สวัสดีค่ะ
อันนี้ตั้งใจตั้งกระทู้เป็นกึ่งคำถามและสนทนาค่ะ หลายๆคนคงเห็นกระทู้บ่นปัญหาเด็กเปรตในโรงหนังกันมาเยอะแล้ว เมื่อหลายวันก่อนไปเจอเรื่องดีๆเกี่ยวกับแม่และเด็กในโรงหนังมาเลยอยากมาแชร์ให้ได้อ่านกันค่ะ และอยากรู้ว่าถ้าคุณพ่อคุณแม่เจอสถานการณ์แบบนี้ หรือ เวลาเจอปัญหาอื่นๆเวลาพาลูกเข้าโรงหนัง มีวิธีเด็ดๆอะไรจัดการกันบ้าง
เมื่อเดือนที่แล้วได้ไปดูหนังเรื่อง Wonder มาค่ะ (หนังดีมาก เหมาะกับเด็กๆมากค่ะ) แล้วบังเอิญได้ที่นั่งติดกับคุณแม่ยังสาวและลูกน้อยอายุน่าจะประมาณ 5-6 ขวบค่ะ โดยที่น้องนั่งอยู่ริมติดกับเราเลย ไอเราก็เกี่ยงกับเพื่อนว่าใครจะนั่งติดกับน้อง เพราะก็เคยมีประสบการณ์กับเด็กเสียงดัง อยู่ไม่สุขจนดูหนังไม่รู้เรื่องกันมาแล้ว แต่สุดท้ายแล้วเราก็เป็นคนที่ถูกเลือกค่ะ
นั่งไปได้สักพักเราก็เห็นว่าคุณแม่น้องกำลังถ่ายเซลฟี่กับน้องก่อนหนังเริ่ม ซึ่งตอนแรกก็ไม่อะไร
แต่หลังๆก็รู้สึกว่าคุณแม่คะ.. คุณแม่ถ่ายเยอะไปแล้วนะคะะะ trailerหนังจบไปสองเรื่องยังถ่ายไม่เสร็จเลย ตอนแรกก็คิดนะคะ ว่าจะถ่ายอะไรนักหนา.. แต่อยู่ดีๆ คำของพี่โอ๊ต ปราโมทย์ ก็เข้ามาเตือนสติเรา ทำให้เรามองสองแม่ลูกนี้เปลี่ยนไปเลยค่ะ
“เป็นผู้หญิง มีปิ๊ จิ๊มิ จิ๋ม หอย! มีจิ๋มไง มีหอยอยู่ อีต๊อบ เป็นผู้หญิง!”
มันเป็นประโยคในtrailerหนังที่กำลังฉายอยู่ค่ะ คงไม่ต้องบอกว่าเรื่องอะไร ฮ่าๆ รู้สึกว่าเด็กมาฟังอะไรอย่างงี้มันไม่สมควรเท่าไหร่ เราก็แอบเหลือบไปมองคุณแม่และน้องนิดนึงค่ะ แล้วก็เห็นว่าคุณแม่กำลังดึงความสนใจน้องไปอยู่ที่จอกล้องมือถือค่ะ ไม่รู้คุณแม่เขาตั้งใจหรือเราคิดไปเองนะคะ แต่รู้สึกว่าเป็นไอเดียที่ดีนะคะที่เขาถ่ายเซลฟี่เพื่อดึงความสนใจน้องให้อยู่ที่กล้องแทนที่ให้นั่งดูtrailerที่บางเรื่องอาจจะไม่เหมาะสมกับเด็กน่ะค่ะ เพราะtrailerต่อไปก็เป็นหนังactionเลือดสาด แต่พอหลังtrailerนี้จบไปเป็นtrailerการ์ตูน คุณแม่เขาก็เลิกถ่ายไป
ซึ่งตั้งแต่หนังเริ่มฉายยันหนังจบเรารู้สึกว่าคุณแม่สอนน้องดีมาก ไม่ยุกยิกเลยค่ะ นั่งเงียบตั้งใจดู จนเรารู้สึกผิดมากที่ตอนแรกทำท่าไม่อยากนั่งติดน้องอย่างเห็นได้ชัด แถมเราแอบกระซิบบอกเพื่อนว่าเลื่อนไปอีกที่นึงได้ไหม ที่ถัดไม่มีคนนั่งหรอก เพื่อเว้นช่วงกับน้องไปที่นึง (แต่เพื่อนปฏิเสธนะ) ไม่รู้คุณแม่เขาได้ยินหรือปล่าว และกลายเป็นว่าเด็ก(น่าจะ)มหาลัยที่นั่งVIPอยู่ข้างหลังเรานี่ทำเรารำคาญแทน พูดไม่หยุด รำคาญมากกกกกก
อาจจะเล่ายาวไปหน่อย แต่อยากแชร์ให้พ่อแม่อาจจะลองไปใช้ดูก็ได้นะคะ ที่ผ่านมาเห็นหลายคำแนะนำบอกให้พ่อแม่พาลูกเข้าตอนหนังเริ่มฉาย แต่เราว่ามันยังมีอีกหลายวิธีนะคะ
พ่อแม่คนไหนมีวิธีดีๆเทคนิคเด็ดๆในการพาลูกเข้าโรงหนังก็มาแชร์กันได้เยอะๆเลยนะคะ แชร์กันและนำไปใช้เผื่อจะลดปัญหาน้องก่อเรื่องในโรงหนังกันได้บ้าง ^^
ปกติคุณพ่อคุณแม่มีวิธีจัดการกับสถาณการณ์แบบนี้เวลาพาลูกๆไปดูหนังอย่างไรบ้างคะ?
อันนี้ตั้งใจตั้งกระทู้เป็นกึ่งคำถามและสนทนาค่ะ หลายๆคนคงเห็นกระทู้บ่นปัญหาเด็กเปรตในโรงหนังกันมาเยอะแล้ว เมื่อหลายวันก่อนไปเจอเรื่องดีๆเกี่ยวกับแม่และเด็กในโรงหนังมาเลยอยากมาแชร์ให้ได้อ่านกันค่ะ และอยากรู้ว่าถ้าคุณพ่อคุณแม่เจอสถานการณ์แบบนี้ หรือ เวลาเจอปัญหาอื่นๆเวลาพาลูกเข้าโรงหนัง มีวิธีเด็ดๆอะไรจัดการกันบ้าง
เมื่อเดือนที่แล้วได้ไปดูหนังเรื่อง Wonder มาค่ะ (หนังดีมาก เหมาะกับเด็กๆมากค่ะ) แล้วบังเอิญได้ที่นั่งติดกับคุณแม่ยังสาวและลูกน้อยอายุน่าจะประมาณ 5-6 ขวบค่ะ โดยที่น้องนั่งอยู่ริมติดกับเราเลย ไอเราก็เกี่ยงกับเพื่อนว่าใครจะนั่งติดกับน้อง เพราะก็เคยมีประสบการณ์กับเด็กเสียงดัง อยู่ไม่สุขจนดูหนังไม่รู้เรื่องกันมาแล้ว แต่สุดท้ายแล้วเราก็เป็นคนที่ถูกเลือกค่ะ
นั่งไปได้สักพักเราก็เห็นว่าคุณแม่น้องกำลังถ่ายเซลฟี่กับน้องก่อนหนังเริ่ม ซึ่งตอนแรกก็ไม่อะไร
แต่หลังๆก็รู้สึกว่าคุณแม่คะ.. คุณแม่ถ่ายเยอะไปแล้วนะคะะะ trailerหนังจบไปสองเรื่องยังถ่ายไม่เสร็จเลย ตอนแรกก็คิดนะคะ ว่าจะถ่ายอะไรนักหนา.. แต่อยู่ดีๆ คำของพี่โอ๊ต ปราโมทย์ ก็เข้ามาเตือนสติเรา ทำให้เรามองสองแม่ลูกนี้เปลี่ยนไปเลยค่ะ
“เป็นผู้หญิง มีปิ๊ จิ๊มิ จิ๋ม หอย! มีจิ๋มไง มีหอยอยู่ อีต๊อบ เป็นผู้หญิง!”
มันเป็นประโยคในtrailerหนังที่กำลังฉายอยู่ค่ะ คงไม่ต้องบอกว่าเรื่องอะไร ฮ่าๆ รู้สึกว่าเด็กมาฟังอะไรอย่างงี้มันไม่สมควรเท่าไหร่ เราก็แอบเหลือบไปมองคุณแม่และน้องนิดนึงค่ะ แล้วก็เห็นว่าคุณแม่กำลังดึงความสนใจน้องไปอยู่ที่จอกล้องมือถือค่ะ ไม่รู้คุณแม่เขาตั้งใจหรือเราคิดไปเองนะคะ แต่รู้สึกว่าเป็นไอเดียที่ดีนะคะที่เขาถ่ายเซลฟี่เพื่อดึงความสนใจน้องให้อยู่ที่กล้องแทนที่ให้นั่งดูtrailerที่บางเรื่องอาจจะไม่เหมาะสมกับเด็กน่ะค่ะ เพราะtrailerต่อไปก็เป็นหนังactionเลือดสาด แต่พอหลังtrailerนี้จบไปเป็นtrailerการ์ตูน คุณแม่เขาก็เลิกถ่ายไป
ซึ่งตั้งแต่หนังเริ่มฉายยันหนังจบเรารู้สึกว่าคุณแม่สอนน้องดีมาก ไม่ยุกยิกเลยค่ะ นั่งเงียบตั้งใจดู จนเรารู้สึกผิดมากที่ตอนแรกทำท่าไม่อยากนั่งติดน้องอย่างเห็นได้ชัด แถมเราแอบกระซิบบอกเพื่อนว่าเลื่อนไปอีกที่นึงได้ไหม ที่ถัดไม่มีคนนั่งหรอก เพื่อเว้นช่วงกับน้องไปที่นึง (แต่เพื่อนปฏิเสธนะ) ไม่รู้คุณแม่เขาได้ยินหรือปล่าว และกลายเป็นว่าเด็ก(น่าจะ)มหาลัยที่นั่งVIPอยู่ข้างหลังเรานี่ทำเรารำคาญแทน พูดไม่หยุด รำคาญมากกกกกก
อาจจะเล่ายาวไปหน่อย แต่อยากแชร์ให้พ่อแม่อาจจะลองไปใช้ดูก็ได้นะคะ ที่ผ่านมาเห็นหลายคำแนะนำบอกให้พ่อแม่พาลูกเข้าตอนหนังเริ่มฉาย แต่เราว่ามันยังมีอีกหลายวิธีนะคะ
พ่อแม่คนไหนมีวิธีดีๆเทคนิคเด็ดๆในการพาลูกเข้าโรงหนังก็มาแชร์กันได้เยอะๆเลยนะคะ แชร์กันและนำไปใช้เผื่อจะลดปัญหาน้องก่อเรื่องในโรงหนังกันได้บ้าง ^^