สวัสดีค่ะ ฉันเพิ่งเคยเขียนกระทู้ครั้งแรก แค่อยากจะเล่าสู่กันฟังค่ะ
ฉันทำงานบริษัทฯเอกชนแห่งหนึ่งค่ะ ไม่ใหญ่มากเป็นองค์กรเล็กๆ แต่กำลังจะพัฒนาไปสู่อีกระดับหนึ่ง
ฉันเข้ามาทำงานบริษัทฯนี้ในตำแหน่ง เจ้าหน้าที่บัญชี ทำงานส่วนงานบัญชีเบื้องต้นทั่วไปค่ะ ฉันทำงานบัญชีอยู่ได้ประมาณ 2 ปี
ผู้จัดการซึ่งเป็นเจ้าของบริษัทฯได้ย้ายสายงานจากบัญชี ไปเป็นเจ้าหน้าที่ IT ตำแหน่งเต็มเรียกว่า เจ้าหน้าที่บริหารงานข้อมูลและระบบสารสนเทศ
แผนกวางแผนและพัฒนา ครั้งแรกย้ายมาดิฉันไม่เข้าใจว่า ผุ้จัดการย้ายมาทำงานส่วนนี้ทำไม ซึ่งผู้จัดการให้เหตุผลว่า เห็นความใส่ใจ ความใฝ่รู้
ในเรื่องของคอมพิวเตอร์ ความคิดฉลาด มีแนวโน้มไปในทางด้านนี้มากว่าบัญชี และให้เหตุผลว่า ดิฉันไม่ได้จบตรงในด้านบัญชีมา เนื่องจากดิฉันจบ
บริหารธุรกิจ สาขาการจัดการ และไว้ใจดิฉันที่อยากให้เรียบรู้เรื่อง Server โดยมีที่ปรึกษาด้าน IT ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทกับเจ้าของบริษัทฯ จึงอยากย้ายให้ดิฉัน มาทำตรงนี้ ดิฉันต้องย้ายห้องทำงานค่ะ จากห้องบัญชี ย้ายดิฉันมาอยู่ห้องการตลาด และจุดประสงค์ของเจ้าของบริษัทฯ คือ ย้ายมาทำ IT ค่ะ แต่ตอนเช้า 7.30 ต้องทำงานบัญชี ซึ่งเขาให้เหตุผลว่า หาคนทำงานตอนเช้าไม่ได้ ดิฉันก็เลยยังต้องทำงานตรงนี้ต่อไป ย้ายมาอยู่ห้องการตลาด ว่างจากงาน IT ต้องทำงานตลาดด้วย ต้องรู้เกี่ยวกับงานขายการตลาดด้วย
ครั้งแรกดิฉันคิดว่า เป็นความรู้ใหม่ๆได้เรียนรู้ ได้ประสบการณ์ น่าจะเป็นเรื่องที่สนุก การทำงานไปด้วย สนุกกับงานไปด้วย 5 เดือนแรก หลังจากย้ายมาเป็นเจ้าหน้าที่ IT ดิฉันรู้สึกงานด้านนี้ แปลกใหม่ เป็นความรู้มากๆ ดิฉันสนุก คิดว่าสามารถทำงานไ้ด้ไม่ยาก ดิฉันเป็นคนไม่เก่งค่ะ แต่อาศัยจดจำ แล้วนำมาปฏิบัติ ทดลองลงมือทำ งานด้านนี้ ทำในเวลางานไม่ได้ ส่วนมากต้องรอพนักงานออฟฟิตทุกคนกลับบ้านไปก่อน เราถึงปฏิบัติงานได้ ดิฉันรู้สึกมีความสุขในการทำงานมากจนไม่คิดว่าจะมีวันหนึ่งที่ดิฉันไร้เพื่อน และมีแต่คนไม่ชอบหน้า
และวันนั้นก็มาถึงจริงๆค่ะ ดิฉัน ไม่ได้รับความร่วมมือจากพนักงานในองค์กรเลยในการที่ดิฉันจะปฏิบัติหน้าที่ พวกเขาไม่ให้ความไว้วางใจดิฉัน มันมีความกดดันสูงมากค่ะ ถูกต่อว่าด้วยคำธรรมดา แต่เจ็บไปข้างในค่ะ จากมีเพื่อน เพื่อนก็ตีตัวออกห่าง ไม่คุยด้วย เขาไปกินอะไรกัน ฉันเหมือนล่องหน เหมือนไม่มีตัวตน เขาไม่แม้แต่จนชวนฉันสักคำ ดิฉันไม่เข้าใจค่ะ ไม่เข้าใจว่าทำอะไรผิด เจ้านายก็พูดให้กำลังใจค่ะ ให้เราใจกว้าง คนเราแต่ละคนมีหลายสี หลายแบบ ถ้าเราเก็บมาใส่ใจ เราเองจะไม่มีความสุข เราต้องลงมือทำและพิสูจน์ให้ทุกคนเห็นว่าเราทำได้ ทำให้ทุกคนไว้ใจเรา ดิฉันก็พยายามแล้วค่ะ
สู้ถึงที่สุด ไม่มีใครอยากคุยกับดิฉัน เราก็ทำเป็นไปคุยเล่นกับเขา แต่ดูเหมือนเราไปทำให้เขาวงแตก ดิฉันไปทำอะไรคอมพิวเตอร์เวลามีปัญหาอะไร
กลายเป็นความผิดมาตกอยู่ที่เราเพียงผู้เดียว น้ำเสียงเพื่อนร่วมงานทุกคน คุยกับเราเหมือนไม่อยากคุย ไม่อยากตอบ ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป จะทำงานอยู่ได้อย่างไรกันค่ะ เหมือนพวกเขาต้องการให้เราออกๆไปให้พ้น เครียดมากค่ะ อยากจะลาออกจากงาน แต่ด้วยทางผู้บริหารก็ไม่อยากให้ออกค่ะ ดิฉันพยายามปรับตัว แต่เหมือนไม่เป็นผลเลย งานทุกอย่างที่ดิฉันทำ มันครอบคลุมหมด ระบบ Network Lan Server Tablet Smartphone Program Software Hardware Pc Laptop พูดง่ายๆ แทบทุกอย่างค่ะ ทำงานลำบากใจมากจริงๆ พยายามสร้างแรงจูงใจให้ตัวเอง คิดในแง่บวก แต่ใจมันก็ท้อค่ะ ร้องไห้แทบทุกวัน ไม่คิดเลยว่า มาทำงานตรงนี้ จะเป็นถึงขนาดนี้ การที่เราโตกว่าคนอื่น มันอยู่ยากจริงๆค่ะ คนทั้งหลายคุยกันก็ใส่หน้ากากใส่กัน แต่เขาคุยกันได้ดี แต่กับดิฉัน มีแต่ความจริงใจให้ แต่ได้สิ่งตอบแทนแบบนี้ มันไม่โอเครเลยค่ะ ถามว่าทุกวันนี้ทำงานมีความสุขไหม ไม่เลยค่ะ มันไม่มีความสุขเลย จะต้องทำอย่างไรค่ะ ให้ทุกคนยอมรับ ให้ทุกความให้ความร่วมมือ มันเป็นเรื่องยากมากจริงๆ
เมื่อฉันได้มาเป็นเจ้าหน้าที่ IT
ฉันทำงานบริษัทฯเอกชนแห่งหนึ่งค่ะ ไม่ใหญ่มากเป็นองค์กรเล็กๆ แต่กำลังจะพัฒนาไปสู่อีกระดับหนึ่ง
ฉันเข้ามาทำงานบริษัทฯนี้ในตำแหน่ง เจ้าหน้าที่บัญชี ทำงานส่วนงานบัญชีเบื้องต้นทั่วไปค่ะ ฉันทำงานบัญชีอยู่ได้ประมาณ 2 ปี
ผู้จัดการซึ่งเป็นเจ้าของบริษัทฯได้ย้ายสายงานจากบัญชี ไปเป็นเจ้าหน้าที่ IT ตำแหน่งเต็มเรียกว่า เจ้าหน้าที่บริหารงานข้อมูลและระบบสารสนเทศ
แผนกวางแผนและพัฒนา ครั้งแรกย้ายมาดิฉันไม่เข้าใจว่า ผุ้จัดการย้ายมาทำงานส่วนนี้ทำไม ซึ่งผู้จัดการให้เหตุผลว่า เห็นความใส่ใจ ความใฝ่รู้
ในเรื่องของคอมพิวเตอร์ ความคิดฉลาด มีแนวโน้มไปในทางด้านนี้มากว่าบัญชี และให้เหตุผลว่า ดิฉันไม่ได้จบตรงในด้านบัญชีมา เนื่องจากดิฉันจบ
บริหารธุรกิจ สาขาการจัดการ และไว้ใจดิฉันที่อยากให้เรียบรู้เรื่อง Server โดยมีที่ปรึกษาด้าน IT ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทกับเจ้าของบริษัทฯ จึงอยากย้ายให้ดิฉัน มาทำตรงนี้ ดิฉันต้องย้ายห้องทำงานค่ะ จากห้องบัญชี ย้ายดิฉันมาอยู่ห้องการตลาด และจุดประสงค์ของเจ้าของบริษัทฯ คือ ย้ายมาทำ IT ค่ะ แต่ตอนเช้า 7.30 ต้องทำงานบัญชี ซึ่งเขาให้เหตุผลว่า หาคนทำงานตอนเช้าไม่ได้ ดิฉันก็เลยยังต้องทำงานตรงนี้ต่อไป ย้ายมาอยู่ห้องการตลาด ว่างจากงาน IT ต้องทำงานตลาดด้วย ต้องรู้เกี่ยวกับงานขายการตลาดด้วย
ครั้งแรกดิฉันคิดว่า เป็นความรู้ใหม่ๆได้เรียนรู้ ได้ประสบการณ์ น่าจะเป็นเรื่องที่สนุก การทำงานไปด้วย สนุกกับงานไปด้วย 5 เดือนแรก หลังจากย้ายมาเป็นเจ้าหน้าที่ IT ดิฉันรู้สึกงานด้านนี้ แปลกใหม่ เป็นความรู้มากๆ ดิฉันสนุก คิดว่าสามารถทำงานไ้ด้ไม่ยาก ดิฉันเป็นคนไม่เก่งค่ะ แต่อาศัยจดจำ แล้วนำมาปฏิบัติ ทดลองลงมือทำ งานด้านนี้ ทำในเวลางานไม่ได้ ส่วนมากต้องรอพนักงานออฟฟิตทุกคนกลับบ้านไปก่อน เราถึงปฏิบัติงานได้ ดิฉันรู้สึกมีความสุขในการทำงานมากจนไม่คิดว่าจะมีวันหนึ่งที่ดิฉันไร้เพื่อน และมีแต่คนไม่ชอบหน้า
และวันนั้นก็มาถึงจริงๆค่ะ ดิฉัน ไม่ได้รับความร่วมมือจากพนักงานในองค์กรเลยในการที่ดิฉันจะปฏิบัติหน้าที่ พวกเขาไม่ให้ความไว้วางใจดิฉัน มันมีความกดดันสูงมากค่ะ ถูกต่อว่าด้วยคำธรรมดา แต่เจ็บไปข้างในค่ะ จากมีเพื่อน เพื่อนก็ตีตัวออกห่าง ไม่คุยด้วย เขาไปกินอะไรกัน ฉันเหมือนล่องหน เหมือนไม่มีตัวตน เขาไม่แม้แต่จนชวนฉันสักคำ ดิฉันไม่เข้าใจค่ะ ไม่เข้าใจว่าทำอะไรผิด เจ้านายก็พูดให้กำลังใจค่ะ ให้เราใจกว้าง คนเราแต่ละคนมีหลายสี หลายแบบ ถ้าเราเก็บมาใส่ใจ เราเองจะไม่มีความสุข เราต้องลงมือทำและพิสูจน์ให้ทุกคนเห็นว่าเราทำได้ ทำให้ทุกคนไว้ใจเรา ดิฉันก็พยายามแล้วค่ะ
สู้ถึงที่สุด ไม่มีใครอยากคุยกับดิฉัน เราก็ทำเป็นไปคุยเล่นกับเขา แต่ดูเหมือนเราไปทำให้เขาวงแตก ดิฉันไปทำอะไรคอมพิวเตอร์เวลามีปัญหาอะไร
กลายเป็นความผิดมาตกอยู่ที่เราเพียงผู้เดียว น้ำเสียงเพื่อนร่วมงานทุกคน คุยกับเราเหมือนไม่อยากคุย ไม่อยากตอบ ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป จะทำงานอยู่ได้อย่างไรกันค่ะ เหมือนพวกเขาต้องการให้เราออกๆไปให้พ้น เครียดมากค่ะ อยากจะลาออกจากงาน แต่ด้วยทางผู้บริหารก็ไม่อยากให้ออกค่ะ ดิฉันพยายามปรับตัว แต่เหมือนไม่เป็นผลเลย งานทุกอย่างที่ดิฉันทำ มันครอบคลุมหมด ระบบ Network Lan Server Tablet Smartphone Program Software Hardware Pc Laptop พูดง่ายๆ แทบทุกอย่างค่ะ ทำงานลำบากใจมากจริงๆ พยายามสร้างแรงจูงใจให้ตัวเอง คิดในแง่บวก แต่ใจมันก็ท้อค่ะ ร้องไห้แทบทุกวัน ไม่คิดเลยว่า มาทำงานตรงนี้ จะเป็นถึงขนาดนี้ การที่เราโตกว่าคนอื่น มันอยู่ยากจริงๆค่ะ คนทั้งหลายคุยกันก็ใส่หน้ากากใส่กัน แต่เขาคุยกันได้ดี แต่กับดิฉัน มีแต่ความจริงใจให้ แต่ได้สิ่งตอบแทนแบบนี้ มันไม่โอเครเลยค่ะ ถามว่าทุกวันนี้ทำงานมีความสุขไหม ไม่เลยค่ะ มันไม่มีความสุขเลย จะต้องทำอย่างไรค่ะ ให้ทุกคนยอมรับ ให้ทุกความให้ความร่วมมือ มันเป็นเรื่องยากมากจริงๆ