....คิดอยู่นานว่าจะมาเขียนรีวิวดีไหมเพราะเห็นคนรีวิวน่านเยอะแล้ว และตัวเราเองก็ไม่ได้ไปอีกหลายที่ที่เขาว่าต้องไปด้วย แถมดันมาเจอฝนอีกทำให้เกิดผิดแผนไปหลายจุด ฮ่าๆๆๆ แต่สุดท้ายแล้วก็แวะมาเขียนค่ะ เพราะเราชอบน่านมาก ชอบจริงๆ เป็นจังหวัดที่แบบมองไปทางไหนมันก็รู้สึกละมุนๆ อะ
แต่ขอเกริ่นก่อนนะคะว่า เราไป ‘
น่าน’ มาเมื่อวันที่ 25-28 ธันวาคม 2560 ค่ะ
(กว่าจะมารีวิวได้ ฮ่าๆๆๆๆๆ) เราวางแพลนเป็นทริปต่อเนื่องจากเชียงใหม่ เพราะ 23-24 ธันวา เราแฮ่นนนนอยู่ที่เชียงใหม่ค่ะ ก่อนจะนั่ง Green Bus เที่ยวสี่ทุ่มครึ่งมาถึงน่านราวตีสี่นิดๆ แล้วเรากับเพื่อนก็นั่งหนาวอยู่ที่ขนส่งนั่นละเพราะเห็นว่าร้านที่เราจองรถมอ’ไซค์เปิด 7 โมงเช้า
ทีนี้พอหกโมงเกือบๆ ครึ่ง เพื่อนเราที่เป็นคนจองรถก็เลยลองโทรไปที่ร้านดูค่ะ เพราะพี่เจ้าของเคยบอกว่าถ้ามาถึงก็โทรหาเขา พอโทรไปก็ปรากฏว่าพี่เจ้าของ
(ใจดีมากกกกก) บอกว่าร้านเปิดแล้ว ให้พวกเราเดินไปที่ร้านได้เลย เราก็เลยรวบกระเป๋าเดินไปยังร้านเช่ามอ’ไซค์ ที่อยู่ใกล้ๆ ขนส่งนั่นละ ชื่อร้าน “โตโน่ คาร์เรนท์” มันอยู่ตรงตึกแถวห่างจาก บขส. ราวๆ 200-300 เมตรได้ เดินนิดเดียวจริงๆ และด้วยความใจดีของพี่เจ้าของร้าน พี่ได้กรุณาให้พวกเราอาบน้ำและฝากกระเป๋าด้วย
(บอกเลยว่าประทับใจจริงจัง พี่แกเป็นกันเองสุดๆ แกบอกตามสบายเลยน้องงงง 555+)
เมื่อจัดการธุระส่วนตัวและเรื่องเช่ารถเสร็จเรียบร้อยแล้ว เราก็เริ่มต้นทริปทันที คุณเพื่อนของเราได้วางแผนทริปไว้เพียงคร่าวๆ เท่านั้นว่าจะไปที่ไหนอะไรยังไงบ้าง โดยอาศัย Google Maps นำพาพวกเราเดินทางค่ะ อ่อ...ลืมบอกไปว่ารถที่เราเช่านั้น เราเลือก Honda PCX เนื่องจากเป็นรถที่เราถนัดน่ะ เพราะเราไม่รู้ว่าเส้นทางที่เราจะขึ้นดอยภูคานั้นเป็นอย่างไร รู้แต่ว่ามันไกลเลยเลือกรถที่ตัวเองมั่นใจว่าขี่ทางไกลได้ถนัดสุดไว้ก่อน ในราคา 500 บาทต่อวัน (รู้สึกว่าหลังจากเราไปพี่เขาจะขึ้นราคาเป็น 550 บาท/วันแล้วนะ)
สถานที่แรกที่เราไปคือ ‘วัดพระธาตุเขาน้อย’ ค่ะ อย่าถามว่าวางแผนกันยังไง ฮ่าๆๆๆ อาศัยดูจากพี่ Google ล้วนๆ เลยค่ะ เห็นว่ามันไม่ห่างจาก บขส.มากเท่าไหร่ก็เลือกเป็นเป้าหมายแรกค่ะ ไหว้พระก่อนเริ่มทริปอะไรๆ ก็ดีทั้งน้านนนนนนนน พอไปถึงวัดพระธาตุเขาน้อยเท่านั้นแหละ เรากับเพื่อนนี่ร้องเฮ้ย! เลย เนื่องจากเราขี่ PCX จริงแต่เราไม่เคยขี่ขึ้นทางชันขนาดนั้นมาก่อน ไอ้ขาขึ้นมันก็ง่ายนะ แต่ขาลงนี่จะลงยังไงหว่า อันนี้แอบเครียดไปก่อนเพราะยังไม่ได้ลองลงจริงๆ แต่ใจหนึ่งก็มั่นใจในศักยภาพการขี่รถของตัวเองพอควรเลยปัดความกังวลทิ้งไป และพอได้เห็นวิวเมืองน่านที่วัดเท่านั้นแหละ โอ๊ยยยยยยยยยย คุ้มค่าสุดๆ ที่ขึ้นมา มันดีงามจริงๆ ถ้ามาเที่ยวเมืองน่าน ควรแวะที่นี่สุดๆ ค่ะ ยิ่งมาตอนเช้าแบบ จขกท.ด้วยเราว่ายิ่งฟินสุดตัวจริงๆ เราเห็นทะเลหมอกแบบบางๆ ก็ที่นี่แหละ เรียกได้ว่าประทับใจมาก วัดสวยและสงบมากเช่นกัน
จากนั้นเราก็ออกจากพระธาตุค่ะ และค้นพบว่าขาลงไม่ยากอย่างที่คิดแหละ กลายเป็นเรากังวลไปเองล้วนๆเลย ความมั่นใจในการเดินทางไกลครั้งนี้ก็ยิ่งมา พวกเราก็มุ่งหน้าสู่ อ.ปัว ทันที และGPS ก็พาเราไปทางเลี่ยงเมืองค่ะ โอ๊ย!!! คุณพระ ทางเลี่ยงเมืองของน่านนี่หาร้านกินข้าวยากมากกกกกกกกก เราก็หิ้วท้องรอไปเรื่อยตั้งใจว่าเจอร้านไหนเข้าร้านนั้นแหละ จนกระทั่งออกทางสายหลักไปปัว เราก็ได้ไปเจอร้านอาหารตามสั่งริมทางชื่อร้าน “เจ๊อ๊อด” นี่เห็นป้ายบอกก่อนถึงร้านด้วยนะเลยขี่ชะลอๆ ช่วยกันมองหาร้าน ซึ่งเจ๊อ๊อดน่ารักมากค่ะ เกาเหลาหมูข้าวเปล่าของเจ๊สุดยอดดดดด!!!!
พออิ่มท้องแล้วก็ไปต่อค่ะ โดยเป้าหมายของเราจะแวะไหว้พระที่ ‘วัดศรีมงคล’ ค่ะ และพี่จีพีเอสก็พาเราไปแต่โดยดีไม่มีงอแงเลย ที่วัดนี้วิวสวยมากค่ะ เป็นจุดที่มองไปเห็นภูคาโดยมีไร่ข้าวโพดของชาวบ้านเป็นองค์ประกอบ รู้สึกว่าที่วัดจะว่ามีร้านกาแฟตรงจุดที่ชมวิวด้วยแต่เรากับเพื่อนไม่ได้กินค่ะเพราะยังอิ่มอยู่ ได้แต่ไปชมวิวและถ่ายรูปเล่นกันเฉยๆ

หลังออกจากวัดศรีมงคลก็ไปต่อที่ ‘
ร้านกาแฟไทลื้อ’ ร้านนี้พี่ที่รู้จักกันบอกว่าห้ามพลาดค่ะ กาแฟอร่อย แบบนี้ก็ต้องจัดสิคะ พอชิมแล้วกาแฟอร่อยจริงด้วยยยยย (>///<) ราคาก็ไม่แพงมาก แถมบรรยากาศดีมีแพะให้เล่นด้วย ฮาาาาา ข้างๆ ร้านกาแฟก็มีร้าน ‘
ลำดวนผ้าทอ’ มีเสื้อผ้าพื้นเมืองให้เลือกเยอะมากค่ะ แถมราคาไม่แพงด้วยควรแวะช็อปสุดๆ ตรงจุดนี้ถ้ามีหน้ากากอนามัยใส่ด้วยจะดีหน่อยนะคะ เราว่าฝุ่นผ้าในร้านเยอะอยู่น่ะ แต่ถ้าไม่มีก็ไม่ถึงกับทนไม่ได้อะ เพราะเราก็ไม่มีหน้ากากเหมือนกัน

หลังจากได้เติมพลังและได้ช็อปปิ้ง...ก็ไปต่อกันที่ ‘วัดภูเก็ต’ ในแผนที่มันก็บอกนี่ละว่าอยู่ใกล้ๆ สายตาเราก็เห็นว่ามันอยู่ใกล้ๆ แต่ไปทางไหนล่ะ? ฮ่าๆๆๆ ว่าแล้วก็พึ่งพี่จีพีเอสอีกรอบ พี่จีฯ ก็ดี๊ดีนะ พาวนไปเรื่อยเข้าถนนแคบๆ ผ่านา ผ่าหมู่บ้านแล้วก็ไปโผล่ที่วัดภูเก็ตจนได้ เรากะเพื่อนนี่มองหน้ากันเลย มาถึงได้ไงวะ เหมือนขี่วนเป็นสี่เหลี่ยมๆ เมื่อกี้นี้เองนะ กร๊ากกกกกก แต่ช่างเถอะ มาถึงแล้วก็ไปไหว้พระกันดีกว่า
[CR] ทริป...น่าน 3 ฤดู
แต่ขอเกริ่นก่อนนะคะว่า เราไป ‘น่าน’ มาเมื่อวันที่ 25-28 ธันวาคม 2560 ค่ะ (กว่าจะมารีวิวได้ ฮ่าๆๆๆๆๆ) เราวางแพลนเป็นทริปต่อเนื่องจากเชียงใหม่ เพราะ 23-24 ธันวา เราแฮ่นนนนอยู่ที่เชียงใหม่ค่ะ ก่อนจะนั่ง Green Bus เที่ยวสี่ทุ่มครึ่งมาถึงน่านราวตีสี่นิดๆ แล้วเรากับเพื่อนก็นั่งหนาวอยู่ที่ขนส่งนั่นละเพราะเห็นว่าร้านที่เราจองรถมอ’ไซค์เปิด 7 โมงเช้า
ทีนี้พอหกโมงเกือบๆ ครึ่ง เพื่อนเราที่เป็นคนจองรถก็เลยลองโทรไปที่ร้านดูค่ะ เพราะพี่เจ้าของเคยบอกว่าถ้ามาถึงก็โทรหาเขา พอโทรไปก็ปรากฏว่าพี่เจ้าของ (ใจดีมากกกกก) บอกว่าร้านเปิดแล้ว ให้พวกเราเดินไปที่ร้านได้เลย เราก็เลยรวบกระเป๋าเดินไปยังร้านเช่ามอ’ไซค์ ที่อยู่ใกล้ๆ ขนส่งนั่นละ ชื่อร้าน “โตโน่ คาร์เรนท์” มันอยู่ตรงตึกแถวห่างจาก บขส. ราวๆ 200-300 เมตรได้ เดินนิดเดียวจริงๆ และด้วยความใจดีของพี่เจ้าของร้าน พี่ได้กรุณาให้พวกเราอาบน้ำและฝากกระเป๋าด้วย (บอกเลยว่าประทับใจจริงจัง พี่แกเป็นกันเองสุดๆ แกบอกตามสบายเลยน้องงงง 555+)
เมื่อจัดการธุระส่วนตัวและเรื่องเช่ารถเสร็จเรียบร้อยแล้ว เราก็เริ่มต้นทริปทันที คุณเพื่อนของเราได้วางแผนทริปไว้เพียงคร่าวๆ เท่านั้นว่าจะไปที่ไหนอะไรยังไงบ้าง โดยอาศัย Google Maps นำพาพวกเราเดินทางค่ะ อ่อ...ลืมบอกไปว่ารถที่เราเช่านั้น เราเลือก Honda PCX เนื่องจากเป็นรถที่เราถนัดน่ะ เพราะเราไม่รู้ว่าเส้นทางที่เราจะขึ้นดอยภูคานั้นเป็นอย่างไร รู้แต่ว่ามันไกลเลยเลือกรถที่ตัวเองมั่นใจว่าขี่ทางไกลได้ถนัดสุดไว้ก่อน ในราคา 500 บาทต่อวัน (รู้สึกว่าหลังจากเราไปพี่เขาจะขึ้นราคาเป็น 550 บาท/วันแล้วนะ)
สถานที่แรกที่เราไปคือ ‘วัดพระธาตุเขาน้อย’ ค่ะ อย่าถามว่าวางแผนกันยังไง ฮ่าๆๆๆ อาศัยดูจากพี่ Google ล้วนๆ เลยค่ะ เห็นว่ามันไม่ห่างจาก บขส.มากเท่าไหร่ก็เลือกเป็นเป้าหมายแรกค่ะ ไหว้พระก่อนเริ่มทริปอะไรๆ ก็ดีทั้งน้านนนนนนนน พอไปถึงวัดพระธาตุเขาน้อยเท่านั้นแหละ เรากับเพื่อนนี่ร้องเฮ้ย! เลย เนื่องจากเราขี่ PCX จริงแต่เราไม่เคยขี่ขึ้นทางชันขนาดนั้นมาก่อน ไอ้ขาขึ้นมันก็ง่ายนะ แต่ขาลงนี่จะลงยังไงหว่า อันนี้แอบเครียดไปก่อนเพราะยังไม่ได้ลองลงจริงๆ แต่ใจหนึ่งก็มั่นใจในศักยภาพการขี่รถของตัวเองพอควรเลยปัดความกังวลทิ้งไป และพอได้เห็นวิวเมืองน่านที่วัดเท่านั้นแหละ โอ๊ยยยยยยยยยย คุ้มค่าสุดๆ ที่ขึ้นมา มันดีงามจริงๆ ถ้ามาเที่ยวเมืองน่าน ควรแวะที่นี่สุดๆ ค่ะ ยิ่งมาตอนเช้าแบบ จขกท.ด้วยเราว่ายิ่งฟินสุดตัวจริงๆ เราเห็นทะเลหมอกแบบบางๆ ก็ที่นี่แหละ เรียกได้ว่าประทับใจมาก วัดสวยและสงบมากเช่นกัน
จากนั้นเราก็ออกจากพระธาตุค่ะ และค้นพบว่าขาลงไม่ยากอย่างที่คิดแหละ กลายเป็นเรากังวลไปเองล้วนๆเลย ความมั่นใจในการเดินทางไกลครั้งนี้ก็ยิ่งมา พวกเราก็มุ่งหน้าสู่ อ.ปัว ทันที และGPS ก็พาเราไปทางเลี่ยงเมืองค่ะ โอ๊ย!!! คุณพระ ทางเลี่ยงเมืองของน่านนี่หาร้านกินข้าวยากมากกกกกกกกก เราก็หิ้วท้องรอไปเรื่อยตั้งใจว่าเจอร้านไหนเข้าร้านนั้นแหละ จนกระทั่งออกทางสายหลักไปปัว เราก็ได้ไปเจอร้านอาหารตามสั่งริมทางชื่อร้าน “เจ๊อ๊อด” นี่เห็นป้ายบอกก่อนถึงร้านด้วยนะเลยขี่ชะลอๆ ช่วยกันมองหาร้าน ซึ่งเจ๊อ๊อดน่ารักมากค่ะ เกาเหลาหมูข้าวเปล่าของเจ๊สุดยอดดดดด!!!!
พออิ่มท้องแล้วก็ไปต่อค่ะ โดยเป้าหมายของเราจะแวะไหว้พระที่ ‘วัดศรีมงคล’ ค่ะ และพี่จีพีเอสก็พาเราไปแต่โดยดีไม่มีงอแงเลย ที่วัดนี้วิวสวยมากค่ะ เป็นจุดที่มองไปเห็นภูคาโดยมีไร่ข้าวโพดของชาวบ้านเป็นองค์ประกอบ รู้สึกว่าที่วัดจะว่ามีร้านกาแฟตรงจุดที่ชมวิวด้วยแต่เรากับเพื่อนไม่ได้กินค่ะเพราะยังอิ่มอยู่ ได้แต่ไปชมวิวและถ่ายรูปเล่นกันเฉยๆ
หลังออกจากวัดศรีมงคลก็ไปต่อที่ ‘ร้านกาแฟไทลื้อ’ ร้านนี้พี่ที่รู้จักกันบอกว่าห้ามพลาดค่ะ กาแฟอร่อย แบบนี้ก็ต้องจัดสิคะ พอชิมแล้วกาแฟอร่อยจริงด้วยยยยย (>///<) ราคาก็ไม่แพงมาก แถมบรรยากาศดีมีแพะให้เล่นด้วย ฮาาาาา ข้างๆ ร้านกาแฟก็มีร้าน ‘ลำดวนผ้าทอ’ มีเสื้อผ้าพื้นเมืองให้เลือกเยอะมากค่ะ แถมราคาไม่แพงด้วยควรแวะช็อปสุดๆ ตรงจุดนี้ถ้ามีหน้ากากอนามัยใส่ด้วยจะดีหน่อยนะคะ เราว่าฝุ่นผ้าในร้านเยอะอยู่น่ะ แต่ถ้าไม่มีก็ไม่ถึงกับทนไม่ได้อะ เพราะเราก็ไม่มีหน้ากากเหมือนกัน
หลังจากได้เติมพลังและได้ช็อปปิ้ง...ก็ไปต่อกันที่ ‘วัดภูเก็ต’ ในแผนที่มันก็บอกนี่ละว่าอยู่ใกล้ๆ สายตาเราก็เห็นว่ามันอยู่ใกล้ๆ แต่ไปทางไหนล่ะ? ฮ่าๆๆๆ ว่าแล้วก็พึ่งพี่จีพีเอสอีกรอบ พี่จีฯ ก็ดี๊ดีนะ พาวนไปเรื่อยเข้าถนนแคบๆ ผ่านา ผ่าหมู่บ้านแล้วก็ไปโผล่ที่วัดภูเก็ตจนได้ เรากะเพื่อนนี่มองหน้ากันเลย มาถึงได้ไงวะ เหมือนขี่วนเป็นสี่เหลี่ยมๆ เมื่อกี้นี้เองนะ กร๊ากกกกกก แต่ช่างเถอะ มาถึงแล้วก็ไปไหว้พระกันดีกว่า