ความเดิมจากตอนที่แล้ว
ทิดหลอมกลับมาจากอังกฤษเลยได้สนทนากันเรื่องฟุตบอล สำหรับวันนี้ อมยิ้มและมูทู่ได้มาหาจขกท.อีกครั้ง ทว่า ครั้งนี้ทั้งสองคนดูตื่นเต้น ว่าแต่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นหล่ะ
--------------------
สวัสดีครับ วันนี้ผมและมูทู่มีเรื่องน่าสนใจจะมาถาม จขกท.ครับ
สวัสดีครับ ผมเล่าเองครับ ผมอยู่ในเหตุการณ์ คือเมื่อวานนี้ดาบเก้าเพื่อนของพ่อผมมาหาพ่อที่บ้าน เลยได้ปะทะคารมกับลุงก้วยแขนเดียวของผมเข้า เกี่ยวกับเรื่องบอลเยอรมัน – อังกฤษ ประมาณนี้หล่ะครับ บู้กันมันหยดสะเทือนทั่วโลกา ไอผมก็ยังเด็ก ฟังไม่ค่อยรู้เรื่อง เลยชวนอมยิ้มมาถามจขกท. พอจะอธิบายให้พวกกระผมฟังได้ไหมขอรับ (อ้อนๆๆๆ)
**************
อา.....เรื่องดราม่าเปรียบเทียบแบบนี้อธิบายยากจริงๆ ยิ่งถ้าคุยกับคนต่างยุคต่างสมัยด้วยก็ยิ่งทำความเข้าใจยาก จขกท. ก็พอเล่าได้จากประสบการณ์ส่วนตัวเท่านั้น ถ้าต้องว่ากันด้วยตามหลักการและเหตุผล ข้อมูลข่าวสารที่เป๊ะๆๆ ก็คงต้องไปเปิดกูเกิ้ลเอาเอง
เรื่องมีอยู่ว่า เมื่อสมัยจขกท. ยังเด็ก ประมาณยังกดเกมแฟมิคอมเล่นอยู่ที่บ้าน และเป็นพวกชอบแอบตื่นดึก ๆ มาดูทีวี ตอนนั้นก็ได้ดูแต่บอลบุนเดสลีกา ซึ่งบอกตรงๆ ว่าประทับใจมาก ๆ ตามมาด้วยการดูบอล UCL ซึ่งสมัยนั้นยังเป็นชื่อยูโรเปี้ยนคัพอยู่ ก็ยิ่งติดใจกับความหลากหลายของเกมฟุตบอล และประจวบเหมาะกับเป็นช่วงบอลโลก 1994 ฮิตกันทั้งบ้านทั้งเมือง จึงเรียกว่าติดบอลไปตามๆกัน แต่มาไม่นานพอลีกดิวิชั่น 1 ของอังกฤษเปลี่ยนมาเป็นชื่อพรีเมียร์ลีก กระแสก็มาแรงมาก เรียกได้ว่าทุกชนิดของข่าวสารแทบจะกลายเป็นข่าวบอลอังกฤษเสียหมด ซึ่งจขกท.ก็ได้มีโอกาสดูและมีทีมเชียร์อยู่เหมือนกัน
ช่วงนั้นต้องยอมรับว่าถึงกระแสบอลอังกฤษจะแรงแต่ จขกท.กลับรู้สึกว่ารูปเกมช่างแตกต่างจากบอลเยอรมันเสียเหลือเกิน ความสวยงามในการเล่นน้อยมาก เมื่อเทียบกับบอลเยอรมัน ที่เน้นการต่อบอลและการเข้าทำประตูได้ทุกรูปแบบ ผนวกกับมีกองหลังที่แข็งแกร่ง การตัดลูกแย่งลูกเป็นไปอย่างสุดยอด ไม่ได้กินฟาว์ลกันง่าย ๆ ลูกตายมีน้อย
แตกต่างจากเกมทางฝั่งอังกฤษ ที่เหมือนกับการเล่นโยนลูกข้ามฟากกันไปมา เสียบฟาล์ว เตะออก ใช้ปีกเป็นหลักเพื่อโยนลูกเข้าบริเวณหน้ากรอบเขตโทษ (จนบางคนกล่าวไว้ว่า เล่นแบบไม่มีคลาส และจขกท.ก็เคยเป็นหนึ่งในบางคนนั้นด้วย 5555+ แต่ก็ยังตามดูนะ แบบดูเอาข้อมูลไปคุยถล่มเพื่อน อิๆๆๆ)
แต่บอลอังกฤษที่ว่าน่าเบื่อ บอลลีกอิตาลียิ่งเข้าไปใหญ่ 1 นาที กรรมการเป่าปรี๊ด 5 นาที กรรมการเป่าปรี๊ด เออ...แบบมันจะล้มจะฟาว์ลกันไปถึงไหน ทำไมอารมณ์มันต่างกับตอนดูเอซี มิลาน อินเตอร์มิลาน ลงแข่งในยูโรเปี้ยนเหลือเกิน ยิ่งมาเจอข่าวล้มบอลด้วย จขกท.แทบปิดตายกับการดูบอลลีกอิตาลีไปเลย
อันนั้นคือความเห็นส่วนตัวของจขกท.ที่ประสบเจอมาด้วยตัวเอง ซึ่งไม่ได้หมายถึงรูปเกมทั้งหมดของทั้งสามลีกหรอกนะ แต่ทุกคนมักมี First sight seeing เสมอ และมันก็ฝังจำเสียด้วย
แต่แล้วทัศนคติของจขกท.ก็เปลี่ยนไป เมื่อได้ดูเกมของอาร์เซน่อล ยอมรับว่าการเล่นของทีมสวยงามไม่แพ้ทีมในเยอรมันเลย โดดเด่นมาตั้งแต่รุ่นเบิร์กแคมป์พีคๆ จนมาถึงรุ่นอองรีไร้พ่าย แฟนแมนยูอย่าง จขกท.ถึงกับเกลียดอองรีเข้าไส้ (เกลียดเพราะความเก่ง คือต้องนับถือเลยว่าสุดยอดจริง ๆ ) พอเริ่มมายุคเซลซี อะไรๆ ในลีกก็เริ่มเปลี่ยน หลังๆ นักเตะต่างชาติ โค้ชต่างชาติเข้ามาโดดเด่นในพรีเมียร์ลีกกันมาก รูปแบบการเล่นก็ดูดีขึ้น สนุกขึ้น สวนทางกับฝั่งเยอรมันที่ตัวนักเตะเก่งๆ กลับไปกระจุกอยู่แค่บางทีม ความน่าสนใจจึงลดลง
ส่วนเรื่องตัวผู้เล่น จขกท.มีความเห็นส่วนตัวว่า ที่นักเตะเยอรมันดูจะดีกว่าเพราะผลงานโดยเฉลี่ยนักเตะเยอรมันจะทำผลงานได้ดีกว่าทั้งในและนอกลีก แต่กับนักเตะอังกฤษซึ่งมักจะกระจุกตัวในลีกอังกฤษ เฉลี่ยผลงานโดยรวมแล้วยังสู้นักเตะต่างชาติในลีกตัวเองยังไม่ค่อยได้ และยิ่งผลงานในระดับทีมชาติที่มีให้เห็นอย่างเป็นรูปธรรมด้วยแล้ว ยิ่งทำให้นักเตะอังกฤษดูด้อยกว่านักเตะเยอรมันเข้าไปใหญ่
***************
แสดงว่าแต่ละยุคแต่ละสมัยไม่เหมือนกันสินะครับ ใครดีกว่าแย่กว่าก็ต้องคุยเป็นยุคไปใช่ไหมครับ ถ้าเป็นยุคนี้เราจะวัดกันอย่างไรว่าใครดีกว่าแย่กว่าครับ
***************
ถ้าเป็นเรื่องของตัวนักเตะ ก็วัดกันง่ายๆ ที่ผลงานทีมชาติ ซึ่งก็ใกล้ช่วงแข่งฟุตบอลโลกเข้าไปทุกที ก็จะเห็นเองว่านักเตะเยอรมันหรือนักเตะอังกฤษยุคนี้ใครดีกว่ากัน
แต่ถ้าในระบบลีกก็จะมีการแข่งขันระดับยุโรป รายการ ยูฟ่าแชมเปี้ยนลีก และยูฟ่ายูโรป้าลีก พอจะเป็นตัวชี้วัดได้ ถ้าให้เทียบข้อมูลปัจจุบันระหว่างทีมเยอรมันและอังกฤษ จขกท. ยกให้ลีกอังกฤษดีกว่า เนื่องจากปีนี้ทีมที่มาจากเยอรมันดูจะป้อแป้มาก ฟอร์มตกเป็นแถวๆ แม้กระทั่งบาเยิร์นเอง ก็ยังมีช่วงฟอร์มตกจนต้องเปลี่ยนผู้จัดการทีมกันเลยทีเดียว แต่ถ้าวัดผลงานกันตรงๆ ก็ต้องเห็นใจทีมจากเยอรมันที่กำลังฟอร์มตกแล้วมาเจอทีมอังกฤษที่กำลังฟอร์มพีคๆ
เพื่อความกระจ่าง เดี่ยว จขกท.จะวิเคราะห์การแข่งขันชิงถ้วยยุโรปรอบแบ่งกลุ่มนัดแรกทั้งสองรายการ คร่าวๆ ให้ดูสถานการณ์ก่อนแข่งและผลงานของแต่ละคู่ที่มีทีมจากเยอรมันลงเล่น เริ่มที่ถ้วยยูฟ่าแชมป์เปี้ยนลีกก่อน
Bayern Munich 3 – 0 Anderlecht
สถานการณ์ของบาเยิร์นในนัดแรกเรียกว่าเจอหมูอย่างแท้จริง ถ้าไม่ชนะสิแปลก ได้คุยทับกัน 3 วัน 7 วัน แน่ๆ อันนี้ปล่อยผ่านๆ ไม่ต้องวิเคราะห์อะไรมาก
RB Leipzig 1 - 1 Monaco
ผลของการแข่งขันคู่นี้นี่เรียกว่าไม่ธรรมดาเลยทีเดียว แต่ถ้ามองในมุมลึกๆจะเห็นว่า ทีมไลป์ซิกนั้นกำลังเป็นทีมดาวรุ่งพุ่งแรง สถานการณ์ในลีกเรียกว่าใช้ได้ ส่วนโมนาโกถึงแม้จะมีประสบการณ์ในเวทียุโรปมากกว่ามากๆๆๆ แต่สถานการณ์ในลีกนัดก่อนเจอไลป์ซิก กลับแพ้มาถึง 0-4 นี่ก็อาจเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้พลาดเสมอมาได้ แต่ยังไงก็ต้องยกเครดิตให้น้องใหม่ไร้ประสบการณ์อย่างไลป์ซิกด้วยว่า เยี่ยมจริงๆ เยี่ยมจริงๆ เยี่ยมจริงๆ
Tottenham Hotspur 3 - 1 Borussia Dortmund
มาถึงคู่ที่น่ากล่าวถึงมากที่สุดคือคู่สเปอร์จากอังกฤษและคู่ดอร์ทมุนด์จากเยอรมัน ถ้าลองปิดตา ปิดหู ปิดจมูก (ตายพอดี) แล้วนึกถึงภาพการแข่งขันของคู่นี้ก็จะเห็นความเป็นต่อของดอร์ทมุนด์ที่ได้ชื่อว่าทีมใหญ่จากเยอรมันขึ้นมาทันที ส่วนสเปอร์ก็คงจะประมาณทีมพลังหนุ่มผู้มุ่งมั่น ดังจูล่งฝ่าฟันศัตรูไปช่วยอาเต๋าจากวงล้อมของข้าศึกมีรึจะสู้แม่ทัพใหญ่ปราบเซียนอย่างกวนอูรู้รบไปทั่วสารทิศได้ (เพ้อเจ้อละ
)
เอาเป็นว่าไม่ต้องปิดตาปิดตัวอะไร เอาสถิติทั่วๆไปมากางดู ก็จะเห็นว่า ประสบการณ์ในเวทียุโรปของดอร์ทมุนด์ดูจะมีภาษีดีกว่าของสเปอร์อยู่พอสมควร แต่ถ้าเอาสถานการณ์ก่อนแข่งขันมาเปรียบก็จะเห็นว่าสเปอร์ก็มีภาษีที่ดีกว่าดอร์ทมุนด์อยู่ไม่ใช่น้อยเช่นกัน เพราะเพิ่งชนะ 0-3 มาหมาดๆ แต่ดอร์ทมุนด์กลับทำได้แค่เสมอกับทีมอ่อนชั้นกว่า แต่พอเอาค่ามารวมๆ หารเฉลี่ย ก็พบว่าดอร์ทมุนด์ดูจะเป็นต่ออยู่ ซึ่งก็เลยเกิดคำถามว่าดอร์ทมุนด์พ่ายแพ้ให้กับสเปอร์ได้อย่างไร ทั้งที่ควรจะชนะ หรือเสมอก็ยังดี ซึ่งก็มีคำวิพากษ์วิจารณ์ต่างๆ มากมาย เอาที่เด็ดๆ พอจำได้คร่าวๆ คือ
1. สเปอร์เก่ง ฟอร์มสุดยอด ต่อให้ดอร์ทมุนด์จะฟอร์มดีมาแค่ไหนก็ทำอะไรไม่ได้หรอก เพราะช่วงนี้ฟอร์มพุ่งกระฉูดปรู๊ดปร๊าด ถึงจะเป็นมาดริดมาก็เถอะ เดี๋ยวจะสอยให้ดู
2. สเปอร์ไม่ได้เก่งอะไรเลย แต่ดอร์ทมุนด์อ่อนเอง เพราะสภาพในลีกเยอรมันอ่อนแอ เก่งอยู่ทีมเดียว ถ้าจะโดดเด่นก็อยู่แค่ในเยอรมันแต่มาแย่ในยุโรป ไหนเลยจะสู้ทีมจากอังกฤษได้
3. เตะไล่โค้ช ปัญหาภายใน ของดอร์ทมุนด์ คนนอกยากที่จะเข้าใจ
4. สเปอร์ดวงดี ก็แค่นั้น
แต่พอลองไล่ไปดูนัดหลังจากนี้ สเปอร์กลับไปเสมอสวอนซีในลีก 0 - 0 ส่วนดอร์ทมุนด์ไล่ถล่มโคโลญจน์อย่างเมามันไป 5 – 0 ..................... (แหม่ะ คำตอบข้อ 2 นี่ลอยมาในหัวเลย) ร้อน จขกท.ต้องกลับไปดูข้อมูลใหม่อีกรอบ
ระบบการเล่น เจ้าบ้าน : ทีมเยือน 3-4-2-1 : 4-3-3
ร้อยละการครองบอล เจ้าบ้าน : ทีมเยือน = 32 : 68
การยิงประตูนอกกรอบ/ในกรอบ เจ้าบ้าน : ทีมเยือน = 6/4 : 5/2
เห็นแบบนี้ค่อยชื้นใจ ไม่ใช่ข้อ 2 แน่ละ เพราถ้าเป็นอย่างนั้น ดอร์ทมุนด์ต้องอยู่ในสภาพที่โดนถล่มยับ ซึ่งงานนี้ก็ต้องยกความดีความชอบให้กับสต๊าฟโค้ชฝั่งสเปอร์ ที่วางแผนมาดี รู้สถานการณ์ทีม ทั้งยังมีผู้เล่นแนวรุกที่เฉียบคมสามารถเจาะทำประตูได้ด้วยความสามารถเฉพาะตัวและลูกสวนกลับ เอาชนะไปได้ทั้งที่ครองบอลน้อยกว่า และก็ต้องหันกลับมามองฝั่งสต๊าฟโค้ชของดอร์ทมุนด์ด้วย ว่าประมาทไปหรือเปล่า (แต่คงจะเจ็บแค้นมากถึงไปลงกับโคโลญจน์ซะเละเทะแบบนั้น)
ทีนี้มาดูฝั่งถ้วยยูโรปากันบ้าง ที่จขกท. หลงใหลกับถ้วยนี้เพราะทีมที่ลงมาเล่นส่วนใหญ่เป็นทีมที่มักมีตัวผู้เล่นเป็นคนสัญชาติในลีกนั้นๆ สูงมาก ซึ่งจะบ่งบอกสถานการณ์ของลีกในชาตินั้นๆ ได้เป็นอย่างดี ไม่เหมือนทีมที่เล่นในถ้วยแชมป์เปี้ยนลีก ที่มักจะมีแต่สตาร์ข้ามชาติซะเป็นส่วนใหญ่จนบางคนถึงกับเปรียบว่าเป็นทีมที่ใช้เงินซื้อความสำเร็จ เหมือนเวทีให้เศรษฐีโชว์พาวกัน เราลองมาดูคู่แรกกันก่อน
Hoffenheim 1 - 2 Sporting Braga
สถานการณ์ทั้งสองทีมไม่ได้ดีไปกว่ากันทั้งคู่ บราก้าออกจะแย่กว่าด้วยซ้ำ แต่ด้วยประสบการณ์ที่มีมากกว่าในเวทียุโรป ก็ทำให้เฉือนเอาชนะทีมฮอฟเฟนไฮม์ไปได้ เคสนี้ถือว่าเป็นเรื่องปกติ ผ่านๆ
Hertha BSC 0 - 0 Athletic Club
สถานการณ์นี้คล้ายๆ กับไลป์ซิก คือสามารถยันเสมอเก็บแต้มมาได้ ทั้งๆ ที่ควรแพ้เป็นอย่างยิ่ง ก็ต้องปรบมือให้กับทีมเบอร์ลินกับแต้มที่สำคัญแบบนี้ เล่นเอาทีมแอธเลติก ต้องกลับไปทำการบ้านชุดใหญ่เลย ส่วนการเสมอในครั้งนี้ของทีม เบอร์ลิน มันยังสะท้อนให้เห็นว่าทีมไม้ประดับจากเยอรมัน กำลังพัฒนาตัวเองมากขึ้นในการเข้าร่วมแข่งระดับยุโรป ก็เหลือแค่ต้องคอยสั่งสมประสบการณ์ให้มากกว่านี้ ถึงจะก้าวไปประสบความสำเร็จที่ยอดเยี่ยม
Arsenal 3 - 1 Köln
สำหรับคู่นี้ถ้าอาร์เซน่อลแพ้ก็ไม่รู้จะว่าอย่างไร ขนาด จขกท.เอง ยังคาดไม่ถึงว่า ทีมระดับอาร์เซน่อลจะลงมาเล่นในเกมระดับยูโรปาแบบนี้ แต่จริงๆก็ไม่น่าจะแปลกใจเท่าไหร่ เพราะตอนนี้ในลีกอังกฤษ จากทีมใหญ่ที่เรียกว่า big 4 ก็กลายเป็น big 6 big 7 กันไปแล้ว อัตราแข่งขันอย่างสูง แพ้ก็จบ เสมอก็เจ็บ น่ากลัวจริงๆ
***************
การแข่งขันถ้วยยุโรปช่างน่าสนใจจริงๆ ครับ ได้รู้จักกับหลายๆ ลีก ผมจะได้เอาข้อมูลไปต่อกรกับลุงก้วยบ้าง ชอบมาบลัฟทีมผมประจำ 5555+
ขอบคุณ จขกท. ครับ วันนี้ได้ความรู้มากเลย ผมกับมู่ทู่ต้องขอลาไปก่อนครับ แล้วผมจะมาคุยใหม่เรื่อยๆ ครับ สวัสดีครับ
--------------------
ตอนต่อไป เมื่อปลัดจิ๋วย้ายมาประจำที่หมู่บ้าน
Bundesliga 2017 #Match Day Europe : เปิดศึกเยอรมัน VS อังกฤษ
ความเดิมจากตอนที่แล้ว
ทิดหลอมกลับมาจากอังกฤษเลยได้สนทนากันเรื่องฟุตบอล สำหรับวันนี้ อมยิ้มและมูทู่ได้มาหาจขกท.อีกครั้ง ทว่า ครั้งนี้ทั้งสองคนดูตื่นเต้น ว่าแต่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นหล่ะ
--------------------
**************
อา.....เรื่องดราม่าเปรียบเทียบแบบนี้อธิบายยากจริงๆ ยิ่งถ้าคุยกับคนต่างยุคต่างสมัยด้วยก็ยิ่งทำความเข้าใจยาก จขกท. ก็พอเล่าได้จากประสบการณ์ส่วนตัวเท่านั้น ถ้าต้องว่ากันด้วยตามหลักการและเหตุผล ข้อมูลข่าวสารที่เป๊ะๆๆ ก็คงต้องไปเปิดกูเกิ้ลเอาเอง
เรื่องมีอยู่ว่า เมื่อสมัยจขกท. ยังเด็ก ประมาณยังกดเกมแฟมิคอมเล่นอยู่ที่บ้าน และเป็นพวกชอบแอบตื่นดึก ๆ มาดูทีวี ตอนนั้นก็ได้ดูแต่บอลบุนเดสลีกา ซึ่งบอกตรงๆ ว่าประทับใจมาก ๆ ตามมาด้วยการดูบอล UCL ซึ่งสมัยนั้นยังเป็นชื่อยูโรเปี้ยนคัพอยู่ ก็ยิ่งติดใจกับความหลากหลายของเกมฟุตบอล และประจวบเหมาะกับเป็นช่วงบอลโลก 1994 ฮิตกันทั้งบ้านทั้งเมือง จึงเรียกว่าติดบอลไปตามๆกัน แต่มาไม่นานพอลีกดิวิชั่น 1 ของอังกฤษเปลี่ยนมาเป็นชื่อพรีเมียร์ลีก กระแสก็มาแรงมาก เรียกได้ว่าทุกชนิดของข่าวสารแทบจะกลายเป็นข่าวบอลอังกฤษเสียหมด ซึ่งจขกท.ก็ได้มีโอกาสดูและมีทีมเชียร์อยู่เหมือนกัน
ช่วงนั้นต้องยอมรับว่าถึงกระแสบอลอังกฤษจะแรงแต่ จขกท.กลับรู้สึกว่ารูปเกมช่างแตกต่างจากบอลเยอรมันเสียเหลือเกิน ความสวยงามในการเล่นน้อยมาก เมื่อเทียบกับบอลเยอรมัน ที่เน้นการต่อบอลและการเข้าทำประตูได้ทุกรูปแบบ ผนวกกับมีกองหลังที่แข็งแกร่ง การตัดลูกแย่งลูกเป็นไปอย่างสุดยอด ไม่ได้กินฟาว์ลกันง่าย ๆ ลูกตายมีน้อย
แตกต่างจากเกมทางฝั่งอังกฤษ ที่เหมือนกับการเล่นโยนลูกข้ามฟากกันไปมา เสียบฟาล์ว เตะออก ใช้ปีกเป็นหลักเพื่อโยนลูกเข้าบริเวณหน้ากรอบเขตโทษ (จนบางคนกล่าวไว้ว่า เล่นแบบไม่มีคลาส และจขกท.ก็เคยเป็นหนึ่งในบางคนนั้นด้วย 5555+ แต่ก็ยังตามดูนะ แบบดูเอาข้อมูลไปคุยถล่มเพื่อน อิๆๆๆ)
แต่บอลอังกฤษที่ว่าน่าเบื่อ บอลลีกอิตาลียิ่งเข้าไปใหญ่ 1 นาที กรรมการเป่าปรี๊ด 5 นาที กรรมการเป่าปรี๊ด เออ...แบบมันจะล้มจะฟาว์ลกันไปถึงไหน ทำไมอารมณ์มันต่างกับตอนดูเอซี มิลาน อินเตอร์มิลาน ลงแข่งในยูโรเปี้ยนเหลือเกิน ยิ่งมาเจอข่าวล้มบอลด้วย จขกท.แทบปิดตายกับการดูบอลลีกอิตาลีไปเลย
อันนั้นคือความเห็นส่วนตัวของจขกท.ที่ประสบเจอมาด้วยตัวเอง ซึ่งไม่ได้หมายถึงรูปเกมทั้งหมดของทั้งสามลีกหรอกนะ แต่ทุกคนมักมี First sight seeing เสมอ และมันก็ฝังจำเสียด้วย
แต่แล้วทัศนคติของจขกท.ก็เปลี่ยนไป เมื่อได้ดูเกมของอาร์เซน่อล ยอมรับว่าการเล่นของทีมสวยงามไม่แพ้ทีมในเยอรมันเลย โดดเด่นมาตั้งแต่รุ่นเบิร์กแคมป์พีคๆ จนมาถึงรุ่นอองรีไร้พ่าย แฟนแมนยูอย่าง จขกท.ถึงกับเกลียดอองรีเข้าไส้ (เกลียดเพราะความเก่ง คือต้องนับถือเลยว่าสุดยอดจริง ๆ ) พอเริ่มมายุคเซลซี อะไรๆ ในลีกก็เริ่มเปลี่ยน หลังๆ นักเตะต่างชาติ โค้ชต่างชาติเข้ามาโดดเด่นในพรีเมียร์ลีกกันมาก รูปแบบการเล่นก็ดูดีขึ้น สนุกขึ้น สวนทางกับฝั่งเยอรมันที่ตัวนักเตะเก่งๆ กลับไปกระจุกอยู่แค่บางทีม ความน่าสนใจจึงลดลง
ส่วนเรื่องตัวผู้เล่น จขกท.มีความเห็นส่วนตัวว่า ที่นักเตะเยอรมันดูจะดีกว่าเพราะผลงานโดยเฉลี่ยนักเตะเยอรมันจะทำผลงานได้ดีกว่าทั้งในและนอกลีก แต่กับนักเตะอังกฤษซึ่งมักจะกระจุกตัวในลีกอังกฤษ เฉลี่ยผลงานโดยรวมแล้วยังสู้นักเตะต่างชาติในลีกตัวเองยังไม่ค่อยได้ และยิ่งผลงานในระดับทีมชาติที่มีให้เห็นอย่างเป็นรูปธรรมด้วยแล้ว ยิ่งทำให้นักเตะอังกฤษดูด้อยกว่านักเตะเยอรมันเข้าไปใหญ่
***************
***************
ถ้าเป็นเรื่องของตัวนักเตะ ก็วัดกันง่ายๆ ที่ผลงานทีมชาติ ซึ่งก็ใกล้ช่วงแข่งฟุตบอลโลกเข้าไปทุกที ก็จะเห็นเองว่านักเตะเยอรมันหรือนักเตะอังกฤษยุคนี้ใครดีกว่ากัน
แต่ถ้าในระบบลีกก็จะมีการแข่งขันระดับยุโรป รายการ ยูฟ่าแชมเปี้ยนลีก และยูฟ่ายูโรป้าลีก พอจะเป็นตัวชี้วัดได้ ถ้าให้เทียบข้อมูลปัจจุบันระหว่างทีมเยอรมันและอังกฤษ จขกท. ยกให้ลีกอังกฤษดีกว่า เนื่องจากปีนี้ทีมที่มาจากเยอรมันดูจะป้อแป้มาก ฟอร์มตกเป็นแถวๆ แม้กระทั่งบาเยิร์นเอง ก็ยังมีช่วงฟอร์มตกจนต้องเปลี่ยนผู้จัดการทีมกันเลยทีเดียว แต่ถ้าวัดผลงานกันตรงๆ ก็ต้องเห็นใจทีมจากเยอรมันที่กำลังฟอร์มตกแล้วมาเจอทีมอังกฤษที่กำลังฟอร์มพีคๆ
เพื่อความกระจ่าง เดี่ยว จขกท.จะวิเคราะห์การแข่งขันชิงถ้วยยุโรปรอบแบ่งกลุ่มนัดแรกทั้งสองรายการ คร่าวๆ ให้ดูสถานการณ์ก่อนแข่งและผลงานของแต่ละคู่ที่มีทีมจากเยอรมันลงเล่น เริ่มที่ถ้วยยูฟ่าแชมป์เปี้ยนลีกก่อน
Bayern Munich 3 – 0 Anderlecht
สถานการณ์ของบาเยิร์นในนัดแรกเรียกว่าเจอหมูอย่างแท้จริง ถ้าไม่ชนะสิแปลก ได้คุยทับกัน 3 วัน 7 วัน แน่ๆ อันนี้ปล่อยผ่านๆ ไม่ต้องวิเคราะห์อะไรมาก
RB Leipzig 1 - 1 Monaco
ผลของการแข่งขันคู่นี้นี่เรียกว่าไม่ธรรมดาเลยทีเดียว แต่ถ้ามองในมุมลึกๆจะเห็นว่า ทีมไลป์ซิกนั้นกำลังเป็นทีมดาวรุ่งพุ่งแรง สถานการณ์ในลีกเรียกว่าใช้ได้ ส่วนโมนาโกถึงแม้จะมีประสบการณ์ในเวทียุโรปมากกว่ามากๆๆๆ แต่สถานการณ์ในลีกนัดก่อนเจอไลป์ซิก กลับแพ้มาถึง 0-4 นี่ก็อาจเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้พลาดเสมอมาได้ แต่ยังไงก็ต้องยกเครดิตให้น้องใหม่ไร้ประสบการณ์อย่างไลป์ซิกด้วยว่า เยี่ยมจริงๆ เยี่ยมจริงๆ เยี่ยมจริงๆ
Tottenham Hotspur 3 - 1 Borussia Dortmund
มาถึงคู่ที่น่ากล่าวถึงมากที่สุดคือคู่สเปอร์จากอังกฤษและคู่ดอร์ทมุนด์จากเยอรมัน ถ้าลองปิดตา ปิดหู ปิดจมูก (ตายพอดี) แล้วนึกถึงภาพการแข่งขันของคู่นี้ก็จะเห็นความเป็นต่อของดอร์ทมุนด์ที่ได้ชื่อว่าทีมใหญ่จากเยอรมันขึ้นมาทันที ส่วนสเปอร์ก็คงจะประมาณทีมพลังหนุ่มผู้มุ่งมั่น ดังจูล่งฝ่าฟันศัตรูไปช่วยอาเต๋าจากวงล้อมของข้าศึกมีรึจะสู้แม่ทัพใหญ่ปราบเซียนอย่างกวนอูรู้รบไปทั่วสารทิศได้ (เพ้อเจ้อละ
เอาเป็นว่าไม่ต้องปิดตาปิดตัวอะไร เอาสถิติทั่วๆไปมากางดู ก็จะเห็นว่า ประสบการณ์ในเวทียุโรปของดอร์ทมุนด์ดูจะมีภาษีดีกว่าของสเปอร์อยู่พอสมควร แต่ถ้าเอาสถานการณ์ก่อนแข่งขันมาเปรียบก็จะเห็นว่าสเปอร์ก็มีภาษีที่ดีกว่าดอร์ทมุนด์อยู่ไม่ใช่น้อยเช่นกัน เพราะเพิ่งชนะ 0-3 มาหมาดๆ แต่ดอร์ทมุนด์กลับทำได้แค่เสมอกับทีมอ่อนชั้นกว่า แต่พอเอาค่ามารวมๆ หารเฉลี่ย ก็พบว่าดอร์ทมุนด์ดูจะเป็นต่ออยู่ ซึ่งก็เลยเกิดคำถามว่าดอร์ทมุนด์พ่ายแพ้ให้กับสเปอร์ได้อย่างไร ทั้งที่ควรจะชนะ หรือเสมอก็ยังดี ซึ่งก็มีคำวิพากษ์วิจารณ์ต่างๆ มากมาย เอาที่เด็ดๆ พอจำได้คร่าวๆ คือ
1. สเปอร์เก่ง ฟอร์มสุดยอด ต่อให้ดอร์ทมุนด์จะฟอร์มดีมาแค่ไหนก็ทำอะไรไม่ได้หรอก เพราะช่วงนี้ฟอร์มพุ่งกระฉูดปรู๊ดปร๊าด ถึงจะเป็นมาดริดมาก็เถอะ เดี๋ยวจะสอยให้ดู
2. สเปอร์ไม่ได้เก่งอะไรเลย แต่ดอร์ทมุนด์อ่อนเอง เพราะสภาพในลีกเยอรมันอ่อนแอ เก่งอยู่ทีมเดียว ถ้าจะโดดเด่นก็อยู่แค่ในเยอรมันแต่มาแย่ในยุโรป ไหนเลยจะสู้ทีมจากอังกฤษได้
3. เตะไล่โค้ช ปัญหาภายใน ของดอร์ทมุนด์ คนนอกยากที่จะเข้าใจ
4. สเปอร์ดวงดี ก็แค่นั้น
แต่พอลองไล่ไปดูนัดหลังจากนี้ สเปอร์กลับไปเสมอสวอนซีในลีก 0 - 0 ส่วนดอร์ทมุนด์ไล่ถล่มโคโลญจน์อย่างเมามันไป 5 – 0 ..................... (แหม่ะ คำตอบข้อ 2 นี่ลอยมาในหัวเลย) ร้อน จขกท.ต้องกลับไปดูข้อมูลใหม่อีกรอบ
ระบบการเล่น เจ้าบ้าน : ทีมเยือน 3-4-2-1 : 4-3-3
ร้อยละการครองบอล เจ้าบ้าน : ทีมเยือน = 32 : 68
การยิงประตูนอกกรอบ/ในกรอบ เจ้าบ้าน : ทีมเยือน = 6/4 : 5/2
เห็นแบบนี้ค่อยชื้นใจ ไม่ใช่ข้อ 2 แน่ละ เพราถ้าเป็นอย่างนั้น ดอร์ทมุนด์ต้องอยู่ในสภาพที่โดนถล่มยับ ซึ่งงานนี้ก็ต้องยกความดีความชอบให้กับสต๊าฟโค้ชฝั่งสเปอร์ ที่วางแผนมาดี รู้สถานการณ์ทีม ทั้งยังมีผู้เล่นแนวรุกที่เฉียบคมสามารถเจาะทำประตูได้ด้วยความสามารถเฉพาะตัวและลูกสวนกลับ เอาชนะไปได้ทั้งที่ครองบอลน้อยกว่า และก็ต้องหันกลับมามองฝั่งสต๊าฟโค้ชของดอร์ทมุนด์ด้วย ว่าประมาทไปหรือเปล่า (แต่คงจะเจ็บแค้นมากถึงไปลงกับโคโลญจน์ซะเละเทะแบบนั้น)
ทีนี้มาดูฝั่งถ้วยยูโรปากันบ้าง ที่จขกท. หลงใหลกับถ้วยนี้เพราะทีมที่ลงมาเล่นส่วนใหญ่เป็นทีมที่มักมีตัวผู้เล่นเป็นคนสัญชาติในลีกนั้นๆ สูงมาก ซึ่งจะบ่งบอกสถานการณ์ของลีกในชาตินั้นๆ ได้เป็นอย่างดี ไม่เหมือนทีมที่เล่นในถ้วยแชมป์เปี้ยนลีก ที่มักจะมีแต่สตาร์ข้ามชาติซะเป็นส่วนใหญ่จนบางคนถึงกับเปรียบว่าเป็นทีมที่ใช้เงินซื้อความสำเร็จ เหมือนเวทีให้เศรษฐีโชว์พาวกัน เราลองมาดูคู่แรกกันก่อน
Hoffenheim 1 - 2 Sporting Braga
สถานการณ์ทั้งสองทีมไม่ได้ดีไปกว่ากันทั้งคู่ บราก้าออกจะแย่กว่าด้วยซ้ำ แต่ด้วยประสบการณ์ที่มีมากกว่าในเวทียุโรป ก็ทำให้เฉือนเอาชนะทีมฮอฟเฟนไฮม์ไปได้ เคสนี้ถือว่าเป็นเรื่องปกติ ผ่านๆ
Hertha BSC 0 - 0 Athletic Club
สถานการณ์นี้คล้ายๆ กับไลป์ซิก คือสามารถยันเสมอเก็บแต้มมาได้ ทั้งๆ ที่ควรแพ้เป็นอย่างยิ่ง ก็ต้องปรบมือให้กับทีมเบอร์ลินกับแต้มที่สำคัญแบบนี้ เล่นเอาทีมแอธเลติก ต้องกลับไปทำการบ้านชุดใหญ่เลย ส่วนการเสมอในครั้งนี้ของทีม เบอร์ลิน มันยังสะท้อนให้เห็นว่าทีมไม้ประดับจากเยอรมัน กำลังพัฒนาตัวเองมากขึ้นในการเข้าร่วมแข่งระดับยุโรป ก็เหลือแค่ต้องคอยสั่งสมประสบการณ์ให้มากกว่านี้ ถึงจะก้าวไปประสบความสำเร็จที่ยอดเยี่ยม
Arsenal 3 - 1 Köln
สำหรับคู่นี้ถ้าอาร์เซน่อลแพ้ก็ไม่รู้จะว่าอย่างไร ขนาด จขกท.เอง ยังคาดไม่ถึงว่า ทีมระดับอาร์เซน่อลจะลงมาเล่นในเกมระดับยูโรปาแบบนี้ แต่จริงๆก็ไม่น่าจะแปลกใจเท่าไหร่ เพราะตอนนี้ในลีกอังกฤษ จากทีมใหญ่ที่เรียกว่า big 4 ก็กลายเป็น big 6 big 7 กันไปแล้ว อัตราแข่งขันอย่างสูง แพ้ก็จบ เสมอก็เจ็บ น่ากลัวจริงๆ
***************
--------------------
ตอนต่อไป เมื่อปลัดจิ๋วย้ายมาประจำที่หมู่บ้าน