ระบบเศรษฐกิจ
เมื่อพูดถึง “ระบบเศรษฐกิจ” (Economic System) ก็หมายถึง ระบบเศรษฐกิจ 2 ระบบคือ
1. ระบบเสรีนิยม (Liberalism System)
2. ระบบสังคมนิยม (Socialism System)
เพราะในทางเป็นจริง โลกปัจจุบันก็มีเพียง 2 ระบบ
ระบบเสรีนิยม คือ ระบบที่ใช้อยู่ในประเทศโลกเสรี ระบบสังคมนิยม คือ ระบบที่ใช้อยู่ใน ประเทศคอมมิวนิสต์ซึ่งเรียกตัวเองว่า ประเทศสังคมนิยม เช่น อดีตสหภาพโซเวียต จีนแดง เชคโกสโลวาเกีย คิวบา เป็นต้น
การแบ่งเป็นประเทศประเทศฝ่ายโลกเสรี และประเทศคอมมิวนิสต์นั้น ก็แบ่งกันด้วย ระบบเศรษฐกิจ เป็นสำคัญ มิใช่แบ่งกันที่ ลัทธิทางเศรษฐกิจ
มีหลายประเทศปรากฏว่าใช้เศรษฐกิจสังคมนิยม อย่างเช่น สวีเดน พม่า สาธารณรัฐอาหรับ อินเดีย เป็นต้น จึงมีข้อสงสัยว่าประเทศเหล่านั้น อยู่ในฝ่ายโลกเสรีหรือไม่
ประเทศเหล่านั้น แม้จะถือว่าเศรษฐกิจของตนเป็นสังคมนิยม แต่ก็ไม่ยอมเรียกตัวเองว่าเป็น ประเทศสังคมนิยม แต่ก็ไม่ยอมเรียกตัวเองว่าเป็นประเทศสังคมนิยม และถือว่าตนเป็นประเทศ ประชาธิปไตย เหตุที่เป็นเช่นนี้เพราะเศรษฐกิจในประเทศเหล่านั้นเป็น ระบบเสรีนิยม ไม่ใช่ ระบบ สังคมนิยม แต่เป็นเสรีนิยมที่พยายามใช้รูปสังคมนิยม ซึ่งไม่ใช่ระบบสังคมนิยม
ประเทศเสรีนิยมบางประเทศแม้จะมีส่วนสังคมนิยมเพิ่มมากขึ้นเพียงใด แต่ก็ถือเป็นรูปหนึ่ง ของระบบเสรีนิยมเท่านั้น เช่น สวีเดนมีส่วนสังคมนิยมอยู่มากคือมี “สหกรณ์” มาก พม่าก็โอน วิสาหกิจเป็นของรัฐเป็นการใหญ่ และใช้ชื่อว่า “สังคมนิยมก้าวหน้า” (Progressive Socialism) โดยเอาแบบอย่างมาจากสหภาพโซเวียต และปิดประเทศเพื่อป้องกันการรุกรานจากประเทศมหาอำนาจ
ประเทศอินโดจีนก่อนการปฏิวัติสังคมนิยม กัมพูชาก็เป็นสังคมนิยมเรียกว่า “สังคมนิยม รุดหน้า” (Advanced Socialism) เจ้าสีหนุเรียกพรรคของตนว่า “ชมรมประชาสังคมนิยมแห่งเขมร” (Cambodian Socialist Popular Community) พรรคประชานิยมนั่นเอง แต่ลัทธิสังคมนิยมของ เจ้าสีหนุไปเจอเข้ากับ ระบบสังคมนิยมตัวจริงเลยพัง
ในยุคที่กระแสลัทธิสังคมนิยมไหวเชี่ยว พรรคประชาธิปัตย์ก็บอกว่าเป็นสังคมนิยมอ่อนๆ
ระบบเศรษฐกิจเสรีนิยมชนิดนี้ บางทีก็เรียกว่า สังคมนิยมเสรีนิยม (Liberal Socialism) คือ เสรีนิยมของชนชั้นกลาง (Liberalism of Bourgeoisie) ดังนั้น ต้องไม่ปะปนรูปสังคมนิยมของระบบ เสรีนิยมกับระบบสังคมนิยม มิฉะนั้น จะไม่เข้าใจระบบเศรษฐกิจหมายความว่าอย่างไร
เศรษฐกิจเสรีนิยม
เศรษฐกิจเสรีนิยม หรือทุนนิยม คือ ผลิตเพื่อขาย (Commodity Production) กันทั้งนั้น มิใช่ผลิต เพื่อเพียงพอแก่การใช้เองอย่างบ้านเรา ลักษณะสำคัญของเศรษฐกิจเสรีนิยม ก็คือ ผลิตเพื่อขาย
เศรษฐกิจศักดินา เป็นความเจริญในประวัติศาสตร์สมัยกลาง แต่เมื่อโลกมาถึงประวัติศาสตร์ สมัยใหม่เศรษฐกิจศักดินาเป็นความเสื่อม ความเจริญของประวัติศาสตร์สมัยใหม่คือ เศรษฐกิจเสรีนิยม หรือ ทุนนิยม แต่ประเทศไทยในประวัติศาสตร์สมัยใหม่ กลับถูกครอบงำด้วยเศรษฐกิจศักดินาจึงเป็น ประเทศเสื่อมไม่ใช่ประเทศเจริญ
เศรษฐกิจของไทยพัฒนามาเป็นระบบทุนนิยมแล้ว แต่ก็เป็นทุนนิยมด้อยพัฒนา (Underdeveloped Capitalism) เพราะความพยายามที่จะเปลี่ยนแปลงระบอบเผด็จการ เป็น ระบอบประชาธิปไตย ซึ่งกระทำมาตั้งแต่ 150 ปีก่อนในสมัยรัชกาลที่ 5 จนถึงวันนี้ก็ยังไม่สำเร็จ ซึ่งดูภายนอก ก็เจริญมาก แต่ถ้าดูภายในเหมือนคนเป็นมะเร็งที่ปอดโดยไม่รู้ตัว เผลอเดี๋ยวเดียว ตายเสียแล้วระบอบ เผด็จการ และระบบทุนนิยมด้อยพัฒนามันก็เป็นอย่างนี้แหละ ฉะนั้น เราจึงไม่ควรภูมิใจไปกับรัฐบาล ที่บอกว่าเราก็เจริญเหมือนอารยประเทศ เพราะเรายังมีภารกิจที่จะต้องรักษาตัวให้รอดตายต่างหาก และ ขณะนี้ ก็เป็นมะเร็งระยะสุดท้ายแล้ว เพราะว่าเป็นสถานการณ์ปฏิวัติ
การรุกรานทางเศรษฐกิจ
หลังสิ้นสุดสงครามเย็น ทำให้โลกก้าวเข้าสู่ยุคสันติภาพโลก หมายถึง สงครามโลกจะไม่กลับ มาอีก นอกจากสงครามภูมิภาค
เมื่อสงครามทางการเมืองระดับโลกไม่กลับมาอีก ก็จะส่งผลให้เกิดสงคราม (แข่งขันกัน) ทาง เศรษฐกิจขึ้นแทนที่สงครามทางการเมือง การต่อสู้กันระหว่างประเทศในปัจจุบัน คือสงครามทาง เศรษฐกิจ โดยเฉพาะจะเป็นการต่อสู้กันระหว่างโลกเสรีนิยม กับโลกสังคมนิยม และในโลกเสรีนิยมก็ จะเป็นการต่อสู้กันระหว่าง “ประเทศพัฒนาแล้ว” (Developed Country) หรือ “ประเทศกำลังพัฒนา” (Developing Country) เท่านั้น ที่มีกำลังพอที่จะต่อสู้กันได้ สำหรับประเทศด้อยพัฒนา (Underdeveloped Country) เช่น ประเทศไทยนั้น นอกจากจะสู้ไม่ได้แล้ว ยังจะถูกรุกรานทาง เศรษฐกิจ (ล่าอาณานิคมแบบใหม่) แทนถูกรุกรานทางการเมืองแบบเก่า
โลกปัจจุบันมีปัญหาสภาพคล่องส่วนเกินที่ท่วมล้นอยู่ในทุกประเทศที่พัฒนาแล้ว ด้วยต้นทุนที่ ถูก 0.1% ในญี่ปุ่น 0.25% ในสหรัฐ 0.5% ในอังกฤษ 1% ในยุโรป ทำให้เศรษฐกิจตกต่ำ ทุกประเทศ การพยุงเศรษฐกิจไม่ให้ตกต่ำไปกว่านี้ จึงมีทางเดียวคืออัดฉีดเงินเข้าระบบเพื่อพยุงเศรษฐกิจ ทำให้ สภาพคล่องไหลทะลักออกนอกประเทศ เข้ารุกรานกลุ่มประเทศเกิดใหม่ และประเทศด้อยพัฒนาทั้งใน เอเซีย และละตินอเมริกา เข้ามายึดกิจการต่างๆ สร้างแรงกดดันให้ค่าเงินแข็งอย่างต่อเนื่อง ดูเหมือนดี และนานเข้าก็จะเหมือนสึนามิถล่มความเปราะบางของประเทศ เกิดวิกฤติพังพินาศทั้งระบบ ทางเดียวที่ ต้องรีบแก้คือ พัฒนาประเทศอย่างรีบด่วน
เพิ่มเติมที่ลิงค์แนบ
https://www.facebook.com/notes/democracy-process/%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%9A%E0%B8%9A%E0%B9%80%E0%B8%A8%E0%B8%A3%E0%B8%A9%E0%B8%90%E0%B8%81%E0%B8%B4%E0%B8%88%E0%B9%80%E0%B8%A8%E0%B8%A3%E0%B8%A9%E0%B8%90%E0%B8%81%E0%B8%B4%E0%B8%88%E0%B9%80%E0%B8%AA%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%99%E0%B8%B4%E0%B8%A2%E0%B8%A1%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%B8%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%A8%E0%B8%A3%E0%B8%A9%E0%B8%90%E0%B8%81%E0%B8%B4%E0%B8%88/1968786116687240/
http://www.lovedemocracy.com/radio.html
การรุกรานทางเศรษฐกิจ,ระบบเศรษฐกิจ,เศรษฐกิจเสรีนิยม
เมื่อพูดถึง “ระบบเศรษฐกิจ” (Economic System) ก็หมายถึง ระบบเศรษฐกิจ 2 ระบบคือ
1. ระบบเสรีนิยม (Liberalism System)
2. ระบบสังคมนิยม (Socialism System)
เพราะในทางเป็นจริง โลกปัจจุบันก็มีเพียง 2 ระบบ
ระบบเสรีนิยม คือ ระบบที่ใช้อยู่ในประเทศโลกเสรี ระบบสังคมนิยม คือ ระบบที่ใช้อยู่ใน ประเทศคอมมิวนิสต์ซึ่งเรียกตัวเองว่า ประเทศสังคมนิยม เช่น อดีตสหภาพโซเวียต จีนแดง เชคโกสโลวาเกีย คิวบา เป็นต้น
การแบ่งเป็นประเทศประเทศฝ่ายโลกเสรี และประเทศคอมมิวนิสต์นั้น ก็แบ่งกันด้วย ระบบเศรษฐกิจ เป็นสำคัญ มิใช่แบ่งกันที่ ลัทธิทางเศรษฐกิจ
มีหลายประเทศปรากฏว่าใช้เศรษฐกิจสังคมนิยม อย่างเช่น สวีเดน พม่า สาธารณรัฐอาหรับ อินเดีย เป็นต้น จึงมีข้อสงสัยว่าประเทศเหล่านั้น อยู่ในฝ่ายโลกเสรีหรือไม่
ประเทศเหล่านั้น แม้จะถือว่าเศรษฐกิจของตนเป็นสังคมนิยม แต่ก็ไม่ยอมเรียกตัวเองว่าเป็น ประเทศสังคมนิยม แต่ก็ไม่ยอมเรียกตัวเองว่าเป็นประเทศสังคมนิยม และถือว่าตนเป็นประเทศ ประชาธิปไตย เหตุที่เป็นเช่นนี้เพราะเศรษฐกิจในประเทศเหล่านั้นเป็น ระบบเสรีนิยม ไม่ใช่ ระบบ สังคมนิยม แต่เป็นเสรีนิยมที่พยายามใช้รูปสังคมนิยม ซึ่งไม่ใช่ระบบสังคมนิยม
ประเทศเสรีนิยมบางประเทศแม้จะมีส่วนสังคมนิยมเพิ่มมากขึ้นเพียงใด แต่ก็ถือเป็นรูปหนึ่ง ของระบบเสรีนิยมเท่านั้น เช่น สวีเดนมีส่วนสังคมนิยมอยู่มากคือมี “สหกรณ์” มาก พม่าก็โอน วิสาหกิจเป็นของรัฐเป็นการใหญ่ และใช้ชื่อว่า “สังคมนิยมก้าวหน้า” (Progressive Socialism) โดยเอาแบบอย่างมาจากสหภาพโซเวียต และปิดประเทศเพื่อป้องกันการรุกรานจากประเทศมหาอำนาจ
ประเทศอินโดจีนก่อนการปฏิวัติสังคมนิยม กัมพูชาก็เป็นสังคมนิยมเรียกว่า “สังคมนิยม รุดหน้า” (Advanced Socialism) เจ้าสีหนุเรียกพรรคของตนว่า “ชมรมประชาสังคมนิยมแห่งเขมร” (Cambodian Socialist Popular Community) พรรคประชานิยมนั่นเอง แต่ลัทธิสังคมนิยมของ เจ้าสีหนุไปเจอเข้ากับ ระบบสังคมนิยมตัวจริงเลยพัง
ในยุคที่กระแสลัทธิสังคมนิยมไหวเชี่ยว พรรคประชาธิปัตย์ก็บอกว่าเป็นสังคมนิยมอ่อนๆ
ระบบเศรษฐกิจเสรีนิยมชนิดนี้ บางทีก็เรียกว่า สังคมนิยมเสรีนิยม (Liberal Socialism) คือ เสรีนิยมของชนชั้นกลาง (Liberalism of Bourgeoisie) ดังนั้น ต้องไม่ปะปนรูปสังคมนิยมของระบบ เสรีนิยมกับระบบสังคมนิยม มิฉะนั้น จะไม่เข้าใจระบบเศรษฐกิจหมายความว่าอย่างไร
เศรษฐกิจเสรีนิยม
เศรษฐกิจเสรีนิยม หรือทุนนิยม คือ ผลิตเพื่อขาย (Commodity Production) กันทั้งนั้น มิใช่ผลิต เพื่อเพียงพอแก่การใช้เองอย่างบ้านเรา ลักษณะสำคัญของเศรษฐกิจเสรีนิยม ก็คือ ผลิตเพื่อขาย
เศรษฐกิจศักดินา เป็นความเจริญในประวัติศาสตร์สมัยกลาง แต่เมื่อโลกมาถึงประวัติศาสตร์ สมัยใหม่เศรษฐกิจศักดินาเป็นความเสื่อม ความเจริญของประวัติศาสตร์สมัยใหม่คือ เศรษฐกิจเสรีนิยม หรือ ทุนนิยม แต่ประเทศไทยในประวัติศาสตร์สมัยใหม่ กลับถูกครอบงำด้วยเศรษฐกิจศักดินาจึงเป็น ประเทศเสื่อมไม่ใช่ประเทศเจริญ
เศรษฐกิจของไทยพัฒนามาเป็นระบบทุนนิยมแล้ว แต่ก็เป็นทุนนิยมด้อยพัฒนา (Underdeveloped Capitalism) เพราะความพยายามที่จะเปลี่ยนแปลงระบอบเผด็จการ เป็น ระบอบประชาธิปไตย ซึ่งกระทำมาตั้งแต่ 150 ปีก่อนในสมัยรัชกาลที่ 5 จนถึงวันนี้ก็ยังไม่สำเร็จ ซึ่งดูภายนอก ก็เจริญมาก แต่ถ้าดูภายในเหมือนคนเป็นมะเร็งที่ปอดโดยไม่รู้ตัว เผลอเดี๋ยวเดียว ตายเสียแล้วระบอบ เผด็จการ และระบบทุนนิยมด้อยพัฒนามันก็เป็นอย่างนี้แหละ ฉะนั้น เราจึงไม่ควรภูมิใจไปกับรัฐบาล ที่บอกว่าเราก็เจริญเหมือนอารยประเทศ เพราะเรายังมีภารกิจที่จะต้องรักษาตัวให้รอดตายต่างหาก และ ขณะนี้ ก็เป็นมะเร็งระยะสุดท้ายแล้ว เพราะว่าเป็นสถานการณ์ปฏิวัติ
การรุกรานทางเศรษฐกิจ
หลังสิ้นสุดสงครามเย็น ทำให้โลกก้าวเข้าสู่ยุคสันติภาพโลก หมายถึง สงครามโลกจะไม่กลับ มาอีก นอกจากสงครามภูมิภาค
เมื่อสงครามทางการเมืองระดับโลกไม่กลับมาอีก ก็จะส่งผลให้เกิดสงคราม (แข่งขันกัน) ทาง เศรษฐกิจขึ้นแทนที่สงครามทางการเมือง การต่อสู้กันระหว่างประเทศในปัจจุบัน คือสงครามทาง เศรษฐกิจ โดยเฉพาะจะเป็นการต่อสู้กันระหว่างโลกเสรีนิยม กับโลกสังคมนิยม และในโลกเสรีนิยมก็ จะเป็นการต่อสู้กันระหว่าง “ประเทศพัฒนาแล้ว” (Developed Country) หรือ “ประเทศกำลังพัฒนา” (Developing Country) เท่านั้น ที่มีกำลังพอที่จะต่อสู้กันได้ สำหรับประเทศด้อยพัฒนา (Underdeveloped Country) เช่น ประเทศไทยนั้น นอกจากจะสู้ไม่ได้แล้ว ยังจะถูกรุกรานทาง เศรษฐกิจ (ล่าอาณานิคมแบบใหม่) แทนถูกรุกรานทางการเมืองแบบเก่า
โลกปัจจุบันมีปัญหาสภาพคล่องส่วนเกินที่ท่วมล้นอยู่ในทุกประเทศที่พัฒนาแล้ว ด้วยต้นทุนที่ ถูก 0.1% ในญี่ปุ่น 0.25% ในสหรัฐ 0.5% ในอังกฤษ 1% ในยุโรป ทำให้เศรษฐกิจตกต่ำ ทุกประเทศ การพยุงเศรษฐกิจไม่ให้ตกต่ำไปกว่านี้ จึงมีทางเดียวคืออัดฉีดเงินเข้าระบบเพื่อพยุงเศรษฐกิจ ทำให้ สภาพคล่องไหลทะลักออกนอกประเทศ เข้ารุกรานกลุ่มประเทศเกิดใหม่ และประเทศด้อยพัฒนาทั้งใน เอเซีย และละตินอเมริกา เข้ามายึดกิจการต่างๆ สร้างแรงกดดันให้ค่าเงินแข็งอย่างต่อเนื่อง ดูเหมือนดี และนานเข้าก็จะเหมือนสึนามิถล่มความเปราะบางของประเทศ เกิดวิกฤติพังพินาศทั้งระบบ ทางเดียวที่ ต้องรีบแก้คือ พัฒนาประเทศอย่างรีบด่วน
เพิ่มเติมที่ลิงค์แนบ https://www.facebook.com/notes/democracy-process/%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%9A%E0%B8%9A%E0%B9%80%E0%B8%A8%E0%B8%A3%E0%B8%A9%E0%B8%90%E0%B8%81%E0%B8%B4%E0%B8%88%E0%B9%80%E0%B8%A8%E0%B8%A3%E0%B8%A9%E0%B8%90%E0%B8%81%E0%B8%B4%E0%B8%88%E0%B9%80%E0%B8%AA%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%99%E0%B8%B4%E0%B8%A2%E0%B8%A1%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%B8%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%A8%E0%B8%A3%E0%B8%A9%E0%B8%90%E0%B8%81%E0%B8%B4%E0%B8%88/1968786116687240/
http://www.lovedemocracy.com/radio.html