มีเรื่องมาเล่าให้ฟังค่ะ เป็นเรื่องของเราเอง
อยากขอคำปรึกษาและกำลังใจจากทุกคนค่ะ
ที่จริงเราตั้งกระทู้อันนึงขอคำปรึกษาไปแล้ว แต่คิดไปคิดมา เราอยากเล่าเรื่องให้ทุกคนได้ฟังพร้อมอัพเดตความคืบหน้าเพื่อการวางแผนต่อไปค่ะ 555
สมมติว่า
- เราชื่อ ริน
- รุ่นพี่ที่เราแอบชอบชื่อ เอ
- ตัวประกอบอื่นๆ ก็ใช้นามสมมติเช่นกันค่ะ
________________________________________________________________________________________________
#progress note day 1
- วันแรกที่เราได้พบกัน -
วันนี้เป็นวันแรกที่อยู่เวรกับอินเทิร์น(ง่ายๆก็คือ แพทย์ที่เพิ่งเรียนจบปีแรกมาใช้ทุน)กลุ่มใหม่ ถึงจะเป็นวันจันทร์แต่ก็เป็นวันหยุด เลยมีคนอยู่เวรเช้าแล้วฉันก็มารับช่วงต่อเวรบ่ายอีกที จะว่าไปก็ไม่รู้จักใครเลยสักคนเลย แต่ได้ข่าวว่าพี่ๆแต่ละคนเวรเยินมากๆ ซึ่งข่าวลือก็เป็นความจริง ทันทีที่ฉันไปรับเวรต่อจากเพื่อน ฉันก็ทำงานไม่ได้หยุดแม้แต่น้อย งานเยอะมาก แยกร่างตรวจคนไข้ไม่ทัน ตรงนู้นก็โทรเรียก ตรงนี้ก็ตามตัว ไหนจะอุบัติเหตุหมู่ที่consult(การปรึกษาแพทย์เฉพาะทาง)มาอีก จนฉันทำงานมาร่วมสองชั่วโมงฉันยังไม่เจอพี่อินเทิร์นวันนี้เลย เพราะว่ายุ่งทั้งโรงพยาบาล
จนกระทั่งฉันถูกเรียกไปที่ห้องฉุกเฉิน(ER)เพื่อช่วยงานตามคำขอของพี่มิน extern(นักศึกษาแพทย์ปี 6)โดยพี่มินบอกแค่ว่า “ไปที่ ER นะ หาพี่เอ พี่ผู้ชายใส่แว่น บอกว่ามาช่วย” แล้วพี่มินก็ถูกตามตัวไปที่อื่นโดยไม่ได้บอกอะไรเพิ่มเติมเลย ฉันก็เดินไป ER แบบงงๆ มองหาผู้ชายใส่แว่น ซึ่งตอนนั้นผู้ชายในเครื่องแบบแพทย์ทุกคนก็ใส่แว่น (มองบนพร้อมถอนหายใจหนักมาก) แต่มีอยู่คนนึงที่ฉันแน่ใจว่าต้องเป็นพี่เอแน่ๆ เพราะอะไรไม่รู้หรอก แต่เท้าฉันตรงดิ่งเข้าไปหาพี่หมอคนนั้นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
“พี่เอใช่ไหมคะ”
“ครับ ครับ” กำลังยุ่งกับการสรุปข้อมูลคนไข้
“รินนะคะ วันนี้อยู่เวรกับพี่ มีอะไรบอกได้เลยนะคะ”
และนั่นคือบทสนทนาแรกของฉันกับพี่เอ
หลังจากนั้น มหกรรมคนไข้ก็กระหน่ำเข้ามาไม่หยุดจนสองทุ่มยังไม่มีใครได้ทานข้าวสักคน พี่เอจึงบอกให้ฉันไปทานข้าวได้เลย เพราะคนไข้ก็จัดการไปเกือบหมดแล้ว สุดท้ายฉันก็เลยไปทานข้าวคนเดียว เพราะพี่เอกับพี่มินมีข้าวฟรีที่ทางโรงพยาบาลจัดไว้ให้อยู่แล้ว แต่ฉันต้องซื้อทานเองเพราะเป็นแค่นักศึกษาแพทย์อยู่ ฉันพยายามทานข้าวให้เร็วที่สุดเพื่อกลับมาช่วยงานพี่เอต่อ แล้วก็เป็นไปอย่างที่คาด พี่เอกับพี่มินยังไม่ได้ทานอะไรเลย ฉันบอกให้ไปทานก่อนแล้วงานที่เหลือฉันจะจัดการแทน แล้วให้พี่กลับมาตรวจซ้ำก็ไม่ยอม พี่เลยได้ทานข้าวเย็นตอนเกือบสี่ทุ่ม โดยใช้เวลาสิบนาทีในการทาน แล้วพวกเราก็ไปทำงานที่เรารักกันต่อจนถึงเที่ยงคืนโดยไม่ได้หยุดพักเลย
ป.ล. ถึงงานจะยุ่งยังไง แต่พี่เอก็ยังหาโอกาสพาฉันและพี่มินออกไปซื้อขนมที่ร้านสะดวกซื้ออยู่ดี คงเรียกว่าการพักได้อยู่ละนะ
________________________________________________________________________________________________
จะพยายามมาอัพเดตความคืบหน้าเรื่อยๆนะคะ
ใครมีประสบการณ์จีบหมอ จีบรุ่นพี่ หรืออะไรก็ตามแต่ ช่วยชี้แนะด้วยนะคะ
ปกติจีบใครก็นกตลอด แต่คนนี้จริงจังมากค่ะ
จะเป็นไปได้ไหม??
อยากขอคำปรึกษาและกำลังใจจากทุกคนค่ะ
ที่จริงเราตั้งกระทู้อันนึงขอคำปรึกษาไปแล้ว แต่คิดไปคิดมา เราอยากเล่าเรื่องให้ทุกคนได้ฟังพร้อมอัพเดตความคืบหน้าเพื่อการวางแผนต่อไปค่ะ 555
สมมติว่า
- เราชื่อ ริน
- รุ่นพี่ที่เราแอบชอบชื่อ เอ
- ตัวประกอบอื่นๆ ก็ใช้นามสมมติเช่นกันค่ะ
________________________________________________________________________________________________
#progress note day 1
- วันแรกที่เราได้พบกัน -
วันนี้เป็นวันแรกที่อยู่เวรกับอินเทิร์น(ง่ายๆก็คือ แพทย์ที่เพิ่งเรียนจบปีแรกมาใช้ทุน)กลุ่มใหม่ ถึงจะเป็นวันจันทร์แต่ก็เป็นวันหยุด เลยมีคนอยู่เวรเช้าแล้วฉันก็มารับช่วงต่อเวรบ่ายอีกที จะว่าไปก็ไม่รู้จักใครเลยสักคนเลย แต่ได้ข่าวว่าพี่ๆแต่ละคนเวรเยินมากๆ ซึ่งข่าวลือก็เป็นความจริง ทันทีที่ฉันไปรับเวรต่อจากเพื่อน ฉันก็ทำงานไม่ได้หยุดแม้แต่น้อย งานเยอะมาก แยกร่างตรวจคนไข้ไม่ทัน ตรงนู้นก็โทรเรียก ตรงนี้ก็ตามตัว ไหนจะอุบัติเหตุหมู่ที่consult(การปรึกษาแพทย์เฉพาะทาง)มาอีก จนฉันทำงานมาร่วมสองชั่วโมงฉันยังไม่เจอพี่อินเทิร์นวันนี้เลย เพราะว่ายุ่งทั้งโรงพยาบาล
จนกระทั่งฉันถูกเรียกไปที่ห้องฉุกเฉิน(ER)เพื่อช่วยงานตามคำขอของพี่มิน extern(นักศึกษาแพทย์ปี 6)โดยพี่มินบอกแค่ว่า “ไปที่ ER นะ หาพี่เอ พี่ผู้ชายใส่แว่น บอกว่ามาช่วย” แล้วพี่มินก็ถูกตามตัวไปที่อื่นโดยไม่ได้บอกอะไรเพิ่มเติมเลย ฉันก็เดินไป ER แบบงงๆ มองหาผู้ชายใส่แว่น ซึ่งตอนนั้นผู้ชายในเครื่องแบบแพทย์ทุกคนก็ใส่แว่น (มองบนพร้อมถอนหายใจหนักมาก) แต่มีอยู่คนนึงที่ฉันแน่ใจว่าต้องเป็นพี่เอแน่ๆ เพราะอะไรไม่รู้หรอก แต่เท้าฉันตรงดิ่งเข้าไปหาพี่หมอคนนั้นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
“พี่เอใช่ไหมคะ”
“ครับ ครับ” กำลังยุ่งกับการสรุปข้อมูลคนไข้
“รินนะคะ วันนี้อยู่เวรกับพี่ มีอะไรบอกได้เลยนะคะ”
และนั่นคือบทสนทนาแรกของฉันกับพี่เอ
หลังจากนั้น มหกรรมคนไข้ก็กระหน่ำเข้ามาไม่หยุดจนสองทุ่มยังไม่มีใครได้ทานข้าวสักคน พี่เอจึงบอกให้ฉันไปทานข้าวได้เลย เพราะคนไข้ก็จัดการไปเกือบหมดแล้ว สุดท้ายฉันก็เลยไปทานข้าวคนเดียว เพราะพี่เอกับพี่มินมีข้าวฟรีที่ทางโรงพยาบาลจัดไว้ให้อยู่แล้ว แต่ฉันต้องซื้อทานเองเพราะเป็นแค่นักศึกษาแพทย์อยู่ ฉันพยายามทานข้าวให้เร็วที่สุดเพื่อกลับมาช่วยงานพี่เอต่อ แล้วก็เป็นไปอย่างที่คาด พี่เอกับพี่มินยังไม่ได้ทานอะไรเลย ฉันบอกให้ไปทานก่อนแล้วงานที่เหลือฉันจะจัดการแทน แล้วให้พี่กลับมาตรวจซ้ำก็ไม่ยอม พี่เลยได้ทานข้าวเย็นตอนเกือบสี่ทุ่ม โดยใช้เวลาสิบนาทีในการทาน แล้วพวกเราก็ไปทำงานที่เรารักกันต่อจนถึงเที่ยงคืนโดยไม่ได้หยุดพักเลย
ป.ล. ถึงงานจะยุ่งยังไง แต่พี่เอก็ยังหาโอกาสพาฉันและพี่มินออกไปซื้อขนมที่ร้านสะดวกซื้ออยู่ดี คงเรียกว่าการพักได้อยู่ละนะ
________________________________________________________________________________________________
จะพยายามมาอัพเดตความคืบหน้าเรื่อยๆนะคะ
ใครมีประสบการณ์จีบหมอ จีบรุ่นพี่ หรืออะไรก็ตามแต่ ช่วยชี้แนะด้วยนะคะ
ปกติจีบใครก็นกตลอด แต่คนนี้จริงจังมากค่ะ