[CR] อินเลิฟอินเดีย 13 วัน กับ 6 เมือง เดลี, อัครา, พาราณสี, จอดปูร์, ชัยปูร์, บิคาเนอร์


เราว่าอินเดียเป็นประเทศที่มีมนต์เสน่ห์ในหลายๆเรื่องเลยนะ เราและแม่ชอบดูหนังอินเดียพวกเทพฮินดูมาแต่ไหนแต่ไร เลยมีความฝันตั้งแต่เด็กๆ ว่าครั้งนึงจะต้องไปอินเดียให้ได้ เพื่อนๆก็ไม่ค่อยมีใครอยากไปอินเดียเลย มีแต่คนบอกลำบากบ้าง สกปรกบ้าง กลัวอันตรายบ้าง ถ้าให้ไปคนเดียวเราก็ไม่กล้านะ จนวันนึงเพื่อนที่ทำงานเก่าชวนไป Trekking ABC เนปาล เราก็ตกลง พอปลายปี 59 แกนนำทริปเปลี่ยนใจกระทันหัน ก็เคว้งคว้างกันสิ เพื่อนเลยปรึกษาเราว่าจะไปไหนกันดีวะแก ปีนี้ถ้าไม่ได้เที่ยวชั้นลงแดงตายแน่ๆ เราเลยเอ่ยปากชวน ไปอินเดียมั้ย? ชั้นอยากกกก!! เพื่อนก็ใจง่ายมาก ไปดิ ไปกันสองคนนิแหละ โคตรเฟี้ยวเลย 555 พอใกล้วันซื้อตั๋ว มีเพื่อนของเพื่อนเป็นชายหนุ่ม 2 คน จะไปด้วย อาสาเป็นไกด์นำเที่ยวเพราะเค้าเคยไปอยู่มาเดือนนึง คือดีงามมากที่มีบอดี้การ์ดไปด้วย และเจ้าบอดี้การ์ดสองคนนี้จะว่างงานแค่ช่วงเดือน พ.ค. เท่านั้น เพราะพวกนางเป็นไกด์เดินป่าเขาใหญ่ ช่วงนี้จะไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยวมาเดินป่า และที่อินเดียก็เป็นช่วงที่ร้อนโครตๆ 40 องศาบวกๆ แค่นึกถึงสภาพอากาศก็บันเทิงกันแล้วค่ะ

ตั๋วเครื่องบิน
ความบันเทิงเริ่มจากส่องโปรตั๋วเครื่องบิน เพื่อนมีเงื่อนไขว่า ชั้นจะบินตรงกับ TG นะแก ลงที่นิวเดลี เราก็เออ ได้ๆ ส่องไปส่องมา ได้ราคางามเลยกดจองไปตามๆกัน พอได้ตั๋ว เราก็เลือกที่นั่งกับสั่งอาหารล่วงหน้าไว้เลย ประโยชน์ของการสั่งอาหารล่วงหน้า คือเราจะถูกเสริฟก่อนผู้โดยท่านอื่นๆ ที่ไม่ได้สั่งนั่นเอง ถ้าหิวมากก็จะได้กินก่อนงัยละ อมยิ้ม05อมยิ้ม05  เราและเพื่อนๆ 4 คน ออกเดินทางไฟลท์ขาไปประมาณเจ็ดโมงเช้า ผู้โดยสารไม่เต็มลำ พวกเรานั่งกันท้ายลำ น่าจะไม่ถึง 10 คน ชิวมากกกก แอร์และสจ๊วต TG บริการดีมาก เติมน้ำเติมขนมให้จุใจเลย แอร์คนสวยมายืนคุยกับเราอยู่นานว่า ขนาดเขาบินรูทนี้ตลอด ยังไม่เคยคิดจะเที่ยวอินเดียเลย ได้ยินแต่คนบอกว่ามันโหยหน่อย แต่สิ่งก่อสร้างมันสวยจริงๆ ชื่นชมเราว่าเก่งจังมาตั้ง 2 อาทิตย์ แค่คืนเดียวเค้าก็อยากกลับแล้ว เล่นเอาเราปอดเกือบแหก อมยิ้ม02อมยิ้ม02เราจองตั๋วเองผ่านหน้าเว็บ TG หน้าตาอีเมลคอนเฟิมตั๋วตามด้านล่าง

ประกันการเดินทาง
เราเลือกทำประกันกับ Allianz เลือกแผน OASIS TRIPPER
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

ขอวีซ่าอินเดีย
ถ้าจะเที่ยวอินเดีย สำหรับคนไทยแล้วต้องขอวีซ่าด้วยนะ สามารถขอได้ที่สถานฑูตอินเดีย หรือ ขอผ่านเว็บ พวกเราขอแบบ e-visa ผ่านเว็บจากไทย เพราะค่าธรรมเนียมถูกกว่า แต่ต้องไปเสียเวลาต่อแถว e-visa ที่สนามบินนานหน่อยเพราะชาวต่างชาตินิยมขอแบบออนไลน์กันเยอะหน่อย แล้วปริ้นเอกสารไปต่อแถวตม.ช่อง e-visa ที่สนามบิน เพื่อสแกนนิ้วมือทั้งสิบนิ้วจนครบ ก็จะได้ประทับตราวีซ่ามาในเล่ม เบ็ดเสร็จเกือบเที่ยงไปละ ขั้นตอนกรอกวีซ่าออนไลน์ กรอกตามทู้นี้เลย  https://pantip.com/topic/32758162 ดีงามค่ะ
พอซับมิทไปก็จะมีเมลแจ้งมาแบบนี้



พออีกวันก็ได้รับเมล์แจ้งอนุมัติวีซ่าแบบนี้


หน้าตา e-visa


การเตรียมเอกสารและค่าใช้จ่าย

ตามนี้เลยค่ะ https://www.skyscanner.co.th/news/how-to-apply-india-visa-2017
ของเราค่าธรรมเนียมการยื่นขอวีซ่าแบบออนไลน์ของคนไทย USD 50 และค่าธรรมเนียมธนาคาร 2.5% จ่ายค่าเสียหายไปที่ 1822.07 บาท (51.25$) ออกเดินทางกันดีกว่า ได้เวลาละ

หนักเอาเรื่องอยู่นะ ชั่งที่สนามบิน 11-12 โลนี่ละ

เมนูโนโซเดี่ยมของเรา


ก่อนลงก็กรอกใบ ตม. กันก่อนนะคะ


ภาพนี้ถ้ามองด้วยตาปล่าวจะเห็นเทือกเขาหิมาลัย แต่เราถ่ายจาก Standard Zoom Lens แทบไม่เห็นอะไรเลย อมยิ้ม11อมยิ้ม11


เห็นแผ่นดินอินเดียแล้ววว ไม่ค่อยมีต้นไม้เลยอ่าาา ตื่นเต้นๆๆ

Delhi Metro

พอผ่านตม.มาได้เรียบร้อย ก็มาซื้อตั๋วรถไฟไต้ดิน คนที่นี่เขาเรียกรถไฟใต้ดินว่า  Delhi Metro ที่อินเดียมีรถไฟใต้ดินแค่ที่นี่ที่เดียวเท่านั้น พวกเราก็นั่งเข้าเมืองกันไป ราคาย่อมเยามาก ไปลงที่สถานีเดลี เพื่อไปโรงแรมที่จองไว้ สถานีรถไฟบ้านเค้าก็ใหญ่มาก ประชากรเยอะนี่เนอะ

พอออกจากเดลีเมโทร ก็จะมาโผล่ที่สถานีรถไฟเดลดี ทางเดินที่จะไปที่พักมันต้องเดินเข้าไปในสถานีรถไฟแล้วข้ามชานชลาไปอีกฝั่ง แต่มันลำบากตรงที่คนก็เยอะ แล้วยังมีเครื่องสแกนวัตถุอันตรายทุกช่องทางเข้าออกเลยหละ สภาพเป้หนักๆ แบกขึ้นแบกลง มันทรมานขนาดไหน ถามใจเธอดูวววว์

มีช่างซ่อมเอนกประสงค์เต็มไปหมดเลย ราคาน่าจะไม่แพงนะ อมยิ้ม01


พวกเราเดินหาที่พักก็หลงกันไปหลงกันมา map พาวน พอถึงที่พักจริงๆ เสื้อเปียกหมดเลยจ้า ที่เปียกหนะเหงิ่อทั้งนั้น มันร้อนมากมายจริงๆ แค่วันแรกก็ทำเอาเราแก้มแดงสะแล้ว ร้อนมากๆ พักกันที่เกสเฮ้าส์ Zos Hotel 1คืน ตกแต่งน่ารักเวอร์สไตล์ข้าวสาร มีแต่ฝรั่ง เพื่อนบอกว่ามันก็ตั้งใจพามาพักที่นี่เลยนะ แขกที่พักที่นี่ล้วนแต่งานดีทั้งนั้น สายฟ. ควรมา 5555

ภาพบนคือสภาพของเพื่อน


นี่สภาพของเรา เก็บของเสร็จก็ออกหามื้อกลางวันกินหลังสถานีรถไฟเพื่อเอาแรงกัน มื้อแรกกินไม่ได้เลย 555 เครื่องเทศเค้าร้อนแรงมาก มีแต่เผ็ดกับเผ็ดมากกก ชอบไก่ทอดและนมโยเกิร์ต เพราะมันอร่อยและกินถูกปากมากที่สุดละ แต่ไก่ทอดนี่แพงมากกก เพราะเค้าไม่กินเนื้อสัตว์กันงัย กินแต่มังสวิรัติ

เค้าทำแผ่นแป้งกันสดๆ แถมอร่อยมากเลย พ่อครัวยิ้มแย้มแจ่มใส คุยไปหัวเราะกันไป


ใกล้ๆกันก็มีร้านขายลัสซี่และขนมปังทอด แนวๆน้ำเต้าหู้คู่ปลาท่องโก๋ของบ้านเรา แต่ลัสซี่มันอร่อยมากก นมเปรี้ยวโยเกริตดีๆนี่เอง กินแล้วโครตจะติดใจเลย เพื่อนสั่งมาให้ชิม 2 แก้ว ตามด้วยบรรยากาศละแวกที่พัก ซึ่งติดกับสถานีรถไฟเดลีเลย
ชื่อสินค้า:   อินเดีย, นิวเดลี, อัครา, พาราณสี, จอดปูร์, ชัยปูร์, บิคาเนอร์
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่