เที่ยวโครเอเชีย 8 วัน ชวนลูกท่องโลกไปสัมผัสสวรรค์บนดิน ตะลึงงันกับความงามของทะเลสาบ Plitvice และ ตามรอย Game of Throne

สวัสดีเพื่อนๆชาวพันทิป ทริปนี้บ้านเราได้มีโอกาสได้ไปเที่ยวที่ประเทศโครเอเชียมา เป็นประเทศที่น่าสนใจและน่าไปเที่ยวมากๆ ก็เลยอยากเอามาฝากไว้ให้เพื่อนๆเผื่อใครสนใจและเป็นการตอบแทนสังคมสำหรับข้อมูลการท่องเที่ยวต่างๆมากมายที่เราเองก็ได้รับจากเพื่อนๆในพันทิปแห่งนี้ด้วย อมยิ้ม02

จริงๆแล้วสำหรับทริปนี้ ก็ต้องขอย้อนความกลับไปเมื่อหลายปีก่อน หากใครจำได้ เคยมีคนโพสต์รูปทางเดินสะพานไม้โค้งๆที่พาดผ่านทะเลสาบแห่งหนึ่งพร้อมกับน้ำตกเล็กๆเรียงรายมากมาย แล้วก็มีคนบอกว่ามันอยู่ที่ภาคใต้ของเมืองไทยเรานี่เอง แต่ก็มีคนออกมาเฉลยว่าจริงๆแล้วมันคือทะเลสาบ Plitvice และไม่ได้อยู่ที่เมืองไทย แต่อยู่ที่ประเทศโครเอเชียนู่น อย่างงั้นก็เหอะ เจ้ารูปสะพานไม้นี่ก็กลายเป็นหนึ่งในภาพติดตาของเราเพราะว่ามันดูสวยและแปลกเอามากๆ แล้วตอนนั้นเราก็แอบตั้งความหวังไว้เล็กๆว่า สักวันฉันจะต้องหาโอกาสไปสัมผัสบรรยากาศจริงของไอ้เจ้าสะพานไม้แห่งนี้ให้ได้ แล้วเวลาก็ผ่านไปอย่างรวดเร็ว หากจำไม่ผิดก็น่าจะประมาณสิบปี ว่าไปก็ไวเหมือนโกหก

ถ้าถามว่าได้ไปสัมผัสของจริงแล้วประทับใจสมกับที่รอคอยมานานไหม ก็ลองติดตามอ่านดูกันได้เลยนะ

ทริปนี้เราเดินทางช่วงปลายเดือนตุลาคม 2560 ช่วงที่เราอยู่โครเอเชียคือสัปดาห์สุดท้ายของฤดูใบไม้ร่วง อากาศกำลังเย็นสบาย ใส่เสื้อแจ๊คเกตตัวเดียวก็เอาอยู่ อุณหภูมิยังไม่หนาวมากอยู่ในช่วง 10-18 องศา คืออากาศกำลังดีเลย

ส่วนที่พักก็ดูตาม booking.com ลองหาที่พักที่ได้ review score 8+ ขึ้นไป แต่ละที่ที่เราเลือกมานี่ก็อยู่สบาย ราคาที่พักก็ไม่แพงเหมือนพวกยุโรปตะวันตก เจ้าของดูแลเอาใจใส่ลูกค้าดี ไม่มีปัญหาใดๆ

คราวนี้เราเช่ารถจาก Alamo ผ่าน Europe car rental แต่เวลาไปเอารถต้องไปที่ counter ของ Enterprise โดยรวมก็บริการ ok สะดวกดีใช้ได้ ค่าเช่ารถตลอดทริปก็ประมาณ 15,000 บาท รวมประกันแบบที่สามารถขอ claim คืนค่าเสียหายได้ทั้งหมด แถมคราวนี้โชคดีได้ upgrade เป็นรถรุ่นที่ใหญ่ขึ้นกว่าที่จองด้วย สำหรับเราอยากขับแบบสบายๆก็เลยจองแบบเกียร์ออโต้ แต่ว่าราคาก็จะแพงกว่าเกียร์ธรรมดา ถือซะว่าซื้อความสะดวกละกัน

การเข้าประเทศ Croatia เราสามารถใช้ Schengen VISA แบบ multiple ได้ รวมถึงประเทศข้างเคียงที่ไม่ใช่ประเทศ Schengen อย่างบอสเนียฯและมอนเตเนโกรด้วย บางครั้งเราเลยเห็นหลายๆคนก็จะมาเที่ยวแถบนี้ก็จะรวบกลุ่มประเทศนี้ไว้ในทริปเดียวไปเลย แต่บ้านเราชอบแบบเที่ยวให้ทั่วๆ เลยขอปักหลักเที่ยวแต่ในโครเอเชีย

เราเดินทางด้วยสายการบิน Qatar Airways จองตั๋วโปรโมชั่นได้ฟรีตั๋วเด็ก จองล่วงหน้าตั้งแต่ช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมา ประหยัดค่าตั๋วเด็กๆไปโดยปริยาย (ค่าตั๋วเครื่องบินทริปนี้เบ็ดเสร็จประมาณ 6 หมื่นกว่าบาท) แต่การจองตั๋วล่วงหน้านานๆ ก็ต้องทำใจเรื่องการเปลี่ยนแปลงเวลาเดินทางไว้ด้วย อย่างของเราก็ถูกเลื่อนไฟลท์ไป 3 รอบ เข้าใจว่าเกิดจากการที่การ์ตาร์มีปัญหากับประเทศเพื่อนบ้าน เล่นเอาเหนื่อยเรื่องการจองที่พักและการวางแผนการเดินทางกันเลย และเช่นเคยเหมือนทุกทริป เรามีกระเป๋าเดินทาง 2 ใบใหญ่กับรถเข็นเด็ก 1 คัน สัมภาระประมาณนี้ก็จะใส่ได้พอดีกับพื้นที่ใส่ของในรถที่เราเช่าไว้ ส่วนคาร์ซีทของเด็กๆเราก็เช่าจากบริษัทรถเช่า (ตอนแรกจะขนไปเองจากเมืองไทย แต่สุดท้ายก็ไปเช่าเอาละกัน จะได้ไม่ต้องขนของกันพะรุงพะรัง)


เครื่องออกจากกรุงเทพก็สามทุ่มครึ่ง แวะต่อที่ Doha และลงจอดที่สนามบินซาเกรบประมาณ 7 โมงเช้า สนามบิน Zagreb ก็เป็นสนามบินเล็กๆ ตม ก็ไม่ยุ่งยากแถมคนน้อยด้วย รอคิวไม่นาน เสร็จแล้วก็ไปรับสัมภาระ แวะเข้าห้องน้ำ ล้างหน้า แปรงฟัน (Qatar มีแจก พวกแปรงสีฟันกับยาสีฟันให้) แต่ที่ตัวสนามบินจะไม่มีที่ฝากสัมภาระ แต่จะมีที่ปลายทางสถานีรถบัสและรถไฟในตัวเมือง Zagreb

สามารถใช้บัตร ATM จากเมืองไทยกดเงินสกุล HRK (โครเอเชียคูนา อัตราแลกเปลี่ยนประมาณ 1 HRK ต่อ 5.13 บาท เอาง่ายๆก็คือคูณ 5 ก็จะได้ราคาเป็นบาท) จากนั้นก็แวะซื้อ Sim โทรศัพท์จากมินิมาร์ทภายในสนามบิน คือเดินออกจากโซนรับสัมภาระมินิมาร์ทอยู่ขวามือเลย ป้าในร้านมินิมาร์ทพูดภาษาอังกฤษได้คล่อง แกแนะนำซิมโทรศัพท์ให้เรา แกบอกว่าของ Vipme นี้โปรโมชั่นเด็ดสุด แพคเกจ Vipme prepaid สำหรับ 7 วัน ราคา 80 HRK (ประมาณ 412 บาท) ได้ unlimited Internet 20GB ในสปีด 4G โทรฟรี 100 นาที/SMS เข้าทุกเครือข่ายทั่วประเทศ เห็นแบบนี้จะไม่ให้ตกใจกับโปรโมชั่นได้ยังไง ใช่เนตกันทั้งวันทั้งคืนตลอดทริปก็ยังใช้ไม่หมด 20 GB กันแน่ๆ

จากนั้นเตรียมไปรับรถ โดย zone รถเช่าจะอยู่ทางด้านซ้ายเวลาเดินออกมาจากพื้นที่รับสัมภาระ
การขับรถบนถนนไฮเวย์ในโครเอเชีย เขาจะขับอยู่เลนขวามือ ส่วนเลนทางด้านซ้ายสุดใช้สำหรับแซงเท่านั้น แซงแล้วก็ขับเข้าสู่เลนขวากัน เส้นทางส่วนใหญ่เป็น toll way รับบัตรก่อนแล้วก็ไปจ่ายตรงปลายทาง ค่า toll ก็แล้วแต่ระยะทาง เราจ่ายเงินสดตลอด ที่เราจ่ายแพงสุดก็ประมาณ80 HRK (ประมาณนี้ถ้าจำไม่ผิด) จาก Dubrovnik มา Split บนถนนรถไม่เยอะ ถนนก็สภาพค่อนข้างดี ขับสบาย ฉิวมากๆ ส่วนใหญ่ก็เหยียบได้ถึง speed limit 130 km/hr แต่บางช่วงก็ limit ต่ำกว่านี้ ยิ่งนอก tollways นี่อาจได้แค่ 70 km/hr แถมที่นี่ยังมีอุโมงค์รอดใต้ภูเขาเยอะมากๆ ในอุโมงค์ก็จะจำกัดความเร็วไว้ที่ 80 km/hr ค่าที่จอดรถสาธารณะในโครเอเชียค่อนข้างแพง ฉะนั้นควรเลือกที่พักที่มีที่จอดรถฟรี ก็จะช่วยประหยัดเงินได้เยอะเลย

ส่วนแผนการเดินทางโดยรวม ก็ตามแผนที่ข้างล่างนี่เลย เราขับรถลงใต้ไปถึง Dubrovnik แล้วก็วนกลับขึ้นมาที่ Zagreb แต่บางคนที่ไม่อยากขับรถย้อนขึ้นมาก็จะนั่งเครื่องออกนอกประเทศที่ Dubrovnik เลยก็มีเยอะ

เมื่อทุกอย่างพร้อมแล้วเราก็ไปเที่ยวโครเอเชียประเทศแสนสวยกันเลยดีกว่าเนอะ อมยิ้ม01

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่