สวัสดีค่ะ
เรามาเรียนต่างประเทศ แล้วพอดีแฟนกับเราเก็บแมวได้ เลยพาไปหาคุณหมอ
เพราะตอนเจอน้องวันแรกน้องมีกลิ่นตัวแรงมาก เนื่องจากเราเป็นคนค่อนข้างรักความสะอาดเราเลยฝากน้องไว้ที่รพ.เพื่อให้หมอดูแลให้อาทิตย์แรก
พอไปหาหมอ หมอก็บอกว่า น้องมีไข้ แต่ที่เหลือน้องปกติดี แต่ว่าน้องดันเป็น “เอดส์”
เราก็โอเคค่ะรับได้ เพราะไหนๆเราก็เก็บน้องเค้ามาแล้วก็เลยตั้งใจว่าจะเลี้ยน้องต่อไป
แต่ปัญหายังไม่หมดแค่นั้นค่ะ น้องไม่รู้จักห้องน้ำค่ะ!! ตอนแรกเราเข้าใจว่ากระบะทรายที่เราซื้อมามันเล็กเกินไป
เราเลยไปซื้อมาอันที่ใหญ่กว่าเดิมมา แต่น้องก็เข้าไปดมๆ แล้วก็เดินออกมา อึฉี่ข้างนอก เราเลยไปซื้อแผ่นฉี่มาน้องก็ฉี่บนแผ่นทุกครั้ง
แต่น้องก็ยังคงไปอึบนพรมอยู่ดี -___- เราพยามทำทุกอย่างที่เราอ่านมา ให้เอาอึน้องไปใส่ หรือเอากระดาษซับฉี่น้องไปใส่ และอื่นๆอีกมากมาย แต่น้องก็ยังคงทำธุระข้างนอกอยู่ดี
ต่อมาเราก็สังเกตุว่าน้องดืมน้ำเยอะมากกกกกกกกกกก แล้วก็ฉี่บ่อยมาก คือน้องฉี่หลังจากดื่มน้ำเสร็จทันที แล้วหลังจากน้องฉี่น้องก็จะมาเรียกให้ไปเติมน้ำกับเปลี่ยนแผ่นฉี่ ซึ่งแผ่นฉี่เนี้ยราคามันก็สูงพอสมควร คือวันนึงเราเปลี่ยนอย่างน้อย10แผ่นอะค่ะ นอกจากนี้น้องยังมีปัญหาเรื่องผิวหนังซึงมันจะมีก้อนอะไรไม่รู้สีเหลืองๆออกมาจากตัวน้องทุกครั้งที่น้องเกาตัวเอง แล้วมันก็จะร่วงอย่บนพื้นบ้านอย่างมากมายมหาศาล....
แล้ววันนี้อยู่ดีๆน้องก็อึแล้วมีเหมือนพยาธิสีขาวแบนๆ ปนมากับอึน้องคิดว่าพน.จะพาน้องไปหาหมอค่ะ
กลายเป็นว่าตอนนี้เรากลัวน้องแมว คือเราเข้าใจว่าเอดส์แมวไม่สามารถติดคนได้ แต่เนื่องจากเราเป็นคน เราถูกสอนมาว่าเอดส์เป็นเรื่องใหญ่ เราจึงค่อนข้างระแวงอยู่ในระดับนึง แต่เราก็ยังเล่นกับน้องปกติ จนกระทั่งน้องเริ่มปัญหาผิวหนังอย่างที่บอกไป เราเริ่มกลัวการอยู่ใกล้น้องมาขึ้นแต่ก็ยังพยามเลี้ยงและเล่นกับน้องให้มากที่สุด จนกระทั่งเราเจอพยาธิเนี้ยแหละค่ะ เราเลยกลายเป็นกลัวน้องไปเลย
เราเลี้ยงน้องมาประมาณ3เดือนกว่าๆ ทุกครั้งที่กลับมาที่ห้องจะต้องมีกลิ่นธุระน้องและต้องกลับมาเก็บ คือบางครั้งเรารู้สึกว่าน้องเป็นภาระของเราค่อนข้างมาก เราก็รู้สึกไม่ดีถ้าจะทิ้งน้องคือเราควรจะทำยังไงดีคะ?
สรุป:
น้องไม่สามารถเข้าห้องน้ำ ทำให้เรามีค่าใช้จ่ายเพิ่มจากการซื้อแผ่นฉี่
น้องมีปัญาหาผิวหนังบางอย่าง
เนื่องจากห้องมีพื้นที่ไม่ได้กว้างมาก เลยทำให้ห้องมีแต่กลิ่น อึและฉี่แมว
ค่าใช้จ่ายน้องเยอะมากค่ะ...
อยากปรึกษาเรื่องน้องแมว
เรามาเรียนต่างประเทศ แล้วพอดีแฟนกับเราเก็บแมวได้ เลยพาไปหาคุณหมอ
เพราะตอนเจอน้องวันแรกน้องมีกลิ่นตัวแรงมาก เนื่องจากเราเป็นคนค่อนข้างรักความสะอาดเราเลยฝากน้องไว้ที่รพ.เพื่อให้หมอดูแลให้อาทิตย์แรก
พอไปหาหมอ หมอก็บอกว่า น้องมีไข้ แต่ที่เหลือน้องปกติดี แต่ว่าน้องดันเป็น “เอดส์”
เราก็โอเคค่ะรับได้ เพราะไหนๆเราก็เก็บน้องเค้ามาแล้วก็เลยตั้งใจว่าจะเลี้ยน้องต่อไป
แต่ปัญหายังไม่หมดแค่นั้นค่ะ น้องไม่รู้จักห้องน้ำค่ะ!! ตอนแรกเราเข้าใจว่ากระบะทรายที่เราซื้อมามันเล็กเกินไป
เราเลยไปซื้อมาอันที่ใหญ่กว่าเดิมมา แต่น้องก็เข้าไปดมๆ แล้วก็เดินออกมา อึฉี่ข้างนอก เราเลยไปซื้อแผ่นฉี่มาน้องก็ฉี่บนแผ่นทุกครั้ง
แต่น้องก็ยังคงไปอึบนพรมอยู่ดี -___- เราพยามทำทุกอย่างที่เราอ่านมา ให้เอาอึน้องไปใส่ หรือเอากระดาษซับฉี่น้องไปใส่ และอื่นๆอีกมากมาย แต่น้องก็ยังคงทำธุระข้างนอกอยู่ดี
ต่อมาเราก็สังเกตุว่าน้องดืมน้ำเยอะมากกกกกกกกกกก แล้วก็ฉี่บ่อยมาก คือน้องฉี่หลังจากดื่มน้ำเสร็จทันที แล้วหลังจากน้องฉี่น้องก็จะมาเรียกให้ไปเติมน้ำกับเปลี่ยนแผ่นฉี่ ซึ่งแผ่นฉี่เนี้ยราคามันก็สูงพอสมควร คือวันนึงเราเปลี่ยนอย่างน้อย10แผ่นอะค่ะ นอกจากนี้น้องยังมีปัญหาเรื่องผิวหนังซึงมันจะมีก้อนอะไรไม่รู้สีเหลืองๆออกมาจากตัวน้องทุกครั้งที่น้องเกาตัวเอง แล้วมันก็จะร่วงอย่บนพื้นบ้านอย่างมากมายมหาศาล....
แล้ววันนี้อยู่ดีๆน้องก็อึแล้วมีเหมือนพยาธิสีขาวแบนๆ ปนมากับอึน้องคิดว่าพน.จะพาน้องไปหาหมอค่ะ
กลายเป็นว่าตอนนี้เรากลัวน้องแมว คือเราเข้าใจว่าเอดส์แมวไม่สามารถติดคนได้ แต่เนื่องจากเราเป็นคน เราถูกสอนมาว่าเอดส์เป็นเรื่องใหญ่ เราจึงค่อนข้างระแวงอยู่ในระดับนึง แต่เราก็ยังเล่นกับน้องปกติ จนกระทั่งน้องเริ่มปัญหาผิวหนังอย่างที่บอกไป เราเริ่มกลัวการอยู่ใกล้น้องมาขึ้นแต่ก็ยังพยามเลี้ยงและเล่นกับน้องให้มากที่สุด จนกระทั่งเราเจอพยาธิเนี้ยแหละค่ะ เราเลยกลายเป็นกลัวน้องไปเลย
เราเลี้ยงน้องมาประมาณ3เดือนกว่าๆ ทุกครั้งที่กลับมาที่ห้องจะต้องมีกลิ่นธุระน้องและต้องกลับมาเก็บ คือบางครั้งเรารู้สึกว่าน้องเป็นภาระของเราค่อนข้างมาก เราก็รู้สึกไม่ดีถ้าจะทิ้งน้องคือเราควรจะทำยังไงดีคะ?
สรุป:
น้องไม่สามารถเข้าห้องน้ำ ทำให้เรามีค่าใช้จ่ายเพิ่มจากการซื้อแผ่นฉี่
น้องมีปัญาหาผิวหนังบางอย่าง
เนื่องจากห้องมีพื้นที่ไม่ได้กว้างมาก เลยทำให้ห้องมีแต่กลิ่น อึและฉี่แมว
ค่าใช้จ่ายน้องเยอะมากค่ะ...