คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 4
นาฬิกาในภาพด้านบน น่าจะถูกตัดแต่งพันธุกรรมมาค่อนข้างแน่ครับ เพราะหน้าปัดบอกทับทิม 21 เม็ด แต่เครื่องบอกทับทิม 17 เม็ด แต่อย่างน้อยก็ยังเป็นของ Ricoh ทั้งคู่ รูปทรงน่าจะกระเดียดไปทางยุค 70s สามารถดูรูปต่างๆที่ใกล้เคียงกันได้ใน [2] ครับ (ในส่วน อ้างอิง ข้างล่างสุด)
ผมก็เพิ่งรู้ว่า Ricoh ทำนาฬิกาด้วย ยี่ห้อนี้ ผมนึกถึงแต่กล้องถ่ายรูป (จริงๆก็เห็นเขาทำกล้องอย่างอื่นด้วยแหละ) กับเครื่องถ่ายเอกสาร
ผมลองไปหาประวัติมา ก็น่าสนใจดี แต่ดูเหมือนเขาจะโฟกัสเรื่องอุปกรณ์เกี่ยวกับแสง เช่น กล้อง เครื่องถ่ายเอกสาร กระดาษถ่ายเอกสาร อะไรพวกนี้มากกว่า ในเว็บไซท์ของ Ricoh เอง เดี๋ยวนี้ก็ไม่มีกล่าวถึงประวัติธุรกิจนาฬิกาแล้ว แต่ Ricoh ก็ยังคงผลิตนาฬิกาอยู่ ภายใต้ Ricoh Elemax Cooperation [6] และเมื่อก่อน นาฬิกา Ricoh ถือได้ว่าเป็นน้องเล็กของ 4 เสือนาฬิกาญี่ปุ่นเลยทีเดียว เรียงตามความนิยมจากมากไปน้อย จะได้ว่า Seiko -> Citizen -> Orient -> Ricoh อ้างอิงจาก [3] อย่างไรก็ดี ดูเหมือนว่านาฬิกา Ricoh ก็น่าจะเป็นที่นิยมในอินเดียมากเช่นกัน และมีหลายเรือนที่ผลิตในอินเดียด้วย [5]
อุตสาหกรรมการผลิตนาฬิกาของ Ricoh เริ่มต้นเมื่อมีการควบรวมบริษัทผลิตนาฬิกาข้อมือที่ชื่อ Takano หลังจากประสบปัญหาทางการเงินอย่างหนัก [1] ดังนั้นประวัติของ Ricoh ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนาฬิกานี้ อาจมองได้เป็น 2 สาย คือ สายของ Ricoh เอง กับสายของ Takano ซึ่งมีการเกี่ยวข้องกับ Laco และ Hamilton ด้วยนิดหน่อย ต่อมา ทั้งสาย Ricoh และ Takano ก็ได้รวมกันเหลือแต่สายที่ชื่อ Ricoh อย่างเดียว
จากประวัติของ Ricoh นั้น [4] บริษัทได้ก่อตั้งขึ้นในปี 1936 ในชื่อว่า Riken Kankoshi Co., Ltd. น่าจะได้อานิสงส์มาจากการสนับสนุนอุตสาหกรรมของญี่ปุ่นในช่วงนั้น บริษัทตอนนั้นผลิตกระดาษอัดรูป และได้เริ่มผลิตกล้องถ่ายรูปในปี 1937 ต่อมาในปี 1938 เปลี่ยนชื่อเป็น Riken Optical Co., Ltd. และได้เปลี่ยนเป็น Ricoh Company, Ltd. ในปี 1963 จะเห็นได้ว่า Ricoh มีพื้นฐานของตัวเองจากอุปกรณ์การถ่ายภาพเป็นหลัก และยังคงดำรงพื้นฐานนั้นจวบจนปัจจุบัน
Ricoh เริ่มผลิตนาฬิกาข้อมือ เมื่อได้เข้าซื้อบริษัทนาฬิกา Takano (Takano Co., Ltd) ในปี 1962 หลังจาก Takano ล้มละลายในปี 1961 [1] ก่อนหน้านั้น บริษัท Takano ได้มีรากฐานมาจากโรงงานผลิตนาฬิกาแบบอุตสาหกรรม (High Field Clock Factory) เช่น พวกนาฬิกาแขวน นาฬิกาปลุก ในปี 1899 และได้ผลิตสิ่งของเครื่องใช้ที่ทำจากโลหะด้วยในปี 1921 (ตรงนี้เขาเขียนไม่ค่อยเคลียร์เท่าไหร่ใน [1] ซึ่งก็แปลมาจากพิพิธภัณฑ์อีกทีหนึ่ง) จากนั้นในปี 1938 โรงงานก็ได้แยกส่วนที่ผลิตนาฬิกา กับส่วนที่ผลิตของใช้อย่างอื่นออกจากกัน ซึ่งก็ได้ผลิตอาวุธสงครามด้วยตั้งแต่ปี 1938 จนจบสงครามเกาหลีในปี 1956
หลังจากจบสงครามเกาหลี อุตสาหกรรมผลิตนาฬิกาข้อมือของบริษัท Takano ก็ได้เริ่มขึ้นในเดือนกุมภาปี 1957 ตามบทความใน [1] ได้บอกในทำนองว่า Takano ได้ซื้อเครื่องนาฬิกาข้อมือมาใส่ตัวเรือนขาย จากบริษัท "Rako" ที่ถอดเสียงมาจากภาษาญี่ปุ่น เป็นบริษัทนาฬิกาในเยอรมันตะวันตก ซึ่งน่าจะเป็นไปได้มากว่า บริษัทนี้คือบริษัท Laco นั่นเอง และบทความก็ได้กล่าวทำนองว่า เป็นนโยบายหนึ่งในการใช้อุปกรณ์เครื่องใช้ที่เหลือจากสงครามให้เป็นประโยชน์มากที่สุด (ในที่นี้ ก็คงหมายถึง เครื่องนาฬิกาจาก Laco) จากนั้นไม่นาน ในเดือนกรกฎาปีเดียวกัน Takano ก็ได้ทำสัญญาร่วมกันด้านเทคโนโลยีกับบริษัทนาฬิกา Hamilton ของอเมริกา (ตอนนั้นยังไม่ย้ายมาสวิส) นาฬิการุ่นแรกของ Takano มีชื่อว่า "The wristwatch No.1" มีวงเล็บบอกไว้ว่า "Rako type" ซึ่งก็น่าจะใช้เครื่องที่ซื้อมาจาก Laco และรุ่นอื่นๆใน "2000 Series" ก็ได้ออกสู่ตลาดในเดือนกันยาปี 57 นั้นเอง
ปี 1959 Takano ได้ออกรุ่น Chateau ออกมา (บนหน้าปัดไม่มีคำว่า Takano มีแต่ Chateau แต่ฝาหลังมีคำว่า Takano Precision) ซึ่งเคลมว่า เป็นนาฬิกาแบบไขลานที่บางที่สุดในโลก ณ ขณะนั้น [1] และได้มีการปรับเครื่องให้ใหญ่ขึ้น (ในด้านกว้าง แต่ความหนาลดลง) โดยให้เหตุผลว่า จะสามารถทำให้ความเที่ยงตรงดีขึ้นได้ (ผมเดาว่าอาจจะต้องการพื้นที่ให้ balance wheel ที่ใหญ่ขึ้นก็ได้ ซึ่งตามธรรมดา หาก balance wheel ใหญ่ขึ้น มันก็จะเสถียรขึ้น ก็ช่วยให้นาฬิกาเดินตรงขึ้นได้) สิ่งนี้ก็อาจแสดงให้เห็นว่า Takano ก็พัฒนาเครื่องของตัวเองเหมือนกัน แต่นาฬิการุ่นนี้ก็ขายได้ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ อาจจะเป็นเรื่องนี้ ผสมกับบริษัทได้รับความเสียหายจากพายุใต้ฝุ่นเป็นจำนวนกว่า 110 ล้านเยน ทำให้บริษัท Takano ตกอยู่ในสภาพล้มละลายในปี 1961 และต่อมาไม่นาน ก็ได้ถูก take over ไปโดยบริษัท Ricoh ในต้นปี 1962 ในปลายปีเดียวกัน บริษัท Takano Co., Ltd. ก็ได้ถูก CEO คนใหม่จาก Ricoh เปลี่ยนชื่อไปเป็นบริษัท Ricoh Watch Co., Ltd. และประวัติศาสตร์ของนาฬิกาข้อมือยี่ห้อ Takano ก็ได้จบลงตั้งแต่บัดนั้น สิริรวมอายุได้ 4 ปีกับ 11 เดือน
นาฬิกาข้อมือรุ่นแรกภายใต้แบรนด์ Ricoh ได้ออกสู่ตลาดเมื่อเดือนตุลาปี 1962 มีชื่อว่า "Dynamic Auto" เป็นนาฬิกาแบบ Automatic ทับทิม 33 เม็ด รุ่นนี้ ยังมีรุ่นที่ใช้ทับทิม 45 เม็ดอีกด้วย เอาไปใส่ไว้ตรงแบริ่งของตุ้มเหวี่ยงไขลานเป็นลูกปืนทับทิมเสีย 12 เม็ด บ้าไปแล้ว! ดูรูปได้ใน [2] แต่ก็นะ สมัยนั้นเขาแข่งกันเพิ่มจำนวนทับทิมกัน ในปีเดียวกันนั้น Ricoh ก็ได้มีความร่วมมือกับ Hamilton พัฒนานาฬิการะบบแม่เหล็กไฟฟ้า (ไม่ได้ใช้ quartz แต่ใช้วงจรอิเล็กทรอนิกส์กับทรานซิสเตอร์ 1 ตัวกำเนิดความถี่ ไปหมุนตัว balance wheel เพื่อควบคุมความถี่แบบกลไกอีกที ทั้งยังทำหน้าที่ส่งต่อเฟืองจักรต่างๆไปหมุนเข็มเช่นกัน นาฬิกาข้อมือระบบนี้มีให้เห็นหลายรุ่นหลายยี่ห้ออยู่ ในสมัยนั้น ของ Hamilton เองก็มี คือรุ่น 505 ความเที่ยงตรงไม่หนีจากระบบกลไกล้วนสักเท่าไหร่ อาจจะดีกว่าเล็กน้อย แต่ผลิตได้ถูกกว่า และการใส่ถ่าน ก็ไม่ต้องกังวลเรื่องไขลาน หรือตั้งทิ้งไว้แล้วลานหมดแบบระบบ Automatic) เครื่องรุ่นนี้คือ Ricoh 555 และทำขายภายใต้ยี่ห้อ "Hamilton-Ricoh" ดูรูปได้ใน [3] อย่างไรก็ตาม ความร่วมมือนี้ก็ไปได้ไม่ค่อยสวยเท่าไหร่ในด้านการขาย ทำให้จบลงในปี 1965 โดยเครื่อง 555 ก็ยังเหลืออยู่เต็มไปหมด จึงถูกนำไปใส่ตัวเรือนขายในอเมริกาในยี่ห้อ "Vantage"
เครื่องของนาฬิกา Ricoh นั้น ส่วนมากก็เป็นเครื่อง in-house ของตัวเอง เครื่องบางรุ่นก็ได้รับแรงบันดาลใจมาจากแบรนด์นาฬิกาญี่ปุ่นอื่นๆบ้าง ซึ่งอาจจะเคยมีความร่วมมือ หรือเป็นการลอก ก็ว่าไป ไม่มีข้อมูลชัดเจน เครื่องกลไกของ Ricoh ส่วนใหญ่จะเป็น Automatic และมักจะมีวันที่ หลายรุ่นก็มีวันด้วย แนวเดียวกับนาฬิกาญี่ปุ่นยี่ห้ออื่น ทัศนาได้ใน [2] ส่วนเรื่องคุณภาพนั้น บางคนก็ว่าคุณภาพนาฬิกา Ricoh ดีกว่ากล้อง Ricoh เสียอีก ส่วนเครื่องที่น่าสนใจคือ เครื่อง Quartz แบบมีวันและวันที่ของ Ricoh ที่ปล่อยออกมาเมื่อปี 1971 ถือเป็น Quartz รุ่นแรกๆ ก่อนเครื่อง Quartz ของ Citizen และ Orient ถึง 2 ปี และอยู่ในเวลาไล่ๆกับ Quartz ที่ออกขายตัวแรกของโลกของ Seiko เมื่อปี 1969 ด้วย ซึ่งการผลิตเครื่อง Quartz ในยุคต้น 70s นั้น ยังทำได้ไม่มาก และราคาแพงอยู่ แต่ก็ทำให้ราคาถูกลงกว่าเครื่องกลไกจนสามารถป้อนตลาดนาฬิการาคาถูกได้เมื่อกลางค่อนปลายยุค 70s นั่นเอง เครื่อง Quartz รุ่นแรกของ Ricoh นี้ถูกเคลมว่า เป็นเครื่อง Quartz ที่มีวันและวันที่เครื่องแรกของโลก ภายใต้ยี่ห้อ Riquartz ซึ่งก็ได้รับความร่วมมือจากบริษัทผลิตเครื่องบิน Hughes Aircraft ของอเมริกา อีกเครื่องที่เด่นในยุค 70s และก็ร่วมมือกับ Hughes Aircraft เช่นกัน คือ นาฬิกา Quartz แสดงผลโดยใช้หลอด LED ของ Hughes Aircraft ในปี 1973 ซึ่งถือเป็นนาฬิกา LED รุ่นแรกของญี่ปุ่น ซึ่งไม่นานนัก Ricoh ก็หันมาใช้ LED ของ Sanyo แทนของ Hughes Aircraft แต่โดยรวมแล้ว นาฬิกา LED ทั่วโลกก็อยู่ได้ไม่กี่ปีแล้วก็ถูกแทนที่ด้วย LCD ซึ่ง Ricoh ก็ผลิตเช่นกันแต่ไม่มากเท่าไหร่ [3]
อาจจะสังเกตได้ว่า Ricoh จะอยู่แอบๆจากแบรนด์ใหญ่อย่างเช่น Seiko, Citizen โดยใส่ Gimmick อะไรบางอย่างไปบ้างอย่างที่คนอื่นไม่มี แต่ผมก็ยังไม่เห็นว่าจะโดดเด่นสักเท่าไหร่ นี่คงเป็นแบบสไตล์ญี่ปุ่นๆ ส่วนความนิยม ก็ขอเดาตามตัวหนังสือที่อ่านมาว่า คงระดับหนึ่ง ไม่มากเท่า Seiko, Citizen ดูแล้ว อาจจะมีรุ่นราคาถูกที่ผลิตและขายในอินเดีย ส่วนบ้านเราผมไม่รู้เหมือนกัน เกิดไม่ทัน
อ้างอิง
[1] ประวัตินาฬิกา Ricoh และ Takano แปลจากข้อมูลจากเว็บไซต์ของพิพิธภัณฑ์นาฬิกาฮอกไกโด (Hokkaido Watch Museum)
[2] ตัวอย่างและคำบรรยายของนาฬิกา Ricoh และ Takano รุ่นต่างๆ
[3] ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Ricoh รุ่นที่เป็น Quartz แบบเข็ม แบบ LED และแบบ LCD
[4] ประวัติ Ricoh
[5] กล่าวถึงนาฬิกา Ricoh อินเดียเล็กน้อย
[6] นาฬิกา Ricoh แบบชาร์จได้ ปัจจุบัน
ผมก็เพิ่งรู้ว่า Ricoh ทำนาฬิกาด้วย ยี่ห้อนี้ ผมนึกถึงแต่กล้องถ่ายรูป (จริงๆก็เห็นเขาทำกล้องอย่างอื่นด้วยแหละ) กับเครื่องถ่ายเอกสาร
ผมลองไปหาประวัติมา ก็น่าสนใจดี แต่ดูเหมือนเขาจะโฟกัสเรื่องอุปกรณ์เกี่ยวกับแสง เช่น กล้อง เครื่องถ่ายเอกสาร กระดาษถ่ายเอกสาร อะไรพวกนี้มากกว่า ในเว็บไซท์ของ Ricoh เอง เดี๋ยวนี้ก็ไม่มีกล่าวถึงประวัติธุรกิจนาฬิกาแล้ว แต่ Ricoh ก็ยังคงผลิตนาฬิกาอยู่ ภายใต้ Ricoh Elemax Cooperation [6] และเมื่อก่อน นาฬิกา Ricoh ถือได้ว่าเป็นน้องเล็กของ 4 เสือนาฬิกาญี่ปุ่นเลยทีเดียว เรียงตามความนิยมจากมากไปน้อย จะได้ว่า Seiko -> Citizen -> Orient -> Ricoh อ้างอิงจาก [3] อย่างไรก็ดี ดูเหมือนว่านาฬิกา Ricoh ก็น่าจะเป็นที่นิยมในอินเดียมากเช่นกัน และมีหลายเรือนที่ผลิตในอินเดียด้วย [5]
อุตสาหกรรมการผลิตนาฬิกาของ Ricoh เริ่มต้นเมื่อมีการควบรวมบริษัทผลิตนาฬิกาข้อมือที่ชื่อ Takano หลังจากประสบปัญหาทางการเงินอย่างหนัก [1] ดังนั้นประวัติของ Ricoh ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนาฬิกานี้ อาจมองได้เป็น 2 สาย คือ สายของ Ricoh เอง กับสายของ Takano ซึ่งมีการเกี่ยวข้องกับ Laco และ Hamilton ด้วยนิดหน่อย ต่อมา ทั้งสาย Ricoh และ Takano ก็ได้รวมกันเหลือแต่สายที่ชื่อ Ricoh อย่างเดียว
จากประวัติของ Ricoh นั้น [4] บริษัทได้ก่อตั้งขึ้นในปี 1936 ในชื่อว่า Riken Kankoshi Co., Ltd. น่าจะได้อานิสงส์มาจากการสนับสนุนอุตสาหกรรมของญี่ปุ่นในช่วงนั้น บริษัทตอนนั้นผลิตกระดาษอัดรูป และได้เริ่มผลิตกล้องถ่ายรูปในปี 1937 ต่อมาในปี 1938 เปลี่ยนชื่อเป็น Riken Optical Co., Ltd. และได้เปลี่ยนเป็น Ricoh Company, Ltd. ในปี 1963 จะเห็นได้ว่า Ricoh มีพื้นฐานของตัวเองจากอุปกรณ์การถ่ายภาพเป็นหลัก และยังคงดำรงพื้นฐานนั้นจวบจนปัจจุบัน
Ricoh เริ่มผลิตนาฬิกาข้อมือ เมื่อได้เข้าซื้อบริษัทนาฬิกา Takano (Takano Co., Ltd) ในปี 1962 หลังจาก Takano ล้มละลายในปี 1961 [1] ก่อนหน้านั้น บริษัท Takano ได้มีรากฐานมาจากโรงงานผลิตนาฬิกาแบบอุตสาหกรรม (High Field Clock Factory) เช่น พวกนาฬิกาแขวน นาฬิกาปลุก ในปี 1899 และได้ผลิตสิ่งของเครื่องใช้ที่ทำจากโลหะด้วยในปี 1921 (ตรงนี้เขาเขียนไม่ค่อยเคลียร์เท่าไหร่ใน [1] ซึ่งก็แปลมาจากพิพิธภัณฑ์อีกทีหนึ่ง) จากนั้นในปี 1938 โรงงานก็ได้แยกส่วนที่ผลิตนาฬิกา กับส่วนที่ผลิตของใช้อย่างอื่นออกจากกัน ซึ่งก็ได้ผลิตอาวุธสงครามด้วยตั้งแต่ปี 1938 จนจบสงครามเกาหลีในปี 1956
หลังจากจบสงครามเกาหลี อุตสาหกรรมผลิตนาฬิกาข้อมือของบริษัท Takano ก็ได้เริ่มขึ้นในเดือนกุมภาปี 1957 ตามบทความใน [1] ได้บอกในทำนองว่า Takano ได้ซื้อเครื่องนาฬิกาข้อมือมาใส่ตัวเรือนขาย จากบริษัท "Rako" ที่ถอดเสียงมาจากภาษาญี่ปุ่น เป็นบริษัทนาฬิกาในเยอรมันตะวันตก ซึ่งน่าจะเป็นไปได้มากว่า บริษัทนี้คือบริษัท Laco นั่นเอง และบทความก็ได้กล่าวทำนองว่า เป็นนโยบายหนึ่งในการใช้อุปกรณ์เครื่องใช้ที่เหลือจากสงครามให้เป็นประโยชน์มากที่สุด (ในที่นี้ ก็คงหมายถึง เครื่องนาฬิกาจาก Laco) จากนั้นไม่นาน ในเดือนกรกฎาปีเดียวกัน Takano ก็ได้ทำสัญญาร่วมกันด้านเทคโนโลยีกับบริษัทนาฬิกา Hamilton ของอเมริกา (ตอนนั้นยังไม่ย้ายมาสวิส) นาฬิการุ่นแรกของ Takano มีชื่อว่า "The wristwatch No.1" มีวงเล็บบอกไว้ว่า "Rako type" ซึ่งก็น่าจะใช้เครื่องที่ซื้อมาจาก Laco และรุ่นอื่นๆใน "2000 Series" ก็ได้ออกสู่ตลาดในเดือนกันยาปี 57 นั้นเอง
ปี 1959 Takano ได้ออกรุ่น Chateau ออกมา (บนหน้าปัดไม่มีคำว่า Takano มีแต่ Chateau แต่ฝาหลังมีคำว่า Takano Precision) ซึ่งเคลมว่า เป็นนาฬิกาแบบไขลานที่บางที่สุดในโลก ณ ขณะนั้น [1] และได้มีการปรับเครื่องให้ใหญ่ขึ้น (ในด้านกว้าง แต่ความหนาลดลง) โดยให้เหตุผลว่า จะสามารถทำให้ความเที่ยงตรงดีขึ้นได้ (ผมเดาว่าอาจจะต้องการพื้นที่ให้ balance wheel ที่ใหญ่ขึ้นก็ได้ ซึ่งตามธรรมดา หาก balance wheel ใหญ่ขึ้น มันก็จะเสถียรขึ้น ก็ช่วยให้นาฬิกาเดินตรงขึ้นได้) สิ่งนี้ก็อาจแสดงให้เห็นว่า Takano ก็พัฒนาเครื่องของตัวเองเหมือนกัน แต่นาฬิการุ่นนี้ก็ขายได้ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ อาจจะเป็นเรื่องนี้ ผสมกับบริษัทได้รับความเสียหายจากพายุใต้ฝุ่นเป็นจำนวนกว่า 110 ล้านเยน ทำให้บริษัท Takano ตกอยู่ในสภาพล้มละลายในปี 1961 และต่อมาไม่นาน ก็ได้ถูก take over ไปโดยบริษัท Ricoh ในต้นปี 1962 ในปลายปีเดียวกัน บริษัท Takano Co., Ltd. ก็ได้ถูก CEO คนใหม่จาก Ricoh เปลี่ยนชื่อไปเป็นบริษัท Ricoh Watch Co., Ltd. และประวัติศาสตร์ของนาฬิกาข้อมือยี่ห้อ Takano ก็ได้จบลงตั้งแต่บัดนั้น สิริรวมอายุได้ 4 ปีกับ 11 เดือน
นาฬิกาข้อมือรุ่นแรกภายใต้แบรนด์ Ricoh ได้ออกสู่ตลาดเมื่อเดือนตุลาปี 1962 มีชื่อว่า "Dynamic Auto" เป็นนาฬิกาแบบ Automatic ทับทิม 33 เม็ด รุ่นนี้ ยังมีรุ่นที่ใช้ทับทิม 45 เม็ดอีกด้วย เอาไปใส่ไว้ตรงแบริ่งของตุ้มเหวี่ยงไขลานเป็นลูกปืนทับทิมเสีย 12 เม็ด บ้าไปแล้ว! ดูรูปได้ใน [2] แต่ก็นะ สมัยนั้นเขาแข่งกันเพิ่มจำนวนทับทิมกัน ในปีเดียวกันนั้น Ricoh ก็ได้มีความร่วมมือกับ Hamilton พัฒนานาฬิการะบบแม่เหล็กไฟฟ้า (ไม่ได้ใช้ quartz แต่ใช้วงจรอิเล็กทรอนิกส์กับทรานซิสเตอร์ 1 ตัวกำเนิดความถี่ ไปหมุนตัว balance wheel เพื่อควบคุมความถี่แบบกลไกอีกที ทั้งยังทำหน้าที่ส่งต่อเฟืองจักรต่างๆไปหมุนเข็มเช่นกัน นาฬิกาข้อมือระบบนี้มีให้เห็นหลายรุ่นหลายยี่ห้ออยู่ ในสมัยนั้น ของ Hamilton เองก็มี คือรุ่น 505 ความเที่ยงตรงไม่หนีจากระบบกลไกล้วนสักเท่าไหร่ อาจจะดีกว่าเล็กน้อย แต่ผลิตได้ถูกกว่า และการใส่ถ่าน ก็ไม่ต้องกังวลเรื่องไขลาน หรือตั้งทิ้งไว้แล้วลานหมดแบบระบบ Automatic) เครื่องรุ่นนี้คือ Ricoh 555 และทำขายภายใต้ยี่ห้อ "Hamilton-Ricoh" ดูรูปได้ใน [3] อย่างไรก็ตาม ความร่วมมือนี้ก็ไปได้ไม่ค่อยสวยเท่าไหร่ในด้านการขาย ทำให้จบลงในปี 1965 โดยเครื่อง 555 ก็ยังเหลืออยู่เต็มไปหมด จึงถูกนำไปใส่ตัวเรือนขายในอเมริกาในยี่ห้อ "Vantage"
เครื่องของนาฬิกา Ricoh นั้น ส่วนมากก็เป็นเครื่อง in-house ของตัวเอง เครื่องบางรุ่นก็ได้รับแรงบันดาลใจมาจากแบรนด์นาฬิกาญี่ปุ่นอื่นๆบ้าง ซึ่งอาจจะเคยมีความร่วมมือ หรือเป็นการลอก ก็ว่าไป ไม่มีข้อมูลชัดเจน เครื่องกลไกของ Ricoh ส่วนใหญ่จะเป็น Automatic และมักจะมีวันที่ หลายรุ่นก็มีวันด้วย แนวเดียวกับนาฬิกาญี่ปุ่นยี่ห้ออื่น ทัศนาได้ใน [2] ส่วนเรื่องคุณภาพนั้น บางคนก็ว่าคุณภาพนาฬิกา Ricoh ดีกว่ากล้อง Ricoh เสียอีก ส่วนเครื่องที่น่าสนใจคือ เครื่อง Quartz แบบมีวันและวันที่ของ Ricoh ที่ปล่อยออกมาเมื่อปี 1971 ถือเป็น Quartz รุ่นแรกๆ ก่อนเครื่อง Quartz ของ Citizen และ Orient ถึง 2 ปี และอยู่ในเวลาไล่ๆกับ Quartz ที่ออกขายตัวแรกของโลกของ Seiko เมื่อปี 1969 ด้วย ซึ่งการผลิตเครื่อง Quartz ในยุคต้น 70s นั้น ยังทำได้ไม่มาก และราคาแพงอยู่ แต่ก็ทำให้ราคาถูกลงกว่าเครื่องกลไกจนสามารถป้อนตลาดนาฬิการาคาถูกได้เมื่อกลางค่อนปลายยุค 70s นั่นเอง เครื่อง Quartz รุ่นแรกของ Ricoh นี้ถูกเคลมว่า เป็นเครื่อง Quartz ที่มีวันและวันที่เครื่องแรกของโลก ภายใต้ยี่ห้อ Riquartz ซึ่งก็ได้รับความร่วมมือจากบริษัทผลิตเครื่องบิน Hughes Aircraft ของอเมริกา อีกเครื่องที่เด่นในยุค 70s และก็ร่วมมือกับ Hughes Aircraft เช่นกัน คือ นาฬิกา Quartz แสดงผลโดยใช้หลอด LED ของ Hughes Aircraft ในปี 1973 ซึ่งถือเป็นนาฬิกา LED รุ่นแรกของญี่ปุ่น ซึ่งไม่นานนัก Ricoh ก็หันมาใช้ LED ของ Sanyo แทนของ Hughes Aircraft แต่โดยรวมแล้ว นาฬิกา LED ทั่วโลกก็อยู่ได้ไม่กี่ปีแล้วก็ถูกแทนที่ด้วย LCD ซึ่ง Ricoh ก็ผลิตเช่นกันแต่ไม่มากเท่าไหร่ [3]
อาจจะสังเกตได้ว่า Ricoh จะอยู่แอบๆจากแบรนด์ใหญ่อย่างเช่น Seiko, Citizen โดยใส่ Gimmick อะไรบางอย่างไปบ้างอย่างที่คนอื่นไม่มี แต่ผมก็ยังไม่เห็นว่าจะโดดเด่นสักเท่าไหร่ นี่คงเป็นแบบสไตล์ญี่ปุ่นๆ ส่วนความนิยม ก็ขอเดาตามตัวหนังสือที่อ่านมาว่า คงระดับหนึ่ง ไม่มากเท่า Seiko, Citizen ดูแล้ว อาจจะมีรุ่นราคาถูกที่ผลิตและขายในอินเดีย ส่วนบ้านเราผมไม่รู้เหมือนกัน เกิดไม่ทัน
อ้างอิง
[1] ประวัตินาฬิกา Ricoh และ Takano แปลจากข้อมูลจากเว็บไซต์ของพิพิธภัณฑ์นาฬิกาฮอกไกโด (Hokkaido Watch Museum)
[2] ตัวอย่างและคำบรรยายของนาฬิกา Ricoh และ Takano รุ่นต่างๆ
[3] ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Ricoh รุ่นที่เป็น Quartz แบบเข็ม แบบ LED และแบบ LCD
[4] ประวัติ Ricoh
[5] กล่าวถึงนาฬิกา Ricoh อินเดียเล็กน้อย
[6] นาฬิกา Ricoh แบบชาร์จได้ ปัจจุบัน
แสดงความคิดเห็น
มีท่านใดรู้จักนาฬิกา Ricoh ไหมครับ
@ขออนุญาตจากเจ้าของภาพคุณ Nun Supreeya ด้วยนะครับ