ผมคิดว่สผมโดนวางยาโดยที่บ้าน (อีกแล้ว) ผมควรจะทำอย่างไรดีครับ

ก่อนอื่นเลย ต้องบอกก่อนว่าพ่อแม่ผมเป็นหมอ พ่อผมเป็นคนชอบอ่านสามก๊ก คิดอะไรซับซ้อนมาก และเคยพูดครั้งหนึ่งเกี่ยวกับคนใช้บ้านผมที่ลาออกไปว่า “ถ้าเราไปบอกเขาว่า เขาต้อง checkup ร่างกายทุกๆ 6 เดือน และก็กินยาอย่างสม่ำเสมอ เขาคงไม่ลาออกไป” คือคนใช้ผมได้รับการผ่าเอามดลูกออกครับ พ่อผมคิดว่าถ้าเอาเรื่องนี้มาหลอกเขา เขาคงจะไม่ออก

ทีนี้ต้องบอกก่อนนะครับว่าผมเคยมี psychosis symptom ตอนนี้กินยาอยู่ ตอนนี้ผมไม่มีอาการอะไร และสติผมสมบูรณ์ 100 เปอร์เซ็นต์

คือ เรื่องมันเกินขึ้นเมื่อคืนครับ อยู่ๆผมได้ยินเสียงดังโครมครามตอนประมาณตีสอง ผมตื่นขึ้นมา หัวใจผมเต้นเร็วมาก เหงื่อออกที่มือ มือเท้าเย็น และตอนประมาณตีสี่ ผมรู้สึกตัวว่าขยับตัวไม่ได้ แต่ยังมีสติอยู่ อาการผมกลับมาเป็นปกติประมาณเกือบๆ ตีห้า

คือผมคิดว่าผมโดนวางยาโดยพ่อผมครับ เขาเอาอะไรมาให้ผมกินตอนไหนก็ไม่รู้ (คิดว่าน่าจะเป็นส้มที่อาเอามาให้กินช่วงเที่ยงๆ) ทำไมผมถึงคิดอย่างนี้ ก็เพราะว่าเหตุการณ์แบบนี้เคยเกิดขึ้นมาก่อนแล้วครับ

เมื่อสองปีก่อนผมมี psychosis symptom คือ มีอาการหูแว่ว และมีอาการหลงผิด คิดว่าที่บ้านจะฆ่าผม

ตอนช่วงนั้นผมคิดว่าผมถูกวางยาหลายครั้งครับ เหตุผมที่ทำให้ผมคิดแบบนี้ คือ (1) ที่บ้านผมคงคิดว่าผมบกปิดอะไรอยู่ คือ ผมไปบอกที่บ้านว่าผมเป็นเกย์ครับ ผมไม่ชอบผู้หญิง ที่บ้านคงนึกว่าผมไปหลอกเขา เพราะไม่มีใครดูผมออกเลย และเหตุที่ผมหลอกเขา ก็เพราะว่าผมไปทำอะไรที่เลวร้าย เช่น ทำผู้หญิงท้อง แล้วไปทำแท้ง (2) ผมอาจจะติดยาเสพติด เพราะอาการ psychosis มันเชื่อมโยงกับการใช้ยา ผมไม่เคยนะครับ เขาคงหวังว่าการที่วางยาผม คงจะทำให้คิดว่าผมคิดว่าตัวเองกำลังจะตาย และสารภาพความจริงออกมา

เหตุการณ์ที่ทำให้ผมคิดว่าผมโดนวางยามีดังต่อไปนี้ครับ

(1) อยู่ๆ น้ำลายในปากผมก็แห้งไปหมด ฉี่ก็ไม่ออก ผมตื่นตกใตมาก วิ่งหนีเลยครับ ขึ้นรถ ลงรถ จนถึงขนาดว่าผมต้องโดยล็อกตัว ฉีดยาสลบ และนำตัวส่งโรงพยาบาล.. ตอนนั้นโดยส่งโรงพยาบาลธรรมดานะครับ ไม่ใช่โรงพยาบาลจิตเวช ตอนนั้นเขาไม่รู้ว่าผมมีอาการ psychosis ครับ

(2) พอมาฟื้นที่โรงพยาบาล ผมถูกมัด ผมรู้สึกเจ็บๆตรงถุงอัณฑะครับ แล้วสักพักผมรู้สึกชาไปหมดที่ท้องน้อย หลังจากนั้นผมมีอาการ erectile dysfunction เป็นเวลาหนึ่งปีได้ เขาคงคิดว่าผมจะเปิดเผยชีวิตทางเพศของผมออกมาด้วยวิธีนี้ เขาคงคิดว่าผมมาแฟนอยู่เมืองนอก ถ้าทำแบบนี้ ผมคงไม่สามารถมีเพศสัมพันธ์ได้ และต้องเอาเรื่องนี้มาปรึกษาเขา เพราะว่าเขาเป็นหมอ แต่ผมก็ไม่เคยปรึกษาเรื่องนี้กับเขาครับ เพราะผมไม่มีแฟน ดังนั้นถ้าไม่ได้มีอะไรกับใครก็ไม่ได้เดือดร้อนอะไร.. ว่าแต่ตอนนี้ความรู้สึกทางเพศผมลดลงไปมากครับ ผมสามารถอยู่ได้โดยไม่ได้ ejaculate เป็นเวลาถึงเดือน โดยไม่รู้กสึกอยากอะไร ผมว่าเป็นเหตุมาจากการวางยาครั้งนั้น

(3) อยู่ๆตอนกลางคืน ผมรู้สึกว่ามือเท้าผมเย็นและสั่นครับ แต่ตอนนั้นผมไม่ได้แสดงปฏิกิริยาให้เขาเห็น เหตุก็เป็นเพราะว่าผมไม่รู้ว่านั้นเป็นอาการผิดปกติครับ

(4) เขาคงจะรู้ว่า ครั้งนั้นผมไม่ได้แสดงปฏิกิริยาเพราะว่าผมไม่รู้จักความผิดปกติ ครั้งใหม่เขาจึงมาสอนให้ผมจับชีพจรตัวเอง และไม่นานหลังจากนั้น เวลากลางคืน ผมตื่นขึ้นมาด้วยอาการที่หัวใจเต้นเร็วมากครับ และความดันขึ้น ผมเดินออกไปข้างนอกห้องนอน คือผมกลัวตายครับ แล้วเขาก็มาถามผมว่า ผมไปทำอะไรกับอาผู้ชายเอาไว้ อะไรแบบนี้ครับ ผมคิดว่าผมคงไปพูดอะไรเกี่ยวกับอาผู้ชายตอนผมโดนสะกดจิตที่โรงพยาบาลจิตเวชแห่งหนึ่ง

ทำไมผมคิดว่าผมโดยสะกดจิตที่โรงพยาบาลจิตเวช เหตุเป็นเพราะว่า มีอยู่คืนหนึ่ง ผมนอนอยู่อีกเตียงหนึ่ง แล้วผมตื่นที่เตียงของแม่ผม คือ แม่ผมเป็นคนไปนอนเฝ้าครับ แล้วอยู่ๆ ผมก็รู้สึกว่ามีความคิดหนึ่งถูกปลูกเข้าไปในสมองผม คือ เหมือนกับว่าอาผู้ชายมาขอโทษ คือ เมื่อก่อนอาผู้ชายคนนี้ชอบจับอวัยวะเพศผมเล่นตอนเด็กๆครับ ผมคงรู้สึกว่าผมโดน abuse ในจิตใต้สำนึกของผม

(5) การที่หัวใจเต้นเร็วในข้อ (4) พ่อผมบอกว่าเป็นเพราะผมกินยาไม่ครบ คือ ก่อนหน้านั้นอาผู้หญิงของผมเป็นคนคะยั้นคะยอ ให้ผมไม่กินยาตัวหนึ่งจากโรงพยาบาลจิตเวชครับ บอกว่าให้เลิกๆสะกินยาแบบนี้มากไม่ดี เพื่อให้เรื่องมัน consistent ผมคิดว่าพ่อผมคงวางยาผมอีกรอบหนึ่งครับ คือ ผมต้องบินไปเรียนต่อเมืองนอก ขณะที่อยู่บนเครื่องบิน หัวใจผมก็เต้นเร็วอีกแล้ว ผมตกใจอีก ขนาดเรียกหมอบนเครื่องบินมาดูอาการ ผมคิดว่าเขาทำแบบนี้เพื่อให้เรื่องราวมันดู consistent ครับ เพราะว่าเวลาเปลี่ยน ผมต้องกินยาผิดเวลาไปจากเดิม อาการนี้เลยเกิดขึ้น

หลังจากนั้น บางทีผมก็ลืมกินยาครับ ก็ไม่มีอาการอะไรอย่างว่าครับ เลยคิดว่าพ่อผมหลอกชัวร์

(6) เมื่อประมาณอาทิตย์ที่แล้ว ผมไปเที่ยวกับเพื่อน คือ นั้งกินข้าวเย็นกันละครับ ผมกลับถึงบ้านสามทุ่มครึ่ง เดียวนี้บ้านผมไม่ชอบให้ผมกลับบ้านดึก (คงกลัวผมไปเที่ยวพวกซาวน่ามั้ง) กลับมาผมก็กินยาเย็น ก็มียานอนหลับครับ แต่ผมกลับไม่หลับ พอตอนเช้าขึ้นมา พ่อผมบอกว่าผมกินยาดึกไป มันจะเป็นไปได้อย่างไร ยานอนหลับนะ ผมเลยคิดว่าพ่อผมคงแอบเปลี่ยนยาที่ผมกินครับ

ผมจะทำอย่างไรต่อไปดีครับ หลักฐานอะไรก็ไม่มี ผมอยากให้เขาเลิกทำแบบนี้ครับ ผมรู้ว่าเขารักและเป็นห่วงผม แต่เราก็น่าจะคุยกันดีๆได้ ไม่ต้อฃมาใช้วิธีอย่างนี้
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่