สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 18
คห 4 คุณฟรี
การติดต่อเข้า VPN ก็เหมือนการต่อเครื่องจากญี่ปุ่นไปเมกา ไม่ได้บินตรง
ทางปลายทาง รู้แต่ว่า คุณมาจากญี่ปุ่น
แต่ถ้าถามตม ญี่ปุ่น ก็รู้ได้ว่า คุณมาจากประเทศไทย
เรื่องนี้ ความจริงไม่ยาก แค่มีจดหมายจากทางราชการครับ
ทุกวันนี้ มี international agreement ในเรื่องของ cyber crime เต็มไปหมดครับ
ไม่ต้องห่วงว่าจะไม่ได้ความร่วมมือเลย
เรื่องนี้ ไม่เกี่ยวกับพันทิบครับ
ทางพันทิบให้ได้แค่ ip ปลายทาง
ซึ่งถ้าเราทราบตัวปล่อย vpn เราก็ถามไปทางนั้น
ปัญหามีอยู่อย่างเดียวคือ หากคุณใช้ VPN ของต่างชาติ กฏหมาย หรือข้อหาที่เราให้เหตุผลไป มีน้ำหนักพอจะให้เขาส่งข้อมูลมาไหม?
ถ้าเป็น 112 เขาไม่มี แต่ถ้าเป็นกฏหมายคอมพิวเตอร์ น่าจะมีคล้ายๆกัน
เรื่องพวกนี้ ฝรั่งเขาคลิกๆนิดเดียวก็เสร็จแล้ว
ไม่ค้างเติ่ง issue เหมือนคนไทย
แต่ถ้าใช้ provider ที่ไทย มันจะไปยากอะไรเล่าครับ !!
ใช้ proxy ยังจับยากกว่าครับ
vpn สมัยโชว์ ip เขานิยมใช้กันเพื่อไม่ให้รู้ว่าอยู่เมืองไทย
แต่ไม่ได้ช่วยเรื่องการ tracking ครับ
แต่ proxy เนี่ย ต้องใช้ proxy ที่แปลง ip ให้คุณด้วยนะครับ
สมัยก่อนมีเยอะ
สมัยนี้ network layer มันทำให้เฟคกันยากครับ
การติดต่อเข้า VPN ก็เหมือนการต่อเครื่องจากญี่ปุ่นไปเมกา ไม่ได้บินตรง
ทางปลายทาง รู้แต่ว่า คุณมาจากญี่ปุ่น
แต่ถ้าถามตม ญี่ปุ่น ก็รู้ได้ว่า คุณมาจากประเทศไทย
เรื่องนี้ ความจริงไม่ยาก แค่มีจดหมายจากทางราชการครับ
ทุกวันนี้ มี international agreement ในเรื่องของ cyber crime เต็มไปหมดครับ
ไม่ต้องห่วงว่าจะไม่ได้ความร่วมมือเลย
เรื่องนี้ ไม่เกี่ยวกับพันทิบครับ
ทางพันทิบให้ได้แค่ ip ปลายทาง
ซึ่งถ้าเราทราบตัวปล่อย vpn เราก็ถามไปทางนั้น
ปัญหามีอยู่อย่างเดียวคือ หากคุณใช้ VPN ของต่างชาติ กฏหมาย หรือข้อหาที่เราให้เหตุผลไป มีน้ำหนักพอจะให้เขาส่งข้อมูลมาไหม?
ถ้าเป็น 112 เขาไม่มี แต่ถ้าเป็นกฏหมายคอมพิวเตอร์ น่าจะมีคล้ายๆกัน
เรื่องพวกนี้ ฝรั่งเขาคลิกๆนิดเดียวก็เสร็จแล้ว
ไม่ค้างเติ่ง issue เหมือนคนไทย
แต่ถ้าใช้ provider ที่ไทย มันจะไปยากอะไรเล่าครับ !!
ใช้ proxy ยังจับยากกว่าครับ
vpn สมัยโชว์ ip เขานิยมใช้กันเพื่อไม่ให้รู้ว่าอยู่เมืองไทย
แต่ไม่ได้ช่วยเรื่องการ tracking ครับ
แต่ proxy เนี่ย ต้องใช้ proxy ที่แปลง ip ให้คุณด้วยนะครับ
สมัยก่อนมีเยอะ
สมัยนี้ network layer มันทำให้เฟคกันยากครับ
แสดงความคิดเห็น
....รู้ไว้ใช่ว่า ใส่บ่าแบกหาม สำหรับท่านที่ชอบอวตาร.../วัชรานน์
การใช้ไอพีติดต่อสื่อสารอยู่ระดับเรียกว่า การติดต่อสื่อสาร Layer 3 (จริงๆ ถ้าติดต่ออยู่เฉพาะภายในองค์กรนั้นๆ ก็อยู่ในระดับ2 แต่ถ้าออกจาก Firewall มาก็จะเข้าสู่ระดับ3) การหาตัวตนจริงๆ ในเบื้องต้นสามารถดูไอพีได้ ถ้าเจ้าตัวยอมรับว่าเป็นเจ้าของเครื่องตามไอพีจริงก็น่าจะจบตรงนั้น แต่ถ้ายังไม่จบก็เจาะลึกลงไปที่ Layer 2 ซึ่งการสื่อสารในระดับนี้จะใช้ Mac address สื่อสารเป็นหลักและชี้ตัวได้อย่างแม่นยำ เครื่องทุกเครื่องถูกกำหนดค่าไอพีจาก DHCP ซึ่งเจ้า DHCP ตัวนี้จะเก็บบันทึก Mac address คู่กับไอพีเอาไว้ ถ้าไอพีที่ใช้เป็น Dynamic (คือเปลี่ยนได้ตามแต่ admin จะกำหนด) ก็จะเสียเวลาหาเครื่องนิดหน่อยแต่ไม่เกินกำลังของแอดมิน และถ้าไอพีที่ใช้เป็น Static คือพูดภาษาง่ายๆ ก็คือ แอดมินใช้ไอพีผูกติดกับ Mac address การชี้เป้าย่อมไม่ผิดพลาด
แม้ว่าไอพีและmac address สามารถfake ได้จริง แต่คุณfake ไอพีหรือMac address ตอนไหน? ถ้าคุณมาfake ในทีหลัง (เพราะกลัวโดนจับได้) ต้องไม่ลืมว่า "ข้อมูลจริง" โดยเฉพาะMac address ก่อนที่จะถูกfake นั้นได้ถูกระบบบันทึกเอาไว้แล้ว ทั้งฝั่ง Client (ต้นทาง) และฝั่งServer (ปลายทาง)ทันทีเครื่องของคุณใช้ไวไฟหรือสายแลนครั้งแรก ทั้ง เร้าเตอร์ (Router) ทั้ง Firewall (ระบบป้องกันภายในองค์กร) หรือแม้กระทั่ง switch ในองค์กรของคุณจะบันทึก Mac address ตัวจริงจากเครื่องของคุณเอาไว้ในระบบที่เรียก Arp (Address Resolution Protocol) Table list คนที่มีความรู้ด้านเน็ตเวิร์กจริงๆ ถึงจะลบข้อมูที่ถูกบันทึกเหล่านี้ได้
ส่วนใหญ่การค้นหาความจริงมักจะจบลงที่เทียบไอพี ไม่บ่อยครั้งที่จะต้องลงมาลุยค้นหา Mac address เทียบกับไอพีและตัวเครื่อง
นอกจากไอพีและ Mac address แล้ว เครื่องคอมโดยเฉพาะคอมฯ ทืใช้ Microsoft Windows จะใช้ไวไฟหรือสายแลนสื่อสารบนโลกออนไลน์นั้นยังตัวชี้อีกตัวหนึ่งที่ยืนยันตัวตนบนโลกเน็ตเวิร์คได้ที่หลายคนอาจจะยังไม่เคยได้ยินหรือคุ้นเคยนั่นก็คือ SID (Security Identifier) และนี่คือตัวอย่างของ Sid S-1-5-21-1180699209-877415012-3182924384-1004 หากอยากรู้รายละเอียดก็ลองGoogle ดูนะครับ ผมคุ้นเคยกับเจ้าSid นี้มาตั้งแต่เรียนคอมฯ ใหม่ๆ ถ้าจะอธิบายก็คงยาว หากfake ไอพี หรือmac address ได้ เขายังมี Sid ที่จะให้ค้นหาความจริงได้อยู่อีกหากเครื่องคอมฯ ใช้ Windows มี Trick อะไรต่อมิอะไรเยอะแยะครับที่จะชี้เป้าเครื่องคอมพ์ได้
ทางที่ดี เล่นโซเชี่ยลด้วยความบริสุทธิ์ใจดีกว่าครับ จะอวตารมาอย่างไร เปอร์เซ็นที่จะรอดเล็ดลอดสายตายของ network administrator ยากมาก เมื่อยี่สิบกว่าปีก่อน ตอนที่คนกำลังเห่อเน็ตเวิร์คใหม่ๆ จำได้ไหมครับ? มีการป่วนระบบเน็ตเวิร์คโดยปล่อยไวรัสกันแบบง่ายๆ ผ่านอีเมล์บนหัวข้อที่เรียกว่า I love you ใครๆ ทั่วโลกเปิดอีเมล์อ่านเจอไวรัส ไม่กี่วันก็โดนจับได้ที่เอเชีย ฟิลิปินส์หรือมาเลเซียอะไรนี่แหละ นี่ผมพูดถึงเทคโนโยยี่เมื่อหลายสิบปีมาแล้ว นะครับ