คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 60
ผมไปดูมาก็แบบอืมมม เหรอ นี่คือ 8-10 ของนักวิจารณ์เหรอ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ให้เสี่ยวหลานพูดจีนเพื่อเผื่อขายหนังในจีนนี่ คือ Hollywood ยุคนี้ชัดๆ ฮ่ะๆๆๆๆๆๆๆๆ ในขณะที่ในเรื่องไม่มีใครพูดภาษาอื่นเลยนอกจากไทย
ok งานด้านภาพนี่ถือว่า ดีมากสำหรับทุนไม่ถึง 1 ใน 10 ของทุนอะนิเมชั่นฝรั่งด้วยซ้ำ texture พื้นดินทรายที่มีหญ้าแทรกนิดๆนี่ทำผมทึ่งเลย (แต่มีในหนังแว่บเดียวตอนอ๊อดแบกน้ำขึ้นเขา) แต่มุมกล้องฉากแอคชั่นนี่แบบ ผมยกให้เป็น Transformer เลย(ไม่ได้ชมนะนี่ด่า) คือ ซูมใกล้ตัวละครเกินไป มั่วๆเร็วๆ แล้วก็สโลโมชั่น แล้วก็กลับไปมั่วๆเร็วๆ สโลโมชั่น ถ้าจะทำแนวแอคชั่นผมว่า Kung Fu Panda เนี่ยน่าเอาเยี่ยงอย่างในฉากแอคชั่นนะ ให้คนดูได้เห็นเต็มๆชัดๆ ไม่ต้องใช้ภาพหลอกมาก ถ้าให้เทียบคือ John Wick(Kung Fu panda) vs Taken 3 (9 ศาสตรา)นั่นแหละ
เอาจริงๆผมให้ 6/10 แต่ก็ยินดีที่สร้างกันมา อย่างน้อย Production Value ก็ถือว่าดีไม่เผา ดนตรีประกอบเป็นอัดดนตรีสดวงออสเครสต้าหนังไทยทำไม่กี่เรื่อง เท่าที่รู้ก็มหา'ลัย เหมืองแร่อีกเรื่อง
ออ มันมีการหยิบยืมอะไรมาเยอะนะ แต่เอาเถอะถือว่าเป็น Fantasy มันก็ซ้ำๆกันล่ะนะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ให้เสี่ยวหลานพูดจีนเพื่อเผื่อขายหนังในจีนนี่ คือ Hollywood ยุคนี้ชัดๆ ฮ่ะๆๆๆๆๆๆๆๆ ในขณะที่ในเรื่องไม่มีใครพูดภาษาอื่นเลยนอกจากไทย
ok งานด้านภาพนี่ถือว่า ดีมากสำหรับทุนไม่ถึง 1 ใน 10 ของทุนอะนิเมชั่นฝรั่งด้วยซ้ำ texture พื้นดินทรายที่มีหญ้าแทรกนิดๆนี่ทำผมทึ่งเลย (แต่มีในหนังแว่บเดียวตอนอ๊อดแบกน้ำขึ้นเขา) แต่มุมกล้องฉากแอคชั่นนี่แบบ ผมยกให้เป็น Transformer เลย(ไม่ได้ชมนะนี่ด่า) คือ ซูมใกล้ตัวละครเกินไป มั่วๆเร็วๆ แล้วก็สโลโมชั่น แล้วก็กลับไปมั่วๆเร็วๆ สโลโมชั่น ถ้าจะทำแนวแอคชั่นผมว่า Kung Fu Panda เนี่ยน่าเอาเยี่ยงอย่างในฉากแอคชั่นนะ ให้คนดูได้เห็นเต็มๆชัดๆ ไม่ต้องใช้ภาพหลอกมาก ถ้าให้เทียบคือ John Wick(Kung Fu panda) vs Taken 3 (9 ศาสตรา)นั่นแหละ
เอาจริงๆผมให้ 6/10 แต่ก็ยินดีที่สร้างกันมา อย่างน้อย Production Value ก็ถือว่าดีไม่เผา ดนตรีประกอบเป็นอัดดนตรีสดวงออสเครสต้าหนังไทยทำไม่กี่เรื่อง เท่าที่รู้ก็มหา'ลัย เหมืองแร่อีกเรื่อง
ออ มันมีการหยิบยืมอะไรมาเยอะนะ แต่เอาเถอะถือว่าเป็น Fantasy มันก็ซ้ำๆกันล่ะนะ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 42
การ "อวย" มากๆ บางทีมันก็เป็น "ดาบ 2 คม"
คือ ดึงคนเข้าไปเสียเงินดูได้ (จุดประสงค์หลัก)
แต่ก็ทำให้คนดู พกพาความคาดหวัง เข้าไปด้วย
เช่นกรณี จขกท
จริงๆ ถ้าเล่น Pantip มาสักพัก
ก็จะพอจับทางได้แล้ว ว่าอะไรปกติ-อะไรผิดปกติ
มันมีหมดแหละครับ ทั้ง หน้าม้า, กองอวย, คนรักชาติ, ติ่ง, พนักงานบริษัท ฯลฯ
เรื่องนี้ แม้แต่เพจรีวิวหนังหลายเพจ ก็ออกอาการแปลกๆ-เป๋ๆ แบบรู้สึกได้ในสำนวนการเขียน
โดยเฉพาะหลายเพจที่ปกติให้คะแนนต่ำ หรือแทบไม่ดูการ์ตูนแนวต่อสู้นี้มาก่อน (ซึ่งผมก็เข้าใจได้)
พอมาถามพวกเพื่อนๆสายหนัง ที่ดูหนัง-Animation-Cut Scene เกม เป็นประจำ มันก็ให้ประมาณ 5-7 จาก 10
(เพื่อนที่มันไม่จำเป็นต้องโกหกเรา หรือต้องมาอวยหนัง-ติ่ง-รักชาติ)
ขนาดข้างบนยังมีคนบอกเลย ว่าหนังเกรดดีอย่าง Inside Out , Your name
เค้าดูไม่จบ หรือแทบจะหลับ
แล้วทำไมเรื่องนี้ถึงมีคนเชียร์กันอย่างเดียว หรือให้ 9-10 กันเป็นแถว ?
มันคือ "ความผิดปกติ" ของการวิจารณ์หนัง ครับ
ลองสมมติ นะ..
สมมติว่า หนังเรื่องนี้สร้างโดยคนจีน (ก็มีตัวละครจีนอยู่แล้วนิ)
แล้วมีคนซื้อจากจีน มาฉายบ้านเรา
โดย บท แบบนี้, Plot แบบนี้, Production แบบนี้ แค่ใส่เพลง Rock จีนกลางเข้าไปแทน
ถามว่า คุณยังจะให้คะแนน 9-10 เหมือนเดิม หรือเปล่า ?
ถ้าไม่ใช่
นั่นแหละครับ ที่เรียกว่า "อวย"
คือ ดึงคนเข้าไปเสียเงินดูได้ (จุดประสงค์หลัก)
แต่ก็ทำให้คนดู พกพาความคาดหวัง เข้าไปด้วย
เช่นกรณี จขกท
จริงๆ ถ้าเล่น Pantip มาสักพัก
ก็จะพอจับทางได้แล้ว ว่าอะไรปกติ-อะไรผิดปกติ
มันมีหมดแหละครับ ทั้ง หน้าม้า, กองอวย, คนรักชาติ, ติ่ง, พนักงานบริษัท ฯลฯ
เรื่องนี้ แม้แต่เพจรีวิวหนังหลายเพจ ก็ออกอาการแปลกๆ-เป๋ๆ แบบรู้สึกได้ในสำนวนการเขียน
โดยเฉพาะหลายเพจที่ปกติให้คะแนนต่ำ หรือแทบไม่ดูการ์ตูนแนวต่อสู้นี้มาก่อน (ซึ่งผมก็เข้าใจได้)
พอมาถามพวกเพื่อนๆสายหนัง ที่ดูหนัง-Animation-Cut Scene เกม เป็นประจำ มันก็ให้ประมาณ 5-7 จาก 10
(เพื่อนที่มันไม่จำเป็นต้องโกหกเรา หรือต้องมาอวยหนัง-ติ่ง-รักชาติ)
ขนาดข้างบนยังมีคนบอกเลย ว่าหนังเกรดดีอย่าง Inside Out , Your name
เค้าดูไม่จบ หรือแทบจะหลับ
แล้วทำไมเรื่องนี้ถึงมีคนเชียร์กันอย่างเดียว หรือให้ 9-10 กันเป็นแถว ?
มันคือ "ความผิดปกติ" ของการวิจารณ์หนัง ครับ
ลองสมมติ นะ..
สมมติว่า หนังเรื่องนี้สร้างโดยคนจีน (ก็มีตัวละครจีนอยู่แล้วนิ)
แล้วมีคนซื้อจากจีน มาฉายบ้านเรา
โดย บท แบบนี้, Plot แบบนี้, Production แบบนี้ แค่ใส่เพลง Rock จีนกลางเข้าไปแทน
ถามว่า คุณยังจะให้คะแนน 9-10 เหมือนเดิม หรือเปล่า ?
ถ้าไม่ใช่
นั่นแหละครับ ที่เรียกว่า "อวย"
ความคิดเห็นที่ 59
"ก้าวแรก" ???
ผมจำได้ว่าสมัย Animation เรื่อง "ปังปอนด์" (2002)
ออกฉายเมื่อ 16 ปีที่แล้ว (ภาพยนตร์ไทย เรื่องแรกที่สร้างโดยใช้ 3D รวมทั้งได้ฉายในโรง IMAX)
ก็มีคนบอกว่า นี่คือ "ก้าวแรก" ของวงการ Animation ไทย
และภาพยนตร์ Animation ไทย ที่ตามๆออกมา ไม่ว่าจะเป็น
- ก้านกล้วย (2006)
- ประวัติพระพุทธเจ้า (2007)
- นาค (2008)
- ยักษ์ YAK (2012)
- เอคโค่ จิ๋วก้องโลก (2012)
ฯลฯ
ทุกเรื่อง ก็บอกเหมือนกันหมด
ว่าอย่าเอาไปเทียบกับหนังต่างประเทศ เพราะนี่คือ "ก้าวแรก" หรือเป็น "หนังเรื่องแรก"
16 ปีผ่านไป...
ก็ยังบอกว่าเป็น "ก้าวแรก" เหมือนเดิม ??
ทีนี้ เราลองมาดู "หนังเรื่องแรก" ของ Studio อื่นๆ
- PIXAR : Toy Story (1995)
- Studio Ghibli : Laputa: Castle in the Sky (1986)
- Laika : Coraline (2009)
- Aardman Animations : Chicken Run (2000)
- DreamWorks Animation : Antz (1998)
- Illumination Entertainment : Despicable Me (2010)
ฯลฯ
"หนังเรื่องแรก" พวกนี้ ได้ทั้งเงิน-ทั้งกล่อง และผลตอบรับของผู้ชม
ทั้งที่ก็เป็น "ก้าวแรก" เหมือนกัน
หรือเอาจริงๆ เราได้เปรียบด้วยซ้ำ ในเรื่องคนมาทีหลัง ที่มีตัวอย่างดีๆให้ศึกษาเป็น Reference
รวมทั้งมี Hardware-Software ดีๆราคาถูก ให้ใช้งาน
(ลองไปดูเบื้องหลังการวางแผน Render ในหนังเรื่อง Toy Story ในยุคนั้น ปี 1993
แล้วเครียดแทนเลย เพราะมีข้อจำกัดเต็มไปหมด)
ที่น่าสนใจ..
เวลาเราเข้าไปอ่านข้อมูลหนังพวกนี้ใน Wiki
เราจะพบว่า เค้ามักจะขึ้น Credit "นักเขียนบท" กับ "ผู้กำกับ"
ก่อนชื่อ Studio ที่ผลิต...
หรือบางทีเป็นลักษณะจ้าง Studio หลายๆที่ ช่วยกันทำ
โดยเอา "ผู้กับกับ" และทีมเขียนบท เป็น Main หลัก โดยแทบจะไม่มีชื่อ Studio เลยก็มี
เรื่อง Production ผมว่า ไทยเราเลย "ก้าวแรก" มาไกลแล้ว
แต่ควรจะเปลี่ยนวิธีคิดใหม่-ทำใหม่
ด้วยการเฟ้นหาหรือให้ความสำคัญกับ "ผู้กำกับ" หรือ "ทีมเขียนบท" ดีๆ มาเป็น "ผู้เล่าเรื่อง"
และเป็น Keyman ในการคุม Production ทุกอย่าง
แทนที่จะ คิดกันเอง-ทำกันเองใน Studio
เพราะสิ่งที่สำคัญที่สุด ของ หนัง
คือ "บท" และ "วิธีเล่าเรื่อง" (การกำกับ)
และเราก็มักจะมาตกม้าตายตรงนี้ กันเป็นประจำ
ผมจำได้ว่าสมัย Animation เรื่อง "ปังปอนด์" (2002)
ออกฉายเมื่อ 16 ปีที่แล้ว (ภาพยนตร์ไทย เรื่องแรกที่สร้างโดยใช้ 3D รวมทั้งได้ฉายในโรง IMAX)
ก็มีคนบอกว่า นี่คือ "ก้าวแรก" ของวงการ Animation ไทย
และภาพยนตร์ Animation ไทย ที่ตามๆออกมา ไม่ว่าจะเป็น
- ก้านกล้วย (2006)
- ประวัติพระพุทธเจ้า (2007)
- นาค (2008)
- ยักษ์ YAK (2012)
- เอคโค่ จิ๋วก้องโลก (2012)
ฯลฯ
ทุกเรื่อง ก็บอกเหมือนกันหมด
ว่าอย่าเอาไปเทียบกับหนังต่างประเทศ เพราะนี่คือ "ก้าวแรก" หรือเป็น "หนังเรื่องแรก"
16 ปีผ่านไป...
ก็ยังบอกว่าเป็น "ก้าวแรก" เหมือนเดิม ??
ทีนี้ เราลองมาดู "หนังเรื่องแรก" ของ Studio อื่นๆ
- PIXAR : Toy Story (1995)
- Studio Ghibli : Laputa: Castle in the Sky (1986)
- Laika : Coraline (2009)
- Aardman Animations : Chicken Run (2000)
- DreamWorks Animation : Antz (1998)
- Illumination Entertainment : Despicable Me (2010)
ฯลฯ
"หนังเรื่องแรก" พวกนี้ ได้ทั้งเงิน-ทั้งกล่อง และผลตอบรับของผู้ชม
ทั้งที่ก็เป็น "ก้าวแรก" เหมือนกัน
หรือเอาจริงๆ เราได้เปรียบด้วยซ้ำ ในเรื่องคนมาทีหลัง ที่มีตัวอย่างดีๆให้ศึกษาเป็น Reference
รวมทั้งมี Hardware-Software ดีๆราคาถูก ให้ใช้งาน
(ลองไปดูเบื้องหลังการวางแผน Render ในหนังเรื่อง Toy Story ในยุคนั้น ปี 1993
แล้วเครียดแทนเลย เพราะมีข้อจำกัดเต็มไปหมด)
ที่น่าสนใจ..
เวลาเราเข้าไปอ่านข้อมูลหนังพวกนี้ใน Wiki
เราจะพบว่า เค้ามักจะขึ้น Credit "นักเขียนบท" กับ "ผู้กำกับ"
ก่อนชื่อ Studio ที่ผลิต...
หรือบางทีเป็นลักษณะจ้าง Studio หลายๆที่ ช่วยกันทำ
โดยเอา "ผู้กับกับ" และทีมเขียนบท เป็น Main หลัก โดยแทบจะไม่มีชื่อ Studio เลยก็มี
เรื่อง Production ผมว่า ไทยเราเลย "ก้าวแรก" มาไกลแล้ว
แต่ควรจะเปลี่ยนวิธีคิดใหม่-ทำใหม่
ด้วยการเฟ้นหาหรือให้ความสำคัญกับ "ผู้กำกับ" หรือ "ทีมเขียนบท" ดีๆ มาเป็น "ผู้เล่าเรื่อง"
และเป็น Keyman ในการคุม Production ทุกอย่าง
แทนที่จะ คิดกันเอง-ทำกันเองใน Studio
เพราะสิ่งที่สำคัญที่สุด ของ หนัง
คือ "บท" และ "วิธีเล่าเรื่อง" (การกำกับ)
และเราก็มักจะมาตกม้าตายตรงนี้ กันเป็นประจำ
ความคิดเห็นที่ 24
เราก็คิดว่าอวยกันเกินจริงเกินไป ตัวหนังไม่ได้ดีขนาดนั้น แต่เราให้มากกว่า 6 นะ ถ้าให้คะแนนแบบวิเคราะห์ จะให้ 7 ค่ะ แต่ถ้าบวกคะแนนพิเศษจากความชอบ จะให้ 8-8.5
ตัวบทมันยังไม่ดี (ไม่ถึงกับแย่ แต่ยังไม่ดี) หลายๆ อย่างก็ยังไม่สุด ไม่นุ่มลื่น แต่ต้องชมว่าฉากแอคชั่นดีจริงๆ ภาพและมุมกล้องสวย คิวบู๊ดีมาก มันเท่ และมันไม่จำเจกับหนังต่างชาติ
แต่เรื่องบทไม่ซับซ้อน เดาทางง่าย เราว่าไม่ใช่ประเด็นเลย ปกติหนังแนวนี้มันไม่จำเป็นต้องบทซับซ้อนพลิกไปมาอะไรขนาดนั้น ขอแค่ไม่ง่อยไม่ป่วย ดูแล้วสนุกก็พออะ (พวกพลิกไปพลิกมา บางทีก็ไม่สนุกนะ)
และเราว่าซาวต์ดนตรีประกอบดีมากนะคะ ไม่ใช่แค่พอผ่าน แต่ไม่ชอบเพลงประกอบที่มีเสียงร้องค่ะ ไม่เข้า รู้สึกผิดที่ผิดทาง
หลายคนอาจจะว่ามันวนอยู่กับอะไรไทยๆ เรากลับมองว่านี่แหละมาถูกทางแล้ว ปกติเราไม่ได้นิยมแนวไทยๆ นะ แต่เรื่องนี้คือประยุกต์เอาความเป้นไทยมานำเสนอได้สากลมากเลยนะ
แล้วก็ไม่ค่อยเข้าใจว่าทำไมหลายคนถึงอยากให้สร้างอะไรที่มันหนีไปจากจุดขายของตัวเอง การ์ตูนญี่ปุ่นจะเป็นยังไง อนิเมชั่นฮอลีวู้ดจะเป็นยังไง เราไม่จำเป็นต้องไปทำออกมาแนวนั้นนี่นา แทนที่จะพยายามเป็นแบบคนอื่น ไปแข่งกับเขาในแบบที่เราไม่ถนัด พัฒนาจุดเด่นของเราให้น่าสนใจมันไม่ดีกว่าหรอ จริงๆ ตรงนี้เรารู้สึกว่าเป็นสิ่งที่เรื่องนี้ทำได้ดี คือไอเดียและการนำเสนอออกมา ทำให้อะไรไทยๆ มันดูน่าสนใจ
ตัวบทมันยังไม่ดี (ไม่ถึงกับแย่ แต่ยังไม่ดี) หลายๆ อย่างก็ยังไม่สุด ไม่นุ่มลื่น แต่ต้องชมว่าฉากแอคชั่นดีจริงๆ ภาพและมุมกล้องสวย คิวบู๊ดีมาก มันเท่ และมันไม่จำเจกับหนังต่างชาติ
แต่เรื่องบทไม่ซับซ้อน เดาทางง่าย เราว่าไม่ใช่ประเด็นเลย ปกติหนังแนวนี้มันไม่จำเป็นต้องบทซับซ้อนพลิกไปมาอะไรขนาดนั้น ขอแค่ไม่ง่อยไม่ป่วย ดูแล้วสนุกก็พออะ (พวกพลิกไปพลิกมา บางทีก็ไม่สนุกนะ)
และเราว่าซาวต์ดนตรีประกอบดีมากนะคะ ไม่ใช่แค่พอผ่าน แต่ไม่ชอบเพลงประกอบที่มีเสียงร้องค่ะ ไม่เข้า รู้สึกผิดที่ผิดทาง
หลายคนอาจจะว่ามันวนอยู่กับอะไรไทยๆ เรากลับมองว่านี่แหละมาถูกทางแล้ว ปกติเราไม่ได้นิยมแนวไทยๆ นะ แต่เรื่องนี้คือประยุกต์เอาความเป้นไทยมานำเสนอได้สากลมากเลยนะ
แล้วก็ไม่ค่อยเข้าใจว่าทำไมหลายคนถึงอยากให้สร้างอะไรที่มันหนีไปจากจุดขายของตัวเอง การ์ตูนญี่ปุ่นจะเป็นยังไง อนิเมชั่นฮอลีวู้ดจะเป็นยังไง เราไม่จำเป็นต้องไปทำออกมาแนวนั้นนี่นา แทนที่จะพยายามเป็นแบบคนอื่น ไปแข่งกับเขาในแบบที่เราไม่ถนัด พัฒนาจุดเด่นของเราให้น่าสนใจมันไม่ดีกว่าหรอ จริงๆ ตรงนี้เรารู้สึกว่าเป็นสิ่งที่เรื่องนี้ทำได้ดี คือไอเดียและการนำเสนอออกมา ทำให้อะไรไทยๆ มันดูน่าสนใจ
แสดงความคิดเห็น
9 ศาสตรา ดีกว่าอนิเมชั่นที่ผ่านๆมาของไทย "แต่" ไม่ได้สนุกมากขนาดที่อวยกัน ... 6/10 คะแนน
ทั้งเรื่อง มีว้าวแค่ฉากคืนร่างเดิม ว่าเออ สวยดี ยิ่งใหญ่ดี แต่นอกเหนือจากนั้นทั้งหมดคือคาดเดาได้และเป็นอนิเมชั่นทั่วๆไป
คือ ถ้าเทียบกับที่ผ่านมาทั้งหมด โอเคยอมรับ มันดีที่สุดเท่าที่เคยมีมา แต่ถ้าเราเอาสแตนดาร์ดจริงๆแบบเป็นสากล พล็อตมันทั่วไปมาก มากแบบผมไม่อ่านสปอย ไม่อ่านอะไรเลยก็เดาทางออกได้หมด และมีบางจุดที่ยังติดขัดอยู่ ยังขาดความสมูธและความกล่มกล่อมของบท
จุดอ่อนใหญ่ๆคือ ยังไม่สามารถพาเนื้อเรื่องออกไปได้ไกลมากกว่าแค่ "มวยไทย"
ตัวละคร ภาพ เสียง สี พอผ่าน ยกเว้นเพลงประกอบ มันไม่ใช่ฟีลนะสำหรับผมว่า
สรุป ส่วนตัวผมให้ 6/10 คือก็ผ่านเกณฑ์ทั่วๆไปแหละ แต่มันยังไม่ได้แบบ "ว้าววววววววว อย่าพลาดนะเว้ย มันดีมากๆเลยนะ"
ขอบคุณครับ