เราแพ้บุหรี่ถ้าได้กลิ่นบุหรี่จะไอ และหายใจไม่ค่อยออก
เราซื้อบ้านมา 2 ปีแล้ว บ้านอยู่ติดกับ Sale office จากกำแพงบ้านเราถึง sale office ห่างกันประมาณ 4 ม.
คนมาซื้อบ้านบ้าง เซลล์ของโครงการบ้าง เซลล์แบงค์บ้างมักมาจอดรถที่หน้าบ้านเรา แต่ไม่จอดที่ sale office ตรงนี้ไม่มีปัญหาอะไรเพราะเราเข้าใจดี
ตั้งแต่โครงการขายใกล้จะหมด office ของฝ่ายวิศวะและช่าง ย้ายมาอยู่sale office ตั้งแต่เดือนสิงหาจนถึงธันวาคม
ตั้งแต่นั้นมาจะได้กลิ่นบุหรี่ทุกวัน วันละไม่ต่ำกว่า 10 รอบมาสูบตั้งแต่แปดโมงเลยทีเดียว เราเป็นแม่บ้านอยู่บ้านตลอด อยู่นอกบ้านบ้างเพราะทำงานบ้านต้องปัดกวาดเช็ดถู ซักผ้า ปลูกและดูแลต้นไม้ รถน้ำต้นไม้ ทิ้งขยะ ตัดหญ้า อยู่ในบ้านก็จะเปิดหน้าต่างไว้เพื่อให้อากาสระบาย และจะได้เย็นแบบธรรมชาติแถมยังประหยัดค่าไฟด้วย แต่เราก็ทนด้วยการหลีกเลี่ยงพอได้กลิ่นบุหรี่ก็จะรีบเข้าบ้านปิดหน้าต่างให้หมด ทำให้ทำงานบ้านไม่เสร็จค้างๆคางๆ เป็นอย่างนี้มา 2 เดือน เช่นตากผ้าอยู่ยังไม่เสร็จก็ต้องเข้าบ้านไปหลบบุหรี่ กะว่าสูบเสร็จค่อยไปตากอีก พอไปตากอีกสักพักช่างก็มาสูบบุหรีอีก วันนึงตากผ้า3-4ครั้งกว่าจะเสร็จ เวลาของฉันมีค่ามาก (เพราะเราทำหลายอย่างเป็นแม่บ้าน ขายเสื้อผ้าออนไลน์ และเป็นเซลล์ฟรีแลนด์อยู่ที่บ้านด้วย) เลยค่อยข้างเสียงเวลากับสภาพทำงานบ้านไม่เสร็จสักทีค่ะ
จนทนไม่ไหวแล้วเพราะคิดว่า...ทำไมต้องทน? ทำไมไม่บอกเค้า? เพราะเค้ามาทำงานแล้วมาสูบบุหรี่ที่ทำงานมันไม่น่าจะเหมาะแถมส่งกลิ่นรบกวนลูกบ้าน ถ้าจะสูบไปสูบที่บ้านตัวอย่างซิเกรงใจลูกค้าใหม่แต่ไม่เกรงลูกบ้านเก่าที่จ่ายเงินให้หรือไม่ก็สูบในออฟฟิตไปเลย,,,, อ้อที่สำคัญมีลูกน้อย 3 ขวบกว่า น้องชอบออกมาเล่นนอกบ้านด้วยซึ่งแน่นอนบุหรี่มีผลต่อผู้ได้รับควันด้วยโดยเฉพาะเด็ก(คุณพ่อคุณแม่ที่มีลูกน้อยส ลูกก็อยากออกไปนอกบ้านก็ออกไม่ได้งอแง ก็พยายามอธิบายให้ลูกฟัง น้องฟังค่ะแต่ด้วยความเป็นเด็กไม่สามารถควบคุมอารมณ์ได้เหมือนผู้ใหม่ .... เนื่องจากเราทนไม่ไหวทำให้เรากลายเป็นคนขี้หงุดหงิด(ไม่ชอบเลย)
ไม่ทนละ.........ตัดสินใจบอกเชิงขอร้องกับช่างตอนที่เค้าสูบ...."ขอโทษนะคะ สูบบุหรี่ตรงโน้นได้ไหมค่ะ(เสียงแบบอ่อนโยน)" ช่างก็ไปออกไปสูบไกลให้
เราก็บอกขอบคุณค่ะ...... ต่อมาลูกเลิกเรียน สักบ่าย สามบ่ายสี่ออกมาเล่นหน้าชมนกชมไม้ตามประสาเค้าชวนแม่ออกไปเล่นเล่นเป็นเพื่อน...คุณแม่ก็เลยปลูกต้นไม้ เตรียมอุปกรณ์มาพร้อมแล้วขุดดิน ได้ครึ่งนึง...มันมาแล้วควันบุหรี่...เราเลยตัดสินใจจะพาลูกเข้าบ้านลูกก็ไม่ยอมเราเลยพูดบอกเค้าไปอีกรอบ
"ขอโทษนะคะ สูบบุหรี่ตรงโน้นได้ไหม คราวนี้เค้ามองหน้าเราทำหน้าประมาณว่าจะสูบแล้วทำไมและไม่สนใจที่เราพูด สูบต่อไปอีก เราขึ้นเลยทีนี้.....แต่ไม่ได้ด่าเค้านะ...เราเลยพูดอีกว่าเราแพ้บุหรี่ แถมมีเด็กด้วย...เค้าไม่สนใจที่เราพูดแต่คุยกับช่างอีกคนสูบบุหรี่ด้วยกันเฉยเลย เรายิ่งขึ้นใหญ่...แต่เก็บไว้ในใจลากลูกเข้าบ้านลูกก็ร้องให้งงแงใหญ่เลย..........อยู่แต่ในบ้านไม่ด้ออกบ้านอีกเลย เพราะพอช่างเลิกงานก็เกือบ6โมง มันก็ค่ำแล้วออกไปข้างนอกไม่ได้ยุงกัดลูกอีก หกโมงนี่นั่งสูบบุหรี่หน้าSale office ตั้งนานกว่าจะกลับบ้านอีก
วันต่อมาเหมือนเดิมเราอดทนแต่พอตอนเย็นลูกออกมาเล่นอีกเหม็นบุหรี่อีก...เราบอกลูกให้เข้าบ้าน ลูกไม่ยอมร้องไห้งงแง เราเลยพูดประชดให้ช่างที่สูบบุหรี่ได้ยิน (ตอนเราพูดดีๆๆขอร้องดีๆๆไม่สนใจ ) ตะโกนเสียงดัง"เข้าบ้านเดี๋ยวนี้นะ เห็นไหมเหม็นบุหรี่ มันทำลายสมองเดี๋ยวต้องเข้ารพ.อีกเอาไหม"

ฟิวส์ขาดมาก) ช่างตกใจรีบขับมอร์ไซด์ออกไปเลย....พอเราเข้าบ้านก็ขอโทษลูกใหญ่เลย บอกลูกว่าแม่โมโหให้ช่างนะไม่ได้โมโหลูกนะแม่รักลูกนะไม่เอาอย่างแม่เมื้อกี้นะ ลูกก็น่ารักที่เข้าใจแต่ก็ยังอยากออกไปข้างนอกอยู่ดี....ตั้งแต่นั้นมาพอช่างที่สูบบุหรี่พอเห็นเราปิดหน้าต่างปุ๊บรีบหันมาดูแล้ววิ่งหนี้ไปสูบไกลๆเลย กลัวระเบิดลงอีก 555 ..... โอเคพอเค้าเริ่มเกรงใจเรา เราก็รู้สึกดีขึ้นมาเพราะสองเดือนที่ผ่านมาเราเกรงใจเลยอดทนมาตลอด ...และเริ่มพยายามเลี่ยงสูบบุหรี่ไกลๆ และเราเองก็จะรีบเข้าบ้านปิดหน้าอดทนอีกนิดแม้งานบ้านจะไม่เสร็จสักทีก็ตาม
เรื่องนี้ถือว่าจบ
ประเด็นใหญ่และใหญ่สำหรับเรามาอีกก่อนปิดปีใหม่
คนของโครงการมบ.จ้างรถเหมาขับมาแล้วจอดหน้าบ้านเรา โอเคเราไม่ได้อะไร ตอนนั้นกำลังรถน้ำต้นไม้อยู่ยังไมถึงครึ่งสวนเลย ได้กลิ่นบุหรี่มาเชียวไอเลยเรา เลยไปบอกคนขับรถเหมาให้กับคนของโครงการยืนสูบบุหรี่หน้าบ้านเราปล่อยควันโขมงอย่างเต็มที่เลย
เรา: ขอโทษนะคะ เหม็นบุหรี่ค่ะ (เรารถน้ำไปด้วย คิดว่าเค้าคงรู้เราทำงานบ้านอยู่ อยากให้เค้าไปสูบอีกฝั่งถนนหน้าโชว์รูม)(เราพูดน้ำเสียงออกแนวเกรงใจ)
คนที่สูบบุหรี่ : หรอ (ทำหน้ากวนๆ) ถ้าอย่างงั้นอยู่บนโลกนี้ไม่ได้หรอนะ (น้ำเสียงกวนมาก )(ผช.คนนี้น่าจะอายุราวๆ40 กว่า)
เรา: นี่มันหน้าบ้านหนูนะคะ
คนที่สูบบุหรี่ : หน้าบ้านแล้วไง ฮะ ฮะ ฮะ (เค้าจะต่อยฉันค่ะ)( พร้อมทั้งชี้หน้า เค้าตะโกนว่าเรา) คุณไปบ้านผมไหม ไปไหม ไปไหม ไปดูเลยกฏหมายเค้าไม่มีห้าม ไปดูเลยไปดูเลย ถนนหน้าบ้านคุณซื้อหรอ มันสาธารณะ ไปไหมๆ คุณไปหน้าบ้านผมบ้างซ้ (พูดย้ำบ่อยมาก ชี้หน้าเราตลอดเวลาที่พูด)
เราเลยขึ้นใหญ่เลยค่ะ
แล้วเดินหนีออกมาจากหน้าบ้านไปข้างบ้าน บ่นอยู่คนเดียว 'ใครกันแน่อยู่บนโลกนี้ไม่ได้ สูบบุหรี่เยอะเดี๋ยวก็ตายแล้ว"
พอผช.คนนั้นขึ้นรถเราค่อยเดินมารถน้ำที่หน้าบ้าน มันเห็นเราเดินลงมาชี้หน้าว่าให้เราอีก "ไปดูเลยกฏหมาย กฏหมายข้อไหนถนนก็ไม่ซื้อ คุณซื้อถนนหรอ(ตะโกนว่าเรา)
เรา: กฏหมายไม่เกี่ยว มันเป็นมารยาททางสังคม (แล้วเราก็จบ เลิกพูดแล้ว)
ผช.คนนี้ยังชี้หน้าว่าเราไม่ยอมหยุดทำท่าขึ้นรถอยู่ 3 รอบแล้วก็ลงมาชี้หน้าว่าเราอีก เราก็ไม่พูดอะไร
จนรอบที่สี่แกขึ้นรถกลับรถออกมา มาจอดหน้าบ้านใกล้ตรงที่ฉันรดน้ำต้นไม้แล้วเปิดกระจกแล้วทำเสียงหัวเราะเยอะใส่ฉันแต่ฉันก็ไม่มองหน้าเค้า
.............เกิดมาไม่เคยเห็นผช.ตะโกนใส่หน้าผญ.แถมชี้หน้าด้วย ถ้าเราเป็นผช.เพศเดียวกันว่าไปอย่าง.......
ยอมรับนะว่า ตลอดเวลาที่ผช.คนนี้ตะโกนว่าเรา ชี้หน้าเรา แถมเท่าท่าจะเข้ามาในบ้านจะต่อยเราไม่คิดว่าเป็นผช.เลยเห็นเหมือนเราเป็นคู่อริที่โกรธกันมานาน...เรากลัวจนตัวสั่นใจสั่นไปหมด...เกิดมาไม่เคยเจออะไรแบบนี้เลย.....จริงๆเราเป็นคนที่ใจเย็นพอสมควรไม่ค่อยกล้าสู้คนไม่เคยทะเลอะกับใครเลย....นอกจากเรื่องนี้ค่ะ
คนของโครงการเห็นแต่ไม่ช่วยอะไรเลย เราก็ตัวเล็ก 30 ต้นๆเอง ไม่มีใครคิดจะมาช่วยเราเลยทั้งๆที่เป็นลูกบ้านของโครงการเข้าใจนะว่ากลัวโดนลูกหลงจากผช.คนนี้เหมือนกัน
เราไม่กล้าเอาเรื่องเค้าเพราะกลัวเค้าจะมาเอาคืน เพราะเราอยู่บ้านคนเดียวตลอดตั้งแต่เช้าถึงบ่ายสองคริ่งแล้ว บ่ายสองครึ่งลูกน้อยก็กลับบ้าน ทุ่มสองทุ่มสามีถึงกลับถึงบ้านค่ะ
นี่นั่งพิมพ์ไปน้ำตาไหลไปเอง....ปาดน้ำก่อนนะ............ นี่ผ่านไปอาทิตย์กว่าแล้ว
เบื้องต้นเพิ่งไปบอกยามมาค่ะ ยามบอกว่า...เค้าผิดเต็มเพราะเราเป็นลูกบ้าน
1.การที่คนขับรถของโครงการจ้างมา แล้วคนขับรถสูบบุหรี่หน้าบ้านเรา เราไม่มีสิทธิ์กับถนนหน้าบ้านเราหรอค่ะ
ใครมายืนสูบบุหรี่หรือมาจอดรถหน้าบ้านเราก็ได้หรอค่ะ ในด้านกฏหมายก็ไม่มีสิทธิ์หรอค่ะ(ตามที่ผช.คนนั้นพูด)
2.การที่มีเรื่องกันที่ผช.คนนี้ชี้หน้าว่าให้เรา ปกติทางโครงการควรรับผิดชอบหรือควรช่วยเหลือเราไหมค่ะ แล้วจะต้องทำยังไง กลัวผช.คนนี้เข้ามาอีกค่ะ
3.มีใครเคยเจอเหตุการณ์แบบนี้ไหมค่ะ มีวิธีป้องกันตัวเองหรือจะทำยังไงต่อค่ะ
4.เราพูดด้วยน้ำเสียงขอร้อง ว่า "ขอโทษนะคะ เหม็นบุหรี่ค่ะ " ถ้าคุณเป็นผช.ที่สูบบุหรี่คุณจะโมโหขนาดนั้นเลยหรอค่ะ
ขอบคุณค่ะ
ปล.เวลาเราไปตลาดไปห้างไม่มีใครเค้าสูบบุหรี่ที่ชุมชนค่ะ ก็เลยไม่ค่อยเจอควันบุหรี่แต่ถ้าเจอจริงๆๆ เราก็เดินเลี่ยงนะ
มีเรื่องกับคนมายืนสูบบุหรี่หน้าบ้านเรา
เราซื้อบ้านมา 2 ปีแล้ว บ้านอยู่ติดกับ Sale office จากกำแพงบ้านเราถึง sale office ห่างกันประมาณ 4 ม.
คนมาซื้อบ้านบ้าง เซลล์ของโครงการบ้าง เซลล์แบงค์บ้างมักมาจอดรถที่หน้าบ้านเรา แต่ไม่จอดที่ sale office ตรงนี้ไม่มีปัญหาอะไรเพราะเราเข้าใจดี
ตั้งแต่โครงการขายใกล้จะหมด office ของฝ่ายวิศวะและช่าง ย้ายมาอยู่sale office ตั้งแต่เดือนสิงหาจนถึงธันวาคม
ตั้งแต่นั้นมาจะได้กลิ่นบุหรี่ทุกวัน วันละไม่ต่ำกว่า 10 รอบมาสูบตั้งแต่แปดโมงเลยทีเดียว เราเป็นแม่บ้านอยู่บ้านตลอด อยู่นอกบ้านบ้างเพราะทำงานบ้านต้องปัดกวาดเช็ดถู ซักผ้า ปลูกและดูแลต้นไม้ รถน้ำต้นไม้ ทิ้งขยะ ตัดหญ้า อยู่ในบ้านก็จะเปิดหน้าต่างไว้เพื่อให้อากาสระบาย และจะได้เย็นแบบธรรมชาติแถมยังประหยัดค่าไฟด้วย แต่เราก็ทนด้วยการหลีกเลี่ยงพอได้กลิ่นบุหรี่ก็จะรีบเข้าบ้านปิดหน้าต่างให้หมด ทำให้ทำงานบ้านไม่เสร็จค้างๆคางๆ เป็นอย่างนี้มา 2 เดือน เช่นตากผ้าอยู่ยังไม่เสร็จก็ต้องเข้าบ้านไปหลบบุหรี่ กะว่าสูบเสร็จค่อยไปตากอีก พอไปตากอีกสักพักช่างก็มาสูบบุหรีอีก วันนึงตากผ้า3-4ครั้งกว่าจะเสร็จ เวลาของฉันมีค่ามาก (เพราะเราทำหลายอย่างเป็นแม่บ้าน ขายเสื้อผ้าออนไลน์ และเป็นเซลล์ฟรีแลนด์อยู่ที่บ้านด้วย) เลยค่อยข้างเสียงเวลากับสภาพทำงานบ้านไม่เสร็จสักทีค่ะ
จนทนไม่ไหวแล้วเพราะคิดว่า...ทำไมต้องทน? ทำไมไม่บอกเค้า? เพราะเค้ามาทำงานแล้วมาสูบบุหรี่ที่ทำงานมันไม่น่าจะเหมาะแถมส่งกลิ่นรบกวนลูกบ้าน ถ้าจะสูบไปสูบที่บ้านตัวอย่างซิเกรงใจลูกค้าใหม่แต่ไม่เกรงลูกบ้านเก่าที่จ่ายเงินให้หรือไม่ก็สูบในออฟฟิตไปเลย,,,, อ้อที่สำคัญมีลูกน้อย 3 ขวบกว่า น้องชอบออกมาเล่นนอกบ้านด้วยซึ่งแน่นอนบุหรี่มีผลต่อผู้ได้รับควันด้วยโดยเฉพาะเด็ก(คุณพ่อคุณแม่ที่มีลูกน้อยส ลูกก็อยากออกไปนอกบ้านก็ออกไม่ได้งอแง ก็พยายามอธิบายให้ลูกฟัง น้องฟังค่ะแต่ด้วยความเป็นเด็กไม่สามารถควบคุมอารมณ์ได้เหมือนผู้ใหม่ .... เนื่องจากเราทนไม่ไหวทำให้เรากลายเป็นคนขี้หงุดหงิด(ไม่ชอบเลย)
ไม่ทนละ.........ตัดสินใจบอกเชิงขอร้องกับช่างตอนที่เค้าสูบ...."ขอโทษนะคะ สูบบุหรี่ตรงโน้นได้ไหมค่ะ(เสียงแบบอ่อนโยน)" ช่างก็ไปออกไปสูบไกลให้
เราก็บอกขอบคุณค่ะ...... ต่อมาลูกเลิกเรียน สักบ่าย สามบ่ายสี่ออกมาเล่นหน้าชมนกชมไม้ตามประสาเค้าชวนแม่ออกไปเล่นเล่นเป็นเพื่อน...คุณแม่ก็เลยปลูกต้นไม้ เตรียมอุปกรณ์มาพร้อมแล้วขุดดิน ได้ครึ่งนึง...มันมาแล้วควันบุหรี่...เราเลยตัดสินใจจะพาลูกเข้าบ้านลูกก็ไม่ยอมเราเลยพูดบอกเค้าไปอีกรอบ
"ขอโทษนะคะ สูบบุหรี่ตรงโน้นได้ไหม คราวนี้เค้ามองหน้าเราทำหน้าประมาณว่าจะสูบแล้วทำไมและไม่สนใจที่เราพูด สูบต่อไปอีก เราขึ้นเลยทีนี้.....แต่ไม่ได้ด่าเค้านะ...เราเลยพูดอีกว่าเราแพ้บุหรี่ แถมมีเด็กด้วย...เค้าไม่สนใจที่เราพูดแต่คุยกับช่างอีกคนสูบบุหรี่ด้วยกันเฉยเลย เรายิ่งขึ้นใหญ่...แต่เก็บไว้ในใจลากลูกเข้าบ้านลูกก็ร้องให้งงแงใหญ่เลย..........อยู่แต่ในบ้านไม่ด้ออกบ้านอีกเลย เพราะพอช่างเลิกงานก็เกือบ6โมง มันก็ค่ำแล้วออกไปข้างนอกไม่ได้ยุงกัดลูกอีก หกโมงนี่นั่งสูบบุหรี่หน้าSale office ตั้งนานกว่าจะกลับบ้านอีก
วันต่อมาเหมือนเดิมเราอดทนแต่พอตอนเย็นลูกออกมาเล่นอีกเหม็นบุหรี่อีก...เราบอกลูกให้เข้าบ้าน ลูกไม่ยอมร้องไห้งงแง เราเลยพูดประชดให้ช่างที่สูบบุหรี่ได้ยิน (ตอนเราพูดดีๆๆขอร้องดีๆๆไม่สนใจ ) ตะโกนเสียงดัง"เข้าบ้านเดี๋ยวนี้นะ เห็นไหมเหม็นบุหรี่ มันทำลายสมองเดี๋ยวต้องเข้ารพ.อีกเอาไหม"
เรื่องนี้ถือว่าจบ
ประเด็นใหญ่และใหญ่สำหรับเรามาอีกก่อนปิดปีใหม่
คนของโครงการมบ.จ้างรถเหมาขับมาแล้วจอดหน้าบ้านเรา โอเคเราไม่ได้อะไร ตอนนั้นกำลังรถน้ำต้นไม้อยู่ยังไมถึงครึ่งสวนเลย ได้กลิ่นบุหรี่มาเชียวไอเลยเรา เลยไปบอกคนขับรถเหมาให้กับคนของโครงการยืนสูบบุหรี่หน้าบ้านเราปล่อยควันโขมงอย่างเต็มที่เลย
เรา: ขอโทษนะคะ เหม็นบุหรี่ค่ะ (เรารถน้ำไปด้วย คิดว่าเค้าคงรู้เราทำงานบ้านอยู่ อยากให้เค้าไปสูบอีกฝั่งถนนหน้าโชว์รูม)(เราพูดน้ำเสียงออกแนวเกรงใจ)
คนที่สูบบุหรี่ : หรอ (ทำหน้ากวนๆ) ถ้าอย่างงั้นอยู่บนโลกนี้ไม่ได้หรอนะ (น้ำเสียงกวนมาก )(ผช.คนนี้น่าจะอายุราวๆ40 กว่า)
เรา: นี่มันหน้าบ้านหนูนะคะ
คนที่สูบบุหรี่ : หน้าบ้านแล้วไง ฮะ ฮะ ฮะ (เค้าจะต่อยฉันค่ะ)( พร้อมทั้งชี้หน้า เค้าตะโกนว่าเรา) คุณไปบ้านผมไหม ไปไหม ไปไหม ไปดูเลยกฏหมายเค้าไม่มีห้าม ไปดูเลยไปดูเลย ถนนหน้าบ้านคุณซื้อหรอ มันสาธารณะ ไปไหมๆ คุณไปหน้าบ้านผมบ้างซ้ (พูดย้ำบ่อยมาก ชี้หน้าเราตลอดเวลาที่พูด)
เราเลยขึ้นใหญ่เลยค่ะ
แล้วเดินหนีออกมาจากหน้าบ้านไปข้างบ้าน บ่นอยู่คนเดียว 'ใครกันแน่อยู่บนโลกนี้ไม่ได้ สูบบุหรี่เยอะเดี๋ยวก็ตายแล้ว"
พอผช.คนนั้นขึ้นรถเราค่อยเดินมารถน้ำที่หน้าบ้าน มันเห็นเราเดินลงมาชี้หน้าว่าให้เราอีก "ไปดูเลยกฏหมาย กฏหมายข้อไหนถนนก็ไม่ซื้อ คุณซื้อถนนหรอ(ตะโกนว่าเรา)
เรา: กฏหมายไม่เกี่ยว มันเป็นมารยาททางสังคม (แล้วเราก็จบ เลิกพูดแล้ว)
ผช.คนนี้ยังชี้หน้าว่าเราไม่ยอมหยุดทำท่าขึ้นรถอยู่ 3 รอบแล้วก็ลงมาชี้หน้าว่าเราอีก เราก็ไม่พูดอะไร
จนรอบที่สี่แกขึ้นรถกลับรถออกมา มาจอดหน้าบ้านใกล้ตรงที่ฉันรดน้ำต้นไม้แล้วเปิดกระจกแล้วทำเสียงหัวเราะเยอะใส่ฉันแต่ฉันก็ไม่มองหน้าเค้า
.............เกิดมาไม่เคยเห็นผช.ตะโกนใส่หน้าผญ.แถมชี้หน้าด้วย ถ้าเราเป็นผช.เพศเดียวกันว่าไปอย่าง.......
ยอมรับนะว่า ตลอดเวลาที่ผช.คนนี้ตะโกนว่าเรา ชี้หน้าเรา แถมเท่าท่าจะเข้ามาในบ้านจะต่อยเราไม่คิดว่าเป็นผช.เลยเห็นเหมือนเราเป็นคู่อริที่โกรธกันมานาน...เรากลัวจนตัวสั่นใจสั่นไปหมด...เกิดมาไม่เคยเจออะไรแบบนี้เลย.....จริงๆเราเป็นคนที่ใจเย็นพอสมควรไม่ค่อยกล้าสู้คนไม่เคยทะเลอะกับใครเลย....นอกจากเรื่องนี้ค่ะ
คนของโครงการเห็นแต่ไม่ช่วยอะไรเลย เราก็ตัวเล็ก 30 ต้นๆเอง ไม่มีใครคิดจะมาช่วยเราเลยทั้งๆที่เป็นลูกบ้านของโครงการเข้าใจนะว่ากลัวโดนลูกหลงจากผช.คนนี้เหมือนกัน
เราไม่กล้าเอาเรื่องเค้าเพราะกลัวเค้าจะมาเอาคืน เพราะเราอยู่บ้านคนเดียวตลอดตั้งแต่เช้าถึงบ่ายสองคริ่งแล้ว บ่ายสองครึ่งลูกน้อยก็กลับบ้าน ทุ่มสองทุ่มสามีถึงกลับถึงบ้านค่ะ
นี่นั่งพิมพ์ไปน้ำตาไหลไปเอง....ปาดน้ำก่อนนะ............ นี่ผ่านไปอาทิตย์กว่าแล้ว
เบื้องต้นเพิ่งไปบอกยามมาค่ะ ยามบอกว่า...เค้าผิดเต็มเพราะเราเป็นลูกบ้าน
1.การที่คนขับรถของโครงการจ้างมา แล้วคนขับรถสูบบุหรี่หน้าบ้านเรา เราไม่มีสิทธิ์กับถนนหน้าบ้านเราหรอค่ะ
ใครมายืนสูบบุหรี่หรือมาจอดรถหน้าบ้านเราก็ได้หรอค่ะ ในด้านกฏหมายก็ไม่มีสิทธิ์หรอค่ะ(ตามที่ผช.คนนั้นพูด)
2.การที่มีเรื่องกันที่ผช.คนนี้ชี้หน้าว่าให้เรา ปกติทางโครงการควรรับผิดชอบหรือควรช่วยเหลือเราไหมค่ะ แล้วจะต้องทำยังไง กลัวผช.คนนี้เข้ามาอีกค่ะ
3.มีใครเคยเจอเหตุการณ์แบบนี้ไหมค่ะ มีวิธีป้องกันตัวเองหรือจะทำยังไงต่อค่ะ
4.เราพูดด้วยน้ำเสียงขอร้อง ว่า "ขอโทษนะคะ เหม็นบุหรี่ค่ะ " ถ้าคุณเป็นผช.ที่สูบบุหรี่คุณจะโมโหขนาดนั้นเลยหรอค่ะ
ขอบคุณค่ะ
ปล.เวลาเราไปตลาดไปห้างไม่มีใครเค้าสูบบุหรี่ที่ชุมชนค่ะ ก็เลยไม่ค่อยเจอควันบุหรี่แต่ถ้าเจอจริงๆๆ เราก็เดินเลี่ยงนะ