คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 2
เราเองก็ไม่ค่อยได้คลุกคลีกับคนที่บ้านสามีมากเท่าไหร่ รวมถึงญาติๆคนอื่นๆด้วย แต่เราสนิทกับแม่สามีแค่คนเดียวค่ะ ส่วนพ่อของสามีเสียนานมากแล้วก่อนเราจะเจอกันเสียอีก...
เมื่อปีที่แล้วล่าสุด แม่สามีเสียค่ะ...
เราเองก็ไม่ได้สนิทอะไรกับใครนักหรอก รู้จักพี่น้องสามีแค่ผิวเผิน ส่วนญาติลึกๆนี้ไม่รู้จักใครเลย อาศัยแค่ตอนสามีแนะนำให้รู้จักเท่านั้น แต่เราเป็นคนที่แบบว่า...เวลาเจอคนที่ดูแล้วอายุมากกว่าเรา เรายกมือไหว้สวัสดีหมดแม้เราจะไม่รู้มาก่อนว่าคนๆนั้นเค้าคือใคร แต่ถ้าเค้ามางานของครอบครัวเราได้ แสดงว่าเค้าต้องรู้จักกัน หรือไม่ก็อาจจะเป็นบรรดาญาติๆของทางสามีก็ได้ค่ะ
ในงาน...แม้เราจะไม่รู้จักใครมากมาย เราอาศัยเข้าหาก่อนค่ะ อย่างน้อยหางานให้ตัวเองทำจะได้ไม่ว่าง เรานี่เข้าครัวอย่างเดียว เป็นลูกมือช่วยเตรียมนู่นนี้นั่นอาศัยถามพวกแม่ครัวนั่นแหละ ล้างจานบ้าง ก็เพลินดี ส่วนสามีนี่อยู่หน้างานรับแขกและดูหน้างาน นานๆถึงจะเดินเฉี่ยวมาหาเราที่ครัวที คนอื่นๆก็จะมานั่งด้วยมาช่วยกันทำ พูดคุยกันเราก็นั่งฟังไป ดีกว่าอยู่เฉยๆเหวอๆไม่มีอะไรทำค่ะ มันก็ช่วยเราได้นะ ตอนแรกๆอาจจะมีบางคนงง หรือสงสัยว่าเราเป็นใคร แต่บางคนก็รู้จากการแนะนำของสามีเราแล้วว่าเราคือใคร เค้าก็จะสะกิดบอกกันเอง ซึ่งหลังจากผ่านงานศพแม่ของสามีมา เราได้รู้จักญาติๆผู้ใหญ่ของสามีเยอะขึ้นมากเลยค่ะ ส่วนมากจะอยู่กันตามในครัวของงานเนี่ยแหละ555+
สรุปแล้ว...ไปลามาไหว้ เจอผู้ใหญ่ให้ยิ้มแล้วไหว้อย่างเดียว ไม่จำเป็นต้องรู้ว่าเป็นญาติหรือป่าว แต่ถ้าเค้ามางานแฟนเรานั่นแสดงว่าไม่คนรู้จักก็คงจะญาติแน่นอน ที่สำคัญ...การช่วยหยิบจับนู่นนี้นั่น หรือหางานทำก็ทำให้เราไม่หง่าวค่ะ อาศัยถามคนนั้นคนนี้เห็นเค้าทำอะไร หากเราอยากมีส่วนร่วมก็เข้าไปร่วมช่วย ถ้ามีคนถามว่าเราเป็นใคร ก็ค่อยบอกค่ะ...
เมื่อปีที่แล้วล่าสุด แม่สามีเสียค่ะ...
เราเองก็ไม่ได้สนิทอะไรกับใครนักหรอก รู้จักพี่น้องสามีแค่ผิวเผิน ส่วนญาติลึกๆนี้ไม่รู้จักใครเลย อาศัยแค่ตอนสามีแนะนำให้รู้จักเท่านั้น แต่เราเป็นคนที่แบบว่า...เวลาเจอคนที่ดูแล้วอายุมากกว่าเรา เรายกมือไหว้สวัสดีหมดแม้เราจะไม่รู้มาก่อนว่าคนๆนั้นเค้าคือใคร แต่ถ้าเค้ามางานของครอบครัวเราได้ แสดงว่าเค้าต้องรู้จักกัน หรือไม่ก็อาจจะเป็นบรรดาญาติๆของทางสามีก็ได้ค่ะ
ในงาน...แม้เราจะไม่รู้จักใครมากมาย เราอาศัยเข้าหาก่อนค่ะ อย่างน้อยหางานให้ตัวเองทำจะได้ไม่ว่าง เรานี่เข้าครัวอย่างเดียว เป็นลูกมือช่วยเตรียมนู่นนี้นั่นอาศัยถามพวกแม่ครัวนั่นแหละ ล้างจานบ้าง ก็เพลินดี ส่วนสามีนี่อยู่หน้างานรับแขกและดูหน้างาน นานๆถึงจะเดินเฉี่ยวมาหาเราที่ครัวที คนอื่นๆก็จะมานั่งด้วยมาช่วยกันทำ พูดคุยกันเราก็นั่งฟังไป ดีกว่าอยู่เฉยๆเหวอๆไม่มีอะไรทำค่ะ มันก็ช่วยเราได้นะ ตอนแรกๆอาจจะมีบางคนงง หรือสงสัยว่าเราเป็นใคร แต่บางคนก็รู้จากการแนะนำของสามีเราแล้วว่าเราคือใคร เค้าก็จะสะกิดบอกกันเอง ซึ่งหลังจากผ่านงานศพแม่ของสามีมา เราได้รู้จักญาติๆผู้ใหญ่ของสามีเยอะขึ้นมากเลยค่ะ ส่วนมากจะอยู่กันตามในครัวของงานเนี่ยแหละ555+
สรุปแล้ว...ไปลามาไหว้ เจอผู้ใหญ่ให้ยิ้มแล้วไหว้อย่างเดียว ไม่จำเป็นต้องรู้ว่าเป็นญาติหรือป่าว แต่ถ้าเค้ามางานแฟนเรานั่นแสดงว่าไม่คนรู้จักก็คงจะญาติแน่นอน ที่สำคัญ...การช่วยหยิบจับนู่นนี้นั่น หรือหางานทำก็ทำให้เราไม่หง่าวค่ะ อาศัยถามคนนั้นคนนี้เห็นเค้าทำอะไร หากเราอยากมีส่วนร่วมก็เข้าไปร่วมช่วย ถ้ามีคนถามว่าเราเป็นใคร ก็ค่อยบอกค่ะ...
แสดงความคิดเห็น
แฟนจะกลับไปบวชที่บ้านเกิด แต่เราไม่อยากกลับไปด้วยผิดไหม
เราต้องทำตัวยังไง อยากได้คำแนะนำดีๆค่ะ