สวัสดีครับวันนี้ผมมีข้อสงสัยมาขอสอบถามของผู้ที่เคยมีประสบการณ์ในแวดวงการกู้สินเชื่อครับ
เรื่องมีอยู่ว่าเมื่อสักกลางปีที่แล้วผมยื่นกู้สินเชื่อSMEกับธนาคารสีชมพู เพื่อนำเงินมาขยายกิจการและหมุนเวียนในบริษัทฯผม
การยื่นกู้ก็ปรกติดีครับเอกสารก็ครบถ้วน หลังจากยื่นเรื่องก็รออนุมัติอย่างเย็นใจพร้อมกับคิดเรื่องแผนธุรกิจและการใช้เงินก้อนนี้ แต่ผ่านมาสัก1อาทิตย์เจ้าหน้าที่ธนาคารโทรมาแจ้งว่าผมติดแบล็คลิสสถานะ42 ทำให้ไม่สามารถอนุมัติเงินกู้ได้ ด้วยความตกใจเลยถามกลับไปว่าผมติดของbankอะไร เจ้าหน้าที่ก็แจ้งว่าเป็นบัตรผ่อนสินค้าและสินเชื่อเงินสด แต่ไม่ทราบชื่อบัตรโดยมีข้อมูลว่าเปิดใช้มาตั้งแต่ปี2546
จบการสนทนาแล้วก็ผมก็วางสายไป ผมมาคิดๆดูว่าปี46เราเคยทำบัตรอะไรบ้างแล้วสถานะ42คืออะไรหว่า ก็หาข้อมูลตามเว็บฯต่างๆครับ สรุปคือสถานะ42คือการขายหนี้(รู้แค่นี้) ส่วนบัตรที่คิดว่ามีปัญหาคือบัตรผ่อนสินค้าประเภทเครื่องใช้ไฟฟ้าของห้างดังแถวปิ่นเกล้า
อีก2วันผมก็ไปรับเอกสารการกู้คืนจากธนาคารแล้วมาดูว่าตรงกับที่ผมคิดหรือไม่ สรุปใช่จริงๆแต่ประเด็นคือ
1.ผมไม่เคยค้างชำระหรือผิดนัดใดๆทั้งสิ้น
2.ช่วงที่ยื่นกู้ผมไม่ได้ผ่อนอะไรเลยกับบัตรนี้
3.เคยมีจดหมายรายงานการตรวจสอบสถานะบัญชีของบัตรนี้ส่งมา ผมคือสถานะปรกติไม่มีผิดนัดชำระ
สุดท้ายก็โทรไปถามธนาคารว่าถ้าผมต้องการยื่นกู้อีกครั้งต้องทำอย่างไร ทางธนาคารแจ้งว่าต้องแก้สถานะ42ให้หายไปก่อน ส่วนวิธีแก้ให้สอบถามทางเจ้าของบัตรที่มีปัญหา ผมก็หาข้อมูลจากในพันทิปนี่แหละ สรุปได้คร่าวๆว่าผมต้องแจ้งทางบัตรให้ส่งเอกสารยืนยันว่าผมไม่ได้ทำผิดสัญญาการกู้หรือผ่อนสินค้ากับบัตรใบนี้ แล้วผมก็ต้องยื่นคำร้องพร้อมเอกสารนี้ไปให้เครดิสบูโรพิจารณาแก้สถานะให้ ซึ่งอาจจะต้องรอหลายเดือนมากกกถึงจะกลับเป็นปรกติ
ผมเลยมีคำถามที่อยากจะถามคือ
1.สถานะ42คือการขายหนี้ คำถามคือ ใครขายให้ใคร ไม่แน่ใจว่าห้างขายให้ธนาคารสีเหลืองหรือเปล่าเพราะเหมือนจะควบรวมธุรกิจกัน
2.เป็นหน้าที่ของลูกค้าหรือที่จะต้องทำเรื่อง ยื่นเรื่อง ร้องขอเอกสารต่างๆเผื่อมาแก้ในสิ่งที่ตนเองไม่ได้กระทำผิด
3.การที่ผมมาสะดุดทางการเงินกับการยื่นกู้ทำให้ธุรกิจผมเสียหายเพราะผิดแผน ถ้าผมไม่มีแผนรองรับ แล้วเกิดความเสียหายใครรับผิดชอบ
4.ถ้าผมยกเลิกบัตร,ปิดบัตรใบนี้ สถานะจะกลับมาเป็นเหมือนเดิมไหมครับ
ยาวหน่อยนะครับ ขอบคุณล่วงหน้าสำหรับทุกท่านที่ให้คำตอบและคำแนะนำรวมถึงคำติชมครับ
เครดิตบูโรแจ้งติดสถานะ42 ทั้งๆที่ไม่เคยทำอะไรผิด
เรื่องมีอยู่ว่าเมื่อสักกลางปีที่แล้วผมยื่นกู้สินเชื่อSMEกับธนาคารสีชมพู เพื่อนำเงินมาขยายกิจการและหมุนเวียนในบริษัทฯผม
การยื่นกู้ก็ปรกติดีครับเอกสารก็ครบถ้วน หลังจากยื่นเรื่องก็รออนุมัติอย่างเย็นใจพร้อมกับคิดเรื่องแผนธุรกิจและการใช้เงินก้อนนี้ แต่ผ่านมาสัก1อาทิตย์เจ้าหน้าที่ธนาคารโทรมาแจ้งว่าผมติดแบล็คลิสสถานะ42 ทำให้ไม่สามารถอนุมัติเงินกู้ได้ ด้วยความตกใจเลยถามกลับไปว่าผมติดของbankอะไร เจ้าหน้าที่ก็แจ้งว่าเป็นบัตรผ่อนสินค้าและสินเชื่อเงินสด แต่ไม่ทราบชื่อบัตรโดยมีข้อมูลว่าเปิดใช้มาตั้งแต่ปี2546
จบการสนทนาแล้วก็ผมก็วางสายไป ผมมาคิดๆดูว่าปี46เราเคยทำบัตรอะไรบ้างแล้วสถานะ42คืออะไรหว่า ก็หาข้อมูลตามเว็บฯต่างๆครับ สรุปคือสถานะ42คือการขายหนี้(รู้แค่นี้) ส่วนบัตรที่คิดว่ามีปัญหาคือบัตรผ่อนสินค้าประเภทเครื่องใช้ไฟฟ้าของห้างดังแถวปิ่นเกล้า
อีก2วันผมก็ไปรับเอกสารการกู้คืนจากธนาคารแล้วมาดูว่าตรงกับที่ผมคิดหรือไม่ สรุปใช่จริงๆแต่ประเด็นคือ
1.ผมไม่เคยค้างชำระหรือผิดนัดใดๆทั้งสิ้น
2.ช่วงที่ยื่นกู้ผมไม่ได้ผ่อนอะไรเลยกับบัตรนี้
3.เคยมีจดหมายรายงานการตรวจสอบสถานะบัญชีของบัตรนี้ส่งมา ผมคือสถานะปรกติไม่มีผิดนัดชำระ
สุดท้ายก็โทรไปถามธนาคารว่าถ้าผมต้องการยื่นกู้อีกครั้งต้องทำอย่างไร ทางธนาคารแจ้งว่าต้องแก้สถานะ42ให้หายไปก่อน ส่วนวิธีแก้ให้สอบถามทางเจ้าของบัตรที่มีปัญหา ผมก็หาข้อมูลจากในพันทิปนี่แหละ สรุปได้คร่าวๆว่าผมต้องแจ้งทางบัตรให้ส่งเอกสารยืนยันว่าผมไม่ได้ทำผิดสัญญาการกู้หรือผ่อนสินค้ากับบัตรใบนี้ แล้วผมก็ต้องยื่นคำร้องพร้อมเอกสารนี้ไปให้เครดิสบูโรพิจารณาแก้สถานะให้ ซึ่งอาจจะต้องรอหลายเดือนมากกกถึงจะกลับเป็นปรกติ
ผมเลยมีคำถามที่อยากจะถามคือ
1.สถานะ42คือการขายหนี้ คำถามคือ ใครขายให้ใคร ไม่แน่ใจว่าห้างขายให้ธนาคารสีเหลืองหรือเปล่าเพราะเหมือนจะควบรวมธุรกิจกัน
2.เป็นหน้าที่ของลูกค้าหรือที่จะต้องทำเรื่อง ยื่นเรื่อง ร้องขอเอกสารต่างๆเผื่อมาแก้ในสิ่งที่ตนเองไม่ได้กระทำผิด
3.การที่ผมมาสะดุดทางการเงินกับการยื่นกู้ทำให้ธุรกิจผมเสียหายเพราะผิดแผน ถ้าผมไม่มีแผนรองรับ แล้วเกิดความเสียหายใครรับผิดชอบ
4.ถ้าผมยกเลิกบัตร,ปิดบัตรใบนี้ สถานะจะกลับมาเป็นเหมือนเดิมไหมครับ
ยาวหน่อยนะครับ ขอบคุณล่วงหน้าสำหรับทุกท่านที่ให้คำตอบและคำแนะนำรวมถึงคำติชมครับ