สวัสดีค่ะ เพื่อนๆชาวพันทิบ ก่อนอื่นเลยขอบอกว่านี่เป็นกระทู้แรกที่จะมาบอกเล่าประสบการณ์ที่เจอ ขอแทนตัวเองว่า เอ นะคะ ส่วนคนที่คุยอยู่ แทนว่า บี
อาจจะพิมพ์ไม่รู้เรื่องบ้าง อ่านไม่รู้เรื่อง แต่อยากมาเล่าประสบการณ์ให้ฟังจริงๆค่ะ ^^ บอกไว้ก่อนนะคะว่าเรื่องที่เล่าทั้งหมดเป็นเรื่องจริง ไม่ได้จะแต่มาเพื่อสร้าง สตอรี่ให้ตัวเองใดๆทั้งสิ้น ซึ่งเอาจริงๆเราก็รู้คำตอบอยู่แล้วแหละว่าควรทำยังไง แต่อยากรู้ความคิดของเพื่อนๆในพันทิบบ้างว่าใครเคยมีประสบการณ์แบบนี้กับตัว แล้วสุดท้ายเพื่อนๆ จบมันด้วยวิธีไหน
ตอนนี้เอ อายุ 22 ปีค่ะ เรียนอยู่มหาลัยอยู่ปีสุดท้าย ส่วนบีเค้าเป็นรุ่นพี่เราปีนึงค่ะ อยู่กันคนละคณะ คนละแนวเลย ส่วนตัวเลย เอยังไม่เคยมีแฟนมาก่อนในชีวิต มีคนคุยบ้างแต่น้อยมาก อาจจะเพราะคุณพ่อให้เรียนโรงเรียนหญิงล้วนตั้งแต่มัธยม ไม่ค่อยได้เรียนพิเศษข้างนอก เลยไม่ค่อยมีเพื่อนผู้ชายส่วนมากเป็นผู้หญิงค่ะ ตั้งแต่ขึ้นมหาลัยก็มีคนเข้ามาจีบบ้าง แต่คือเอจะเป็นคนที่ถ้ารู้สึกไม่โอเคหรือรู้สึกแปลกๆตั้งแต่แรก จะไม่คุยต่อเลยค่ะ จะคุยก็คือมั่นใจว่าโอเค ไม่อยากคุยกับใครเล่นๆ แต่เคยมีเพื่อนที่เป็นผู้ชายมาถามว่า นี่ไม่เคยมีแฟนเหรอ ? เอจะบอกตลอดว่าไม่มี ไม่มีคนมาจีบหรอก ไม่ได้สวยไรขนาดนั้น เพราะเพื่อนจะบอกว่าเอเหมือนคนมีแฟนแล้ว ไม่ก็คนคุยเยอะมากๆ แล้วด้วยบุคลิกของเอจะเป็คนมีความมั่นใจในตัวเองสูงมาก เพื่อนทุกคนเลยคิดว่าเอมีแฟนแล้วทั้งนั้น
เรื่องมันเริ่มตอนที่พี่บีเค้าเริ่มมาจีบเอเมื่อปีที่แล้วค่ะ ทักแชทเฟสมา ปกติใครทักอะไรมาแบบนี้เอจะขอเช็คเฟสเค้าก่อนก่อนที่จะตอบ เพราะเอก็อยากจะแสกนก่อนก่อนที่จะตอบ เราก็เห็นเค้าว่าก็โอเค เราเลยตอบแชทค่ะ ช่วงแรกๆก็อาจจะเขิลๆบ้าง แต่อาศัยว่าเอเองเป็นคนที่พูดมากมากๆ แล้วพี่บีเค้าจะเงียบๆไม่ค่อยพูดมากเท่าไหร่ เลยกลายเป็นเอเองที่จะชวนเค้าคุยบ่อยๆ กับพี่บีเรารู้สึกดีมากๆเลย เป็นคนแรกที่ทำให้เรารู้สึกกับใครซักคนได้มากขนาดนี้ พี่บีเองก็บอกว่าพี่อยากคุยกับใคร ก็อยากคุยนานๆคิดถึงอนาคตข้างหน้า ไม่อยากคุยเหมือนเด็กๆแล้ว เพราะเราก็โตๆเป็นผู้ใหญ่ทั้งคู่ ตอนนั้นที่พี่เข้ามาจีบ เออยู่ปีสามค่ะ พี่เค้าอยู่ปีสี่ช่วงฝึกสหกิจด้วย เลยไม่ได้เจอกันเลยเพราะอยู่คนละที่ ตอนที่เราบอกพี่บีว่าเราไม่เคยมีแฟนพี่เค้าไม่เชื่อค่ะ 5555 บอกว่าอย่างเออ่ะนะจะไม่เคยมีแฟน คนคุยต้องมีเป็นสิบๆแน่ๆ เอเลยถามไปว่าพี่บีมาจีบทำไม พี่เค้าบอกว่าเอสวย น่ารักดี ขาว สูง ที่สำคัญเค้าบอกว่าเค้าชอบคนหุ่นดี คือบอกก่อนนะคะว่าเออ่ะ มั่นใจตัวเองอยู่เรื่องเดียวคือหุ่นดี ส่วนเรื่องหน้าตาเราจะคิดว่าหน้าตาเราเฉยๆมาก ธรรมดาทั่วไป เพื่อนๆจะชอบบอกเราว่าขาสวย ขาเล็ก หุ่นดี สูง 167 หนักประมาน 47 แล้วอาจจะเพราะว่าเอเป็นคนแต่งตัวเก่ง มั่นใจตัวเองสูง พี่บีเค้าเลยบอกว่าเวลาเค้าเห็นเราในเฟสเค้าเลยชอบเลยลองจีบดู แต่เค้าก็ยังไม่เชื่ออยู่ดีว่าเอไม่เคยมีแฟนมาก่อน เราสองคนก็คุยมาซักระยะ ประมาณเดือนกว่าๆ ซึ่งสำหรับเอไม่เคยคุยกับใครนานขนาดนี้ แล้วพี่บีเองก็มีนิสัย สิ่งที่ชอบทำคล้ายๆกับเอ แล้วด้วยเอเองมีแต่พี่ชายค่ะ บุคลิกหรือนิสัยเลยจะเป็นประมาณว่าเข้าใจผู้ชายในระดับนึง แต่ก็ไม่ทั้งหมดนะคะ เราเลยคุยกันเข้าขากันมากๆ 555555 แต่มีเรื่องนึงที่เค้าบอกเราตอนแรกเค้าก็กลัวเรารับไม่ได้เพราะเห็นว่าไม่เคยมีแฟนมาก่อน เค้าบอกว่าเค้าเป็นคน sex จัดมากๆ เหมือนเป็นคนที่ติดเรื่องพวกนี้ เค้าคิดว่าเราจะรับไม่ได้ เพราะเวลาเค้ามีแฟนเค้าก็มีอะไรกับแฟนตลอด บ่อยด้วย แต่คือเอไม่ค่อยซีเรียสเรื่องพวกนี้ คือเราก็ไม่ใช่ว่าหัวโบราณต้องมีหลังแต่งงาน แต่คือถ้าจะมีก็ควรมีความสัมพันธ์ในระดับนึง แล้วที่สำคัญก็ต้องป้องกันตลอด เวลาเออยู่กับเพื่อนๆ เอก็จะพูดคุยเรื่องพวกนี้เป็นปกติอยู่แล้ว เลยจะไม่ใช่ผู้หญิงใสๆขนาดนั้น ถึงแม้จะไม่เคยมีประสบการณ์พวกนี้เลยก็ตาม 55555555
จนผ่านมาเกือบ 2 เดือน เอคือตอนนั้นก็ชอบพี่เค้ามากๆๆๆๆไปแล้ว อยากเจอหน้าแต่ก็ยังไม่ได้เจอเพราะอยู่คนละที่ แล้วพอพี่เค้ากลับมาเอก็ต้องไปฝึกงานต่อ คือเราสองคนจะสวนทางกันตลอดเลยไม่รู้ว่าจะได้เจอกันเมื่อไหร่ พี่เค้าเลยพูดประมาณว่าหรือเราจะเป็นแค่พี่น้องกันดี พี่เค้าก็เหมือนจะคุยกับเราน้อยลง ไม่ค่อยตอบเฟส คือพี่เค้ามีนิสัยเสียอย่างนึงคือ เวลาเค้าไม่ชอบอะไรแล้วคนมาทำกับเค้า เค้าก็จะบอกไม่ชอบ แต่พอเค้าทำกับคนอื่น เค้าจะไม่รู้สึกว่าเป็นความผิดของตัวเองเลย เหมือนมีครั้งนึงเอไม่ได้ตอบเค้าเพราะเค้าชอบหาย เราเลยอยากลองหายดูบ้าง ปรากฎเค้าหายตามไปอีกเราเลยถามเค้าว่าทำไมชอบาย เค้าบอกอยากให้เอรู้สึกว่าเวลาเอหายเค้ารู้สึกยังไง ตอนนั้นเราก็ไม่อยากโทษเค้าแล้วเถียงกันไปมา เราเลยบอกขอโทษเค้าไป ทั้งๆที่เราก็งงๆว่าสรุปใครต้องขอโทษ 55555 แต่เราจะรู้สึกว่ามันไม่สำคัญว่าใครผิด เราเลยไม่รู้สึกแย่ที่จะขอโทษเค้า จนวันนึงเรารู้สึกว่ามันแปลกๆ คือเราเชื่อความรู้สึกตัวเอง เหมือนมีเซ้นของผู้หญฺิงอ่ะค่ะ เราพยายามไม่คิดมาก คือเรายังคุยกันทุกวันนะคะ แค่ไม่บ่อยเหมือนเมื่อก่อน เราก็เลยคิดว่ามันคงเป็นเรื่องปกติแหละ คือเราไม่เคยมีแฟนมาก่อนมันเลยอาจจะรู้สึกล้นๆไปหมด 555555 มีคืนนึงตอนเราคุยกันเค้าบอกว่าจะปล่อยเราไป เราก็นึกว่าเค้าแค่พูดเล่นๆปกติทั่วไป แต่เค้าบอกว่าจะปล่อยเราจริงๆ ให้เราไปเจอคนที่ดีกว่า คือเอเคยบอกเค้าว่าถ้าอยากเลิกก็เกือบทนไม่ไหวเลิกคุยก็เลิกคุย เพราะไม่อยากรั้งใครไว้ถ้าเค้าไม่อยากคุย แล้วพี่บีอยู่ดีๆก็บอกว่าล้อเล่น พี่แค่แกล้งเราเฉยๆ คือตอนนั้นเราขำไม่ออกจริงๆอ่ะ ร้องไห้หนักมาก เลยบอกเค้าว่าถ้ามีครั้งหน้าอีก เอจะถือว่าพี่พูดจริงนะ เอไม่ชอบเอาเรื่องความรู้สึกมาล้อเล่น แล้วคือพิมพ์คุยกันด้วย ปกติเราจะไม่ได้คุยทางโทรศัพท์เลยยยยย 2 เดือนที่ผ่านมาได้คุยแค่ 2 ครั้งเองมั้ง จะเป็นเค้าที่โทรหาเราด้วย เพราะเวลาเราโทรหาเค้า เค้าไม่เคยรับสายเลย เลยกลายเป็นถ้าเค้าไม่โทรมาเราก็จะไม่ได้คุย แล้ววันรุ่งขึ้นเราต้องบินไปต่างประเทศคนเดียวเป็นอะไรที่เฟลมากๆๆๆๆๆๆ เป็นครั้งแรกที่รู้สึกแย่มันหน่วงไปหมดเลย กลัวตัวเอง เป็นครั้งแรกที่เรารู้สึกว่า โหหห คนเรามันจะมีอิทธิพลต่อความรู้สึกเราได้มากมายขนาดนี้เลยเหรอ วันรุ่งขึ้นเค้าก็ทักคุยกับเราเหมือนกับเป็นเรื่องปกติ ไม่มีอะไรเกิดขึ้นเมื่อคืนก่อน เราก็ไม่อยากจะไปงี่เง่างอแงงกับเค้ามาก ทั้งๆที่เราเป็นคนขี้งอลมากๆๆ เราเลยคุยดีๆกับเค้าปกติ
จนผ่านมา 3 เดือนเรามีโอกาสได้เจอกัน เออยากกระโดกอดเค้ามากๆๆๆๆๆ แต่คือเพิ่งเจอหน้ากันครั้งแรกเราก็วางท่าของเราไป 555555 เราสองคนก็ออกไปขี่รถเล่นโน่นนี่ ไปหาไรกิน แล้วเราก็นั่งคุยกัน เค้าบอกเราว่า "รู้มั้ยถ้าพี่อยากคบเราเป็นแฟนพี่ขอคบเธอไปนานแล้ว แต่พี่ไม่อยากคบกับเธอถึงขั้นนั้น เพราะพี่รู้วาพี่เป็นคนที่รักใครก็คือรักมากๆๆๆๆๆๆ พี่อยากคบกับเค้าไปนานๆจนแต่งงานเป็นแม่ของลูก แต่กับเธอมันดูเป็นไปได้ยาก เพราะเราต่างกันเกินไป" ตอนนั้นเราก็แบบทำไมอ่ะ เราดูแลดีทุกอย่าง เวลามีอะไร เราจะบอกเค้าตลอดถึงแม้จะพิมพ์คุยกันแต่เราก็เอาใจใส่เค้าทุกอย่าง พี่เค้าบอกว่าเราอ่ะลูกคุณหนู บ้านรวย สังคมเรากับเค้ามันต่างกันเกินไป ดูพ่อแม่เธอสิ ชีวิตเธอสิ ไปต่างประเทศบ่อยโน่นนั่นนี่ คือเออ่ะคิดมาตลอด ว่าเอไม่เคยมองคนที่ตรงนี้เลย ถ้าเออยากได้ผู้ชายรวยเอก็คงไม่คุยกับเค้าแล้ว คงไม่รู้สึกกับเค้ามากขนาดนี้ เราก็พยายามบอกเค้าอย่าคิดมากดิ เอชอบพี่เพราะพี่โอเค คุยกับเอรู้เรื่อง เรื่องอนาคตอย่าคิดมากเลย เค้าก็เอาแต่บอกว่า เค้ารู้ว่าเรารู้สึกยังไง แต่ผู้ชายมันคิดนะ จะดูแลลูกสาวเค้าได้มั้ย โน่นนั่นนี่ แล้วถ้าเค้าเป็นแค่ผู้ชายธรรมดาๆ จะกล้าไปบอกพ่อเราว่ายังไง เค้าบอกเค้าโอเคนะ ที่เวลาเค้าอยู่กับเราแล้วเราไม่ทำตัวเหมือนลูกคุณหนู ออกแนวติดดินลุยๆด้วยซ้ำ อยู่ง่ายๆ อะไรก็ได้ เวลาคุยด้วยแล้วสบายใจ เค้าเลยไม่อยากขอเราเป็นแฟน คือตอนนั้นเราเฟลมากอ่ะ เฟลกับตัวเองถึงขั้นที่คิดว่า อยากเกิดมาเป็นผู้หญิงธรรมดาๆที่อยู่กับเค้าได้ ไม่ต้องรวย พ่อแม่มีหน้าตาในสังคมมากไรงี้ แต่เราก็ไม่อยากไปเซ้าซี้กับเค้าไรมากแล้ว เลยไม่ได้พูดอะไร เค้าก็บอกว่า "พี่อยากอยู่กับเราแบบนี้ไม่เอามากกว่านี้ แต่ไม่อยากน้อยกว่านี้" เอาตรงๆนะ ตอนนั้นที่ได้ยินก็จุกเหมือนกันนะ เหมือนเรารู้เลยอ่ะว่ามันเป็นไปไม่ได้เลย เค้าก็บอกว่าถ้าวันนึงเราเกิดคบกัน เค้าก็ต้องแอคทีฟตัวเองให้เหมาะสมกับลูกสาวเค้านั่นแหละ แต่ลึกๆเรารู้ว่ามันยากมากๆ เราก็คุยกันมาเรื่อยๆ
จนประมาณเข้าเดือนที่ 5 ตอนนั้นก่อนเราฝึกงานแล้ว เราไปยุโรปค่ะ 2 อาทิตย์ ซึ่งตอนนั้นเวลาห่างกับไทย จะช้ากว่าไทย 4 ชั่วโมง ดังนั้นเวลาที่เราอยู่โน่นเราจะพยายามทักเค้าตลอดเวลาที่มีเวลา เพราะเรารู้ว่าเวลาเราต่างกัน แต่เค้าแทบจะไม่ทักมาเลย ถ้าเราไม่ทักไป เราก็แอบน้อยใจแต่ไม่กล้าถามเค้าค่ะ กลัวคำตอบ 555555 เราได้แต่ถามตัวเองว่าทำไมเราพยายามเพื่อเค้า แต่เหมือนเค้าไม่ได้พยายามเพื่อเราเลย ก็เฟลอย่างนั้นจนกลับไทยค่ะ เค้าเองก็เรียนจบแล้วรอรับปริญญา ซึ่งตั้งแต่ที่เจอกันครั้งแรกคราวก่อน จนถึงตอนนี้เราก็ไม่ได้เจอกันเลยค่ะ สวนทางกันอีกแล้ว เค้าเริ่มหายไปบ่อยมากขึ้น เราเคยถามแต่เค้าบ่ายเบี่ยงตอบตลอด เวลาเราถามว่าคุยกับผู้หญิงคนอื่นด้วยรึเปล่า เค้าก็ตอบเบี่ยงๆ ซึ่งตอนนั้นเรารู้ตัวเองดี ว่าตอนนี้เราไม่มีสถานะที่จะไปห้ามเค้าไม่ให้คุยกับคนอื่นได้ เค้าก็บอกว่าถ้าเราจะไปคุยกับคนอื่นก็โอเคนะ เพราะเค้าไม่อยากจะห้ามอะไร ตอนนั้นเรายิ่งเฟลหนักไปอีก โหหหหหห ไม่แคร์กันเลยเหรอ เอาจริงเรารู้นะรู้มาโดยตลอดว่าอะไรจะเกิดขึ้น รู้ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นอยู่ตอนนี้คืออะไร แต่เหมือนเราพยายามหลอกตัวเอง เล่าให้เพื่อนฟัง เพื่อนก็ด่าเรา 555555 เอาจริงๆเราก็รู้ว่าควรทำไงต่อ เพื่อนบอกให้เลิกคุยเหอะ รู้อยู่ว่าเค้าเหมือนจะไม่สนใจเราแล้ว แต่เราก็ยังพยายามหลอกตัวเอง เข้าข้างพี่เค้าว่าพี่เค้าอาจจะทำงานหนักไม่ได้ตอบ เพราะเราสองคนเคยทะเลาะกันเรื่องนี้คือพี่เค้าไม่ตอบ เราเลยบอกว่าเลิกคุยมั้ย พี่เค้าเลยบอกว่าพี่แค่เหนื่อยจากงาน อย่ามีงี่เง่ากับพี่ได้มั้ย โน่นนั่นนี่ เลยกลายเป็นเราก็ขอโทษเค้าเหมือนเดิมที่เรางี่เง่าใส่ หลังจากนั้นเราไม่เคยไปโวยวายอะไรกับเค้าเลย แต่จะพยายามเหมือนคอยถามโน่นนั่นนี่ ไม่อยากให้เค้ารู้สึกโกรธหรือไม่ดี เวลาพี่เค้าอ่านไม่ตอบเราก็จะทักไปเองค่ะ ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น พอเราไม่ทักไปพี่เค้าก็หาย จนเราเหมือนเริ่มทำใจได้แล้ว ว่ายังไงก็คงเลิกคุยไม่วันใดก็วันหนึ่ง แต่ก็คงเจ็บมากๆอ่ะ เพราะเรารู้สึกกับเค้ามากๆคนแรกที่เรารู้สึกด้วย เราเลยไม่ทักเค้าไปค่ะ คิดว่าถ้าเค้าอยากคุยเค้าคงทักเรามาแล้ว จนผ่านไป 3 วัน เค้าก็ทักเรามาว่าตายยัง 5555555 คือเราสองคนจะเป็นอย่างนี้ตลอด เวลาใครหายไปนานๆพอทักกันก็จะถามว่าตายยังเป็นเรื่องปกติค่ะ เราเลยบอกหายหัวไปเลยนะ เค้าก็จะเถียงกลับมาทุกครั้งว่าเป็นเราเองที่หายไม่ใช่เค้า เราก็ขี้เกียจจะเถียงแล้วค่ะ (ในใจคือแบบ ก็กรูทักเมิงตลอด แต่เมิงอ่านแล้วไม่ตอบเลยงาย ฟราย โทษกรูอีก) ก็กลับมาคุยกันปกติจนวันนึงพี่เค้าบอกว่าจะปล่อยเราไป (อีกแล้วจ้า) ตอนนั้นเราคิดในใจ คิดว่าครั้งนี้คงโดนเทจริงจังแล้วแหละ เค้าบอกว่าเค้ายังไม่อยากจะจริงจังกับใครตอนนี้ ปล่อยให้เราไปเจอคนที่ไม่โลเลแบบเค้าดีกว่า โห่วววววว พระเอกมาว่ะ เค้าบอกว่าเค้าเบื่อ เบื่อทุกอย่าง เบื่อทุกคนตอนนี้ เราเลยแทบเค้าว่า นี่พี่มีคนคุยคนอื่นอีกเหรอ? เค้าบอกว่าใช่ มีคุยนานแล้ว เยอะด้วย แล้วเค้าก็เบื่อทุกคนรวมถึงเราด้วย ............ ตอนนั้นเราแบบ (โอ้ย ไอควาย โดนสวมเขาแล้วโว้ย) รู้สึกสตั้นไปนานมาก เค้าก็พิมพ์มารัวๆ ซึ่งปกติเค้าไม่ค่อยพิมอะไรรัวๆมาขนาดนี้ ในขณะที่เราปกติจะเป็นคนพิมอะไรรัวๆ เลยได้ปต่ตอบไปว่า อืม เค อ่า คือไปต่อไม่ถูกแล้วจ้า แล้วเค้าก็บอกว่าโชคดี เอาจริงตอนนั้นคือมันโล่งๆอ่ะ คือแบบสมองโล่งมาก ไม่ดีใจ เสียใจ รู้ดี รู้สึกแย่ อะไรทั้งนั้น ในหัวคือว่างเปล่า เราก็เลยเข้านอนไม่คิดอะไรแล้ว ช่างแมร่งแล้วตอนนั้น
เดี๋ยวมาต่อค่ะ ^^
สถานะ "คนคุย" แต่ไม่ได้ "คบ" มาเกือบปี ควรหยุดหรือไปต่อ
อาจจะพิมพ์ไม่รู้เรื่องบ้าง อ่านไม่รู้เรื่อง แต่อยากมาเล่าประสบการณ์ให้ฟังจริงๆค่ะ ^^ บอกไว้ก่อนนะคะว่าเรื่องที่เล่าทั้งหมดเป็นเรื่องจริง ไม่ได้จะแต่มาเพื่อสร้าง สตอรี่ให้ตัวเองใดๆทั้งสิ้น ซึ่งเอาจริงๆเราก็รู้คำตอบอยู่แล้วแหละว่าควรทำยังไง แต่อยากรู้ความคิดของเพื่อนๆในพันทิบบ้างว่าใครเคยมีประสบการณ์แบบนี้กับตัว แล้วสุดท้ายเพื่อนๆ จบมันด้วยวิธีไหน
ตอนนี้เอ อายุ 22 ปีค่ะ เรียนอยู่มหาลัยอยู่ปีสุดท้าย ส่วนบีเค้าเป็นรุ่นพี่เราปีนึงค่ะ อยู่กันคนละคณะ คนละแนวเลย ส่วนตัวเลย เอยังไม่เคยมีแฟนมาก่อนในชีวิต มีคนคุยบ้างแต่น้อยมาก อาจจะเพราะคุณพ่อให้เรียนโรงเรียนหญิงล้วนตั้งแต่มัธยม ไม่ค่อยได้เรียนพิเศษข้างนอก เลยไม่ค่อยมีเพื่อนผู้ชายส่วนมากเป็นผู้หญิงค่ะ ตั้งแต่ขึ้นมหาลัยก็มีคนเข้ามาจีบบ้าง แต่คือเอจะเป็นคนที่ถ้ารู้สึกไม่โอเคหรือรู้สึกแปลกๆตั้งแต่แรก จะไม่คุยต่อเลยค่ะ จะคุยก็คือมั่นใจว่าโอเค ไม่อยากคุยกับใครเล่นๆ แต่เคยมีเพื่อนที่เป็นผู้ชายมาถามว่า นี่ไม่เคยมีแฟนเหรอ ? เอจะบอกตลอดว่าไม่มี ไม่มีคนมาจีบหรอก ไม่ได้สวยไรขนาดนั้น เพราะเพื่อนจะบอกว่าเอเหมือนคนมีแฟนแล้ว ไม่ก็คนคุยเยอะมากๆ แล้วด้วยบุคลิกของเอจะเป็คนมีความมั่นใจในตัวเองสูงมาก เพื่อนทุกคนเลยคิดว่าเอมีแฟนแล้วทั้งนั้น
เรื่องมันเริ่มตอนที่พี่บีเค้าเริ่มมาจีบเอเมื่อปีที่แล้วค่ะ ทักแชทเฟสมา ปกติใครทักอะไรมาแบบนี้เอจะขอเช็คเฟสเค้าก่อนก่อนที่จะตอบ เพราะเอก็อยากจะแสกนก่อนก่อนที่จะตอบ เราก็เห็นเค้าว่าก็โอเค เราเลยตอบแชทค่ะ ช่วงแรกๆก็อาจจะเขิลๆบ้าง แต่อาศัยว่าเอเองเป็นคนที่พูดมากมากๆ แล้วพี่บีเค้าจะเงียบๆไม่ค่อยพูดมากเท่าไหร่ เลยกลายเป็นเอเองที่จะชวนเค้าคุยบ่อยๆ กับพี่บีเรารู้สึกดีมากๆเลย เป็นคนแรกที่ทำให้เรารู้สึกกับใครซักคนได้มากขนาดนี้ พี่บีเองก็บอกว่าพี่อยากคุยกับใคร ก็อยากคุยนานๆคิดถึงอนาคตข้างหน้า ไม่อยากคุยเหมือนเด็กๆแล้ว เพราะเราก็โตๆเป็นผู้ใหญ่ทั้งคู่ ตอนนั้นที่พี่เข้ามาจีบ เออยู่ปีสามค่ะ พี่เค้าอยู่ปีสี่ช่วงฝึกสหกิจด้วย เลยไม่ได้เจอกันเลยเพราะอยู่คนละที่ ตอนที่เราบอกพี่บีว่าเราไม่เคยมีแฟนพี่เค้าไม่เชื่อค่ะ 5555 บอกว่าอย่างเออ่ะนะจะไม่เคยมีแฟน คนคุยต้องมีเป็นสิบๆแน่ๆ เอเลยถามไปว่าพี่บีมาจีบทำไม พี่เค้าบอกว่าเอสวย น่ารักดี ขาว สูง ที่สำคัญเค้าบอกว่าเค้าชอบคนหุ่นดี คือบอกก่อนนะคะว่าเออ่ะ มั่นใจตัวเองอยู่เรื่องเดียวคือหุ่นดี ส่วนเรื่องหน้าตาเราจะคิดว่าหน้าตาเราเฉยๆมาก ธรรมดาทั่วไป เพื่อนๆจะชอบบอกเราว่าขาสวย ขาเล็ก หุ่นดี สูง 167 หนักประมาน 47 แล้วอาจจะเพราะว่าเอเป็นคนแต่งตัวเก่ง มั่นใจตัวเองสูง พี่บีเค้าเลยบอกว่าเวลาเค้าเห็นเราในเฟสเค้าเลยชอบเลยลองจีบดู แต่เค้าก็ยังไม่เชื่ออยู่ดีว่าเอไม่เคยมีแฟนมาก่อน เราสองคนก็คุยมาซักระยะ ประมาณเดือนกว่าๆ ซึ่งสำหรับเอไม่เคยคุยกับใครนานขนาดนี้ แล้วพี่บีเองก็มีนิสัย สิ่งที่ชอบทำคล้ายๆกับเอ แล้วด้วยเอเองมีแต่พี่ชายค่ะ บุคลิกหรือนิสัยเลยจะเป็นประมาณว่าเข้าใจผู้ชายในระดับนึง แต่ก็ไม่ทั้งหมดนะคะ เราเลยคุยกันเข้าขากันมากๆ 555555 แต่มีเรื่องนึงที่เค้าบอกเราตอนแรกเค้าก็กลัวเรารับไม่ได้เพราะเห็นว่าไม่เคยมีแฟนมาก่อน เค้าบอกว่าเค้าเป็นคน sex จัดมากๆ เหมือนเป็นคนที่ติดเรื่องพวกนี้ เค้าคิดว่าเราจะรับไม่ได้ เพราะเวลาเค้ามีแฟนเค้าก็มีอะไรกับแฟนตลอด บ่อยด้วย แต่คือเอไม่ค่อยซีเรียสเรื่องพวกนี้ คือเราก็ไม่ใช่ว่าหัวโบราณต้องมีหลังแต่งงาน แต่คือถ้าจะมีก็ควรมีความสัมพันธ์ในระดับนึง แล้วที่สำคัญก็ต้องป้องกันตลอด เวลาเออยู่กับเพื่อนๆ เอก็จะพูดคุยเรื่องพวกนี้เป็นปกติอยู่แล้ว เลยจะไม่ใช่ผู้หญิงใสๆขนาดนั้น ถึงแม้จะไม่เคยมีประสบการณ์พวกนี้เลยก็ตาม 55555555
จนผ่านมาเกือบ 2 เดือน เอคือตอนนั้นก็ชอบพี่เค้ามากๆๆๆๆไปแล้ว อยากเจอหน้าแต่ก็ยังไม่ได้เจอเพราะอยู่คนละที่ แล้วพอพี่เค้ากลับมาเอก็ต้องไปฝึกงานต่อ คือเราสองคนจะสวนทางกันตลอดเลยไม่รู้ว่าจะได้เจอกันเมื่อไหร่ พี่เค้าเลยพูดประมาณว่าหรือเราจะเป็นแค่พี่น้องกันดี พี่เค้าก็เหมือนจะคุยกับเราน้อยลง ไม่ค่อยตอบเฟส คือพี่เค้ามีนิสัยเสียอย่างนึงคือ เวลาเค้าไม่ชอบอะไรแล้วคนมาทำกับเค้า เค้าก็จะบอกไม่ชอบ แต่พอเค้าทำกับคนอื่น เค้าจะไม่รู้สึกว่าเป็นความผิดของตัวเองเลย เหมือนมีครั้งนึงเอไม่ได้ตอบเค้าเพราะเค้าชอบหาย เราเลยอยากลองหายดูบ้าง ปรากฎเค้าหายตามไปอีกเราเลยถามเค้าว่าทำไมชอบาย เค้าบอกอยากให้เอรู้สึกว่าเวลาเอหายเค้ารู้สึกยังไง ตอนนั้นเราก็ไม่อยากโทษเค้าแล้วเถียงกันไปมา เราเลยบอกขอโทษเค้าไป ทั้งๆที่เราก็งงๆว่าสรุปใครต้องขอโทษ 55555 แต่เราจะรู้สึกว่ามันไม่สำคัญว่าใครผิด เราเลยไม่รู้สึกแย่ที่จะขอโทษเค้า จนวันนึงเรารู้สึกว่ามันแปลกๆ คือเราเชื่อความรู้สึกตัวเอง เหมือนมีเซ้นของผู้หญฺิงอ่ะค่ะ เราพยายามไม่คิดมาก คือเรายังคุยกันทุกวันนะคะ แค่ไม่บ่อยเหมือนเมื่อก่อน เราก็เลยคิดว่ามันคงเป็นเรื่องปกติแหละ คือเราไม่เคยมีแฟนมาก่อนมันเลยอาจจะรู้สึกล้นๆไปหมด 555555 มีคืนนึงตอนเราคุยกันเค้าบอกว่าจะปล่อยเราไป เราก็นึกว่าเค้าแค่พูดเล่นๆปกติทั่วไป แต่เค้าบอกว่าจะปล่อยเราจริงๆ ให้เราไปเจอคนที่ดีกว่า คือเอเคยบอกเค้าว่าถ้าอยากเลิกก็เกือบทนไม่ไหวเลิกคุยก็เลิกคุย เพราะไม่อยากรั้งใครไว้ถ้าเค้าไม่อยากคุย แล้วพี่บีอยู่ดีๆก็บอกว่าล้อเล่น พี่แค่แกล้งเราเฉยๆ คือตอนนั้นเราขำไม่ออกจริงๆอ่ะ ร้องไห้หนักมาก เลยบอกเค้าว่าถ้ามีครั้งหน้าอีก เอจะถือว่าพี่พูดจริงนะ เอไม่ชอบเอาเรื่องความรู้สึกมาล้อเล่น แล้วคือพิมพ์คุยกันด้วย ปกติเราจะไม่ได้คุยทางโทรศัพท์เลยยยยย 2 เดือนที่ผ่านมาได้คุยแค่ 2 ครั้งเองมั้ง จะเป็นเค้าที่โทรหาเราด้วย เพราะเวลาเราโทรหาเค้า เค้าไม่เคยรับสายเลย เลยกลายเป็นถ้าเค้าไม่โทรมาเราก็จะไม่ได้คุย แล้ววันรุ่งขึ้นเราต้องบินไปต่างประเทศคนเดียวเป็นอะไรที่เฟลมากๆๆๆๆๆๆ เป็นครั้งแรกที่รู้สึกแย่มันหน่วงไปหมดเลย กลัวตัวเอง เป็นครั้งแรกที่เรารู้สึกว่า โหหห คนเรามันจะมีอิทธิพลต่อความรู้สึกเราได้มากมายขนาดนี้เลยเหรอ วันรุ่งขึ้นเค้าก็ทักคุยกับเราเหมือนกับเป็นเรื่องปกติ ไม่มีอะไรเกิดขึ้นเมื่อคืนก่อน เราก็ไม่อยากจะไปงี่เง่างอแงงกับเค้ามาก ทั้งๆที่เราเป็นคนขี้งอลมากๆๆ เราเลยคุยดีๆกับเค้าปกติ
จนผ่านมา 3 เดือนเรามีโอกาสได้เจอกัน เออยากกระโดกอดเค้ามากๆๆๆๆๆ แต่คือเพิ่งเจอหน้ากันครั้งแรกเราก็วางท่าของเราไป 555555 เราสองคนก็ออกไปขี่รถเล่นโน่นนี่ ไปหาไรกิน แล้วเราก็นั่งคุยกัน เค้าบอกเราว่า "รู้มั้ยถ้าพี่อยากคบเราเป็นแฟนพี่ขอคบเธอไปนานแล้ว แต่พี่ไม่อยากคบกับเธอถึงขั้นนั้น เพราะพี่รู้วาพี่เป็นคนที่รักใครก็คือรักมากๆๆๆๆๆๆ พี่อยากคบกับเค้าไปนานๆจนแต่งงานเป็นแม่ของลูก แต่กับเธอมันดูเป็นไปได้ยาก เพราะเราต่างกันเกินไป" ตอนนั้นเราก็แบบทำไมอ่ะ เราดูแลดีทุกอย่าง เวลามีอะไร เราจะบอกเค้าตลอดถึงแม้จะพิมพ์คุยกันแต่เราก็เอาใจใส่เค้าทุกอย่าง พี่เค้าบอกว่าเราอ่ะลูกคุณหนู บ้านรวย สังคมเรากับเค้ามันต่างกันเกินไป ดูพ่อแม่เธอสิ ชีวิตเธอสิ ไปต่างประเทศบ่อยโน่นนั่นนี่ คือเออ่ะคิดมาตลอด ว่าเอไม่เคยมองคนที่ตรงนี้เลย ถ้าเออยากได้ผู้ชายรวยเอก็คงไม่คุยกับเค้าแล้ว คงไม่รู้สึกกับเค้ามากขนาดนี้ เราก็พยายามบอกเค้าอย่าคิดมากดิ เอชอบพี่เพราะพี่โอเค คุยกับเอรู้เรื่อง เรื่องอนาคตอย่าคิดมากเลย เค้าก็เอาแต่บอกว่า เค้ารู้ว่าเรารู้สึกยังไง แต่ผู้ชายมันคิดนะ จะดูแลลูกสาวเค้าได้มั้ย โน่นนั่นนี่ แล้วถ้าเค้าเป็นแค่ผู้ชายธรรมดาๆ จะกล้าไปบอกพ่อเราว่ายังไง เค้าบอกเค้าโอเคนะ ที่เวลาเค้าอยู่กับเราแล้วเราไม่ทำตัวเหมือนลูกคุณหนู ออกแนวติดดินลุยๆด้วยซ้ำ อยู่ง่ายๆ อะไรก็ได้ เวลาคุยด้วยแล้วสบายใจ เค้าเลยไม่อยากขอเราเป็นแฟน คือตอนนั้นเราเฟลมากอ่ะ เฟลกับตัวเองถึงขั้นที่คิดว่า อยากเกิดมาเป็นผู้หญิงธรรมดาๆที่อยู่กับเค้าได้ ไม่ต้องรวย พ่อแม่มีหน้าตาในสังคมมากไรงี้ แต่เราก็ไม่อยากไปเซ้าซี้กับเค้าไรมากแล้ว เลยไม่ได้พูดอะไร เค้าก็บอกว่า "พี่อยากอยู่กับเราแบบนี้ไม่เอามากกว่านี้ แต่ไม่อยากน้อยกว่านี้" เอาตรงๆนะ ตอนนั้นที่ได้ยินก็จุกเหมือนกันนะ เหมือนเรารู้เลยอ่ะว่ามันเป็นไปไม่ได้เลย เค้าก็บอกว่าถ้าวันนึงเราเกิดคบกัน เค้าก็ต้องแอคทีฟตัวเองให้เหมาะสมกับลูกสาวเค้านั่นแหละ แต่ลึกๆเรารู้ว่ามันยากมากๆ เราก็คุยกันมาเรื่อยๆ
จนประมาณเข้าเดือนที่ 5 ตอนนั้นก่อนเราฝึกงานแล้ว เราไปยุโรปค่ะ 2 อาทิตย์ ซึ่งตอนนั้นเวลาห่างกับไทย จะช้ากว่าไทย 4 ชั่วโมง ดังนั้นเวลาที่เราอยู่โน่นเราจะพยายามทักเค้าตลอดเวลาที่มีเวลา เพราะเรารู้ว่าเวลาเราต่างกัน แต่เค้าแทบจะไม่ทักมาเลย ถ้าเราไม่ทักไป เราก็แอบน้อยใจแต่ไม่กล้าถามเค้าค่ะ กลัวคำตอบ 555555 เราได้แต่ถามตัวเองว่าทำไมเราพยายามเพื่อเค้า แต่เหมือนเค้าไม่ได้พยายามเพื่อเราเลย ก็เฟลอย่างนั้นจนกลับไทยค่ะ เค้าเองก็เรียนจบแล้วรอรับปริญญา ซึ่งตั้งแต่ที่เจอกันครั้งแรกคราวก่อน จนถึงตอนนี้เราก็ไม่ได้เจอกันเลยค่ะ สวนทางกันอีกแล้ว เค้าเริ่มหายไปบ่อยมากขึ้น เราเคยถามแต่เค้าบ่ายเบี่ยงตอบตลอด เวลาเราถามว่าคุยกับผู้หญิงคนอื่นด้วยรึเปล่า เค้าก็ตอบเบี่ยงๆ ซึ่งตอนนั้นเรารู้ตัวเองดี ว่าตอนนี้เราไม่มีสถานะที่จะไปห้ามเค้าไม่ให้คุยกับคนอื่นได้ เค้าก็บอกว่าถ้าเราจะไปคุยกับคนอื่นก็โอเคนะ เพราะเค้าไม่อยากจะห้ามอะไร ตอนนั้นเรายิ่งเฟลหนักไปอีก โหหหหหห ไม่แคร์กันเลยเหรอ เอาจริงเรารู้นะรู้มาโดยตลอดว่าอะไรจะเกิดขึ้น รู้ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นอยู่ตอนนี้คืออะไร แต่เหมือนเราพยายามหลอกตัวเอง เล่าให้เพื่อนฟัง เพื่อนก็ด่าเรา 555555 เอาจริงๆเราก็รู้ว่าควรทำไงต่อ เพื่อนบอกให้เลิกคุยเหอะ รู้อยู่ว่าเค้าเหมือนจะไม่สนใจเราแล้ว แต่เราก็ยังพยายามหลอกตัวเอง เข้าข้างพี่เค้าว่าพี่เค้าอาจจะทำงานหนักไม่ได้ตอบ เพราะเราสองคนเคยทะเลาะกันเรื่องนี้คือพี่เค้าไม่ตอบ เราเลยบอกว่าเลิกคุยมั้ย พี่เค้าเลยบอกว่าพี่แค่เหนื่อยจากงาน อย่ามีงี่เง่ากับพี่ได้มั้ย โน่นนั่นนี่ เลยกลายเป็นเราก็ขอโทษเค้าเหมือนเดิมที่เรางี่เง่าใส่ หลังจากนั้นเราไม่เคยไปโวยวายอะไรกับเค้าเลย แต่จะพยายามเหมือนคอยถามโน่นนั่นนี่ ไม่อยากให้เค้ารู้สึกโกรธหรือไม่ดี เวลาพี่เค้าอ่านไม่ตอบเราก็จะทักไปเองค่ะ ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น พอเราไม่ทักไปพี่เค้าก็หาย จนเราเหมือนเริ่มทำใจได้แล้ว ว่ายังไงก็คงเลิกคุยไม่วันใดก็วันหนึ่ง แต่ก็คงเจ็บมากๆอ่ะ เพราะเรารู้สึกกับเค้ามากๆคนแรกที่เรารู้สึกด้วย เราเลยไม่ทักเค้าไปค่ะ คิดว่าถ้าเค้าอยากคุยเค้าคงทักเรามาแล้ว จนผ่านไป 3 วัน เค้าก็ทักเรามาว่าตายยัง 5555555 คือเราสองคนจะเป็นอย่างนี้ตลอด เวลาใครหายไปนานๆพอทักกันก็จะถามว่าตายยังเป็นเรื่องปกติค่ะ เราเลยบอกหายหัวไปเลยนะ เค้าก็จะเถียงกลับมาทุกครั้งว่าเป็นเราเองที่หายไม่ใช่เค้า เราก็ขี้เกียจจะเถียงแล้วค่ะ (ในใจคือแบบ ก็กรูทักเมิงตลอด แต่เมิงอ่านแล้วไม่ตอบเลยงาย ฟราย โทษกรูอีก) ก็กลับมาคุยกันปกติจนวันนึงพี่เค้าบอกว่าจะปล่อยเราไป (อีกแล้วจ้า) ตอนนั้นเราคิดในใจ คิดว่าครั้งนี้คงโดนเทจริงจังแล้วแหละ เค้าบอกว่าเค้ายังไม่อยากจะจริงจังกับใครตอนนี้ ปล่อยให้เราไปเจอคนที่ไม่โลเลแบบเค้าดีกว่า โห่วววววว พระเอกมาว่ะ เค้าบอกว่าเค้าเบื่อ เบื่อทุกอย่าง เบื่อทุกคนตอนนี้ เราเลยแทบเค้าว่า นี่พี่มีคนคุยคนอื่นอีกเหรอ? เค้าบอกว่าใช่ มีคุยนานแล้ว เยอะด้วย แล้วเค้าก็เบื่อทุกคนรวมถึงเราด้วย ............ ตอนนั้นเราแบบ (โอ้ย ไอควาย โดนสวมเขาแล้วโว้ย) รู้สึกสตั้นไปนานมาก เค้าก็พิมพ์มารัวๆ ซึ่งปกติเค้าไม่ค่อยพิมอะไรรัวๆมาขนาดนี้ ในขณะที่เราปกติจะเป็นคนพิมอะไรรัวๆ เลยได้ปต่ตอบไปว่า อืม เค อ่า คือไปต่อไม่ถูกแล้วจ้า แล้วเค้าก็บอกว่าโชคดี เอาจริงตอนนั้นคือมันโล่งๆอ่ะ คือแบบสมองโล่งมาก ไม่ดีใจ เสียใจ รู้ดี รู้สึกแย่ อะไรทั้งนั้น ในหัวคือว่างเปล่า เราก็เลยเข้านอนไม่คิดอะไรแล้ว ช่างแมร่งแล้วตอนนั้น
เดี๋ยวมาต่อค่ะ ^^