรื่อยๆ


สองข้างทางจะเป็นร้านขายของฝากซะเป็นส่วนใหญ่ ตรงต้นๆถนนนี้คนจะยังไม่เยอะเท่าไหร่


เดินไปได้ซักพักคนจะเริ่มเยอะขึ้นเรื่อย ร้านข้างทางก็จะมีคนซื้อของคึกคักเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และในที่สุดจากที่เราบ่นคิดถึงแมวเรซิ่นที่เราไม่ยอมซื้อจากเกียวโตมาอยู่ 2 วัน เราก็มาเจอแบบเดียวกันเป๊ะที่นี่! แถมราคาถูกกว่าที่เกียวโตด้วย แต่ว่าร้านนี้มีแค่ตัวเดียว เราก็เลยต้องเดินหาตัวที่เป็นคู่กันอีกตัวนึง ปรากฎว่ามีร้านที่ขายคู่ของมันอีกตัวนึงพอดี! โชคดีมาก เย้ กลับบ้านกันนะเจ้าแมว \(^0^)/


ภารกิจตามหาแมวผ่านพ้นไป มาของกินกันมั่ง เดินๆอยู่เห็นมีคนมุงร้านขนมร้านนึงอยู่เยอะมาก เราเลยไปส่องๆดู ปรากฎว่าเป็นร้านโมจิที่ทำกันร้อนๆตรงนั้นเลย เราเลยลองซักหน่อย เฮ้ยยยย ไม่แปลกใจเลยที่คนมุง เพราะมันอร่อยมากและราคาไม่แพงเลย


พูดถึงเรื่องราคาแล้ว ร้านอาหารในถนนเส้นนี้ส่วนใหญ่ราคาค่อนข้างแพง และตอนนั้นอาจจะเป็นช่วงมื้อเที่ยงพอดี แต่ละร้านเลยมีคิวยาวเหยียด เราเดินหาร้านกันอยู่นาน จนมาจบที่ร้าน Café ร้านนี้


ด้านในร้านเป็นไฟสีส้มอุ่นเหมาะแก่การนั่งทานข้าว พักขามากๆ


เราสั่งเซ็ตทงคัตซึมา ให้เยอะมากกก กว่าจะทานหมดนี่พุงแทบแตก รสชาติก็ใช้ได้เลย


เติมพลังกันเรียบร้อย ปะ ไปกันต่อ!
เดินตามถนนไปอีกนิด เราก็จะเริ่มเข้าสู่อาณาจักรกวาง แน่นอน นาราเป็นเมืองที่ขึ้นชื่อเรื่องกวาง ที่นี่มีประชากรกวางอาศัยอยู่เยอะมาก มากจนเราเริ่มไม่แน่ใจว่ามีเยอะกว่าประชากรคนอีกรึเปล่าเนี่ย! 555


แถวๆทางเข้าสวนจะมีคนขายขนมเซมเบ้สำหรับเอาไปป้อนกวาง ถุงละ 150 เยน (45 บาท)
เหมือนถุงนึงจะเยอะนะ แต่พอเอาเข้าไปป้อนเท่านั้นแหละ พี่กวางทั้งหลายไม่รู้ได้กลิ่นหรืออะไร จะพร้อมใจกันหันขวับมาขอขนมในมือเรา 555


ละคือเหมือนว่ากวางพวกนี้จะไม่รู้จักคำว่าอิ่ม เราเห็นใครถือมาเจ้ากวางพวกนี้ก็ทานได้เรื่อยๆ ไม่มีหันหน้าหนีเมินแบบว่าอิ่มแล้วอะไรอย่างนี้เลยนะ




จากชุมชนเจ้ากวาง เราเดินออกมาตรงถนนนิดนึง ฝั่งตรงข้ามถนนจะมีวัดซึ่งมี


ซากุระ!!!!!!!!


ฟูเป็นพวงสวยเลย เริ่มมาแล้วสินะเจ้าซากุระ!


จริงๆเป้าหมายสำคัญของเราในการมานารานี่ จริงๆไม่ได้จะมาดูกวางนะ เรากะมาทานมันเผาร้อนๆ คือเราเป็นคนชอบทานมันมาก มันไทยก็ชอบ มันญี่ปุ่นนี่ยิ่งสุด ตั้งแต่มาถึงนี่เราก็เดินมองหาไปด้วยมาตลอดทาง แต่ก็ไม่เจอ จนมาเจอรถเข็นของคุณลุงคนนึงตรงแถวๆหน้าวัด เรานี่ดิ่งตรงไปหาอย่างไม่รอช้า พอไปถึง ยังไม่ทันได้พูดอะไรซักคำ
คุณลุง: (ส่ายหน้า) “finished”
หะ! นี่มันอะไรก๊านนนน ความใฝ่ฝันสูงสุดของเราที่นี่!!!!
จากนั้นพี่ปุ่นก็ช่วยเรามองหาตลอด แต่ก็ไม่เจอรถเข็นมันเผาที่ไหนอีกเลย T0T


ระหว่างที่เดินไปอีกทาง เราก็กำลังหาที่ตั้งกล้องถ่ายรูปเพื่อจะได้ถ่ายรูปคู่กัน มีคุณฝรั่งคนนึงคงเห็นเราตั้งกล้องแบบเก้ๆกังๆ เค้าเลยเดินเข้ามาถามว่า “ถามรูปให้มั้ย” พร้อมทำท่าถ่ายรูป เฮ้ยยย เค้าน่ารักมากอ่ะ เป็นอีกเรื่องที่น่าประทับสำหรับทริปนี้ เรามักเป็นคนประทับใจง่ายๆเวลาเจอผู้คนใจดีมีน้ำใจให้เรา มันน่าประทับใจนะ


ที่นี่มีส่วนของสนามกว๊างงง กว้าง ที่ไม่มีกวางให้คนนั่งเล่น วิ่งเล่นด้วยนะ


ส่วนคนนี้ก็ตามถ่ายรูปชาวบ้านเค้าไปทั่วเหมือนเดิม


แล้วเราก็เดินมาถึงส่วนสุดท้ายของอาณาจักรกวาง เราเห็นกวางตัวนึงกำลังแทะๆทานอะไรอยู่ พอเข้าไปดูใกล้ๆ เฮ้ย แผนที่ของสวนกวาง ละพอเดินไปเรื่อยๆ ก็จะเห็นแผนที่พวกนี้มีคนทิ้งไว้ที่พื้นเป็นระยะๆ คือตอนทิ้งเค้าอาจจะทิ้งด้วยความมักง่าย ไม่ได้คิดอะไร เค้าคงไม่รู้ว่ากวางพวกนี้ก็ไม่รู้เหมือนกันว่านี่ไม่ใช่อาหารของมัน แล้วมันก็คงไม่รู้ว่าสิ่งที่มันกินเข้าไปอาจจะเป็นอันตรายกับตัวมัน เพราะฉะนั้นคนที่ทิ้งขยะเรี่ยราดด้วยความมักง่ายก็ควรจะเริ่มรู้ได้แล้วว่านี่ไม่ใช่สิ่งที่ควรทำ
กวางในสวนตรงนี้บางตัวจะมีปลอกคอติดอยู่ เราไม่แน่ใจว่าเพราะอะไร อาจจะเป็นกวางที่ป่วยเลยต้องติดปลอกคอไว้เพื่อติดตามอาการรึเปล่า อันนี้เราก็ไม่รู้เหมือนกันแฮะ


ละตรงนี้ก็มีมนุษย์ต่างดาวแอบแฝงตัวเป็นต้นไม้อยู่ด้วยนะ 555


เดินจนครบก็เย็นพอดี เราเดินลัดเลาะซอกซอยอีกนิดหน่อยกะว่าจะหาข้าวทานที่นี่ แต่ก็ไม่ถูกใจซักร้าน สรุปก็เลยนั่งรถไฟกลับไปโอซาก้ากันดีกว่า


คืนนี้เรากลับมาตายรังที่ย่านโดทงบุริ ที่โอซาก้า


พี่ปุ่น: “ลองหารีวิวดูสิว่าเค้าทานร้านไหนกัน”
ลูกไผ่: (เดินไปหารีวิวไป) “ส่วนใหญ่เค้าแนะนำร้าน Sushizanmai อ่ะค่ะพี่ปุ่น”
พี่ปุ่น: “อ่ะ งั้นไปลองร้านนี้กัน”
ร้านหาไม่ยากค่ะ เดินตามพี่ Google เค้าไป


เราลองสั่ง Sushi Set มาทาน ราคา Set ละ 3,000 เยน (900 บาท)


อิ่มท้องแล้วเราก็เดินเล่นลัดเลาะซอกซอยในย่านนี้ย่อยอาหารกัน





ที่ย่านนี้มีตู้คีบตุ๊กตาเยอะมาก แล้วตุ๊กตาด้านในก็ดันเป็นหมาชิบะที่เราอยากได้มากกกก มองๆดูเค้าเล่นก็ไม่เห็นมีใครคีบได้ซักคน จนเอาวะ ลองเสี่ยงดูซักครั้ง ปรากฎว่า....ไม่ได้! 555 เลิก คีมที่จับนี่ดูอ่อนแรงมาก แต่เราเพื่อนเราบางคนไปเล่น บทคนคีบก็ได้เอ๊า ได้เอา อยากได้ม่างงงงง


ว่าแล้วเราก็เดินกันต่อ ดูนู้น ดูนี่ เดินแวะเข้าร้านกล้องมั่งไรมั่ง แล้วก็มาปิดท้ายที่ร้านทาโกะยากิที่คนต่อคิวยาวมากกก ตอนที่เราไปถึงนี่เกือบๆเที่ยงคืนแล้วนะ
ลูกไผ่: “ไผ่ไม่ซีเรียสนะคะ ไม่ต่อก็ได้นะ”
พี่ปุ่น: “ไม่เป็นไร ต่อสิ ไม่นานหรอก ไหนๆก็มาแล้ว”
อ่ะ ยืนต่อคิวกันไป


แต่คิวก็ไม่ได้นานขนาดนั้นจริงๆค่ะ คิวก็ไหลไปเรื่อย แพพๆเราก็มาถึงหน้าพ่อครัวที่ปิ้งทาโกะยากิมือเป็นระวิง


แล้วเราก็ได้มาแล้ว ร้านเค้ามีโต๊ะให้นั่งนะคะ แต่ต้องเดินลงบันไดตรงข้างที่พ่อครัวเค้ายืนปิ้งลงไปด้านล่าง รสชาติสำหรับเรา เราว่าก็อร่อยดี แต่ก็ไม่ได้ต่างจาก Gindaco ที่บ้านเราเท่าไหร่ 555


ดึกแล้วได้เวลากลับที่พักแล้ว
อย่าลืมติดตาม EP สุดท้ายกันนะค้า

ฝากติดตามเพจเราด้วยนะคะ => https://www.facebook.com/wherewegopage/
ชื่อสินค้า:   Nara นาระ
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่