วันอังคารที่ 9-1-18 กลุ่ม "เถ้าแก่สะอื้น กินบุฟเฟต์ร้านไหน ร้านนั้นเจ๊ง"

ไม่นัดกินบุฟเฟต์ แต่นัดรวมตัวไปกินเป็ดปักกิ่ง เนื่องจากว่าโรงหนังสกาล่าจะปิดตัวลง

อาจไม่มีโอกาสกินเป็ดปักกิ่งของห้องอาหารสกาล่า ที่ได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในร้านที่ทำเป็ดปักกิ่งได้อร่อย

นัดกัน 11.45 น.ถือโอกาสเดินรำลึกถึงโรงหนังทั้งสามโรงของสยามสแควร์

ซึ่งเมื่อ 50 ปีที่แล้ว เป็นแหล่งบันเทิงชั้นนำของกรุงเทพฯ

จนทำให้สามโรงหนังแห่งวังบูรพาเสื่อมความนิยมลง แม้จะถึงยุคของโรงหนังแบบมัลติเพล็กซ์

แต่โรงหนังทั้งสามแห่ง คือ สยาม ลิโด้และสกาล่า เตรือเอเพ็กซ์ ยังสามารถยืนหยัดสวนกระแสได้ยังมั่นคง

เคยดูหนังทั้สามโรงภายในวันเดียว โดยเริ่มจากสยามไปจบที่สกาล่า

กิจการเฟื่องฟู ถึงขนาดทำแผ่นใบปลิวหนังแจกฟรีที่ช่องขายตั๋ว

เคยเก็บสะสมเป็นไว้หลายเรื่อง แต่ไม่รู้ไปอยู่ที่ไหนแล้ว



โรงหนังแห่งแรกของสยามสแควร์ คือ โรงหนังสยาม (กิมเซี้ยฮี้ฮึ้ง) ซึ่งเปิดฉายเมื่อวันที่ 15 ธค.2509

หลังการเปิดตัวของสยามสแควร์ในปี 2508 หนังเรื่องแรกที่ฉาย เป็นหนัง 70 mm.

เรื่อง Battle of The Bulge หรือ รถถังประจัญบาน ความยาว 167 นาที

ส่วนหนังเรื่องสุดท้ายคือ"Ironman 2" เริ่มต้นด้วยรถถังเหล็กและปิดฉากด้วยคนเหล็ก

เพราะโรงหนังถูกเผาเมื่อวันที่ 19 พ.ค.2553



ในสภาพที่ไม่สามารถฟื้นฟูได้

"เดินสำรวจ @ เซ็นทรัลเวิร์ล & สยามสแควร์"

http://topicstock.pantip.com/food/topicstock/2010/05/D9287786/D9287786.html



โรงหนังสยามรวมถึงร้านค้าโดยรอบสยามสแควร์ซอย 3 และซอย 5 จึงเสียสิทธิ์การเช่าพื้นที่

ทางจุฬาฯ นำที่ดินไปสร้างศูนย์การค้าที่ชื่อว่า "สยามสแควร์ 1"



เป็นศูนย์การค้าที่ดูแปลก ๆ



เพราะพื้นที่ส่วนกลางไม่ปรับอากาศ ยกเว้นชั้นใต้ดิน



แถมร้านค้าชั้นล่างติดสติกเกอร์ทึบเหมือนยังทำร้านไม่เสร็จ



ข้ามสยามสแควร์ซอย 3 ไปที่โรงหนังลิโด้ (หลี่ตูฮี้ฮึ้ง)



หลังเกิดไฟไหม้เมื่อปี 2536 จึงปรับปรุงเป็นโรงหนังขนาดเล็ก 3 โรง

และหันมาเน้นหนังทางเลือก หนังนอกกระแส รวมถึงหนังอาร์ต



ชั้นล่างที่เคยเป็นร้านอาหารฝรั่งชื่อฮ็อตชอป

ซึ่งตอนหลังย้ายไปปากซอยสุขุมวิท 41 ซุปหัวหอมอร่อยมาก



ปัจจุบันชั้นล่างปรับปรุงเป็นร้านค้า



ส่วนรอบข้างโรงหนัง ยังคงเป็นร้านค้าแฟชั่น ซึ่งจะคึกคักช่วงเย็น



ด้านขวาเคยเป็นที่ตั้งของร้านหนังสือหลายร้าน เช่น ประพันธ์สาส์น ดวงกมล

ร้านดีเด็ดแห่งแรกก็ตั้งอยู่ที่ด้านขวาของโรงหนัง ก่อนย้ายไปสยามสแควร์ซอย 7



ตัวโรงหนังตั้งอยู่ที่ชั้นสอง



ด้านขวา คือ ลิโด้ 1 มี 147 ที่นั่ง



โถงกลางปรับปรุงใหม่



ด้านซ้ายเป็นห้องจำหน่ายตั๋ว ทางไปลิโด้ 3 ซึ่งมี 243 ที่นั่ง



และโปรแกรมหนังของทั้งสามโรง รวมถึงสกาล่า



ส่วนลิโด้ 2 อยู่ตรงกลาง มี 243 ที่นั่ง

พนักงานใส่เสื้อสูทสีเหลือง เสื้อขาวผูกโบว์ไท กางเกงดำ

เป็นชุดฟอร์มของพนักงานเครือเอเพ็กซ์ รวมถึงพนักงานชายของห้องอาหารสกาล่า



ชั้นสองของลิโด้ ยังคงเป็นแหล่งรวมร้านทำผมหลายร้าน



โรงหนังลิโด้ทางจุฬาฯ ไม่ต่อสัญญาใหม่ มีนายทุนใหญ่มาทำใหม่ทั้งตึก และไม่มีโรงงหนัง

งานสุดท้ายที่จะจัดที่ลิโด้ คือ Silent Film Festival ในเดือน พ.ค. นี้

ส่วนร้านค้าโดยรอบ ต้องขนย้ายออกภายในเดือน ก.ค. นี้



ข้ามสยามสแควร์ซอย 2 ไปสยามสแควร์ซอย 1

ผ่านร้านมารีน่าฮ่องกง (MarinaHK)ร้านในเครือเดียวกับห้องอาหารสกาล่า



ยังไม่เคยลองเป็ดย่างร้านนี้



จำได้ว่าเมื่อก่อนเปิด 24 ชั่วโมง