
ไปคนเดียวไม่เหงาเท่า 3คน นี่ไม่ใช่กระทู้อกหักแล้วไปพักใจที่เวียดนามนะคะ แต่มีความฝันอยากไปเที่ยวเวียดนาม แต่จะแบกเป้ไปก็กลัวเพราะไม่รู้เรื่องอะไรเลย ดูแต่รีวิวคนที่เขาไปกันมา ยิ่งดูยิ่งอ่านยิ่งอยากไป แต่ก็มีหลายแง่มุมที่ยังสงสัย แต่ยิ่งสงสัยก็ยิ่งทำให้อยากไปว่า มันจะเป็นอย่างที่หลายคนบอก ทั้งในแง่ลบ หรือแง่บวก เพราะส่วนตัวเป็นคนชอบท้าทายอยากเห็นด้วยตาของตัวเอง
รวบรวมความกล้าอยู่นาน กดคลิก! ดูก็หลายเว็ป เข้าเรื่องเลยแล้วกันคะ
สวัสดีค่ะ ก่อนอื่นขอบอกก่อนนะคะ ว่าเรายังไม่เคยเดินทางไปต่างประเทศมาก่อนเลย แถมนี่ก็เป็นรีวิวกระทู้แรกของเรา
ก่อนหน้านี้ก็ได้แต่อ่านหนังสือ อ่านกระทู้ท่องเที่ยวจนวันนี้ถึงวันของเราบ้างแล้วนะ นอนคิดนั่งคิดอยู่เป็นเดือน ไปไหนดี เงินก็ไม่ค่อยจะมี แอบมาเห็นกระทู้หนึ่ง ที่เป็นทะเลทราย มุยเน่ เลยรีบหาข้อมูลอย่างไว เฮ้ย!! อยู่ใกล้ๆนี่เองไม่ต้องไปไกลถึงดูไบ ไปสิคะ รออะไร
เริ่มแรก หาบริษัททัวร์ที่ดูๆแล้วไว้ใจได้ หาหลายที่มาก ทักไปถาม โทรไปคุย ขอดูโปรแกรม (คิดว่าเค้าจะรำคาญล่ะ) 55+ สุดท้ายก็เลือกใช้บริการของบริษัท บริษัทหนึ่งเลือกโปรแกรมเวียดนามใต้ ไป 4 วันก็โอเคนะ อาหารเกือบทุกมื้อ ยกเว้นมื้อสุดท้ายวันกลับ เพราะต้องไปกินที่สนามบิน และแล้วก็ถึงวันเดินทาง เวลานัดเจอกัน 08.30 จะมีเจ้าหน้าที่มาคอยส่งเรา
เค้าจะคอยเช็คชื่อ ติดแท๊กกระเป๋า แจ้งจุด Check in มีหัวหน้าทัวร์คนไทยไปด้วยหัวหน้าทัวร์ก็จะมาแนะนำตัวกับเรา และคอยแนะนำขั้นตอนการ Check in พร้อมพาไปต่อแถวโหลดกระเป๋า เรียบร้อยแล้วก็เข้าไปด้านใน Gate เดินเล่น รอเวลา
เวลา 11.30 น. ได้เวลา เหิรฟ้าสู้นครโฮจิมินห์ ประเทศเวียดนาม

ลืมบอกไป เราใช้บริการของสายการบิน VIETJET AIR ซึ่งเป็นสายการบิน LOW COST ของเวียดนาม เหมือนประมาณ Air Asia บ้านเราค่ะ ใช้เวลาบินประมาณ 1.30 ช.ม. มีจุดพีคค่ะ
เวลา 13.00 น. ถึงแล้วนครโฮจิมินห์ หรือชื่อเก่าคือไซ่ง่อน อดีตเมืองหลวงเก่า

เรารู้สึกตื่นเต้นกับรถมอเตอร์ไซค์มากๆเลยค่ะ เยอะแยะไปหมด คนที่นี่ขับรถแบบบีบแตรกันตลอด ที่นี่ดูเจริญมากแล้วนะคะ

รถไฟฟ้ากำลังสร้าง บิ๊กซี โรบินสัน 7-11 กำลังเข้ามาเปิดที่นี่ อีกหน่อยคงแซงหน้าบ้านเรา อิอิ วันนี้ยังไม่ได้เที่ยวไหน ไกด์บอก วันนี้เป็นโปรแกรมนั่งรถไปมุยเน่

(นั่งรถประมาณ 4 ช.ม.) ระหว่างนั่งรถ ไกด์เวียดนาม พูดไทยเก่งมากๆ ชัดแจ๋ว จะมาเล่าเรื่องราวของเวียดนามให้ฟัง ผ่านจุดไหนนางเล่าได้หมด ไม่เบื่อ ส่วนหัวหน้าทัวร์ไทย ดูแล คนในกรุ๊ปดีมากๆ ระหว่างนี้ไกด์ก็จะให้แลกเงิน เราก็แลกไว้ได้มา 1200000 ดอง

มีบริการซื้อซิม เป็นซิมท้องถิ่น สัญญาณดีใช้ได้ค่ะ

หลับๆตื่นๆไปหลายรอบ ในที่สุดก็ถึง มุยเน่ ถึงก็มืดค่ำแล้ว ได้ทานอาหารที่ห้องอาหารของโรงแรม อาหารเวียดนามมื้อแรก OMG !! มีแต่ผัก เราเป็นคนไม่กินผักเลยจะยากหน่อย แต่ก็ได้ไข่เจียวแหละที่อร่อยถูกปาก เพราะไม่อมน้ำมันดีค่ะ มื้อนี้หิวมากเลยลืมเก็บภาพมา อิอิ หลังจากทานอาหารเรียบร้อย หัวหน้าทัวร์ก็แจกกุญแจห้องพักให้ ลืมบอกเราพักที่ PEACE RESORT ติดริมทะเล ห้องพักค่อนข้างใหญ่

แต่ยุงเยอะไปหน่อย ปลั๊กไฟบนหัวเตียงก็ไม่มี แต่โดยรวมก็ถือว่าโอเคค่ะ
วันที่ 2 ทานอาหารเช้าที่ห้องอาหารของโรงแรม ทานเรียบร้อยแล้วก็เดินเล่น ดูรอบๆโรงแรมสักหน่อย วิวทะเลสวยดี แต่ทะเลสวยไม่ถึงครึ่งของบ้านเราเลย
เวลา 08.30 น. ได้เวลาล้อหมุน สถานที่ๆแรกของวันนี้ที่ทัวร์พาไปคือ ทะเลทรายขาว ตื่นเต้นๆๆ เพราะนี่แหละค่ะ ที่อยากมา นั่งรถไม่ไกลจากโรงแรมก็ถึงทะเลทรายขาว โอโห้ สวยสมคำร่ำลือจริงๆค่ะ




ทัวร์จะให้นั่งรถจิ๊ป คันนึง 4-6 คน ค่ารถตกคนละ 300 บาท นอกจากรถจิ๊ปแล้วก็จะมีเอทีวี ให้เช่าขับ

ใครสายลุยแนะนำเลยค่ะ น่าจะชอบแน่ๆ เพราะเรานั่งรถจิ๊ปอยู่ด้านหลังยังเสียวไส้ คนขับจะขับค่อนข้างเร็ว พร้อมกับขึ้นสันทรายชันๆ ยิ่งเราร้องดังเค้ายิ่งชอบ 555+

คุณลุงคุณป้าที่มาในกรุ๊ปถึงกับร้องปล่อยแก่กันเลยทีเดียวค่ะ รถจิ๊ปก็จะขับพาแวะไป 2 จุดๆแรกบนสันทรายค่อนข้างสูง วิวสวยมากๆ

อากาศแดดสายๆไม่ร้อนมาก ทรายที่นี่ขาวละเอียดมากๆ หลังจากถ่ายรูปจนพอใจก็พาไปอีกจุด จะเป็นจุดที่อยู่ริมทะเลสาบ มุมนี้ก็จะสวยไปอีกแบบนึงค่ะ แปปๆหมดเวลา แล้วเค้าก็พาไปต่อกันที่ทะเลทรายแดง ไม่ไกลกันมากนักก็ถึงแล้ว ทะเลทรายที่นี่จะเป็นสีออกแดงๆ อยู่ติดริมถนน เดินเข้าไปได้เลย



ที่นี่จะมีกิจกรรม กระดานลื่น ใครที่ไม่กลัวทรายเข้ากางเกงก็แนะนำเลยค่ะ ส่วนตัวเราขอบาย 55+ แดดเวลานี้ถ้าจำไม่ผิดจะ 10.00 น. แล้ว ร้อนไปถึงทรายแล้ว เราใส่เท้าแตะไปทำเอาเท้าพองเหมือนกัน รอบนี้อยู่นานไม่ได้ รีบๆถ่ายรูปแล้วเดินลงมา ระหว่างนั่งรอขึ้นรถ เห็นแม่ค้าถือกระดาษแปลกๆ ไกด์บอกคือล๊อตตอรี่ ที่นี่ล๊อตตอรี่จะออกทุกวัน

เลยจัดสักหน่อย ใบละ 10000 ดอง (15 บาท) จัดมา 5 ใบ นี่ถูกคุ้มเลยนะ 55+ เอาไว้ฝันก่อนรอ 17.30 มาลุ้นเลขที่ออกกัน
จบทะเลทรายเรามาต่อกันที่ต่อไปนั่นคือ ลำธารนางฟ้า หรือภาษาอังกฤษเรียกว่า FAIRY STREAM คล้ายๆแพะเมืองผีบ้านเรา แต่ที่ไม่เหมือนคือ มีลำธารไหลมาระหว่างทางมาเป็นทางยาว ได้เดินแช่น้ำรู้สึกสบายมากค่ะ



น้ำเย็นจึงทำให้ผ่อนคลาย เดินเข้าไปได้ประมาณ 15-20 นาที ก็เดินวนออกมาทางเดิม
ยังไม่เหนื่อยก็มาลุยกันต่อคร้าาาาา

มาต่อกันที่ หมู่บ้านชาวประมง จุดนี้ไกด์จะให้รถจอดรอแล้วเราก็เดินลงมาถ่ายรูป เรือประมงที่นี่แปลกดีเหมือนกระด้ง 55+


หลังจากหมู่บ้านชาวประมงก็รับประทานอาหารเที่ยงกัน ร้านอาหารอยู่ริมทะเล บรรยากาศดีเลยทีเดียว อาหารก็ยังเป็นอาหารเวียดนาม แต่มื้อนี้เน้นอาหารทะเล กุ้ง ปลาหมึก หอยมาครบ เหนื่อยๆมาก็จัดสะอิ่มเลย


หลังทานอาหารเที่ยงเสร็จ ก็ได้เวลาล้อหมุน เดินทางสู่เมืองดาลัท ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4.30 ช.ม. ระหว่างการเดินทางต้องบอกได้ว่า รถขับขึ้นบนภูเขาไต่ระดับไปเรื่อยๆจนเข้าหุบเขา

สมคำร่ำลือว่าเมืองนี้เป็นเมืองแห่งหุบเขาจริงๆ นั่งชิมวิวไประหว่าง 2 ข้างทางก็ถึงดาลัทช่วงค่ำๆ
ถึงดาลัทแล้ว เซ็งนิดหน่อย เนื่องจากพายุเข้าฝนตก แต่ยังดีที่ตกไม่แรง และสภาพอากาศวันนั้น 18 องศา โอ้ย หนาวมากค่ะ สำหรับคนขี้หนาวอย่างเรา

ทัวร์พาไปทานอาหารเย็นที่ร้านอาหาร มื้อนี้พิเศษมีไวน์ดาลัทด้วย รสชาติใช้ได้เข้ากับอากาศหนาวๆเลยทีเดียวค่ะ

รับประทานอาหารเรียบร้อยแล้วก็พาไปตลาดกลางคืนดาลัท หรือ NIGHT MARKET นั่นเอง



เดินแบบฝนโปรยๆ อากาศหนาวๆ คิดสะว่าอยู่ยุโรป 55+ ของขายที่นี่ส่วนมากจะเป็นพวกเสื้อกันหนาว หรือกระเป๋าที่ทักจากไหมพรม หลังจากเดินมาก็อยากดื่มอะไรร้อนๆ ได้ลองน้ำเต้าหู้ค่ะ ใส่ไข่ด้วย แต่รสชาติหวานกว่าบ้านเราเลยค่ะ

หลังจากเดินตลาดเรียบร้อยได้เวลานัดหมายไปขึ้นรถ เข้าสู่ที่พัก คืนนี้พักในเมืองดาลัท โรงแรมชื่อว่า LA SAPINETTE 4 ดาว ถือว่าหรูใช้ได้เลยค่ะ ทั้งห้องและการบริการของพนักงาน


จบแล้วจร้าสำหรับวันที่ 2 ของการไปเที่ยวเวียดนาม ยังเหลืออีก 2 วัน จะมีอะไรให้ทำอีกน้าาาอยากรู้จัง....
[CR] เที่ยวต่างประเทศครั้งแรก เวียดนาม แบบฉบับไปกับทัวร์ 4 วัน 3 คืน
รวบรวมความกล้าอยู่นาน กดคลิก! ดูก็หลายเว็ป เข้าเรื่องเลยแล้วกันคะ
สวัสดีค่ะ ก่อนอื่นขอบอกก่อนนะคะ ว่าเรายังไม่เคยเดินทางไปต่างประเทศมาก่อนเลย แถมนี่ก็เป็นรีวิวกระทู้แรกของเรา
ก่อนหน้านี้ก็ได้แต่อ่านหนังสือ อ่านกระทู้ท่องเที่ยวจนวันนี้ถึงวันของเราบ้างแล้วนะ นอนคิดนั่งคิดอยู่เป็นเดือน ไปไหนดี เงินก็ไม่ค่อยจะมี แอบมาเห็นกระทู้หนึ่ง ที่เป็นทะเลทราย มุยเน่ เลยรีบหาข้อมูลอย่างไว เฮ้ย!! อยู่ใกล้ๆนี่เองไม่ต้องไปไกลถึงดูไบ ไปสิคะ รออะไร
เริ่มแรก หาบริษัททัวร์ที่ดูๆแล้วไว้ใจได้ หาหลายที่มาก ทักไปถาม โทรไปคุย ขอดูโปรแกรม (คิดว่าเค้าจะรำคาญล่ะ) 55+ สุดท้ายก็เลือกใช้บริการของบริษัท บริษัทหนึ่งเลือกโปรแกรมเวียดนามใต้ ไป 4 วันก็โอเคนะ อาหารเกือบทุกมื้อ ยกเว้นมื้อสุดท้ายวันกลับ เพราะต้องไปกินที่สนามบิน และแล้วก็ถึงวันเดินทาง เวลานัดเจอกัน 08.30 จะมีเจ้าหน้าที่มาคอยส่งเรา
เค้าจะคอยเช็คชื่อ ติดแท๊กกระเป๋า แจ้งจุด Check in มีหัวหน้าทัวร์คนไทยไปด้วยหัวหน้าทัวร์ก็จะมาแนะนำตัวกับเรา และคอยแนะนำขั้นตอนการ Check in พร้อมพาไปต่อแถวโหลดกระเป๋า เรียบร้อยแล้วก็เข้าไปด้านใน Gate เดินเล่น รอเวลา
เวลา 11.30 น. ได้เวลา เหิรฟ้าสู้นครโฮจิมินห์ ประเทศเวียดนาม
ลืมบอกไป เราใช้บริการของสายการบิน VIETJET AIR ซึ่งเป็นสายการบิน LOW COST ของเวียดนาม เหมือนประมาณ Air Asia บ้านเราค่ะ ใช้เวลาบินประมาณ 1.30 ช.ม. มีจุดพีคค่ะ
เวลา 13.00 น. ถึงแล้วนครโฮจิมินห์ หรือชื่อเก่าคือไซ่ง่อน อดีตเมืองหลวงเก่า
วันที่ 2 ทานอาหารเช้าที่ห้องอาหารของโรงแรม ทานเรียบร้อยแล้วก็เดินเล่น ดูรอบๆโรงแรมสักหน่อย วิวทะเลสวยดี แต่ทะเลสวยไม่ถึงครึ่งของบ้านเราเลย
เวลา 08.30 น. ได้เวลาล้อหมุน สถานที่ๆแรกของวันนี้ที่ทัวร์พาไปคือ ทะเลทรายขาว ตื่นเต้นๆๆ เพราะนี่แหละค่ะ ที่อยากมา นั่งรถไม่ไกลจากโรงแรมก็ถึงทะเลทรายขาว โอโห้ สวยสมคำร่ำลือจริงๆค่ะ
ทัวร์จะให้นั่งรถจิ๊ป คันนึง 4-6 คน ค่ารถตกคนละ 300 บาท นอกจากรถจิ๊ปแล้วก็จะมีเอทีวี ให้เช่าขับ
ที่นี่จะมีกิจกรรม กระดานลื่น ใครที่ไม่กลัวทรายเข้ากางเกงก็แนะนำเลยค่ะ ส่วนตัวเราขอบาย 55+ แดดเวลานี้ถ้าจำไม่ผิดจะ 10.00 น. แล้ว ร้อนไปถึงทรายแล้ว เราใส่เท้าแตะไปทำเอาเท้าพองเหมือนกัน รอบนี้อยู่นานไม่ได้ รีบๆถ่ายรูปแล้วเดินลงมา ระหว่างนั่งรอขึ้นรถ เห็นแม่ค้าถือกระดาษแปลกๆ ไกด์บอกคือล๊อตตอรี่ ที่นี่ล๊อตตอรี่จะออกทุกวัน
จบทะเลทรายเรามาต่อกันที่ต่อไปนั่นคือ ลำธารนางฟ้า หรือภาษาอังกฤษเรียกว่า FAIRY STREAM คล้ายๆแพะเมืองผีบ้านเรา แต่ที่ไม่เหมือนคือ มีลำธารไหลมาระหว่างทางมาเป็นทางยาว ได้เดินแช่น้ำรู้สึกสบายมากค่ะ
ยังไม่เหนื่อยก็มาลุยกันต่อคร้าาาาา
มาต่อกันที่ หมู่บ้านชาวประมง จุดนี้ไกด์จะให้รถจอดรอแล้วเราก็เดินลงมาถ่ายรูป เรือประมงที่นี่แปลกดีเหมือนกระด้ง 55+
หลังจากหมู่บ้านชาวประมงก็รับประทานอาหารเที่ยงกัน ร้านอาหารอยู่ริมทะเล บรรยากาศดีเลยทีเดียว อาหารก็ยังเป็นอาหารเวียดนาม แต่มื้อนี้เน้นอาหารทะเล กุ้ง ปลาหมึก หอยมาครบ เหนื่อยๆมาก็จัดสะอิ่มเลย
ถึงดาลัทแล้ว เซ็งนิดหน่อย เนื่องจากพายุเข้าฝนตก แต่ยังดีที่ตกไม่แรง และสภาพอากาศวันนั้น 18 องศา โอ้ย หนาวมากค่ะ สำหรับคนขี้หนาวอย่างเรา
จบแล้วจร้าสำหรับวันที่ 2 ของการไปเที่ยวเวียดนาม ยังเหลืออีก 2 วัน จะมีอะไรให้ทำอีกน้าาาอยากรู้จัง....