เรื่องที่จะเล่า คือเรื่องจริงที่เกิดขึ้นกับตัวเราเอง ซึ่งเกิดจากความประมาทจากตัวเราเองค่ะ แต่อยากมาเล่าประสบการณ์ที่เกิดขึ้นให้อ่านกัน
เรื่องเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2560 จขกท อยู่ จ.ใกล้ ๆ จ.บุรีรัมย์ค่ะ แล้วเกิดอยากไปดูบอลทีมชาติ u23 ที่มาแข่งที่สนามช้าง เห็นว่าไม่ใกล้ไม่ไกล ก็เคยได้ไปสนามอยู่บ่อย ๆ จขกท ชอบดูบอลค่ะ ก็กลัวว่าจะไม่ค่อยมีคนตามมาเชียร์ ก็อยากไปเป็นกำลังใจให้เน้อง ๆ บวกกับพี่ ๆ เพื่อน ๆ ชวนด้วย ก็ไปค่ะ
ปกติก็ไปรถปิกอัพบ้าง รถมอไซค์บ้าง กลับช่วงห้าทุ่ม เที่ยงคืน จนชะล่าใจ แล้ววันนั้นก็ขี่มอไซค์ไปค่ะ เพราะก่อนหน้านั้นรถปิกอัพเสีย เอารถเก๋งอาไป มันกินน้ำมันเยอะมากไปกลับเกือบพัน เลยคิดว่ายอมทนหนาวใส่เสื้อหลาย ๆ ชั้น (เคยขี่มอไซค์ไปก่อนนั้นไม่นาน อากาศหนาวมากใส่ 2 ชั้นเอาไม่อยู่ค่ะ) เพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย คนมันอยากไปอ่ะค่ะ ไม่ได้คิดถึงความปลอดภัยเรื่องอื่น ก็ใส่ตัวหนาไปทั้งเสื้อทั้งกางเกง แล้วเอาเสื้อไปใส่เพิ่มตอนขากลับ เพราะช่วงนั้นหนาวมาก ๆ จริง ๆ
แล้วก็กลับดึกจริง ๆ เพราะรอดูคู่ชิงด้วย ออกจากบุรีรัมย์ก็ห้าทุ่มโดยประมาณค่ะ อากาศก็เย็นมาก ๆ พอออกมาถึงช่วงสนามบินสตึก มองดูเข็มน้ำมันแล้วคิดว่าเติมไปก่อนดีกว่า เพราะขามา มีอยู่ช่วงนึงที่น้ำมันลงแล้วเหมือนรถมันจะบิดไม่ขึ้น ปกติเราไม่เติมน้ำมันปั๊มเล็ก แต่วันนั้นคิดว่า ไม่อยากเสี่ยงไปถึงปั๊มใหญ่ เลยแวะเติม ปกติ ปั๊ม PT ไม่ค่อยเห็นเปิดดึกเท่าไหร่ แต่เห็นว่าเขายังเปิดอยู่เลยเลี้ยวรถกลับเข้าไปค่ะ พอพ้นปั๊มน้ำมันมาได้ ผ่านช่วงเสาไฟสว่าง ๆ หลาย ๆ ต้นมาได้ เราสังเกตุข้างทางมีรถบรรทุกขับตามหลังมาช้า ๆ 1 คัน แต่พอเราทิ้งช่วงไฟมาก็ไม่เห็นรถบรรทุกแล้ว แต่มีมอไซค์อีกคันโผล่มาจากไหนไม่รู้ ตอนแรกก็คิดว่าเป็นรถชาวบ้านทั่วไปกำลังจะแซง จากที่ขี่อยู่กลางถนน เลยเบี่ยงเข้าเลนมอไซค์ ปรากฏว่าเขาไม่แซง แล้วตะโกนอะไรมาไม่รู้ เริ่มเอะใจ เลยบิดคันเร่งมันยังตามมาอีก เราเลยตะโกนไปว่า "จะทำอะไรอ่ะ" ได้ยินมันบอกว่า "จอด!" แค่นั้นแหละ เราบิดเลยมิดคันเร่งกลัวมาก ไม่ทันเห็นว่ามันมีอาวุธไหม เพราะมันเบียดเราเข้าข้างทาง เราก็พยายามประคองรถให้อยู่บนทาง ปรากฏว่าตกถนน วิ่งลงข้างทางจะล้มแหล่มิล้มแหล่ ใจตอนนั้นคิดไปต่าง ๆ นา ๆ ช่วงจังหวะรถตกในพงหญ้าข้างทางคิดเรื่องพวกนี้ขึ้นมาก็บอกตัวเองว่า ประคองหัวรถให้ได้ ไม่งั้นเมิงตายแน่ แล้วก็รอดประคองรถกลับมาบนถนนได้ไงไม่รู้ ไอ่คนนั้นก็ยังมาร้อง "จอดๆ" พร้อมเบียดเราลงข้างทางอีก
โชคดีมากไม่มีหลักกิโลหรือเสาไฟ ไม่งั้นคงน็อคไปละ เราก็พยายามเบียดออก พอหันไปมองมันรถก็จะโดนเบียดลงข้างทาง ก็หันไปบอกมันว่า "เราไม่มีเงิน เรามีตังแค่ร้อยเดียวเติมน้ำมันไปแล้ว ปล่อยเราไปเหอะ เราไม่มีเงินจริง ๆ" มันก็บอก "จอดๆ" ตอนนั้นขี่รถไปบีบแตรไปตลอดทาง ดวงคงไม่ดีจริง ๆ ไม่มีรถสวนหรือตามหลังมาเลย ปากก็ตะโกน "ช่วยด้วย" ไปตลอดทาง มันก็ยิ่งเบียดเข้ามารถตกถนนอีกรอบ ทางขรุขระ แต่ตอนนั้นก็คิดว่า เกร็งมือไว้ แข็งใจไว้ ประคองหัวรถให้ได้ เอารถขึ้นมาบนถนนได้อีกรอบ แต่ไอ่บ้านั่นก็ยังตะโกน "จอดๆ" เราหันไป เห็นมันเอาอะไรจ่อหัวเราอยู่ แล้วขี่ประชิดมาก เราจะลงข้างทางอีกรอบ แต่ตอนนั้นเห็นแล้วว่าในมือไม่ใช่มีด มันเอาปืนจ่อ ตกใจสุด ๆ ด้วยความตกใจ เลยเอามือไปจับหลังปืนแล้วยกขึ้นฟ้าดันมันออกไป (มาคิดทีหลังว่านี่เมิงคิดว่าตัวเองเป็นเมียแบทแมนหรือไง) ไม่รู้ของจริงหรือของปลอมแต่มันเย็น พอปล่อยคันเร่ง รถก็ชะลอ (แต่ยังวิ่งเร็วอยู่) รถมันออกห่างไปนิดนึง รู้ละว่าทำไมมันไม่ถีบรถหรือบิดกุญแจ เพราะมันมาคนเดียว และมือข้างนึงมันถือปืนจ่อหัวเรา มันเลยทำไม่ถนัด ถ้ามันมาสองคนคงไม่รอด ตอนนั้นตกใจรีบกลับมาบิดคันเร่งมิดไมล์สุดแรงเกิด
ช่วงถนนยังมืดอยู่ แต่ข้างหน้าเป็นโรงน้ำแข็งโรงใหญ่ ๆ ชื่อกินชุนไอซ์ อะไรสักอย่าง มีคนอยู่ตลอด มีป้อมยาม คิดว่าถ้าเบรครถต้องล้ม เพราะโดนเบียดตลอดเวลา แต่ถ้าขับเลยไป เราก็อาจจะตาย ตัดสินใจเบี่ยงรถเข้าโรงน้ำแข็ง ไอ้โจรที่เบียดเราอยู่ก็เบียดรถเข้าตาม รถเราเลยล้มกลิ้งโคโร่อยู่ แต่เรารีบลุกขึ้นวิ่งไปหน้าประตูปากก็ตะโกน "ช่วยด้วย" ทุบประตูเหล็กใหญ่เลย พี่รปภ. รีบเดินออกมา ไอบ้านั่นขี่รถหนีไปแล้ว ตอนนั้นมันมืด มองไม่เห็นหน้า ไม่เห็นสีรถ จำอะไรได้น้อยมาก เพราะมันขี่ประกบอยู่เยื้องหลังเราถ้าจะมองมันคือต้องหันตัวเอี้ยวไป แต่รู้ว่ามันใส่แจ็คเก็ตเบสบอลสีดำแขนน่าจะสีเทา รถน่าจะเป็นรถครอบครัวสีออกน้ำเงิน ตอนอยู่ในที่สว่างคือหน้าโรงน้ำแข็งคือรถล้มแล้ว ไม่มีปัญญามองเพราะกลิ้งอยู่ ลุกขึ้นได้ก็วิ่งมาหน้าประตู รถก็ล้มอยู่อย่างนั้น
รีวิว ประสบการณ์ชีวิต เมื่อเอาตัวเองไปอยู่ในจุดเสี่ยง จนเกือบตาย
เรื่องเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2560 จขกท อยู่ จ.ใกล้ ๆ จ.บุรีรัมย์ค่ะ แล้วเกิดอยากไปดูบอลทีมชาติ u23 ที่มาแข่งที่สนามช้าง เห็นว่าไม่ใกล้ไม่ไกล ก็เคยได้ไปสนามอยู่บ่อย ๆ จขกท ชอบดูบอลค่ะ ก็กลัวว่าจะไม่ค่อยมีคนตามมาเชียร์ ก็อยากไปเป็นกำลังใจให้เน้อง ๆ บวกกับพี่ ๆ เพื่อน ๆ ชวนด้วย ก็ไปค่ะ
ปกติก็ไปรถปิกอัพบ้าง รถมอไซค์บ้าง กลับช่วงห้าทุ่ม เที่ยงคืน จนชะล่าใจ แล้ววันนั้นก็ขี่มอไซค์ไปค่ะ เพราะก่อนหน้านั้นรถปิกอัพเสีย เอารถเก๋งอาไป มันกินน้ำมันเยอะมากไปกลับเกือบพัน เลยคิดว่ายอมทนหนาวใส่เสื้อหลาย ๆ ชั้น (เคยขี่มอไซค์ไปก่อนนั้นไม่นาน อากาศหนาวมากใส่ 2 ชั้นเอาไม่อยู่ค่ะ) เพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย คนมันอยากไปอ่ะค่ะ ไม่ได้คิดถึงความปลอดภัยเรื่องอื่น ก็ใส่ตัวหนาไปทั้งเสื้อทั้งกางเกง แล้วเอาเสื้อไปใส่เพิ่มตอนขากลับ เพราะช่วงนั้นหนาวมาก ๆ จริง ๆ
แล้วก็กลับดึกจริง ๆ เพราะรอดูคู่ชิงด้วย ออกจากบุรีรัมย์ก็ห้าทุ่มโดยประมาณค่ะ อากาศก็เย็นมาก ๆ พอออกมาถึงช่วงสนามบินสตึก มองดูเข็มน้ำมันแล้วคิดว่าเติมไปก่อนดีกว่า เพราะขามา มีอยู่ช่วงนึงที่น้ำมันลงแล้วเหมือนรถมันจะบิดไม่ขึ้น ปกติเราไม่เติมน้ำมันปั๊มเล็ก แต่วันนั้นคิดว่า ไม่อยากเสี่ยงไปถึงปั๊มใหญ่ เลยแวะเติม ปกติ ปั๊ม PT ไม่ค่อยเห็นเปิดดึกเท่าไหร่ แต่เห็นว่าเขายังเปิดอยู่เลยเลี้ยวรถกลับเข้าไปค่ะ พอพ้นปั๊มน้ำมันมาได้ ผ่านช่วงเสาไฟสว่าง ๆ หลาย ๆ ต้นมาได้ เราสังเกตุข้างทางมีรถบรรทุกขับตามหลังมาช้า ๆ 1 คัน แต่พอเราทิ้งช่วงไฟมาก็ไม่เห็นรถบรรทุกแล้ว แต่มีมอไซค์อีกคันโผล่มาจากไหนไม่รู้ ตอนแรกก็คิดว่าเป็นรถชาวบ้านทั่วไปกำลังจะแซง จากที่ขี่อยู่กลางถนน เลยเบี่ยงเข้าเลนมอไซค์ ปรากฏว่าเขาไม่แซง แล้วตะโกนอะไรมาไม่รู้ เริ่มเอะใจ เลยบิดคันเร่งมันยังตามมาอีก เราเลยตะโกนไปว่า "จะทำอะไรอ่ะ" ได้ยินมันบอกว่า "จอด!" แค่นั้นแหละ เราบิดเลยมิดคันเร่งกลัวมาก ไม่ทันเห็นว่ามันมีอาวุธไหม เพราะมันเบียดเราเข้าข้างทาง เราก็พยายามประคองรถให้อยู่บนทาง ปรากฏว่าตกถนน วิ่งลงข้างทางจะล้มแหล่มิล้มแหล่ ใจตอนนั้นคิดไปต่าง ๆ นา ๆ ช่วงจังหวะรถตกในพงหญ้าข้างทางคิดเรื่องพวกนี้ขึ้นมาก็บอกตัวเองว่า ประคองหัวรถให้ได้ ไม่งั้นเมิงตายแน่ แล้วก็รอดประคองรถกลับมาบนถนนได้ไงไม่รู้ ไอ่คนนั้นก็ยังมาร้อง "จอดๆ" พร้อมเบียดเราลงข้างทางอีก
โชคดีมากไม่มีหลักกิโลหรือเสาไฟ ไม่งั้นคงน็อคไปละ เราก็พยายามเบียดออก พอหันไปมองมันรถก็จะโดนเบียดลงข้างทาง ก็หันไปบอกมันว่า "เราไม่มีเงิน เรามีตังแค่ร้อยเดียวเติมน้ำมันไปแล้ว ปล่อยเราไปเหอะ เราไม่มีเงินจริง ๆ" มันก็บอก "จอดๆ" ตอนนั้นขี่รถไปบีบแตรไปตลอดทาง ดวงคงไม่ดีจริง ๆ ไม่มีรถสวนหรือตามหลังมาเลย ปากก็ตะโกน "ช่วยด้วย" ไปตลอดทาง มันก็ยิ่งเบียดเข้ามารถตกถนนอีกรอบ ทางขรุขระ แต่ตอนนั้นก็คิดว่า เกร็งมือไว้ แข็งใจไว้ ประคองหัวรถให้ได้ เอารถขึ้นมาบนถนนได้อีกรอบ แต่ไอ่บ้านั่นก็ยังตะโกน "จอดๆ" เราหันไป เห็นมันเอาอะไรจ่อหัวเราอยู่ แล้วขี่ประชิดมาก เราจะลงข้างทางอีกรอบ แต่ตอนนั้นเห็นแล้วว่าในมือไม่ใช่มีด มันเอาปืนจ่อ ตกใจสุด ๆ ด้วยความตกใจ เลยเอามือไปจับหลังปืนแล้วยกขึ้นฟ้าดันมันออกไป (มาคิดทีหลังว่านี่เมิงคิดว่าตัวเองเป็นเมียแบทแมนหรือไง) ไม่รู้ของจริงหรือของปลอมแต่มันเย็น พอปล่อยคันเร่ง รถก็ชะลอ (แต่ยังวิ่งเร็วอยู่) รถมันออกห่างไปนิดนึง รู้ละว่าทำไมมันไม่ถีบรถหรือบิดกุญแจ เพราะมันมาคนเดียว และมือข้างนึงมันถือปืนจ่อหัวเรา มันเลยทำไม่ถนัด ถ้ามันมาสองคนคงไม่รอด ตอนนั้นตกใจรีบกลับมาบิดคันเร่งมิดไมล์สุดแรงเกิด
ช่วงถนนยังมืดอยู่ แต่ข้างหน้าเป็นโรงน้ำแข็งโรงใหญ่ ๆ ชื่อกินชุนไอซ์ อะไรสักอย่าง มีคนอยู่ตลอด มีป้อมยาม คิดว่าถ้าเบรครถต้องล้ม เพราะโดนเบียดตลอดเวลา แต่ถ้าขับเลยไป เราก็อาจจะตาย ตัดสินใจเบี่ยงรถเข้าโรงน้ำแข็ง ไอ้โจรที่เบียดเราอยู่ก็เบียดรถเข้าตาม รถเราเลยล้มกลิ้งโคโร่อยู่ แต่เรารีบลุกขึ้นวิ่งไปหน้าประตูปากก็ตะโกน "ช่วยด้วย" ทุบประตูเหล็กใหญ่เลย พี่รปภ. รีบเดินออกมา ไอบ้านั่นขี่รถหนีไปแล้ว ตอนนั้นมันมืด มองไม่เห็นหน้า ไม่เห็นสีรถ จำอะไรได้น้อยมาก เพราะมันขี่ประกบอยู่เยื้องหลังเราถ้าจะมองมันคือต้องหันตัวเอี้ยวไป แต่รู้ว่ามันใส่แจ็คเก็ตเบสบอลสีดำแขนน่าจะสีเทา รถน่าจะเป็นรถครอบครัวสีออกน้ำเงิน ตอนอยู่ในที่สว่างคือหน้าโรงน้ำแข็งคือรถล้มแล้ว ไม่มีปัญญามองเพราะกลิ้งอยู่ ลุกขึ้นได้ก็วิ่งมาหน้าประตู รถก็ล้มอยู่อย่างนั้น