สวัสดีค่ะเพื่อนๆ ชาวพันทิปทุกคน ไม่รู้จะใช้หัวข้อว่าอะไรดี รู้แต่ว่าวันนี้เราอยากจะมาเล่าประสบการณ์ชีวิตของตัวเอง และก็อยากอวดแฟนเราให้เพื่อนๆอ่านกัน

อันนี้ก็เป็นกระทู้ที่ 2 แล้ว อยากจะลองมาเล่าประสบการณ์ดูบ้าง ถ้าเพื่อนๆคนไหนอ่านแล้ว ขัดอารมณ์ไปบ้าง ก็อย่าว่ากันนะค่ะ

เดี๋ยวขอเกริ่นนำนิดนึงนะ แฟนเราทำงานอยู่ชลบุรี ส่วนเราทำงานอยู่สมุทรสาคร ไกลใช่มั้ยละคะ เวลาเราเจอกัน เราเจอกันน้อยมากเลยค่ะ เดือนละครั้งบ้าง 2 ครั้งบ้าง เพราะบริษัทเราทั้งคู่ต่างทำงานวันเสาร์เว้นเสาร์ ส่วนมากเราจะใช้เวลาโทรหากัน วิดีโอคอลหากันในช่วงเย็น ถ้าถามว่าเราเจอกันได้ยังไง อิอิ มันเหมือนจะบังเอิญหรือพรหมลิขิตไม่รู้ แต่ที่รู้คือไม่ผิดคนแน่ แฮร่... จะอ้วก

มาต่อกันดีกว่าค่ะ พี่ที่ทำงานที่สนิทกัน เขาชื่อพี่ bear ส่วนแฟนเขาชื่อพี่ปาเกียว และแฟนเราไปอวยพรวันเกิดให้พี่ปาเกียวในเฟสบุ๊ค ซึ่งเมื่อก่อนพี่ปาเกียวเขาเป็นหัวหน้าเก่าของแฟนเราสมัยที่ยังทำงานอยู่อยุธยา ก็เลยพูดคุย ถามสารทุกข์สุกดิบ ไปๆมาๆ เขาเลยถามแฟนเราว่าช่วงนี้โสดหราว่ะ แฟนเรารีบตอบทันควันเลยจ้า ว่าโสดคร้าบพี่ พี่ปาเกียวก็ไม่รอช้ารีบบอกพี่ bear ทันที ทำงานกันเป็นทีมจริงๆ ส่วนพี่ bear นี่ก็ไม่ให้เสียเวลา รีบมาบอกเรา และส่งรูปพร้อมประวัติ บอกว่าเป็นวิศวะนะ คนใต้ โสด ไม่ค่อยหล่อนะ ดูๆไปก่อนไหม ลองคุยกันก่อน เลือกคนที่เขารักเราดีกว่านะ เพราะที่ผ่านมามีแต่เรารักเขา เอ้า ลองคุยก็ลองคุย ในรูปอาจจะไม่หล่อ แต่อาจจะนิสัยดีก็ได้เว้ย ลองดูสักตั้ง ตั้งแต่นั้นมาเราก็คุยกันปกติ จนถึงปัจจุบัน ก็ 3 ปีแล้วค่ะ และกำลังจะแต่งงานเร็วๆนี้
แต่กว่าจะมาถึง 3 ปี มาได้เนี้ย มีเรื่องร้ายๆ เกิดขึ้นมาตลอด เพราะการกระทำของเราเองล้วนๆ ก่อนหน้าที่เราจะเจอแฟนเราเมื่อก่อนเราปล่อยเงินกู้ร่วมกับแม่แฟนเก่า โดยเราเป็นผู้ดูคนกู้เงินว่าโอเคไหม ไหวไหม คล้ายๆกับเป็นคนกลางและนำเงินของแม่แฟนไปปล่อย โดยที่เราไม่ได้ดอก หรืออะไรกับแม่แฟนเก่าเลย ตอนแรกๆ ก็ดีอยู่หรอกค่ะ ไม่มีปัญหาอะไร แต่นานๆ ไป เริ่มเกิดปัญหา คนกู้จ่ายดอกช้าบ้าง ผลัดบ้าง สุดท้าย ไม่มีจ่ายดอก เราเองด้วยความกลัวว่าแม่แฟนจะว่าทำไมถึงเก็บเงินไม่ได้ เพราะแม่แฟนเขาไม่ค่อยชอบเรา เพราะว่าเรามีฐานะทางบ้านค่อนข้างยากจน เราเลยช่วยเพื่อนเรา ซึ่งเป็นคนกู้เงิน โดยการไปทำบัตรเครดิตกดเงินมาช่วยเพื่อน ทั้งอิออน และเฟิร์สช้อย และที่แย่ไปกว่านั้นชื่อคนกู้คนอื่นๆที่เพื่อนเราแนะนำมาตอนนี้กลายเป็นชื่อของเพื่อนเป็นคนกู้แต่เพียงผู้เดียว พูดง่ายๆเลย ทั้งหมดที่ออกเงินกู้ไป เป็นชื่อเพื่อนคนเดียว คนอื่นไม่มีตัวตน บัตรเอทีเอ็มที่มาไว้กับเราก็กดไม่ได้ เฮ้อ กลุ้มใจมากตอนนั้น และบอกว่าจะขอรับผิดชอบยอดเงินที่กู้ไปทั้งหมดเอง ซึ่งยอดเงินเยอะมาก 2 แสนกว่าบาทได้ เราก็เครียดมาก เงินที่ทำบัตรสินเชื่อมาก็ไม่พอจ่ายดอก เราเลยเอาบัตรเงินเดือนตัวเองไปกู้เงินดอกร้อยละ 10 ต่อเดือน เพื่อนเอาเงินมาจ่ายดอกให้แม่แฟน ย้ำนะค่ะ ว่าแค่ดอก ไม่ใช่ต้น พอเราทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ เดือนต่อๆไป ก็เริ่มไม่ไหว แย่ลงทุกวันๆ เลยหาทางที่จะหลุดพ้นจากหนี้พวกนี้ไปพร้อมกับเพื่อน ก็เลยคิดว่าจะตั้งแชร์ โดยเราเป็นท้าวแชร์ จะได้ไม่เสียดอก และจะได้เงินก้อนมาใช้ก่อนคนอื่นด้วย เราก็หาสมาชิกมาเล่นแชร์ ตั้งแชร์มือละ 1,000 บาท จำนวนเงิน 10,000 บาท ตอนแรกก็ทำวงแชร์สำเร็จ พอเข้าวงที่ 3 เริ่มมีปัญหา เพราะวงเงินสูงขึ้นจาก 10,000 บาท เป็น 50,000 บาท ลูกแชร์เริ่มจ่ายไม่ไหวบ้าง และออกจากงาน เราเป็นท้าวแชร์ต้องแบกรับภาระลูกแชร์ทั้งหมดเพราะไม่อยากให้เสียเครดิต เพราะเรายังต้องทำงานที่บริษัทแห่งนี้อีกนาน บ้านก็อยู่ที่นี่ และที่สำคัญคือเราเป็นท้าวแชร์ต้องรับผิดชอบเงินทั้งหมดนั่นคือข้อตกลงก่อนการเล่นแชร์ เราเลยต้องไปกู้เงินดอกร้อยละ 10 มาเพิ่มอีกจากของเก่าที่มีอยู่ทีนี้หนี้ก็ทวีคูณเพิ่มมากขึ้นเข้าไปอีก โอ้ยย ......ชีวิต บัดซบเพราะตัวเองจริง จริง
หนี้สินบาน แฟนเก่าก็รักๆ เลิกๆ เริ่มทะเลาะกับเพื่อนคนที่กู้เงินเราไป เครียดหาเงินไม่ได้ ปัญหาทุกอย่างเข้ามาถาโถมเราไม่มีชิ้นดี เลิกงานกลับบ้านร้องไห้ทุกวันเพราะเครียด หาเงินมาใช้หนี้เขาไม่ได้ ปรึกษากับที่บ้านก็ไม่ได้ ทุกอย่างมันตัน และมืด ไปอยู่หลายเดือน จนในที่สุดก็เลิกกับแฟนเก่า เรายิ่งเครียดหนักเข้าไปอีก เพราะแฟนเก่าไปมีคนใหม่ เราล้มทั้งยืน กินข้าวไม่ได้ นอนไม่ไหลับ จนตัวเองเริ่มแย่เข้าไปทุกวัน และสุดท้ายพ่อก็เดินเข้ามาหาแล้วบอกว่าดีแล้วลูก
“ที่รู้ตอนนี้ว่าเขามีคนอื่น ดีกว่าไปนั่งน้ำตาเช็ดหัวเข่า รักตัวเองให้มากๆ”
โดยส่วนตัวเราเป็นคนที่รักพ่อมาก และแคร์พ่อเรามาก เราเลยตัดสินใจเด็ดขาด เอ้า...เลิกก็เลิกว่ะ เราก็เลิกพร่ำเพ้อ อาจจะมีร้องไห้อยู่บ้าง เวลาฟังเพลง หรือไปเจออะไรที่ทำด้วยกัน หรือไปไหนมาไหนด้วยกัน จนวันเวลาผ่านไป มันก็ทำให้เราดีขึ้นและลืมไปเอง จนเรามาเจอแฟนปัจจุบันคนนี้ ตอนคบกันเราก็ไม่ได้บอกเขาหรอกว่าเรามีหนี้มากมายมหาศาล ก็ใช้ชีวิตปกติ ทำงาน หาเงินผ่อนดอกไปเรื่อยๆ จนวันนึงหาเงินใช้หนี้ให้ลูกแชร์ไม่พอ กู้เพิ่มก็ไม่ได้ ต้องเอารถมอไชค์ไปจำนำ แต่ก็ไม่พอจ่ายอยู่ดี สุดท้ายพึ่งใครล่ะ ยืมเพื่อนก็ไม่ได้เพราะไม่อยากเสียเพื่อน สุดท้ายเอ่ยปากยืมเงินแฟนตัวเองกลั้นใจแล้วพิมไลน์บอกไปยาวเหยียดอธิบายต่างๆนาๆ
“ใจเราเต้นตึกๆๆๆๆๆๆๆ ลุ้นว่าจะไปต่อ หรือจะเลิก ผู้ชายคงบอกเลิกแน่ๆ”
และสุดท้าย

“แฟนอ่านและตอบกลับมาว่า ได้ พี่ให้ยืม 50,000 เป็นเงินเก็บของพี่เองและพี่จะไปกดเงินจากบัตรมาให้อีก”
ตอนนั้นเราอึ้ง และนับถือน้ำใจจากผู้ชายคนนี้มาก ที่ยื่นมือเข้ามาช่วยเราทั้งที่เราคบกันแค่ 1 เดือนเอง ไม่ได้มาก ไม่ได้จำเป็นต้องช่วยด้วยซ้ำ เขาจะเลิกกับเราก็ยังทัน มันทำให้เราละอายใจ และรู้สึกผิดหวังที่เป็นแบบนี้
เราถามเขาว่าทำไมถึงช่วย เขาบอกว่าคนเราคบกันจะให้คบกันแค่ตอนสบายเท่านั้นหรา เวลาลำบากก็ต้องช่วยกันสิ และอีกอย่างหนู (หมายถึงเรา) ไม่ได้เป็นหนี้เพราะตัวเองแต่เป็นหนี้เพราะช่วยคนอื่น ไม่ให้ยืมหนูก็ต้องไปหากู้คนอื่นอีก เราฟังบุป ร้องไห้เลย มันบรรยายไม่ถูก จะดีใจหรือเสียใจดี เพราะเขาดีกับเราเหลือเกิน
หลังจากเหตุการณ์วันนั้นเกิดขึ้นในใจเราก็เริ่มจะไม่ค่อยปกติ รู้สึกละอายใจ และคิดในใจอยู่ตลอดว่าแฟนเราจะคิดกับเรายังไงนะ จะคิดว่าเรามาหลอกเขาหรือเปล่า ชักไม่แน่ใจ แต่เราก็ยังทำตัวปกติ โทรหา ไลน์หา ไปหา ทำแบบนี้จนผ่านไปหลายเดือนเราเลยตัดสินใจบอกเจ้าหนี้ทุกคนว่าขอผ่อนจ่ายต้นได้ไหม เราก็อธิบายเหตุผลให้เจ้าหนี้ว่าเพราะอะไรทำไมถึงจ่ายดอกให้เขาไม่ได้ เจ้าหนี้บางคนก็ใจดีให้ผ่อนต้น ไม่เอาดอก บางคนก็ไม่ยอมให้ผ่อนต้น จะขอเป็นเงินก้อนเท่านั้น จะได้กินดอกไปเรื่อยๆ เคสไหนที่เราสามารถผ่อนผันได้เราก็ทำให้ อันไหนไม่ได้ก็ค่อยคิดตอนหลังว่าจะทำยังไงต่อไป ส่วนพวกบัตรต่างๆ เราขอแฮร์คัทกับทางธนาคารละขอหยุดจ่ายทั้งหมดรอเงินต้นเพื่อที่จะปิดทีละบัตร
ส่วนแฟนเราคอยให้กำลังใจและก็ช่วยเราบ้างถ้าเดือนไหนเราไม่มีเงินใช้ เดือนบางเดือนเราไม่มีเงินกินข้าวด้วยซ้ำ แฟนเราก็ให้เงินช่วยเหลือตลอด และคอยบอกเราว่าอย่าท้อ ให้เราสู้ ถ้าเราท้อทุกอย่างจะจบทันที
จะบอกไงดีล่ะการ เป็นหนี้มันก็ดีนะ อย่างน้อยมันก็ทำให้รู้ว่าใครที่จะจริงใจและอยู่เคียงข้างเรา

ปัจจุบันตอนนี้เริ่มจ่ายหนี้จบไปได้ 70% แล้ว ก็ต้องอดทนและพยายามให้มาก เพื่อครอบครัว เพื่อแฟนของเรา ที่เขาคอยช่วยเหลือ พาไปขึ้นศาล ให้เงินเราใช้ พาเราไปเที่ยว พาหาหมอ แทบจะทุกอย่างเลยก็ว่าได้ แฟนคนนี้เป็นคนที่เราคิดว่าโชคดีที่ได้เจอและได้ใช้ชีวิตร่วมกัน แฟนเราเขาไม่เล่นพันทิป เราเลยอยากจะเอามาลงเผื่อวันไหนที่เขาผ่านมาเห็น อยากบอกกับเขาว่าเรารักเขามาก และก็เป็นห่วงเขามาก อย่างที่เขาเป็นห่วงเราเช่นกัน ถึงเราจะไม่ค่อยแสดงออก แต่ก็จริงใจที่สุด เรามีกำหนดจะแต่งงานกันในปลายปี 2561 นี้ เราวางแผนไว้คือจะจัดงานแต่งให้เรียบง่ายที่สุดในฉบับประหยัดของเราสองคน ไว้เราจะนำมาแชร์ให้เพื่อนๆพันทิปอ่านกันนะค่ะ
ปล.ถ้าเราพิมพ์อะไรผิดไป หรือเล่าวกวน ไม่เข้าใจ ขอโทษด้วยนะค่ะ มือใหม่หัดเล่าค่ะ
หนี้นี้พิสูจน์รัก
อันนี้ก็เป็นกระทู้ที่ 2 แล้ว อยากจะลองมาเล่าประสบการณ์ดูบ้าง ถ้าเพื่อนๆคนไหนอ่านแล้ว ขัดอารมณ์ไปบ้าง ก็อย่าว่ากันนะค่ะ
เดี๋ยวขอเกริ่นนำนิดนึงนะ แฟนเราทำงานอยู่ชลบุรี ส่วนเราทำงานอยู่สมุทรสาคร ไกลใช่มั้ยละคะ เวลาเราเจอกัน เราเจอกันน้อยมากเลยค่ะ เดือนละครั้งบ้าง 2 ครั้งบ้าง เพราะบริษัทเราทั้งคู่ต่างทำงานวันเสาร์เว้นเสาร์ ส่วนมากเราจะใช้เวลาโทรหากัน วิดีโอคอลหากันในช่วงเย็น ถ้าถามว่าเราเจอกันได้ยังไง อิอิ มันเหมือนจะบังเอิญหรือพรหมลิขิตไม่รู้ แต่ที่รู้คือไม่ผิดคนแน่ แฮร่... จะอ้วก
แต่กว่าจะมาถึง 3 ปี มาได้เนี้ย มีเรื่องร้ายๆ เกิดขึ้นมาตลอด เพราะการกระทำของเราเองล้วนๆ ก่อนหน้าที่เราจะเจอแฟนเราเมื่อก่อนเราปล่อยเงินกู้ร่วมกับแม่แฟนเก่า โดยเราเป็นผู้ดูคนกู้เงินว่าโอเคไหม ไหวไหม คล้ายๆกับเป็นคนกลางและนำเงินของแม่แฟนไปปล่อย โดยที่เราไม่ได้ดอก หรืออะไรกับแม่แฟนเก่าเลย ตอนแรกๆ ก็ดีอยู่หรอกค่ะ ไม่มีปัญหาอะไร แต่นานๆ ไป เริ่มเกิดปัญหา คนกู้จ่ายดอกช้าบ้าง ผลัดบ้าง สุดท้าย ไม่มีจ่ายดอก เราเองด้วยความกลัวว่าแม่แฟนจะว่าทำไมถึงเก็บเงินไม่ได้ เพราะแม่แฟนเขาไม่ค่อยชอบเรา เพราะว่าเรามีฐานะทางบ้านค่อนข้างยากจน เราเลยช่วยเพื่อนเรา ซึ่งเป็นคนกู้เงิน โดยการไปทำบัตรเครดิตกดเงินมาช่วยเพื่อน ทั้งอิออน และเฟิร์สช้อย และที่แย่ไปกว่านั้นชื่อคนกู้คนอื่นๆที่เพื่อนเราแนะนำมาตอนนี้กลายเป็นชื่อของเพื่อนเป็นคนกู้แต่เพียงผู้เดียว พูดง่ายๆเลย ทั้งหมดที่ออกเงินกู้ไป เป็นชื่อเพื่อนคนเดียว คนอื่นไม่มีตัวตน บัตรเอทีเอ็มที่มาไว้กับเราก็กดไม่ได้ เฮ้อ กลุ้มใจมากตอนนั้น และบอกว่าจะขอรับผิดชอบยอดเงินที่กู้ไปทั้งหมดเอง ซึ่งยอดเงินเยอะมาก 2 แสนกว่าบาทได้ เราก็เครียดมาก เงินที่ทำบัตรสินเชื่อมาก็ไม่พอจ่ายดอก เราเลยเอาบัตรเงินเดือนตัวเองไปกู้เงินดอกร้อยละ 10 ต่อเดือน เพื่อนเอาเงินมาจ่ายดอกให้แม่แฟน ย้ำนะค่ะ ว่าแค่ดอก ไม่ใช่ต้น พอเราทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ เดือนต่อๆไป ก็เริ่มไม่ไหว แย่ลงทุกวันๆ เลยหาทางที่จะหลุดพ้นจากหนี้พวกนี้ไปพร้อมกับเพื่อน ก็เลยคิดว่าจะตั้งแชร์ โดยเราเป็นท้าวแชร์ จะได้ไม่เสียดอก และจะได้เงินก้อนมาใช้ก่อนคนอื่นด้วย เราก็หาสมาชิกมาเล่นแชร์ ตั้งแชร์มือละ 1,000 บาท จำนวนเงิน 10,000 บาท ตอนแรกก็ทำวงแชร์สำเร็จ พอเข้าวงที่ 3 เริ่มมีปัญหา เพราะวงเงินสูงขึ้นจาก 10,000 บาท เป็น 50,000 บาท ลูกแชร์เริ่มจ่ายไม่ไหวบ้าง และออกจากงาน เราเป็นท้าวแชร์ต้องแบกรับภาระลูกแชร์ทั้งหมดเพราะไม่อยากให้เสียเครดิต เพราะเรายังต้องทำงานที่บริษัทแห่งนี้อีกนาน บ้านก็อยู่ที่นี่ และที่สำคัญคือเราเป็นท้าวแชร์ต้องรับผิดชอบเงินทั้งหมดนั่นคือข้อตกลงก่อนการเล่นแชร์ เราเลยต้องไปกู้เงินดอกร้อยละ 10 มาเพิ่มอีกจากของเก่าที่มีอยู่ทีนี้หนี้ก็ทวีคูณเพิ่มมากขึ้นเข้าไปอีก โอ้ยย ......ชีวิต บัดซบเพราะตัวเองจริง จริง
หนี้สินบาน แฟนเก่าก็รักๆ เลิกๆ เริ่มทะเลาะกับเพื่อนคนที่กู้เงินเราไป เครียดหาเงินไม่ได้ ปัญหาทุกอย่างเข้ามาถาโถมเราไม่มีชิ้นดี เลิกงานกลับบ้านร้องไห้ทุกวันเพราะเครียด หาเงินมาใช้หนี้เขาไม่ได้ ปรึกษากับที่บ้านก็ไม่ได้ ทุกอย่างมันตัน และมืด ไปอยู่หลายเดือน จนในที่สุดก็เลิกกับแฟนเก่า เรายิ่งเครียดหนักเข้าไปอีก เพราะแฟนเก่าไปมีคนใหม่ เราล้มทั้งยืน กินข้าวไม่ได้ นอนไม่ไหลับ จนตัวเองเริ่มแย่เข้าไปทุกวัน และสุดท้ายพ่อก็เดินเข้ามาหาแล้วบอกว่าดีแล้วลูก
“ที่รู้ตอนนี้ว่าเขามีคนอื่น ดีกว่าไปนั่งน้ำตาเช็ดหัวเข่า รักตัวเองให้มากๆ”
โดยส่วนตัวเราเป็นคนที่รักพ่อมาก และแคร์พ่อเรามาก เราเลยตัดสินใจเด็ดขาด เอ้า...เลิกก็เลิกว่ะ เราก็เลิกพร่ำเพ้อ อาจจะมีร้องไห้อยู่บ้าง เวลาฟังเพลง หรือไปเจออะไรที่ทำด้วยกัน หรือไปไหนมาไหนด้วยกัน จนวันเวลาผ่านไป มันก็ทำให้เราดีขึ้นและลืมไปเอง จนเรามาเจอแฟนปัจจุบันคนนี้ ตอนคบกันเราก็ไม่ได้บอกเขาหรอกว่าเรามีหนี้มากมายมหาศาล ก็ใช้ชีวิตปกติ ทำงาน หาเงินผ่อนดอกไปเรื่อยๆ จนวันนึงหาเงินใช้หนี้ให้ลูกแชร์ไม่พอ กู้เพิ่มก็ไม่ได้ ต้องเอารถมอไชค์ไปจำนำ แต่ก็ไม่พอจ่ายอยู่ดี สุดท้ายพึ่งใครล่ะ ยืมเพื่อนก็ไม่ได้เพราะไม่อยากเสียเพื่อน สุดท้ายเอ่ยปากยืมเงินแฟนตัวเองกลั้นใจแล้วพิมไลน์บอกไปยาวเหยียดอธิบายต่างๆนาๆ
“ใจเราเต้นตึกๆๆๆๆๆๆๆ ลุ้นว่าจะไปต่อ หรือจะเลิก ผู้ชายคงบอกเลิกแน่ๆ”
และสุดท้าย
“แฟนอ่านและตอบกลับมาว่า ได้ พี่ให้ยืม 50,000 เป็นเงินเก็บของพี่เองและพี่จะไปกดเงินจากบัตรมาให้อีก”
ตอนนั้นเราอึ้ง และนับถือน้ำใจจากผู้ชายคนนี้มาก ที่ยื่นมือเข้ามาช่วยเราทั้งที่เราคบกันแค่ 1 เดือนเอง ไม่ได้มาก ไม่ได้จำเป็นต้องช่วยด้วยซ้ำ เขาจะเลิกกับเราก็ยังทัน มันทำให้เราละอายใจ และรู้สึกผิดหวังที่เป็นแบบนี้
เราถามเขาว่าทำไมถึงช่วย เขาบอกว่าคนเราคบกันจะให้คบกันแค่ตอนสบายเท่านั้นหรา เวลาลำบากก็ต้องช่วยกันสิ และอีกอย่างหนู (หมายถึงเรา) ไม่ได้เป็นหนี้เพราะตัวเองแต่เป็นหนี้เพราะช่วยคนอื่น ไม่ให้ยืมหนูก็ต้องไปหากู้คนอื่นอีก เราฟังบุป ร้องไห้เลย มันบรรยายไม่ถูก จะดีใจหรือเสียใจดี เพราะเขาดีกับเราเหลือเกิน
หลังจากเหตุการณ์วันนั้นเกิดขึ้นในใจเราก็เริ่มจะไม่ค่อยปกติ รู้สึกละอายใจ และคิดในใจอยู่ตลอดว่าแฟนเราจะคิดกับเรายังไงนะ จะคิดว่าเรามาหลอกเขาหรือเปล่า ชักไม่แน่ใจ แต่เราก็ยังทำตัวปกติ โทรหา ไลน์หา ไปหา ทำแบบนี้จนผ่านไปหลายเดือนเราเลยตัดสินใจบอกเจ้าหนี้ทุกคนว่าขอผ่อนจ่ายต้นได้ไหม เราก็อธิบายเหตุผลให้เจ้าหนี้ว่าเพราะอะไรทำไมถึงจ่ายดอกให้เขาไม่ได้ เจ้าหนี้บางคนก็ใจดีให้ผ่อนต้น ไม่เอาดอก บางคนก็ไม่ยอมให้ผ่อนต้น จะขอเป็นเงินก้อนเท่านั้น จะได้กินดอกไปเรื่อยๆ เคสไหนที่เราสามารถผ่อนผันได้เราก็ทำให้ อันไหนไม่ได้ก็ค่อยคิดตอนหลังว่าจะทำยังไงต่อไป ส่วนพวกบัตรต่างๆ เราขอแฮร์คัทกับทางธนาคารละขอหยุดจ่ายทั้งหมดรอเงินต้นเพื่อที่จะปิดทีละบัตร
ส่วนแฟนเราคอยให้กำลังใจและก็ช่วยเราบ้างถ้าเดือนไหนเราไม่มีเงินใช้ เดือนบางเดือนเราไม่มีเงินกินข้าวด้วยซ้ำ แฟนเราก็ให้เงินช่วยเหลือตลอด และคอยบอกเราว่าอย่าท้อ ให้เราสู้ ถ้าเราท้อทุกอย่างจะจบทันที
จะบอกไงดีล่ะการ เป็นหนี้มันก็ดีนะ อย่างน้อยมันก็ทำให้รู้ว่าใครที่จะจริงใจและอยู่เคียงข้างเรา
ปัจจุบันตอนนี้เริ่มจ่ายหนี้จบไปได้ 70% แล้ว ก็ต้องอดทนและพยายามให้มาก เพื่อครอบครัว เพื่อแฟนของเรา ที่เขาคอยช่วยเหลือ พาไปขึ้นศาล ให้เงินเราใช้ พาเราไปเที่ยว พาหาหมอ แทบจะทุกอย่างเลยก็ว่าได้ แฟนคนนี้เป็นคนที่เราคิดว่าโชคดีที่ได้เจอและได้ใช้ชีวิตร่วมกัน แฟนเราเขาไม่เล่นพันทิป เราเลยอยากจะเอามาลงเผื่อวันไหนที่เขาผ่านมาเห็น อยากบอกกับเขาว่าเรารักเขามาก และก็เป็นห่วงเขามาก อย่างที่เขาเป็นห่วงเราเช่นกัน ถึงเราจะไม่ค่อยแสดงออก แต่ก็จริงใจที่สุด เรามีกำหนดจะแต่งงานกันในปลายปี 2561 นี้ เราวางแผนไว้คือจะจัดงานแต่งให้เรียบง่ายที่สุดในฉบับประหยัดของเราสองคน ไว้เราจะนำมาแชร์ให้เพื่อนๆพันทิปอ่านกันนะค่ะ
ปล.ถ้าเราพิมพ์อะไรผิดไป หรือเล่าวกวน ไม่เข้าใจ ขอโทษด้วยนะค่ะ มือใหม่หัดเล่าค่ะ