หลังจากสายตาสั้นมานาน ได้ลองตัดแว่นมาหลายที่หลายแบบ แต่กับท๊อปเจริญ ตัดครั้งล่าสุด ก็นานพอดู สมัยนั้นสายตาผมไม่ได้แย่เท่าตอนนี้ เลยไม่ค่อยใส่ใจอะไร
วันนี้มีโอกาสกลับไปซื้อแว่นกันแดด ก็เลยจัดแว่นสายตาถูกๆ เพิ่มสักอันเห็นจัดโปรอยู่ ทาง พนง. ถามค่าสายตา ผมก็เลยขอลองการบริการว่าเป็นเช่นไร เหมือนทุกทีกับร้านอื่นๆที่เข้าครั้งแรก บอกว่าไม่ทราบ แกล้งโง่เลยว่างั้น อยากลองว่า พนง. จะใส่ใจกับสายตาลูกค้าขนาดไหน มีหลายร้านที่ผมเข้าแล้วประทับใจมากๆหลายร้านเหมือนกัน ขอเล่าแบบละเอียดยิบ
พนง. พาไปวัดค่าสายตาจากเครื่องมองไปที่ภาพบอลลูนค้างไว้กระพริบตา 1 ที ได้ผลว่าสั้น 250 แล้วก็ให้มองตัวเลขใหญ่มาเล็กโดยมีเครื่องเปลี่ยนเลนส์ทีละข้าง จนอ่านได้บรรทัดล่างสุด ทั้งสองตา พนง.ก็จบกระบวนการเตรียมปิดเครื่อง ผมก็ถามโง่ๆว่า แค่อ่านได้พอหรือ ผมว่ามันพออ่านได้แต่ไม่คมชัด พนง. ก็จบกระบวนการ เอาแว่นมาสวมเลนส์ ให้ลองมองรอบๆ ว่าพื้นลอยไหม โดยลองจาก 250 ผมลองอ่านป้ายด้านนอกร้าน ผมถามว่าผมควรจะอ่านป้ายอันนู้นได้ไหม พนง. บอกว่าควรอ่านได้ ผมบอกว่าอ่านไม่ออก พนง.ก็เปลี่ยน 275 มาให้ลอง ผมบอกว่าพอจะอ่านได้บ้างแต่ไม่ชัดมันซ้อนกัน ทีนี้พื้นลอยด้วย พนง. สรุปว่า สายตาผมน่าจะไม่ถึง 275 แต่ก็มากกว่า 250 พื้นลอยแค่ไม่ชิน ให้ผมเลือกว่าจะเอาช่วงไหน ผมก็บอกว่า 275 มันก็ไม่ได้อ่านออกทุกตัวนะ พนง. บอกว่าเป็นเพราะสายตาผมไม่ถึงมันเลยไม่พอดี พร้อมยืนยัน ให้เลือกว่าเอาพื้นลอยหรือไม่ลอย ผมก็ยังเถียงว่ามันไม่ชัดทั้ง 2 ตัว ทีนี้เปลี่ยน 225 มาให้ลอง ผมวางเลย ตลกร้ายนะเนี่ย
พนง. เริ่มแสดงกริยากดดันให้เลือกช่วง โดยการเตรียมกระดาษจดชื่อ จดปลายปากกา ค้างไว้ที่กระดาษ ยิ้มให้ พูดสุภาพ ช่วงไหนดีคะ รอประมาณ 30 นาทีได้แว่นตาค่ะ ผมขอชื่นชม พนง. สุภาพ ยิ้มตลอด ไม่มีทีท่าหงุดหงิด วางตัวเป็น ผู้ชำนาญอย่างแท้จริง แต่ผมยืนยันว่า ผมอ่านป้ายทางนู้นไม่ออก คุณอ่านออกไหม พนง. บอกว่าอ่านได้ แต่ทำไมผมอ่านไม่ได้ พนง.ก็ยืนยันว่าสายตายังไม่ชินเลนส์
ผมยิงไม้ตาย ไม่วัดหน่อยรึครับ ว่าสายตาผมเอียงหรือเปล่า พนง.พูดอย่างมั่นใจว่า ไม่เอียงแน่นอน เพราะผมสามารถอ่านตัวเลขจากเครื่องบรรทัดล่างสุดได้แล้ว ซึ่งผมย้ำว่า อ่านได้แต่ไม่คมชัดนะ พนง.ยืนยันไม่เอียงแน่นอน ผมเลยบอกว่าคุณควรให้ผมมองเส้นก่อนดีกว่าไหมว่ามันดำกี่องศา พนง.นิ่งไปสักพัก พร้อมเอารีโมทมากดเปิดเส้นตัดให้ผมดู แล้วถามว่าเส้นไหนดำเด่นที่สุด โดยให้ผมดูด้วยตาเปล่า ผมเลยตอบว่าผมมองไม่เห็นเส้น พนง.ขอโทษพร้อมเอาเครื่องเปลี่ยนเลนส์มาให้ผมมองลอดช่องดูใหม่โดยดูทีละข้าง ปรากฏว่า ตาขวา เส้นดำไม่เท่ากัน มีดำเด่น คือเอียงแน่นอน ตาซ้ายปกติ ดำเท่ากันทุกเส้น จนคำนวณค่าความเอียงออกมา แล้วเอาแว่นสีส้มมาใส่เลนส์ 250 พร้อมปรับเอียง ทีนี้อ่านป้ายออก พนง.เดินออกสรุปค่าสายตา และบอกว่าต้องรอรับวันอื่นเพราะมีค่าเอียงถ้าไม่เอียงได้รับวันนี้เลย ผมถามต่อไม่วัดศูนย์กลางตาดำหรือ พนง.บอกว่าไม่ต้อง เอ้าจบก็จบ จ่ายเงิน แว่นกันแดด 1 แว่นสายตา 1 หลายพันเลยเอ้า
สำหรับผมแค่บริการสุภาพยังไม่พอ คุณต้องให้ลูกค้าได้แว่นที่ประทับใจด้วย สมมุติผมเชื่อตามที่ พนง.จัดให้ ผมจะได้แว่นที่กวนใจว่าทำไมมันไม่ชัด ได้แว่นที่ต้องเพ่งอ่าน ปวดหัวกันไป ซึ่งผมเคยไปตัดตามตลาดนัด 400 บาท บางร้านเขายังไม่พลาดขนาดนี้เลย เขาใส่ใจ ยิงคำถาม อ่านได้ไหม อ่านได้แล้วคมไหม ตัวหนังสือซ้อนกันไหม ปรับจนผม งง สรุปว่าอันไหนมันชัดกว่ากัน แต่นี่ผมย้ำว่าไม่คม ก็ยังเฉย คนสายตาสั้นถ้ามือใหม่หัดสั้น ผมว่าเขาไม่รู้หรอกว่าชัดคืออะไร คมคือแบบไหน แค่อ่านตัวเลขบรรทัดล่างสุดได้มันไม่จบนะครับ ซึ่งผมก็เคยเป็นตัดแว่นเยอะมาก ไม่ถูกใจสักอัน ตัดเกินค่าสายตา ยอมปวดหัวเพื่อความชัดแบบหลอกๆ ก็เคย จนไปเจอร้านนึงเขาแนะนำกันมาว่าดี ร้านเขาใส่ใจมาก เขาค่อยๆคุย ค่อยๆบอก ค่อยๆสอนเรา จนผมรู้จากร้านนี้ว่าผมตาเอียง มันเลยไม่คมชัด และต้องวัดตาดำด้วยว่าอยู่ตำแหน่งใด วันนั้นผมตัดแว่นแพงแต่ไม่เสียดายเลยใช้จนพัง ยังกะว่าจะกลับไปตัดที่ร้านนั้นอีก ติดที่ไกลจากที่พักผมพอควร รถติดด้วย แต่หลังจากนี้ ถ้าตัดอีกทีผมกลับไปแน่นอน
อยากให้ท๊อปเจริญปรับปรุง เพิ่มความรู้ พนง. ให้ใส่ใจมากกว่าแค่อ่านตัวเลขบรรทัดล่างออกก็จบครับ
ทดลอง ตัดแว่นท๊อปเจริญ บริการดี แต่ควรเพิ่มความใส่ใจในการขาย
วันนี้มีโอกาสกลับไปซื้อแว่นกันแดด ก็เลยจัดแว่นสายตาถูกๆ เพิ่มสักอันเห็นจัดโปรอยู่ ทาง พนง. ถามค่าสายตา ผมก็เลยขอลองการบริการว่าเป็นเช่นไร เหมือนทุกทีกับร้านอื่นๆที่เข้าครั้งแรก บอกว่าไม่ทราบ แกล้งโง่เลยว่างั้น อยากลองว่า พนง. จะใส่ใจกับสายตาลูกค้าขนาดไหน มีหลายร้านที่ผมเข้าแล้วประทับใจมากๆหลายร้านเหมือนกัน ขอเล่าแบบละเอียดยิบ
พนง. พาไปวัดค่าสายตาจากเครื่องมองไปที่ภาพบอลลูนค้างไว้กระพริบตา 1 ที ได้ผลว่าสั้น 250 แล้วก็ให้มองตัวเลขใหญ่มาเล็กโดยมีเครื่องเปลี่ยนเลนส์ทีละข้าง จนอ่านได้บรรทัดล่างสุด ทั้งสองตา พนง.ก็จบกระบวนการเตรียมปิดเครื่อง ผมก็ถามโง่ๆว่า แค่อ่านได้พอหรือ ผมว่ามันพออ่านได้แต่ไม่คมชัด พนง. ก็จบกระบวนการ เอาแว่นมาสวมเลนส์ ให้ลองมองรอบๆ ว่าพื้นลอยไหม โดยลองจาก 250 ผมลองอ่านป้ายด้านนอกร้าน ผมถามว่าผมควรจะอ่านป้ายอันนู้นได้ไหม พนง. บอกว่าควรอ่านได้ ผมบอกว่าอ่านไม่ออก พนง.ก็เปลี่ยน 275 มาให้ลอง ผมบอกว่าพอจะอ่านได้บ้างแต่ไม่ชัดมันซ้อนกัน ทีนี้พื้นลอยด้วย พนง. สรุปว่า สายตาผมน่าจะไม่ถึง 275 แต่ก็มากกว่า 250 พื้นลอยแค่ไม่ชิน ให้ผมเลือกว่าจะเอาช่วงไหน ผมก็บอกว่า 275 มันก็ไม่ได้อ่านออกทุกตัวนะ พนง. บอกว่าเป็นเพราะสายตาผมไม่ถึงมันเลยไม่พอดี พร้อมยืนยัน ให้เลือกว่าเอาพื้นลอยหรือไม่ลอย ผมก็ยังเถียงว่ามันไม่ชัดทั้ง 2 ตัว ทีนี้เปลี่ยน 225 มาให้ลอง ผมวางเลย ตลกร้ายนะเนี่ย
พนง. เริ่มแสดงกริยากดดันให้เลือกช่วง โดยการเตรียมกระดาษจดชื่อ จดปลายปากกา ค้างไว้ที่กระดาษ ยิ้มให้ พูดสุภาพ ช่วงไหนดีคะ รอประมาณ 30 นาทีได้แว่นตาค่ะ ผมขอชื่นชม พนง. สุภาพ ยิ้มตลอด ไม่มีทีท่าหงุดหงิด วางตัวเป็น ผู้ชำนาญอย่างแท้จริง แต่ผมยืนยันว่า ผมอ่านป้ายทางนู้นไม่ออก คุณอ่านออกไหม พนง. บอกว่าอ่านได้ แต่ทำไมผมอ่านไม่ได้ พนง.ก็ยืนยันว่าสายตายังไม่ชินเลนส์
ผมยิงไม้ตาย ไม่วัดหน่อยรึครับ ว่าสายตาผมเอียงหรือเปล่า พนง.พูดอย่างมั่นใจว่า ไม่เอียงแน่นอน เพราะผมสามารถอ่านตัวเลขจากเครื่องบรรทัดล่างสุดได้แล้ว ซึ่งผมย้ำว่า อ่านได้แต่ไม่คมชัดนะ พนง.ยืนยันไม่เอียงแน่นอน ผมเลยบอกว่าคุณควรให้ผมมองเส้นก่อนดีกว่าไหมว่ามันดำกี่องศา พนง.นิ่งไปสักพัก พร้อมเอารีโมทมากดเปิดเส้นตัดให้ผมดู แล้วถามว่าเส้นไหนดำเด่นที่สุด โดยให้ผมดูด้วยตาเปล่า ผมเลยตอบว่าผมมองไม่เห็นเส้น พนง.ขอโทษพร้อมเอาเครื่องเปลี่ยนเลนส์มาให้ผมมองลอดช่องดูใหม่โดยดูทีละข้าง ปรากฏว่า ตาขวา เส้นดำไม่เท่ากัน มีดำเด่น คือเอียงแน่นอน ตาซ้ายปกติ ดำเท่ากันทุกเส้น จนคำนวณค่าความเอียงออกมา แล้วเอาแว่นสีส้มมาใส่เลนส์ 250 พร้อมปรับเอียง ทีนี้อ่านป้ายออก พนง.เดินออกสรุปค่าสายตา และบอกว่าต้องรอรับวันอื่นเพราะมีค่าเอียงถ้าไม่เอียงได้รับวันนี้เลย ผมถามต่อไม่วัดศูนย์กลางตาดำหรือ พนง.บอกว่าไม่ต้อง เอ้าจบก็จบ จ่ายเงิน แว่นกันแดด 1 แว่นสายตา 1 หลายพันเลยเอ้า
สำหรับผมแค่บริการสุภาพยังไม่พอ คุณต้องให้ลูกค้าได้แว่นที่ประทับใจด้วย สมมุติผมเชื่อตามที่ พนง.จัดให้ ผมจะได้แว่นที่กวนใจว่าทำไมมันไม่ชัด ได้แว่นที่ต้องเพ่งอ่าน ปวดหัวกันไป ซึ่งผมเคยไปตัดตามตลาดนัด 400 บาท บางร้านเขายังไม่พลาดขนาดนี้เลย เขาใส่ใจ ยิงคำถาม อ่านได้ไหม อ่านได้แล้วคมไหม ตัวหนังสือซ้อนกันไหม ปรับจนผม งง สรุปว่าอันไหนมันชัดกว่ากัน แต่นี่ผมย้ำว่าไม่คม ก็ยังเฉย คนสายตาสั้นถ้ามือใหม่หัดสั้น ผมว่าเขาไม่รู้หรอกว่าชัดคืออะไร คมคือแบบไหน แค่อ่านตัวเลขบรรทัดล่างสุดได้มันไม่จบนะครับ ซึ่งผมก็เคยเป็นตัดแว่นเยอะมาก ไม่ถูกใจสักอัน ตัดเกินค่าสายตา ยอมปวดหัวเพื่อความชัดแบบหลอกๆ ก็เคย จนไปเจอร้านนึงเขาแนะนำกันมาว่าดี ร้านเขาใส่ใจมาก เขาค่อยๆคุย ค่อยๆบอก ค่อยๆสอนเรา จนผมรู้จากร้านนี้ว่าผมตาเอียง มันเลยไม่คมชัด และต้องวัดตาดำด้วยว่าอยู่ตำแหน่งใด วันนั้นผมตัดแว่นแพงแต่ไม่เสียดายเลยใช้จนพัง ยังกะว่าจะกลับไปตัดที่ร้านนั้นอีก ติดที่ไกลจากที่พักผมพอควร รถติดด้วย แต่หลังจากนี้ ถ้าตัดอีกทีผมกลับไปแน่นอน
อยากให้ท๊อปเจริญปรับปรุง เพิ่มความรู้ พนง. ให้ใส่ใจมากกว่าแค่อ่านตัวเลขบรรทัดล่างออกก็จบครับ