เมื่อต้องเลี้ยงลูกกับเด็กไร้ระเบียบวินัย ไม่มีมารยาท และติดเกมส์มาก รบกวนคุณพ่อคุณแม่เข้ามาตอบทีค่ะเครียดมาก

อาจจะจั่วหัวดูรุนแรงไปนะคะ แต่ต้องการคำแนะนำจริงๆค่ะตอนนี้เครียดมากๆ
                 เริ่มเรื่องเลยก็แล้วกันนะคะ แต่ต้องขออภัยที่เรื่องค่อนข้างยาวมากเพราะดิฉันอยากได้คำแนะนำสำหรับการแก้ปัญหาจริงๆ
                 บ้านที่อยู่กับสามีทุกวันนี้เป็นบ้านของพ่อแม่สามีค่ะ เพราะฉะนั้นสมาชิกในบ้านก็จะมีพ่อแม่สามี น้องชายสามี สามี ตัวเรา และลูกสาวดิฉันอายุ 7 ขวบ เรื่องเกิดขึ้นตรงที่ว่าน้องชายของสามีมีลูกชาย 1 คน แต่ได้เลิกรากับภรรยาของเค้าไปประมาณ 3 ปีแล้วปัจจุบันหลานชายคนนี้อายุ 9 ขวบค่ะ ชีวิตปรกติของหลายชายคนนี้คือ จันทร์-ศุกร์ จะอยู่กับทางบ้านแม่ของเขาเพราะโรงเรียนอยู่ใกล้บ้านนู้นและ เสาร์-อาทิตย์ ก็จะมาอยู่กับพ่อ เมื่อก่อนไม่ได้มาตลอดเป๊ะๆแบบนี้เพราะน้องชายจะไปหาเองที่บ้านแม่เค้า แต่ด้วยเหตุผลใดไม่ทราบช่วงหลังๆเลยเป็นแบบนี้ ดังนั้นเมื่อก่อนนี้ นานๆหลานมาทีจึงนานๆได้เจอกันทีค่ะ  จริงๆแล้วดิฉันไม่เคยมีปัญหาเลยที่หลานมาทุกเสาร์อาทิตย์ และดีซะอีกเพราะดิฉันอยากได้ลูกชาย แต่ประเด็นมันอยู่ที่พฤติกรรมของหลานต่างหากที่ทำให้ดิฉันหนักใจมาก ถึงมากที่สุด

เพราะทุกๆเสาร์อาทิตย์ที่มาก็จะไม่มีเพื่อนเล่นที่ไหนนอกจากลูกสาวดิฉัน...

                 ขอบอกแบบนี้ก่อนนะคะ อุปนิสัยของหลานคนนี้แกจะเป็นคนที่ไม่มีระเบียบอะไรเลย เอาแต่ใจมากๆ ไม่ได้ดั่งใจจะหน้าบูดหน้าเบี้ยวเพราะทุกคนในบ้านทั้งสองบ้านรักและตามใจมากเนื่องจากเป็นหลานชายคนแรกของทั้งสองบ้าน และบวกกับความน่าสงสารเข้าไปอีกทวีคูนเมื่อพ่อแม่แยกทางกัน พี่ ป้า น้า อา ก็พากันตามใจสุดๆเพราะกลัวหลานมีปมเป็นเด็กมีปัญหาครอบครัวไม่อบอุ่น ( เหอะๆ )  
                 ด้วยความเอาแต่ใจมากๆ จึงไม่มีใครขัดใจไม่มีใครดุ เวลาที่แกทำอะไรผิดหรือทำรกสกปรกเลอะเทอะก็จะไม่มีใครบ่นใครว่าเลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็นแกะขนมกินไม่เอาถุงขนมไปทิ้งขยะ ถ้ากินพวกลูกอม หรือช็อกโกแล็ตก็จะรู้ทันทีว่ากินตรงไหนเพราะแกะตรงนั้นทิ้งตรงนั้น  เข้าบ้านพอใจก็ถอดรองเท้าบ้างไม่ถอดบ้าง กินข้าวจานไม่เก็บและบางทีนึกอยากจะเอากับข้าวมาผสมๆเล่นกันก็ทำ  บางทีนึกอยากจะกระโดดข้ามบนโซฟาก็โดดค่ะ ไม่สนใจว่าจะมีผู้ใหญ่อยู่ตรงนั้นกี่คน ข้ามหัวเป็นเรื่องปรกติ =='
                 ซึ่งดิฉันเป็นคนทำงานบ้าน และตอนนี้เริ่มหัดให้ลูกสาวทำงานบ้านเล็กๆน้อยๆบ้างแล้ว มันก็แอบเซ็งค่ะ เพราะเราทำความสะอาดไว้ดีดี มันเละเทะชนิดที่ว่าเหนื่อยหนักกว่าเดิม
                 และที่สำคัญ หลานชายคนนี้ติดโทรศัพท์มือถือมากกกกกกกกกก ติดมากกกกกกกกกก ต้องถือในมือไว้ตลอดเวลาเลยค่ะ ล่าสุดพ่อแกซื้อโทรศัพท์ให้ใหม่ด้วย ดังนั้นไม่ว่าจะไปไหนมาไหนนั่งยืนนอนแม้กระทั่งไปอาบน้ำก็ต้องเอาเข้าไปแล้วให้พ่อเค้าเอาวางตรงชั้นในห้องน้ำอาบเสร็จก็ถือกลับออกมา แกติดเกมส์ ติดยูทูปมากๆ เปิดสลับกันตลอดเวลาจะไม่จับก็ต่อเมื่อแบตหมด แต่เวลาที่โทรศัพท์ชาร์ตแบตก็ตลกมาก ไปยืนเต้นยุกๆยิกๆ เดินไปมองๆอยู่นั่นว่าเมื่อไหร่จะเต็ม บางทีก็ไปกระโดดๆๆๆๆๆ อยู่ใกล้ๆจนน้องชายต้องเอามือถือของตัวเองให้ไปพลางๆก่อน อ่านถึงตรงนี้เหมือนกับว่าดิฉันกำลังนินทาเด็ก 9 ขวบให้ฟังใช่ไหมคะ ความเครียดที่แท้ทรูอยู่ตรงนี้ค่ะ
                 เมื่อหลานคนนึงถูกสปอยหนักขนาดนี้ ไม่ต้องทำอะไรเลย แม้กระทั่งการบ้านถ้าไม่พอใจจะทำก็จะมีพ่อหรือไม่ก็แม่ทำแทนให้ ( เอากะเขาซิ )จึงทำให้หลานอีกคนนึงซี่งนั่นก็คือลูกสาวดิฉันเองเกิดความกดดัน หดหู่ และร้องไห้ง่ายมากๆ เพราะอะไร???

    
เพราะการโดนเปรียบเทียบและคำพูดหยอกเย้าจากลูกพี่ลูกน้องตัวเองว่า โง่ ไม่เก่ง ชีวิตเงียบเหงา แม่ไม่รัก

                  สาหตุเพราะดิฉันวางระเบียบเล็กๆน้อยๆในแกน่ะค่ะ จันทร์-ศุกร์ เมือเลิกเรียนแล้วก็จะเรียนพิเศษต่อกับครูประจำชั้นแต่ก็ไม่ได้เครียดหรือเน้นเนื้อหาใดๆมากเหมือนฝากเด็กต่อให้ทำการบ้านและดูแลจนกว่าผู้ปกครองเลิกงานแล้วมารับพอถึงบ้าน ก็ทำกิจวัตรประจำวันปรกติ และอนุญาตให้ดูการ์ตูนกับเล่นไอแพดได้ 1 ชั่วโมงขึ้นอยู่กับว่าแกจะเลือกอย่างไหน และเข้านอนตอนสามทุ่ม เสาร์-อาทิตย์ไม่มีเรียนพิเศษ แต่ไม่ปล่อยให้ตื่นสาย 8 โมงก็จะปลุกแล้ว (จ.-ศ. ไปโรงเรียนตื่น 6 โมงเช้า) และทำกิจวัตรประจำเรียบร้อยกินข้าวเช้า แล้วจะดูการ์ตูนหรือเล่นของเล่นอะไรก็จะปล่อยไม่ซีเรียส ตกบ่ายๆชวนทำงานบ้านค่ะ ให้แกช่วยตากผ้าช่วยถูกบ้าน คือไม่ได้ใช้ให้ทำ แต่ชวนให้ทำด้วยกันในช่วงเวลานี้ก็จะคุยกันเล่นกันปรกติ วันอาทิตย์ก็ทำเหมือนเดิมแต่จะเพิ่มแค่ช่วง บ่าย 2 ถึง บ่าย 3 หรืออาจมีถึงบ่าย 4 (ถ้าวันนั้นสนุก ) เอาวิชาที่ลูกเรียนมาทั้งอาทิตย์ มาถาม มาเล่นกัน บางทีมาเล่นถามตอบเพื่อเป็นการทบทวนกันค่ะ  ยอมรับตามตรงว่าบางทีแกก็งอแงค่ะ อยากเล่นไอแพดต่อบ้าง หรือขี้เกียจบ้าง ก็จะทั้งปลอบทั้งขู่ เอาขนมมาล่อ เอารางวัลมาล่อค่ะ ก็ผ่านมาได้ด้วยดี แต่ทุกวันนี้เหมือนแกเก็บกด ดูเศร้าสร้อยแววตาไม่ค่อยมีความสุขเลยเมื่อดิฉันเตือนแกด้วยเรื่องต่างๆ อันนี้ขอแจงเป็นข้อๆนะคะเพราะเนื้อหาเริ่มยาวแล้วจะได้กระชับ
           1. เมื่อหมดเวลาเล่นไอแพด 1  ช.ม. แต่พี่ชายยังเล่นได้ต่อแกก็จะเศร้ามากเพราะหลานจะพูดกรอกหูบ่อยๆและทุกครั้งๆว่า ว้ายยยยยๆๆๆ หมดเวลาแล้ว เศร้าดิ สู้พี่ก็ไม่ได้เล่นนานแค่ไหนก็ได้ ก็จะล้อเลียนประมาณนี้ค่ะ

           2. เมื่อซื้อของเล่นกันมาทั้งคู่แกะออกมาแล้ว ลูกสาวดิฉันเก็บเศษพลาสติกไปทิ้งขยะและก็ต้องจำใจเก็บของหลานชายไปทิ้งด้วยเพราะกลัวดิฉันตำหนิ
           3. เวลากินข้าวพร้อมๆกัน คนนึงเก็บคนนึงไม่เก็บ ลูกสาวดิฉันก็บอกว่าทำไมพี่ไม่เก็บจาน หลานชายตอบทันทีทันใดว่าไม่ใช่หน้าที่ของผู้ชายเป็นหน้าที่ของผู้หญิง  (ใครสอนนาง !?!) ดูก็รู้เลยว่าลูกสาวดิฉันเสียเซลล์เฟลมากไม่รู้แอบคิดในใจบ้างไหมว่าทำไมตูเกิดมาเป็นผู้หญิง
           4. อันนี้หนักสุดๆ เมื่อถึงวันอาทิตย์ที่ต้องทบทวนเรื่องเรียนบางทีเด็กๆเล่นกันอยู่ดิฉันก็จะเดินไปบอกว่าลูกคะถึงเวลาแล้ว หลายชายก็แหย่เลยค่ะว่าอ่าว...น้องโง่หรอ ป้าเลยต้องพาไปอ่านหนังสือดูพี่ซิไม่เห็นต้องอ่านเลยเพราะพี่เก่ง (แต่จริงๆเป็นยังไงทุกท่านคงทราบดีนะคะ )จากนั้นหลายชายก็จะมา ป่วน วิ่งวนไปวนมา วิ่งเป็นวงกลมๆรอบโต๊ะ บางทีมาเปิดการ์ตูนในยูทูปมาเปิดเกมส์ต่างๆที่ลูกสาวดิฉันชอบเสียงดังๆอยู่ใกล้ๆเพื่อยั่วทำให้ตอบคำถามไม่ได้บ้าง เขียนหนังสือผิดบ้าง ล่าสุดย้ายมาในห้องนอนของดิฉัน เนื่องจากเป็นบ้านชั้นเดียวหลายชายก็จะวิ่งมาเคาะหน้าต่าง มาเคาะประตู จนบางทีโมโหจัดๆเลยเผลอดุหลานชายไปแรงก็มี ทำให้มีปัญหากับแม่สามีและน้องชายสามีค่ะ
                (เคยแก้ปัญหาด้วยกันทำบัตรคำอดหลับอดนอนทำเผื่อให้เล่นกันได้ทั้งคู่ แต่ก็เหลวค่ะ เพราะแค่แป๊ปเดียวนางเอาโยนเล่นขึ้นฟ้าเพราะถามอะไรก็ตอบไม่ได้ ต่อคำไม่เป็นอีกเลยแถด้วยการโยนขี้นฟ้า = =' )

                 5. อันนี้หนักที่สุดของที่สุด (หนักอะไรขนาดน้านนนน) เมื่อคนนึงถูกวางระเบียบ อีกคนนึงไม่ถูกวางผู้ใหญ่ก็จะปฏิบัติกับหลานทั้งสองต่างกันค่ะ ยกตัวอย่างง่ายๆ ในวันศุกร์เมื่อถึงเวลาสามทุ่มลูกสาวดิฉันต้องนอนแต่กำลังติดพันกับการดูหนังอย่างสนุกสนาน แม่สามีก็พูดเลยว่าไปนอนได้แล้วเดี๋ยวแม่บ่นเอานะ ส่วนพี่เค้าอยู่ได้พ่อเค้าไม่บ่น ลูกสาวดิฉันก็เศร้าตอนดิฉันตามเข้าไปกอดไปกล่อมเหมือนทุกทีก็หันหลังให้ บางทีงอนแล้วหลับไปเลย
อีกตัวอย่างนึง เรื่องเก็บของเล่นเมื่อเล่นแล้วก็ต้องเก็บลูกสาวดิฉันเก็บค่ะ แต่แม่สามีพูดเลยค่ะว่าเก็บให้เรียบร้อยนะลูกเดี๋ยวแม่บ่นเอาแต่ของพี่เค้าย่าเก็บเองพ่อเค้าไม่ว่า  ยอมรับสารภาพว่าแม่สามีกับดิฉันไม่ค่อยลงรอยกันเท่าไหร่แต่ไม่เคยมีปากเสียงเลยค่ะต่างคนต่างเลี่ยงตลอด แต่พอเป็นเรื่องของ "หลานชายย่า" ไม่เคยยอมหรือลดลาวาศอกเลยค่ะ บางทีหลานชายแอบยิ่มเยาะและยักคิ้วตอนหลบหลังย่าใส่ดิฉันด้วยนะคะตอนดิฉันดุเค้าและแม่สามีเข้ามาช่วย

ประเด็นอยู่ตรงนี้ค่ะ (กว่าจะเข้าประเด็นเล่ายาวเลยขออภัยนะคะ ==')

            ปีการศึกษาใหม่นี้ น้องชายแฟนจะเอาลูกมาอยู่บ้านด้วยเป็นการถาวรจะให้ไปบ้านแม่เค้าแค่เสาร์-อาทิตย์ สลับกันเพราะว่าผลการเรียนอ่อนมากๆ น้องชายจะเอามาดูมาสอนเอง ( ก็งงว่าจะสอนได้หรอเพราะปรกติที่เจอคือสองคนพ่อลูก โทรศัพท์คนละเครื่องนอนเล่นเกมส์ )

คำถามค่ะ
1. ดิฉันจะทำยังไงดี  จะสอนลูกสาวยังไงดี ทุกวันนี้ไม่อยากให้มีวันเสาร์อาทิตย์เลยเพราะบางทีเห็นแกเศร้ามากๆก็ต้องปล่อยบ้างแต่ปล่อยมากบางทีแกก็ลืมตัวทิ้งของเกลื่อนกลาด ทำเลอะเทอะค่ะ  บางอาทิตย์ดิฉันถึงขนาดพาไปบ้านแม่ดิฉันเองแต่ไปทุกอาทิตย์ก็ไม่ไหวเพราะงานบ้าน ซักผ้าด้วยอะไรด้วย
ช่วยแนะนำวิธีหน่อยเถอะค่ะ ดิฉันไม่ทราบว่าการที่ลูกสาวเจอสถานการณ์แบบนี้จะมีผลอย่างไรกับแกบ้างในเชิงจิตเวชเด็ก จะมีปมอะไรไหม แต่รู้แค่ว่าไม่ดีแน่ๆค่ะ

2. เท่าที่อ่านมา ดิฉันเป็นแม่ที่ระเบียบจัดไปไหมคะ ดิฉันซีเรียสกับลูกมากเกินไปไหมเพราะแม่สามีกะน้องชายสามีบอกว่าดิฉันเคร่งเครียดกับลูกมากไป น้องชายสามีเคยตอกหน้าดิฉันว่า "ลูกผมยังเด็กก็ต้องเลี้ยงให้สมกะที่ยังเด็กจุดประสงค์ในการเลี้ยงลูกของผมคือทำให้เค้ามีความสุขที่สุด เรียนไม่เก่งก็ปล่อยมันตอนขึ้น ม.1 ผมก็มีเงินยัดอยู่ดี" ดิฉันนี้อึ้งในอึ้งเลยค่ะ

3. เด็กที่โดนล้อเลียนมากๆ แหย่มากๆ จะมีผลอะไรกับเด็กบ้างคะ

ขอบคุณทีอ่านจนถึงบรรทัดนี้นะคะ รบกวนด้วยค่ะดิฉันรักลูกมากจริงๆ ตอนนี้รู้สึกสับสนว่าที่ทำอยู่ถูกหรือผิด เห็นหน้าเศร้าๆของลูกแล้วมันเสียใจอย่างบอกไม่ถูกเลยค่ะ แต่ดิฉันไม่มีความต้องการจะไปยุ่งหรือสั่งสอนหลานนะคะ เพราะแอบพยายามหลายรอบแล้วก็เจอปัญหากับแม่และน้องชายสามีตลอดเลยค่ะ
ปล.แก้ไขเนื้อหาจาก น้องชายของน้องชายสามี เป็นน้องชายสามีนะคะ แหะๆ พิมผิดค่ะ ขออภัยที่ทำให้งง สามีมีน้องชายคนเดียวค่ะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 16
จากคนหนึ่งที่เจอเหตุการณ์แบบลูกคุณตอนนี้ หนักกว่าที่เราเป็นพี่ เลยถูกมองว่าต้องเป็นผู้ใหญ่กว่า ยายจะสอนเราแบบคุณสอนลูก(เราอยู่บ้านยาย) ส่สนน้องชาย(ลูกน้า) ยายจะโอ๋เพราะอยู่อีกบ้าน กลัวหลานไม่รัก

เรานี่เก็บกด ละเก็บตัวหนักมาก ได้แต่โทษแม่ ทำไมแม่ไม่ปกป้องความรู้สึกเรา ทำไมแม่ให้ยายใช้เราทำงานบ้าน ทำไมแม่ไม่โอ๋เราเหมือนน้า ได้แต่ถามว่าทำไม

บนเรากลายเป็นคนเงียบ ไม่เข้าสังคมมรเพื่อนน้อยมาก ดีหน่อยที่ตอนม.2ได้ช่วยงาน และใกล้ชิดครู2ท่าน ท่านบอกแววตาเราเศร้ามาก ไม่ใช่แววตาเด็กวัยนี้ ท่านค่อยๆหลอกถามทีละน้อย ใช้จิตวิทยาเด็กเข้าช่วย จนเราดีขึ้นมาก ขอบคุณท่านทั้ง2จริงๆ ถึงตอนนี้เรายังเงียบละเพื่อนน้อย แต่เราก็ไม่รู้สึกแย่มากๆเหมือนเมื่อก่อนละ แต่ความรู้สึกแย่นั้นไม่มีทางหายไปเลย

คุณแม่ไปปรึกษาจิตแพทย์เด็กก็ดีนะคะ เราไม่ต้องกลัวว่าใครจะว่าลูกเรามีปัญหา ลูกเราเรารู้ดี เราแค่ต้องการแนวทางทีาเหมาะสม อย่าปล่อยให้ลูกคุณรู้สึกว่าพ่อแม่ที่เขารัก ปกป้องเขาไม่ได้ และยังมาทำร้ายติตใจเขาเอง ถ้าความรู้สึกยิ่งฝังลึกในใจลูกคุณ มันยิ่งแก้ยากนะคะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่