สวัสดีครับ ก่อนอื่นเลยเนื่องจากกระทู้นี้มีเรื่องของค่าใช้จ่าย (เงิน)
จึงขออนุญาตแท็กห้องสินธรด้วยนะครับ
เหตการณ์ที่มาที่ไป-สถานการณ์ปัจจุบัน
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ก่อนอื่นตัวผมในปัจจุบันขณะนี้เป็นนักศึกษาในมหาวิทยาลัยเอกชนแห่งหนึ่ง เนื่องจากที่บ้านไม่ส่งให้เรียนต่อตั้งแต่สมัยมัธยมปลาย ผมจึงต้องทำงานและหาค่าใช้จ่ายทุกอย่างในชิวิตประจำวันเอง ตั้งแต่ที่พักอาศัย กิน ไปจนถึงกระทั้งค่าเทอม และด้วยงานพิเศษที่ผมทำ ทำให้ผมได้ทำงานกับที่บริษัทชื่อดังแห่งหนึ่ง ซึ่งบริษัทนี้มีสวัสดิการจ่ายค่าเทอมให้กับ(ลูก)คนในบริษัท ผมจึงได้ลองสอบถามและขอรับความช่วยเหลือ โดยพี่เจ้าของบริษัทเป็นคนรับปากว่าจะช่วยเหลือค่าเทอมดังกล่าวของผม ปีการศึกษาละ 1 ครั้ง (1 เทอม/ 1 ปี)
มีเงื่อนไขดังนี้
1 ผมต้องสอบได้เกรดเฉลี่ยเกิน 3.00 (ปัจจุบันเกรดออกมาครบหมดแล้ว ผมได้เกรดเฉลี่ยของเทอม 1 3.60)
2 ช่วยเหลืองานที่บริษัทช่วงที่ผมสะดวก
ทั้งสองเงื่อนไขนั้น ผมได้ทั้งทำการทดลองงาน ไปจนกระทั้งขึ้นไปทำงานที่บริษัทที่อยู่ต่างจังหวัด แต่ด้วยสภาพการทำงานที่ไม่มีความชัดเจน การเปลี่ยนแปลงคำสั่งไปมา การเปลี่ยนแปลงบรีฟงาน และ ผู้ตัดสินใจสูงสูดว่างานที่ทำผ่านไม่ผ่านไม่ใช่คนเดียวกับคนที่ตกลงจ้างงาน (เคยบอกว่าผ่าน แต่พอให้อีกท่านตรวจสอบก็แจ้งมาว่ายังไม่ผ่าน) ทำให้การทำงานเต็มไปด้วยความลำบาก งานโดน interruption จนไม่เสร็จตามที่ทางนั้นต้องการ (ตั้งแต่การโดนขัดขวางการสัมภาษณ์ พนักงานบริษัทไม่ให้ความร่วมมือ การเปลี่ยนแปลงผังองกรค์ในบริษัทไปมา ฯลฯ)
สรุป ผมไปทำงานที่นั้นทั้งหมด 2 ครั้ง และทั้งสองครั้งก็ได้รับค่าจ้างกลับมา
ปกติแล้วการเรียนในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษาแรกนั้นเกรดจะออกช้ามาก ซึ่งผมได้แจ้งกับทางนั้นไปว่าเกรดอาจจะออกช้า แต่คุณสามารถดูแนวโน้มได้จากเกรดแต่ละตัวที่ออกมาเรื่อยๆ ทางนั้นแจ้งกลับมาว่าอาจจะต้องมีการพิจาณาหลายๆอย่าง ทุกอย่างเงียบไปจนกระทั้งเข้าสู่เทอมสองที่ผมจำเป็นต้องชำระค่าลงทะเบียนการศึกษา ผมไม่สามารถติดต่อกับทางบริษัทได้ จนกระทั้งได้โทรศัพท์ไปหาทางนั้นแจ้งผมกลับมาว่า "คงไม่สะดวกทำตามเงื่อนไขที่ได้ตกลงกันไว้เรื่องของผม" ก่อนจะวางสายไป
ไม่มีการทำสัญญาไว้ ทั้งหมดมีแค่เทปเสียงที่บันทึกคำพูดขณะที่รับปากผมเท่านั้นว่าจะช่วยเหลือและเป็นธุระให้ในการจัดการชำระค่าเทอม
คือ ผมไม่คาดหวังแล้วครับว่าผมจะได้รับความช่วยเหลือจากทางบริษัทอีก เพราะในเมื่อเขาไม่สามารถใช้ประโยชน์จากเราได้แล้ว ไม่มีความจำเป็นอะไรที่จะต้องเทคแคร์ผมอีก แต่ผมต้องการเล่าที่มาที่ไปเพื่อให้เห็นภาพนะครับว่าทำไมเด็กที่ต้องทำงานหาเงินใช้จ่ายเองคนเดียวถึงได้กล้าเลือกที่จะศึกษาต่อในระดับมหาวิทยาลัยเอกชนแทนรัฐบาล ไม่ใช่ผมไม่เจียมตัว แต่เมื่อมีโอกาสผมก็อยากจะไขว้คว้าและมอบให้ตัวเองให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ครับ
รายรับและรายจ่ายในชีวิตประจำวันของผม
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ผมมีรายรับได้มาจากทางช่องทางต่างๆต่อไปนี้
- สอนภาษาไทยให้กับเพื่อนชาวจีน 2 ชม / 100 บาท ต่อวัน << รายได้ไม่แน่นอน
- สอนพิเศษเด็กมัธยมต้น-ปลาย 1 ชม / 100 บาท ต่อวัน << รายได้ไม่แน่นอน
- ทุนกยศเงินช่วยเหลือ 2200 / เดือน , ทุนค่าเล่าเรียน = ค่าเรียนตามจริง 1 เทอม / 1ปีการศึกษา (กยศให้กู้สูงสุด 4 หมื่นบาท/เทอม , ค่าเทอมที่มหาวิทยาลัย 18 หน่วยกิจ เกือบ 40,000 บาท ครับ) << รายได้แน่นอน
- ทุนให้เปล่าทุกๆ 30,000 - 40,000 บาท / 1 ปีการศึกษา โดยมีเงื่อนไขว่าเกรดเฉลี่ยห้ามต่ำกว่า 3.50 << รายได้แน่นอน
- ฯลฯ งานพิเศษต่างๆที่ทำในช่วงนั้น เช่น การตีพิมพ์หนังสือนิยาย การรับจ้างเพื่อนทำการบ้านต่างๆ
รายจ่ายในชีวิตประจำวันของผม
- ค่าเช่าห้อง 4 พันบาท/เดือน รวมน้ำไฟ
- ค่าเทอม 40,000/ 1เทอม โดยมีกำหนดชำระช่วง พ.ค-ก.ค / พ.ย-ม.ค ของทุกปี
- ค่ากิน/จิปาถะ 6000 / เดือน
คำถาม
ผมควรสู้ต่อดีไหมครับ? ถ้านับกยศแล้ว ผมก็จะเหลือค่าใช้จ่ายที่ต้องชำระเองแค่ 4 หมื่นบาท / 1 ปีการศึกษา กับค่าใช้จ่ายเกือบ 1 หมื่นบาท / เดือน โดยตอนนี้ผมมีเงินสำรองจ่ายกับตัวเองทั้งหมดประมาณ 30 K ปีการศึกษานี้ผมเพิ่งลงเรียนไปแค่สามตัว ยังขาดอีกสามตัวที่ยังไม่กล้าไปชำระเงิน เพราะยังไม่มั่นใจว่าตัวเองควรจะสู้ต่อไปไหมกับที่นี้ หรือเราควรจะยอมรับความจริงและย้ายไปมหาลัยรัฐบาล
โดยมหาวิทยาลัยทั้งสองถ้าจำแนกข้อดีข้อเสียจะได้ดังนี้
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้มอเอกชน
ข้อดี
- การเรียนการสอนเป็นระบบ ไม่มีเลคเชอร์ ไม่มีการสอบกลางภาค/ปลายภาค แต่เป็นการทำงานจริงในรูปแบบอื่น ๆ ได้เรียนรู้การทำงานจริงๆที่ตัวเราเองต้องทำในอนาคต (ผมเรียนคณะนิเทศศาสตร์)
- ผมสามารถทำงานรับจ้างเพื่อนๆได้
ข้อเสีย
- ค่าหน่วยกิจแพงแบบแหกแล้วแหกอีก ...กระเป๋านะครับที่แหก
มอรัฐฯ
เนื่องจากปีกลายที่ผ่านมายังไม่มีสัญญาณใดๆว่าสัญญาจะถูกฉีก ผมจึงไม่ได้ลงสอบและปีการศึกษาหน้าเป็นปีแรกที่เขาเปลี่ยนระบบการสอบ มีสอบแค่รอบเดียว !!! ทำให้ต้องใช้คะแนนเก่าในการสอบ ผมคำนวณแล้วว่าผมจะสามารถเข้ามอรัฐได้ 1 ที่ และเป็นมหาวิทยาลัยระดับแฟร์ที่ผมโอเค
ข้อดี
- ค่าหน่วยกิจถูกมาก ๆ เหมาจ่าย 5 พันบาท / เทอม
- สภาพสิ่งแวดล้อมไม่เลวร้ายเพราะมีการคัดกรองคะแนนมาในระดับหนึ่ง
ข้อเสีย
- การเรียนการสอนเป็นไปแบบปิดกั้นไอเดีย มีการสอบ ยังต้องทำรายงานการบ้านส่งเล่นหนาๆ
สุดท้ายแล้ว เอาเข้าจริงๆผมเหนื่อยนะ ผมเหนื่อยมากๆเลยกำลังพยายามดิ้นรนเพื่อก้าวข้ามช่องว่างของความเหลื่อมล้ำทางฐานะและสังคม
แต่ในความเหนื่อยของผมผมก็มีความสุขเสมอ ทุกๆครั้งที่มองย้อนกลับไปว่าผมได้เรียนรู้อะไรบ้างจากการมีชีวิตแบบนี้
ผมแค่รู้สึกว่า ผมก็แค่อยากเรียนแล้วมีอนาคตในแบบที่ตัวเองต้องการ แต่ทำไมทุกครั้งจะมีปัญหาตามมาสารพัดสารพันแบบนี้ ใจผมมันบอกให้สู้ต่อ แต่มันก็มีความกลัวเหมือนกันว่าถ้าเกิดเราพลาดตกลงไปสักครา แต่พลาด 1 ครั้ง เราอาจจะเรียนไม่จบเลยนะ มันจึงเป็นที่มาของกระทู้นี้ เพราะผมอยากเห็นมุมมองของผู้ใหญ่ที่อยู่วงนอกนะครับ ว่าคิดเห็นเหมือนผมไหม หรือเห็นต่างยังไง หรือผมควรจะทำยังไงต่อไปดี
อยากขอความรบกวนพี่ๆที่ผ่านไปผ่านมาช่วยแนะนำหน่อยนะครับ
ขอขอบคุณล่วงหน้าจากใจจริงครับ
[ปรึกษา] รบกวนขอคำปรึกษาแนวทางในการศึกษาต่อในระดับมหาวิทยาลัยหน่อยครับ ผมควรสู้ต่อไปไหมครับ?
เหตการณ์ที่มาที่ไป-สถานการณ์ปัจจุบัน
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
รายรับและรายจ่ายในชีวิตประจำวันของผม
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
คำถาม
ผมควรสู้ต่อดีไหมครับ? ถ้านับกยศแล้ว ผมก็จะเหลือค่าใช้จ่ายที่ต้องชำระเองแค่ 4 หมื่นบาท / 1 ปีการศึกษา กับค่าใช้จ่ายเกือบ 1 หมื่นบาท / เดือน โดยตอนนี้ผมมีเงินสำรองจ่ายกับตัวเองทั้งหมดประมาณ 30 K ปีการศึกษานี้ผมเพิ่งลงเรียนไปแค่สามตัว ยังขาดอีกสามตัวที่ยังไม่กล้าไปชำระเงิน เพราะยังไม่มั่นใจว่าตัวเองควรจะสู้ต่อไปไหมกับที่นี้ หรือเราควรจะยอมรับความจริงและย้ายไปมหาลัยรัฐบาล
โดยมหาวิทยาลัยทั้งสองถ้าจำแนกข้อดีข้อเสียจะได้ดังนี้
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
สุดท้ายแล้ว เอาเข้าจริงๆผมเหนื่อยนะ ผมเหนื่อยมากๆเลยกำลังพยายามดิ้นรนเพื่อก้าวข้ามช่องว่างของความเหลื่อมล้ำทางฐานะและสังคม
แต่ในความเหนื่อยของผมผมก็มีความสุขเสมอ ทุกๆครั้งที่มองย้อนกลับไปว่าผมได้เรียนรู้อะไรบ้างจากการมีชีวิตแบบนี้
ผมแค่รู้สึกว่า ผมก็แค่อยากเรียนแล้วมีอนาคตในแบบที่ตัวเองต้องการ แต่ทำไมทุกครั้งจะมีปัญหาตามมาสารพัดสารพันแบบนี้ ใจผมมันบอกให้สู้ต่อ แต่มันก็มีความกลัวเหมือนกันว่าถ้าเกิดเราพลาดตกลงไปสักครา แต่พลาด 1 ครั้ง เราอาจจะเรียนไม่จบเลยนะ มันจึงเป็นที่มาของกระทู้นี้ เพราะผมอยากเห็นมุมมองของผู้ใหญ่ที่อยู่วงนอกนะครับ ว่าคิดเห็นเหมือนผมไหม หรือเห็นต่างยังไง หรือผมควรจะทำยังไงต่อไปดี
อยากขอความรบกวนพี่ๆที่ผ่านไปผ่านมาช่วยแนะนำหน่อยนะครับ
ขอขอบคุณล่วงหน้าจากใจจริงครับ