พอดีได้ตั้งนานแล้วพึ่งเปิดอ่าน



ในหนังสือเขาก็จะกล่าวถึงปัญหาการเมือง ซึ่งผมอ่านแล้ว... ใช่หรอ โดยผมเองก็มีความคิดเห็นดังนี้
1)ปัญหาความคิดเห็นทางการเมืองของคนไทยที่แตกต่างกัน
อันนี้บอกเลยว่าขำตั้งแต่แรกเห็น อยากทราบว่าประเทศไหน บ้านเมืองไหนที่คนจะเห็นตรงกันทั้งล้านคนบ้างครับ ธรรมดาของการอยู่ร่วมกันเป็นสังคมมันก็ต้องมีความคิดที่แตกต่างอยู่แล้ว จึงต้องมีการรับฟังความเห็นซึ่งกันและกัน ที่ถูกต้องข้อนี้จึงควรเขียนว่า ปัญหาการไม่รับฟังความเห็นของประชาชนต่างหากที่เป็นปัญหาทางด้านการเมือง
2)ปัญหาความอ่อนแอของฝ่ายบริหาร
ตรงนี้ไม่มีความเห็นอะไร แต่งงนิดนึงตรงที่ว่า การให้อำนาจแก่องค์กรอิสระเข้ามาตรวจสอบการทำงานของรัฐบาลมีส่วนทำให้เกิดปัญหาตรงไหน อันนนี้ขอสอบถามครับ
3)ปัญหาที่เกิดจากระบบพรรคการเมือง
ผมไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่ตรงที่ว่า พรรคการเมืองหลายพรรคมันเป็นปัญหาตรงไหน เพราะที่ผ่านมา ถ้ามีแค่พรรคเดียวหรือสองพรรคก็หาว่าเผด็จการรัฐสภาอีก งงไปหมดแล้ว
4)คุณธรรมจริยธรรมของนักการเมือง
หรือเรียกอย่างเข้าใจง่ายๆว่าการคอร์รัปชั่น ซึ่งตรงนี้ไม่ใช่เฉพาะปัญหาการเมืองแน่นอน แต่อันนี้เรียกได้ว่าเป็นปัญหาสังคมเลยก็ได้ เพราะไม่น่าใช่แค่นักการเมืองหรอกที่คอร์รัปชั่น ผอ.รร.ผมจะย้ายโรงเรียนที ยังหมดนาไปตั้งหลายไร่
แปลกเหมือนกันนะครับ ปัญหาการเมืองไทย แทบไม่มีคำว่า "ประชาธิปไตย" อยู่เลย ทั้งๆที่เป็นปัญหาที่สำคัญที่สุดตรงนี้เลยก็ว่าได้
ผมไม่ใช่ไอ้เด็กบ้าการเมืองที่ใหนหรอกครับ แค่เห็นว่าการเขียนหลักสูตรที่สร้างความเกลียดชังนักการเมืองให้กับเยาวชน มันไม่ได้ทำให้ประเทศชาติดีขึ้นเลย เพราะนักการเมือง ก็คือคนไทย นิสัยนักการเมือง จึงเป็นนิสัยของคนไทยเช่นกัน และนิสัยการเห็นแก่ตัว จึงไม่ใช่นิสัยที่มีอยู่ในเฉพาะคนกลุ่มเดียวอย่างที่หนังสือเล่มนี้เขียนแน่นอน
แน่นอนว่านักการเมือง คือบุคคลสำคัญที่เป็นแรงขับเคลื่อนการพัฒนาของประเทศที่เป็นประชาธิปไตยอย่างไทย การที่ประเทศได้คนไม่ดีมาปกครอง จึงเป็นหน้าที่ของประชาชนในการตรวจสอบ และผมขอฟันธงว่าเราจะไม่ได้อะไรจากการสร้างความเกลียดชังอย่างแน่นอน
หยุดสร้างความเกลียดชัง
เดี๋ยวนี้หนังสือสังคมเขาสอนเด็กแบบนี้กันหรอครับ
1)ปัญหาความคิดเห็นทางการเมืองของคนไทยที่แตกต่างกัน
อันนี้บอกเลยว่าขำตั้งแต่แรกเห็น อยากทราบว่าประเทศไหน บ้านเมืองไหนที่คนจะเห็นตรงกันทั้งล้านคนบ้างครับ ธรรมดาของการอยู่ร่วมกันเป็นสังคมมันก็ต้องมีความคิดที่แตกต่างอยู่แล้ว จึงต้องมีการรับฟังความเห็นซึ่งกันและกัน ที่ถูกต้องข้อนี้จึงควรเขียนว่า ปัญหาการไม่รับฟังความเห็นของประชาชนต่างหากที่เป็นปัญหาทางด้านการเมือง
2)ปัญหาความอ่อนแอของฝ่ายบริหาร
ตรงนี้ไม่มีความเห็นอะไร แต่งงนิดนึงตรงที่ว่า การให้อำนาจแก่องค์กรอิสระเข้ามาตรวจสอบการทำงานของรัฐบาลมีส่วนทำให้เกิดปัญหาตรงไหน อันนนี้ขอสอบถามครับ
3)ปัญหาที่เกิดจากระบบพรรคการเมือง
ผมไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่ตรงที่ว่า พรรคการเมืองหลายพรรคมันเป็นปัญหาตรงไหน เพราะที่ผ่านมา ถ้ามีแค่พรรคเดียวหรือสองพรรคก็หาว่าเผด็จการรัฐสภาอีก งงไปหมดแล้ว
4)คุณธรรมจริยธรรมของนักการเมือง
หรือเรียกอย่างเข้าใจง่ายๆว่าการคอร์รัปชั่น ซึ่งตรงนี้ไม่ใช่เฉพาะปัญหาการเมืองแน่นอน แต่อันนี้เรียกได้ว่าเป็นปัญหาสังคมเลยก็ได้ เพราะไม่น่าใช่แค่นักการเมืองหรอกที่คอร์รัปชั่น ผอ.รร.ผมจะย้ายโรงเรียนที ยังหมดนาไปตั้งหลายไร่
แปลกเหมือนกันนะครับ ปัญหาการเมืองไทย แทบไม่มีคำว่า "ประชาธิปไตย" อยู่เลย ทั้งๆที่เป็นปัญหาที่สำคัญที่สุดตรงนี้เลยก็ว่าได้
ผมไม่ใช่ไอ้เด็กบ้าการเมืองที่ใหนหรอกครับ แค่เห็นว่าการเขียนหลักสูตรที่สร้างความเกลียดชังนักการเมืองให้กับเยาวชน มันไม่ได้ทำให้ประเทศชาติดีขึ้นเลย เพราะนักการเมือง ก็คือคนไทย นิสัยนักการเมือง จึงเป็นนิสัยของคนไทยเช่นกัน และนิสัยการเห็นแก่ตัว จึงไม่ใช่นิสัยที่มีอยู่ในเฉพาะคนกลุ่มเดียวอย่างที่หนังสือเล่มนี้เขียนแน่นอน
แน่นอนว่านักการเมือง คือบุคคลสำคัญที่เป็นแรงขับเคลื่อนการพัฒนาของประเทศที่เป็นประชาธิปไตยอย่างไทย การที่ประเทศได้คนไม่ดีมาปกครอง จึงเป็นหน้าที่ของประชาชนในการตรวจสอบ และผมขอฟันธงว่าเราจะไม่ได้อะไรจากการสร้างความเกลียดชังอย่างแน่นอน
หยุดสร้างความเกลียดชัง