สวัสดีครับทุกคน
ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่า นี่เป็นการรีวิวครั้งแรกของผมบน Pantip ยังไงขอกำลังใจจากทุกคนด้วยนะครับ
ติชมได้แต่อย่าด่าแรงนะครับ 555+
และหากมีข้อผิดพลาดประการใดต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ
เป็นความตั้งใจครั้งแรกของชีวิตที่อยากจะไปพิชิตบนภูกระดึงสักครั้ง เพราะได้ยินกิตติศัพท์มามากมายเกี่ยวกับการเดินทางไปที่นั้น
ว่า มันลำบากมากนะ เดินเหนื่อยนะ ยุ่งยากมากนะกับการเดินทางขึ้นเขา ทรมาร สุดโหด ใจไม่ถึงอย่าไป
เลยทำให้ผมรู้สึกอยากท้าทายตัวเองว่าจะสามารถทำได้ไหม และอยากมีเรื่องราวบันทึกเป็นความทรงจำสักครั้งหนึ่งในชีวิต
จึงได้ออกเดินทางตามความฝัน 555+ เวอร์ไปละ ยังไงฝากติดตามกระทู้นี้ด้วยนะครับ
สำหรับการเดินทางทริปนี้ ผมออกเดินทางไปกับเพื่อนด้วยอีก 2 คน รวมผมด้วยทั้งหมด 3 คน
วันที่ออกเดินทาง คือ 26-29 ธันวาคม 2017 (4 วัน 3 คืน)
การออกเดินทางครั้งนี้ เริ่มต้นที่ จ.นครราชสีมา (โคราช) ปลายทางคือ จ.เลย
เราเริ่มออกเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว ตั้งแต่เวลา 01.00 น. ของคืนวันที่ 26/12/2017 มาถึงภูกระดึง เช้า 26/12/2017 เวลา 05.30 น.
อากาศค่อนข้างหนาวแล้ว ประมาณ 15 องศา โดยประมาณ
เนื่องจากเราได้มีการวางแผนการเดินทางมาแล้ว เพื่อนได้ทำการจองเกี่ยวกับที่พักกางเต้นท์และของอุปกรณ์เครื่องนอนบางอย่างผ่านทาง onlineไว้แล้ว จึงค่อนข้างง่ายต่อการเข้าอุทยานในช่วงแรก
เวปที่ใช้จอง คือเวปนี้นะครับ
http://nps.dnp.go.th//reservation.php?option=area
จะต้องมีการสมัคร ID ก่อนนะครับถึงจะสามารถเข้าไปจองได้
เวลา 07.00 เจ้าหน้าที่จะเริ่มเปิดให้บริการเกี่ยวกับเรื่องการจองที่พักใครที่ได้จองผ่านออนไลน์มาจะจะต้องมีเอกสารแสดงให้ดู
ส่วนใครที่ไม่ได้จองต้องจองกับเจ้าหน้าที่ก่อนที่จะเดินขึ้นภู
ปล.ลืมบอกว่า เพื่อน2คนเป็นแฟนกัน เค้าเคยมาเที่ยวภูกระดึงแล้ว 1 ครั้ง ส่วนผมเป็น กขค. มาเป็นครั้งแรกนะครับ 555+
========= ไปดูภาพกันสักหน่อย =========
อากาศยามเช้า และบริเวณศูนย์บริการนักท่องเที่ยวอุทยานแห่งชาติภูกระดึง จุดแรกของการ Check in
ปีนี้มีทำประกันอุบัติเหตุคนละ 6 บาท คุ้มครอง 7 วัน
รายละเอียดการทำประกันเจ้าหน้าที่จะบอกว่ามีอะไรบ้าง
จำได้ว่าถ้าบาดเจ็บแขนหัก ขาหัก นอนรพ. ได้ประมาณ 10,000 บาท ส่วนถ้าเสียชีวิตก็ได้เป็นแสน
การทำประกันอุบัติเหตุทางอุทยานไม่ได้บังคับให้ทำนะครับ
แต่ส่วนตัวผมคิดว่าทำกันไว้ก็ดี เพราะระหว่างทางเราไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง อีกอย่าง 6 บาท ทำกันไว้เถอะครับ
หลังจากเสร็จจากการจองที่พักหรือแสดงหลักฐานที่พักที่จองผ่านออนไลน์มาแล้วก็จะได้เอาสัมภาระมาชั่ง
สัมภาระที่จะชั่งต้องมีป้ายติดกระเป๋าด้วยทุกใบ ที่ป้ายติดสัมภาระจะเขียนชื่อลูกหาบกับชื่อเจ้าของสัมภาระพร้อมเบอร์โทร
เพื่อที่ว่าเมื่อถึงบนภูที่พักศูนย์วังกวางลูกหาบจะได้โทรติดต่อกับเจ้าของสัมภาระได้
หลังจากชั่งสัมภาระเสร็จแล้วเดี๋ยวลูกหาบก็จะหาบขึ้นไปให้ ส่วนเราก็มากินข้าวเช้าทำธุระส่วนตัวให้เสร็จก่อนที่เดินขึ้นภู
ราคาคิดเป็นกิโลกรัมนะครับ กิโลกรัมละ 30 บาท
ก่อนจะเดินขึ้นภูก็จะมีเจ้าหน้าที่ทำการลงทะเบียนให้กับนักท่องเที่ยวโดยใช้บัตร ปปช
เพื่อทำการสแกนข้อมูลนักท่องเที่ยว เมื่อเสร็จก็เดินขึ้นภูได้
เริ่มเดินขึ้นภูเวลา 08.00 ถึงที่พักวังกวาง 14.00 น ถ้าไม่รวมแวะพักเที่ยงกับติดฝนก็ถึงตอน 12.00 น
ระหว่างทางควรหยิบไม้เท้าเพื่อช่วยเวลาเดินจะพยุงตัวได้ดี ขอบอกเลยว่าไม้เท้าช่วยได้เยอะมากครับ



เราเดินเท้าขึ้นมาถึงที่พักประมาณ 14.00 แต่ลูกหาบยังมาไม่ถึง
เจ้าหน้าที่บอกว่าลูกหาบจะมาถึงเวลา 15.00 แต่ความจริงมาถึง 17.00 เพราะฝนตก
ทำให้การเดินทางของลูกหาบล่าช้าลง เพราะต้องระมัดระวังกับการเดินทางขึ้นเขา
อากาศเริ่มหนาวขึ้นเรื่อยๆเหมือนดั่งคำที่เค้าบอกไว้ ยิ่งสูงยิ่งหนาว 555+
เราก็ได้แต่นั่งเล่น นั่งรอไปเรื่อยๆ และออกสำรวจบริเวรรอบๆเพื่อหาพื้นที่กางเต็นท์
จนกระทั้งลูกหาบมาถึง พวกเราก็จัดแจงรับสัมภาระต่างๆของเรา และเริ่มปฎิบัติการกางเต็นท์
การกางเต็นท์เป็นไปด้วยความทุลักทุเล เพราะมีฝนตกด้วยปรอยๆ แต่ก็สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี
จากนั้นก็จัดของ อาบน้ำ กินข้าว แล้วรีบมานอน เนื่องจากดูพยากรณ์อากาศว่าฝนจะตกตอนสีทุ่มถึงเช้าวันที่ 27/12/2017
แล้วก็เป็นไปตามพยากรณ์อากาศทุกอย่าง เช้าวันที่ 27 ก็ตกอีก ตกจนถึงกลางคืน
ตอนที่ขึ้นมาถึง ความรู้สึกแรกคือ ดีใจมาก รู้สึกโล่ง รู้สึกว่า เย่ มาถึงสักที
ความรู้สึกต่อมาคือ เหนื่อยวะ แต่เออ ก็ทนได้นะ ไม่ถึงตาย 555+





และแล้วก็เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้นในคืนฝนตก คืนแรก(26/12/2017)
กลางคืนระหว่างนอนหลับ ฝนตกหนักมากแบบต่อเนื่องตลอดทั้งคืนไม่หยุดหย่อน
ทำให้น้ำฝนสาดเข้ามาในเต็นท์ที่กางนอน อาจเป็นเพราะเรากางผ้าใบที่กางคลุมเต็นท์ไม่ดีก็เป็นได้
ช่วงที่รู้ว่าน้ำเข้ามารอบแรก คือ ช่วง 5 ทุ่ม เริ่มรู้สึกอะไรวะ เย็นๆหลัง ก็เลยลุกขึ้นมาดู
ปรากฎว่า แผ่นรองนอนเริ่มเปียกละ แต่ก็ยังไม่มากเท่าไหร่ ด้วยความที่ง่วงนอนจัด
อาจเป็นเพราะเหนื่อยจากการเดินทาง จึงขยับตัวไปทางมุมอื่นที่ยังไม่เปียกแล้วนอนต่อ
สักพักเริ่มรู้สึกว่าเย็นที่ขา ขยับตัวก็ไม่หาย และเริ่มหนาวขึ้นเริ่ม ก็เลยตื่นขึ้นมาดูอีกรอบ
รอบนี้เปียกทั้งแผ่นรองนอนเปียก ถุงนอน เสื้อ กางเกงที่ใส่นอนเปียก เรียกว่าเปียกแบบฉ่ำๆ
พอดูเวลาแล้ว ตอนนั้นเวลาประมาณ ตี4 เลยคิดในใจว่าจะเอายังไงดีวะ จะนั่งไปเรื่อยจนเช้า
จะออกไปขอความช่วยเหลือ ฝนก็ตกหนักจะปลุกเพื่อนก็เกรงใจ แถมง่วงก็ง่วง
ก็เลยตัดสินใจว่า เอาวะอีกแป๊ปก็เช้าละ นอนต่อละกัน ก็เลยนอนต่อในสภาพเปียกๆแบบนั้น
จนถึง 6 โมงเช้าแล้วก็ได้ยินเสียงประกาศว่า ใครที่ถุงนอนเปียก แผ่นรองนอนเปียก สามารถเอาไปเปลี่ยนได้
และในเช้าวันที่ 27/12/2017 ฝนก็ตกอีกตลอดทั้งวัน และนี้คือที่มาของคำว่า ครั้งแรกก็โดนซะแล้ว
แต่คำว่า โดนซะแล้วยังไม่หมดเพียงเท่านี้นะครับ ไว้ติดตามกันต่อนะครับ

ค่าใช้จ่ายต่างๆของอุทยาน
ค่าเข้าอุทยานคนละ 40 บาท
ป้ายติดกระเป๋าใบละ 5 บาท
ค่ากางเต็นท์ 30 บาท/คน/คืน
รถยนต์เข้าอุทยาน 30 บาท
แผ่นรองนอน 20 บาท/คืน
ค่าจ้างหาบสัมภาระ 30 บาท/กิโลกรัม
ผ้าห่มผืนเล็ก ผืนล่ะ 30 บาท/คืน
หมอน 10 บาท/คน/คืน
ในกรณีที่ใครไม่มี Power bank มา สามารถทำการเช่าได้นะครับ
Power bank 30000 mAh 150 บาท/วัน
AC Power bank 42000 mAh 200 W 300 บาท/วัน
ในกรณีที่มือถือแบตหมด หรือมี Power bank มา แต่แบตหมด สามารถฝากชาร์ตได้ครับ
ชาร์ตแบตโทรศัพท์ 20 บาท/ครั้ง
ชาร์ตแบตกล้อง 20 บาท/ครั้ง
ชาร์ตแบตสำรอง 40 บาท/ครั้ง
ปล. มีคนถามเรื่องเกี่ยวกับสัญญาณเครือข่ายของค่ายต่างๆว่า บนจุดกางเต็นท์และจุดชมวิวต่างๆบนภูกระดึง มีสัญญาณไหม
เดี๋ยวนี้เค้าพัฒนาแล้วครับ มีสัญญาณแทบทุกเครือข่าย แต่ผมใช้ค่ายสีเขียว มีสัญญาณแทบทุกที่เลยครับ
จะไม่มีสัญญาณบ้างบางจุดเท่านั้น แต่น้อยมากที่จะไม่มีสัญญาณ แต่ของเพื่อนใช้เครื่องข่ายสีส้ม เทียบกันแล้ว
ของเพื่อนมีสัญญาณเหมือนกัน แต่จะไม่มีสัญญาณค่อนข้างบ่อย เดี๋ยวสัญญาณหายบ้าง สัญญาณ 1-2 ขีดบ้างครับ
ของผมก็ใช้งานได้ตลอด อัพ Facebook / IG ได้ตามปกติครับ ส่วนค่ายสีฟ้าอันนี้ไม่ทราบเลยครับ
เรื่องราวยังไม่จบเพียงเท่านี้ ยังมีเหตุการ์ณต่างๆเกิดขึ้นระหว่างทริป
ฝนตก หมอกลง การเดินทางไปยังผาหล่มสัก
ข้างบนมีอะไรขายบ้าง มีหมูกระทะชุดละ 500 จริงไหม ?
และอีกหลายเรื่องราว เดี๋ยวจะทยอยมาเล่าให้ฟังนะครับ
ขอบคุณกุ๊บกิ๊ฟผู้นำทริปและช่วยหาข้อมูล
ขอบคุณทุกคนที่ติดตามอ่านครับ
อย่าลืมกดติดตามกระทู้ด้วยนะครับ
ขอฝากช่องทางการติดตามอื่นๆไว้ด้วยนะครับ
Page : กิน ซื้อ เที่ยว รีวิว
https://www.facebook.com/%E0%B8%81%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B8%8B%E0%B8%B7%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A2%E0%B8%A7%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%A7-537913249875630/
==================================
[CR] ทริปภูกระดึง 4วัน3คืน (ครั้งแรกก็โดนซะแล้ว)
ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่า นี่เป็นการรีวิวครั้งแรกของผมบน Pantip ยังไงขอกำลังใจจากทุกคนด้วยนะครับ
ติชมได้แต่อย่าด่าแรงนะครับ 555+
และหากมีข้อผิดพลาดประการใดต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ
ว่า มันลำบากมากนะ เดินเหนื่อยนะ ยุ่งยากมากนะกับการเดินทางขึ้นเขา ทรมาร สุดโหด ใจไม่ถึงอย่าไป
เลยทำให้ผมรู้สึกอยากท้าทายตัวเองว่าจะสามารถทำได้ไหม และอยากมีเรื่องราวบันทึกเป็นความทรงจำสักครั้งหนึ่งในชีวิต
จึงได้ออกเดินทางตามความฝัน 555+ เวอร์ไปละ ยังไงฝากติดตามกระทู้นี้ด้วยนะครับ
สำหรับการเดินทางทริปนี้ ผมออกเดินทางไปกับเพื่อนด้วยอีก 2 คน รวมผมด้วยทั้งหมด 3 คน
วันที่ออกเดินทาง คือ 26-29 ธันวาคม 2017 (4 วัน 3 คืน)
การออกเดินทางครั้งนี้ เริ่มต้นที่ จ.นครราชสีมา (โคราช) ปลายทางคือ จ.เลย
เราเริ่มออกเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว ตั้งแต่เวลา 01.00 น. ของคืนวันที่ 26/12/2017 มาถึงภูกระดึง เช้า 26/12/2017 เวลา 05.30 น.
อากาศค่อนข้างหนาวแล้ว ประมาณ 15 องศา โดยประมาณ
เนื่องจากเราได้มีการวางแผนการเดินทางมาแล้ว เพื่อนได้ทำการจองเกี่ยวกับที่พักกางเต้นท์และของอุปกรณ์เครื่องนอนบางอย่างผ่านทาง onlineไว้แล้ว จึงค่อนข้างง่ายต่อการเข้าอุทยานในช่วงแรก
เวปที่ใช้จอง คือเวปนี้นะครับ http://nps.dnp.go.th//reservation.php?option=area
จะต้องมีการสมัคร ID ก่อนนะครับถึงจะสามารถเข้าไปจองได้
เวลา 07.00 เจ้าหน้าที่จะเริ่มเปิดให้บริการเกี่ยวกับเรื่องการจองที่พักใครที่ได้จองผ่านออนไลน์มาจะจะต้องมีเอกสารแสดงให้ดู
ส่วนใครที่ไม่ได้จองต้องจองกับเจ้าหน้าที่ก่อนที่จะเดินขึ้นภู
ปล.ลืมบอกว่า เพื่อน2คนเป็นแฟนกัน เค้าเคยมาเที่ยวภูกระดึงแล้ว 1 ครั้ง ส่วนผมเป็น กขค. มาเป็นครั้งแรกนะครับ 555+
รายละเอียดการทำประกันเจ้าหน้าที่จะบอกว่ามีอะไรบ้าง
จำได้ว่าถ้าบาดเจ็บแขนหัก ขาหัก นอนรพ. ได้ประมาณ 10,000 บาท ส่วนถ้าเสียชีวิตก็ได้เป็นแสน
การทำประกันอุบัติเหตุทางอุทยานไม่ได้บังคับให้ทำนะครับ
แต่ส่วนตัวผมคิดว่าทำกันไว้ก็ดี เพราะระหว่างทางเราไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง อีกอย่าง 6 บาท ทำกันไว้เถอะครับ
สัมภาระที่จะชั่งต้องมีป้ายติดกระเป๋าด้วยทุกใบ ที่ป้ายติดสัมภาระจะเขียนชื่อลูกหาบกับชื่อเจ้าของสัมภาระพร้อมเบอร์โทร
เพื่อที่ว่าเมื่อถึงบนภูที่พักศูนย์วังกวางลูกหาบจะได้โทรติดต่อกับเจ้าของสัมภาระได้
หลังจากชั่งสัมภาระเสร็จแล้วเดี๋ยวลูกหาบก็จะหาบขึ้นไปให้ ส่วนเราก็มากินข้าวเช้าทำธุระส่วนตัวให้เสร็จก่อนที่เดินขึ้นภู
ราคาคิดเป็นกิโลกรัมนะครับ กิโลกรัมละ 30 บาท
เพื่อทำการสแกนข้อมูลนักท่องเที่ยว เมื่อเสร็จก็เดินขึ้นภูได้
ระหว่างทางควรหยิบไม้เท้าเพื่อช่วยเวลาเดินจะพยุงตัวได้ดี ขอบอกเลยว่าไม้เท้าช่วยได้เยอะมากครับ
เจ้าหน้าที่บอกว่าลูกหาบจะมาถึงเวลา 15.00 แต่ความจริงมาถึง 17.00 เพราะฝนตก
ทำให้การเดินทางของลูกหาบล่าช้าลง เพราะต้องระมัดระวังกับการเดินทางขึ้นเขา
อากาศเริ่มหนาวขึ้นเรื่อยๆเหมือนดั่งคำที่เค้าบอกไว้ ยิ่งสูงยิ่งหนาว 555+
เราก็ได้แต่นั่งเล่น นั่งรอไปเรื่อยๆ และออกสำรวจบริเวรรอบๆเพื่อหาพื้นที่กางเต็นท์
จนกระทั้งลูกหาบมาถึง พวกเราก็จัดแจงรับสัมภาระต่างๆของเรา และเริ่มปฎิบัติการกางเต็นท์
การกางเต็นท์เป็นไปด้วยความทุลักทุเล เพราะมีฝนตกด้วยปรอยๆ แต่ก็สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี
จากนั้นก็จัดของ อาบน้ำ กินข้าว แล้วรีบมานอน เนื่องจากดูพยากรณ์อากาศว่าฝนจะตกตอนสีทุ่มถึงเช้าวันที่ 27/12/2017
แล้วก็เป็นไปตามพยากรณ์อากาศทุกอย่าง เช้าวันที่ 27 ก็ตกอีก ตกจนถึงกลางคืน
ตอนที่ขึ้นมาถึง ความรู้สึกแรกคือ ดีใจมาก รู้สึกโล่ง รู้สึกว่า เย่ มาถึงสักที
ความรู้สึกต่อมาคือ เหนื่อยวะ แต่เออ ก็ทนได้นะ ไม่ถึงตาย 555+
กลางคืนระหว่างนอนหลับ ฝนตกหนักมากแบบต่อเนื่องตลอดทั้งคืนไม่หยุดหย่อน
ทำให้น้ำฝนสาดเข้ามาในเต็นท์ที่กางนอน อาจเป็นเพราะเรากางผ้าใบที่กางคลุมเต็นท์ไม่ดีก็เป็นได้
ช่วงที่รู้ว่าน้ำเข้ามารอบแรก คือ ช่วง 5 ทุ่ม เริ่มรู้สึกอะไรวะ เย็นๆหลัง ก็เลยลุกขึ้นมาดู
ปรากฎว่า แผ่นรองนอนเริ่มเปียกละ แต่ก็ยังไม่มากเท่าไหร่ ด้วยความที่ง่วงนอนจัด
อาจเป็นเพราะเหนื่อยจากการเดินทาง จึงขยับตัวไปทางมุมอื่นที่ยังไม่เปียกแล้วนอนต่อ
สักพักเริ่มรู้สึกว่าเย็นที่ขา ขยับตัวก็ไม่หาย และเริ่มหนาวขึ้นเริ่ม ก็เลยตื่นขึ้นมาดูอีกรอบ
รอบนี้เปียกทั้งแผ่นรองนอนเปียก ถุงนอน เสื้อ กางเกงที่ใส่นอนเปียก เรียกว่าเปียกแบบฉ่ำๆ
พอดูเวลาแล้ว ตอนนั้นเวลาประมาณ ตี4 เลยคิดในใจว่าจะเอายังไงดีวะ จะนั่งไปเรื่อยจนเช้า
จะออกไปขอความช่วยเหลือ ฝนก็ตกหนักจะปลุกเพื่อนก็เกรงใจ แถมง่วงก็ง่วง
ก็เลยตัดสินใจว่า เอาวะอีกแป๊ปก็เช้าละ นอนต่อละกัน ก็เลยนอนต่อในสภาพเปียกๆแบบนั้น
จนถึง 6 โมงเช้าแล้วก็ได้ยินเสียงประกาศว่า ใครที่ถุงนอนเปียก แผ่นรองนอนเปียก สามารถเอาไปเปลี่ยนได้
และในเช้าวันที่ 27/12/2017 ฝนก็ตกอีกตลอดทั้งวัน และนี้คือที่มาของคำว่า ครั้งแรกก็โดนซะแล้ว
แต่คำว่า โดนซะแล้วยังไม่หมดเพียงเท่านี้นะครับ ไว้ติดตามกันต่อนะครับ
ค่าเข้าอุทยานคนละ 40 บาท
ป้ายติดกระเป๋าใบละ 5 บาท
ค่ากางเต็นท์ 30 บาท/คน/คืน
รถยนต์เข้าอุทยาน 30 บาท
แผ่นรองนอน 20 บาท/คืน
ค่าจ้างหาบสัมภาระ 30 บาท/กิโลกรัม
ผ้าห่มผืนเล็ก ผืนล่ะ 30 บาท/คืน
หมอน 10 บาท/คน/คืน
ในกรณีที่ใครไม่มี Power bank มา สามารถทำการเช่าได้นะครับ
Power bank 30000 mAh 150 บาท/วัน
AC Power bank 42000 mAh 200 W 300 บาท/วัน
ในกรณีที่มือถือแบตหมด หรือมี Power bank มา แต่แบตหมด สามารถฝากชาร์ตได้ครับ
ชาร์ตแบตโทรศัพท์ 20 บาท/ครั้ง
ชาร์ตแบตกล้อง 20 บาท/ครั้ง
ชาร์ตแบตสำรอง 40 บาท/ครั้ง
เดี๋ยวนี้เค้าพัฒนาแล้วครับ มีสัญญาณแทบทุกเครือข่าย แต่ผมใช้ค่ายสีเขียว มีสัญญาณแทบทุกที่เลยครับ
จะไม่มีสัญญาณบ้างบางจุดเท่านั้น แต่น้อยมากที่จะไม่มีสัญญาณ แต่ของเพื่อนใช้เครื่องข่ายสีส้ม เทียบกันแล้ว
ของเพื่อนมีสัญญาณเหมือนกัน แต่จะไม่มีสัญญาณค่อนข้างบ่อย เดี๋ยวสัญญาณหายบ้าง สัญญาณ 1-2 ขีดบ้างครับ
ของผมก็ใช้งานได้ตลอด อัพ Facebook / IG ได้ตามปกติครับ ส่วนค่ายสีฟ้าอันนี้ไม่ทราบเลยครับ
ฝนตก หมอกลง การเดินทางไปยังผาหล่มสัก
ข้างบนมีอะไรขายบ้าง มีหมูกระทะชุดละ 500 จริงไหม ?
และอีกหลายเรื่องราว เดี๋ยวจะทยอยมาเล่าให้ฟังนะครับ
ขอบคุณกุ๊บกิ๊ฟผู้นำทริปและช่วยหาข้อมูล
ขอบคุณทุกคนที่ติดตามอ่านครับ
อย่าลืมกดติดตามกระทู้ด้วยนะครับ
ขอฝากช่องทางการติดตามอื่นๆไว้ด้วยนะครับ
Page : กิน ซื้อ เที่ยว รีวิว
https://www.facebook.com/%E0%B8%81%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B8%8B%E0%B8%B7%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A2%E0%B8%A7%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%A7-537913249875630/
==================================
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น